คำว่า “เสถียร” คุณลักษณะที่คนจริงจำเป็นต้องมี ขาดไม่ได้เลย
เสถียร (stability) แปลว่า หนักแน่นมั่นคง, ไม่เปลี่ยนแปลงโดยง่าย, แข็งแรงมั่นคงตลอดระยะเวลา,
ตรงข้ามกับคำว่า: แปรปรวน, โอนเอน, ผันแปร, คลอนแคลน
คุณลักษณะสำคัญอย่างหนึ่งของอุปกรณ์ หรือเครื่องมือใดๆ ที่มนุษย์ประดิษฐ์ขึ้นมาใช้งาน หรือเป็นสินค้าราคาแพงอย่างหนึ่งคือ ต้องมีความคุณสมบัติที่ดีอย่างคงเส้นคงว่า คือ ความเสถียร ความทนทานต่อความร้อน หรือการทดสอบอย่างต่อเนื่อง เช่น
คอมพิวเตอร์บางยี่ห้อราคาแพงบางรุ่น ตอนแรกๆ ใช้งานได้ดี แต่พอใช้งานติดต่อกันหลายชั่วโมง เริ่มรวน ไม่ตอบสนองต่อคำสั่ง แฮงค์ หรือดับวูบไป อันนี้เรียกว่า คอมพิวเตอร์เครื่องนั้นไม่มีความเสถียร
ในการเลือกซื้อรถยนต์สำหรับบรรทุกของ หรือเดินทางท่องเที่ยวไกลๆ ผู้ซื้อที่มีประสบการณ์จะเลือกซื้อรถจากยี่ห้อ และรถรุ่นที่ผลิตออกมาแล้วมีคนนิยมใช้มากเพราะเข้าใจว่ามีความน่าเชื่อถือได้ในเรื่องความเสถียร ความทนทานในการใช้งาน เวลาขับไปไหนไกลๆ ในที่ที่เราไม่คุ้นเคยแล้วจะไม่เสีย ไม่รวน ไม่ทำให้เสียอารมณ์ เสียเวลา เสียเงินค่าเรียกช่างมาซ่อมแพงๆ
การเลือกซื้อรถยนต์นอกจากจะต้องพิจารณาถึงชนิด รุ่น ขนาด สี ราคา ความคุ้มค่า และสมรรถนะแล้ว ความเสถียรของเครื่องยนต์ก็เป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึงอย่างมาก เพราะรถยนต์ขนาดเดียวกัน แต่ผลิตออกมาจากโรงงานผู้ผลิตคนละค่าย จะมีความแตกต่างกันในเรื่องความทนทาน ต่อความความร้อน ต่อการทดสอบในสภาพการใช้งานหนัก ในขณะใช้งานนานๆ รถยนต์ที่มีความเสถียรจะสามารถวิ่งเมื่อบรรทุกน้ำหนักเพื่อเดินทางในระยะทางไกลๆ ได้โดยไม่เกิดอาการเร่งไม่ขึ้น หรือเกิดความร้อนจนเครื่องรวนทำงานไม่สมดุลต่ออัตราการเร่ง รถยนต์ที่ดีมีคุณภาพจะวิ่งในระยะทางไกลๆ โดยความเร็วไม่ตก เครื่องยนต์เดินเรียบ และไม่เสียหายง่ายๆในการใช้งานปกติ
ในการทำงานพันธกิจของพระคริสต์ มีคนจำนวนไม่น้อยเลือกผู้ร่วมงานที่เป็นใครก็ได้ หรือเป็นเพียงคนที่อยากจะทำ สำหรับผมแล้ว ผมมีประสบการณ์เรื่องนี้ และผมเชื่อว่าพี่น้องหลายๆ คนก็คงเคยมีประสบการณ์เรื่องการทำงานกับคนมาเช่นเดียวกัน ตอนนี้ผมรู้สึกว่า การตกลงร่วมงานกับใครสักคน หากเขาเพียงแค่อยากทำงานร่วมกันเพราะเขามี "ภาระใจไ ผมว่าแค่นี้ยังไม่พอหรอก สำหรับการเข้าสู่สงครามฝ่ายวิญญาณ เพราะวันไหนที่เขาเจอปัญหา หรือมีข้อขัดแย้งภาระใจของเขาจะลดลง และบางคนอาจจะเลิกกลางครัน ยอมฉีกสัญญา ทำหน้าด้านเลิกเอาดื้อๆ ทั้งๆ ที่ตอนแรกบอกว่า เอาจริงเอาจังและมีภาระใจ
ในการทำงานภาคธุรกิจจึงจำเป็นต้องมีการทำสัญญาเป็นหนังสือ เป็นลายลักษณ์อักษร และลงชื่อไว้ พร้อมกับให้มีพยานอย่างน้อยสองปาก เพื่อเป็นสักขีพยานในการทำนิติกรรม เพื่อเป็นการสร้างเครื่องยืนยันในการทำงานร่วมกัน จึงต้องทำสัญญาตกลงทุกธุรกรรม หรือธุรกิจร่วมกัน เพื่อทำบางสิ่งให้บรรลุตามข้อตกลงในสัญญา
