ทำดีได้ดี ทำชั่วไม่ได้ชั่ว Reap what you sow



“ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว”

คำกล่าวนี้เป็นคำจริงหรือเป็นเพียงแค่คำสอนทางศาสนา หรือเป็นคติความเชื่อของคนไทยเท่านั้น

ความหมายของคำชัดเจนอยู่ในตัว แต่คนจำนวนมาก แกล้งทำเป็นไม่สนใจ และไม่ใส่ใจ  ทำอะไรตามสันชาติญาณ  มากกว่าทำอะไรตามมโนธรรมสำนึกที่ดี  หากใครไม่ตระหนักว่า สิ่งนี้เป็นความจริง คงจะหนีไม่พ้นความพินาศ และความทุกข์เป็นแน่ ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น

ผมขอหนุนใจว่า





ผมขอหนุนใจว่า

ถ้าผู้ใดทำดีมีธรรมะ  ดำรงตนอยู่ในกรอบแห่งสำนึก มโนธรรมที่ดี และศีลธรรม ดำเนินชีวิตอยู่ในความรัก รู้จักให้อภัย และเอื้อเฟื้อต่อคนรอบข้าง คนยากจน ผู้ด้อยโอกาสทางสังคม ผู้ที่กระทำอย่างนี้แม้เขาไม่รู้จักอำนาจศักดิ์สิทธิที่ยิ่งใหญ่สูงสุด ชีวิตของเขาจะได้รับพร  เขาก็จะไปดีมาดี และมีสวัสดิภาพอย่างแน่นอน
  
แต่สำหรับคนทำชั่ว  (เล็กน้อย/ หรือมาก) ที่ยังดูเหมือนว่าสุขสบายดี มีเงิน มีทรัพย์ มีฐานะทางสังคม ดูเหมือนการทำชั่ว  การทำบาปต่อตนเอง ทั้งทางร่างกาย  อารมณ์ สุขภาพจิต  หรือคนรอบข้าง ต่อสังคม บ้านเมือง  ธรรมชาติ และต่อเบื้องบน 

การกระทำชั่ว ผิดศีลธรรมทั้งทางกาย วาจา ทางใจและทางเพศ แม้ไม่มีใครเห็น กฎหมายเอาผิดไม่ได้ ผู้ทำชั่วอาจยังไม่ได้รับการตอบแทนการชั่วในปัจจุบันนี้  แต่จงมั่นใจเถิดว่า ผู้กระทำชั่วจะไม่สามารถหลุดรอดไปจากความวิบัติ ความเจ็บป่วย ความเดือดร้อน และการพิพากษาลงโทษทางร่างกายและ วิญญาณไปได้อย่างแน่นอน

เพราะมีคำกล่าวว่า ความเคราะห์ร้ายตามติดคนบาป  
  แต่ความเจริญรุ่งเรืองให้บำเหน็จแก่คนชอบธรรม  
สุภาษิต 13:21

จงบอกคนชอบธรรมว่าเขาทั้งหลายจะเป็นสุข  
 เพราะเขาจะได้รับผลแห่งการกระทำของเขา  
วิบัติแก่คนอธรรม  ความร้ายจะตกแก่เขา  
 เพราะว่าสิ่งใดที่มือเขาได้กระทำ  
เขาจะถูกกระทำเช่นกัน  
[อิสยาห์ 3:10-11]

ในพระธรรมอีกตอนหนึ่งได้เขียนไว้เพื่อหนุนใจ เราทั้งหลายดังนี้

เพราะการตัดสินการกระทำชั่วนั้นเขาไม่ได้ลงโทษโดยเร็ว เหตุฉะนั้นใจบรรดาบุตรของมนุษย์จึงเจตนามุ่งที่จะ กระทำความอธรรม

แม้ว่าคนบาปทำชั่วตั้งร้อยครั้งและอายุ เขายังยั่งยืนอยู่ได้ ถึงกระนั้นข้าพเจ้ายังรู้แน่ว่าความสวัสดิมงคล จะมีแก่เขาทั้งหลายที่ยำเกรงพระเจ้า  คือที่มีความยำเกรงต่อพระพักตร์พระองค์( พระเจ้า)

แต่ว่าจะไม่เป็นสวัสดิมงคลแก่คนอธรรม อายุของเขาที่เป็นดังเงาก็จะไม่มียืดยาวออกไปได้ เพราะเขาไม่มีความยำเกรงต่อพระพักตร์พระเจ้า  
[ปัญญาจารย์ 8:11-13]

ในชีวิตของคนสูงอายุแบบผู้เขียน  ผมได้เห็น ได้มีประสบการณ์มามากพอสมควร ผมได้เฝ้าติดตาม และใตร่ตรองดูทั้งความประพฤติของตัวเอง และเขาคนใกล้ชิด ทั้งในชีวิตประจำวัน และในสังคม 

ผมได้เห็นว่าเพื่อนฝูงที่ชอบกินเหล้า เที่ยวสำส่อนทางเพศ ใช้ชีวิตอย่างฟุ่มเฟือย ทำผิดศีลธรรม มโนธรรมที่มีในจิตใจ เขาเหล่านั้นพากันเจ็บป่วยล้มหายตายจากไปก่อนวัยอันควรไปทีละคน ทีละคนจำนวนมาก  บ้างยังไม่ตายแต่ก็ต้องทุกข์ทรมาน ร่างกายไม่สมประกอบ  สุขภาพแย่ลง อารมณ์แปรปรวน  ครอบครัวและลูกหลานสร้างภาระปัญหาและความกังวลใจมาให้เขาเนืองๆ  ชีวิตเหมือนไม่ได้พักผ่อน ไม่มีวันหยุด  ชีวิตพบเจอแต่เรื่องร้ายๆ  ความเจ็บใข้  อุบัติเหตุ  การสูญเสีย  ถูกตัดหน้า ถูกแย่งชิง  ชีวิตเหมือนตายแต่ไม่ตาย ความร่ำรวย  ทรัพย์สมบัติกลับไม่ช่วยให้เขามีสุขอย่างแท้จริงได้เลย