ในการเลือกคนทำงานร่วมกัน หรือการเลือกคู่หูในการทำพันธกิจแห่งชีวิต หรือทำพันธกิจของพระเจ้าเรื่องการประกาศข่าวประเสริฐ สิ่งนี้เป็นเรื่องความเป็นความตายของชีวิตผู้คน ว่าจะลงที่ต่ำหรือขึ้นที่สูง จะไปนรกหรือสวรรค์ การทำงานร่วมกันจึงจำเป็นต้องเลือกคนที่มีความหนักแน่นมั่นคงในการร่วมมือกันทำงาน ทุกคนก็อยากจะได้คนที่มีความมั่นคงทางอารมณ์ ทางการตัดสินใจ และการอุทิศตนอย่างมั่นคง แต่เชื่อไหม คนมากมายร่วมงานกันไม่กี่วันก็เลิกไปเพราะเขาไม่รักษาสัจจะ ไม่รักษาวาจา เป็นคนไม่เสถียร คนแบบนี้สำหรับผม ผมขอว่าอย่าได้พบเจอเลย น่าเบื่อมาก และเสียเวลา
สามีภรรยาที่มาอยู่ด้วยกันโดยไม่ได้แต่งงานตอนหลังหากประสบปัญหาเนื่องจากความไม่เข้าใจกัน หากบุคคลหนึ่งบุคคลใดไม่รักษาสัจจะ ไม่รักษาสัญญา ไม่มีความหนักแน่นมั่นคง ชีวิตครอบครัวนั้นคงล้มลุกคลุกคลานและไม่มั่นคง
เหตุเช่นนี้เองเป็นข้อหนึ่งที่ทำให้ครอบครัวหลายๆ คู่อ่อนแอ ลูกๆ เสียคนเพราะพ่อแม่ไม่รักกัน แยกทางกันไปทางใครทางมัน เพราะความรักของพวกเขาไม่มีความมั่นคงแน่นอน ความสัมพันธ์ของเขาที่ตกลงมาอยู่ด้วยกันอาจมาด้วยแรงพลักดันทางเพศ ความใคร่ การคาดหวังทางด้านการเงิน ฐานะ โดยไม่ได้วางรากฐานชีวิตแต่งงานด้วยความรักที่หนักแน่นมั่นคง ด้วยการทำสัญญากันด้วยสัจจะวาจา และยอมอุทิศตัวต่อกันและกันอย่างแท้จริง
คนที่ไม่มีความหนักแน่นมั่นคงในความรัก แต่คาดหวังความประพฤติดีจากคู่สมรสมากเกินไป การไม่ใช้ความรักในการแก้ปัญหา การไม่รักษาสัจจะวาจา การมีอารมณ์ที่แปรปรวน กล่าวโทษกันและกันเมื่อเจอกับกับสถานการณ์เลวร้าย ชีวิตรักของหลายๆ คู่จึงเลิกรากันไปอย่างน่าเสียดาย เพราะขาดความมั่นคงในอารมณ์ ขาดสติ ความรัก ความหวัง ความเชื่อศรัทธา และการไม่รักษาสัจจะวาจาต่อกัน
เรื่องที่น่าชื่นชมยินดีมากที่สุดในที่ชีวิต ที่เราทั้งหลายได้มารู้จักกับพระเจ้าองค์หนึ่งที่พระองค์มีพระลักษณะของพระองค์ที่เยี่ยมยอด คือพระองค์มีความรักมั่นคง และรักษาสัจจะวาจา เมื่อผู้ใดที่เข้ามาอาศัยอยู่ในพระองค์ ผู้ใดที่ได้เปิดใจกล่าวต้อนรับให้พระคริสต์เข้ามาเป็นผู้ดูแลชีวิตแล้ว พระองค์จะคอยปกป้องคุ้มครองและคุ้มกันภัยให้ ความรักมั่นคงของพระองค์ยังมีต่อผู้ที่ศรัทธาต่อพระองค์ตลอดเวลา ไม่ว่าเขาจะรัก หรือไม่รักตอบพระองค์
ดังนั้นคนที่อยู่ในพระคริสต์ที่กลับใจใหม่แล้วจึงควรเปิดใจยอมรับเอาพระลักษณะของพระองค์เข้ามาอยู่ในชีวิตในทุกๆ ด้าน โดยเฉพาะความรักมั่นคงของพระเจ้าจะทำให้ชีวิตของเขามีความรู้สึกมั่นคงปลอดภัย ไม่เกรงกลัวต่อความสิ่งชั่วร้าย หรือมีอารมณ์หวาดกลัวสิ่งใด แม้จะเป็นความมืด สัตว์ หรือวิญญาณชั่วร้ายต่างๆ อีกต่อไป
แต่ถ้าหากใครมาเชื่อพระคริสต์แล้วยังมีความรู้สึกไม่มั่นคงปลอดภัย มีความรู้สึกกลัวย่อมต้องถึงเวลากลับใจเสียใหม่ เลิกกลัวสิ่งที่ไร้สาระทั้งหลาย รวมทั้งผีสางนางไม้ หรือวิญญาณใดๆ ได้แล้ว เพราะมีข้อความในพระคัมภีร์กล่าวไว้ว่า "พระเจ้าไม่ได้ประทานจิตที่หวาดกลัวให้เรา แต่พระองค์ประทานความรัก ฤทธิ์เดช และการรู้จักบังคับตน" (2 ทม 1.7) ในภาษาอังกฤษฉบับคิงส์เจมส์ใช้คำว่า sound mind ซึ่งแปลว่า จิตใจที่เข้มแข็งมั่นคง นั่นเอง
พี่น้องครับเมื่อเราทั้งหลายได้เชื่อพระคริสต์แล้วให้เราเลิกความแหลาะแหละ ความไม่แน่นอน จิตใจที่วอกแวก เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย เดี๋ยวเป็นพระ เดี๋ยวเป็นผี บางวันพูดหนุนใจคน บางวันด่าคนสาดเสียเทเสีย ปากที่ใช้สรรเสริญพระเจ้าในวันอาทิตย์ ปากที่สารภาพผิด พอออกจากโบสถ์ก็เอานิสัยเลวๆ ปากพล่อย ปากปลาร้า เอาลิ้นเหม็นๆ ที่ชอบด่าคนเอาทิ้งไปได้แล้ว ให้เรารับเอาจิตใจที่หนักแน่นมั่นคง จิตใจที่รู้จักควบคุมการพูด การสื่อสารด้วยท่าทาง หรือภาษากายที่ “เสถียร” หน่อยได้ไหม
มีคำกล่าวว่า “ใจของคนชอบธรรมรำพึงว่า จะตอบอย่างไร แต่ปากของคนชั่วร้ายเทสิ่งชั่วออกมา (สุภาษิต 15.28)
(สิ่งชั่วในที่นี่คงหมายถึง คำหยาบ คำสบถ คำแช่งด่า คำเผ็ดร้อน เฉือดเฉือนนั่นเอง)
เวลาที่คนบางคนมีความโกรธ หรือเกิดอารมณ์ร้ายๆ คนจะไม่สามารถควบคุมตนเอง ปากจะพลั่งพรู คำพูดร้ายๆ ออกมา เพื่อระบายอารมณ์ และตอบโต้คน หรือสถานการณ์ที่ทำให้เราหงุดหงิด การกระทำเช่นนี้อาจเป็นเพียงลักษณะทางพฤติกรรมตามธรรมชาติของสัตว์โลกก็เป็นได้
แม้แต่สุนัข แมว หรือวัวควาย มันจะแสดงความเป็นมิตร เชื่องกับคนที่แสดงต่อมันด้วยมิตรภาพ เพราะสิ่งนี้มันเป็นเรื่องธรรมชาติ หากคนของพระคริสต์เข้าใจสิ่งนี้ เราจะสามารถรับเอามุมมอง และแนวคิดใหม่ ให้เรารับเอาจิตใจที่หนักแน่นมั่นคง ความรักของพระคริสต์มาสวมไว้เป็นอาภรณ์ได้ไหม
ผมใคร่ขอเชิญชวนพี่น้องให้ตั้งปณิธานอย่างมั่นคงว่า จะดำรงตนอยู่ในสัจจะ รักษาคำมั่นสัญญา ไม่เลิกพันธกิจ หรือความร่วมมือกันและกันในการทำงานทุกอย่างที่เราได้ทำสัญญาใจ หรือตามหนังสือสัญญาใดๆ ที่เราได้กระทำต่อกัน ผมเชื่อว่าหากผู้ใดที่เป็นคนหนักแน่นมั่นคง เขาย่อมเป็นผู้ที่ใครๆ ก็อยากจะคบหา เพราะเป็นบุคคลที่ไม่เพียงน่าเชื่อถือ แต่เป็นคนจริงที่เชื่อถือได้ และพระเจ้าผู้ทรงรักษาสัญญา พระเจ้าแห่งความรักมั่นคงจะสถิตอยู่กับท่าน และทำให้ท่านประกอบด้วยสิทธิอำนาจทางวิญญาณ และท่านเกิดผลมากในทุกมุมมอง ทุกๆ ด้านของชีวิต
ขอพระเจ้าอวยพระพร
Authentic Message from Rice Mu. April 10, 2013
HOME
Tag: จริยธรรมคริสเตียน, ความเชื่อคริสตชน, หลักข้อเชื่อของคริสเตียน, มารยาทไทย, คุณธรรมของผู้นำ, หลักการของผู้นำ, การสอนอนุชน, หลักการเทศนา, วีรบุรุธ, ยอดคนยอดคำ, การปลดปล่อย, วิถีคิด, คุณธรรมของผู้นำ,
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
You may post your comments here.
หากท่านมีข้อคิดเห็นเพิ่มเติมหรือเสนอแนะเชิญออกความเห็นได้
(กรุณาใช้ข้อความสุภาพ และสร้างสรรค์)