นักการเมืองหลายราย   ตอนมีชีวิตอยู่  เขาสร้างเรื่องร้ายๆ ให้กับสังคม  ทุจริตประพฤติชั่ว  เมื่อการโต้ตอบทางการเมืองพูดถ้อยคำเผ็ดร้อน  แช่งด่าคู่แข่งขันทางการเมือง สาบานหลอกๆ  พูดหลอกลวงประชาชน  ปล้นชาติ  ฆาตกรรมอำพราง   แม้กฎหมายเอาผิดเขาไม่ได้ แต่ตอนที่เขาใกล้ตาย  พวกเขาทุกข์ทรมาน  บางคนต้องทนนอนอยู่โรงพยาบาลนานๆ  บางคนฐานะดีมีเงินมาก ญาติพี่น้องก็ส่งตัวไปรับษาถึงเมืองนอก  สิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายมหาศาล   แต่สุดท้ายพวกเขาก็ต้องสูญเสียชีวิต ตายอย่างน่าสมเพช   ผมไม่อยากจะบอกว่าเป็นใคร ขอให้พี่น้องพิจารณาใคร่ครวญดูเอาเองเถิด

เริ่มปีใหม่อีกครั้งแล้ว ผมขอหนุนใจให้เรากลับใจใหม่  พิจารณาตัวเองว่า ยังตั้งอยู่ในสัจจะ  ตั้งอยู่ศีลธรรม ตั้งอยู่ในความรักหรือเปล่า  ถ้าหากผู้ใดกลับใจได้วันนี้  แม้จะมีคำกล่าวว่า ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว  หากว่าตอนนี้เรายังสบายดี ยังไม่เห็นผลบาป  แต่อย่าเพิ่งนิ่งนอนใจ   การตอบแทนความบาปมีแน่   จากประสบการณ์ปลดปล่อยของผม  ผมเห็นคนจำนวนมากถูกทรมานทางร่างกาย  อารมณ์และวิญญาณทั้งๆ ที่เขาบอกว่าเขาเชื่อพระคริสต์  แต่เขาก็ยังไม่สามารถหลีกหนีกฎข้อนี้ไปได้  ไม่ใช่ว่าศาสนาลืมสอน แต่ว่าคนคิดว่าไม่เป็นไร พระคริสต์ได้ตายแทนบาปผิดเราแล้ว เราไม่จำเป็นต้องรักษาตัวให้พ้นจากมลทินบาป คือสามารถทำบาปได้เรื่อยๆ  ความคิดเช่นนี้ผิดมหันต์เลยครับ

คำว่าทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่วไม่ใช่คำขู่ให้ทำดี  แต่เป็นสัจจะที่ทุกคนจะต้องได้รับ  แม้ว่าจะไม่มีพระองค์ใดสามารถยกบาปให้กับคนบาปได้  ไม่มีพระองค์ใดสัญญาว่าถ้าผู้ใดเชื่อวางใจคำสอนและตัวเขาแล้วจะได้พบกับชีวิตสันติสุขหลังความตาย 

แต่มีพระองค์หนึ่ง คือพระเยซูคริสต์เจ้า พระองค์ได้กล่าวว่า  ถ้าผู้ใดวางใจในเรา ผู้นั้นจะไม่พินาศเลย  ดังพระธรรมตอนหนึ่งได้บันทึกถ้อยคำของพระองค์ไว้ดังนี้

พระธรรมอีกตอนหนึ่งได้กล่าวว่า
หลักการพิพากษามีอย่างนี้  คือความสว่างได้เข้ามาในโลกแล้ว แต่มนุษย์ได้รักความมืดมากกว่ารักความสว่าง เพราะกิจการของเขาเลวทราม

 เพราะทุกคนที่ประพฤติชั่วก็เกลียดความสว่าง และไม่มาถึงความสว่าง   ด้วยกลัวว่าการกระทำของตนจะปรากฏ ผู้ที่วางใจในพระบุตร(พระคริสต์)ก็มีชีวิตนิรันดร์  ผู้ที่ไม่เชื่อฟังพระบุตรก็จะไม่ได้เห็นชีวิต แต่พระพิโรธของพระเจ้าตกอยู่กับเขา

พระเยซูคริสต์ตรัสว่า
เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ผู้ที่วางใจในเราก็มีชีวิตนิรันดร์
[พระธรรมยอห์น 6:47]

ผมขอมอบพระธรรมหนุนใจข้อสุดท้ายจากหนังสือพระธรรมโรมดังนี้

ความรักไม่ทำอันตรายเพื่อนบ้านเลย เหตุฉะนั้นความรักจึงเป็นการปฏิบัติตามธรรมบัญญัติอย่างครบถ้วน
 
 นอกจากนี้ท่านควรจะรู้กาลสมัยว่า บัดนี้เป็นเวลาที่เราควรจะตื่นจากหลับแล้ว เพราะว่าเวลาที่เราจะรอดนั้นใกล้กว่าเวลาที่เราได้เริ่มเชื่อนั้น

กลางคืนล่วงไปมากแล้ว และรุ่งเช้าก็ใกล้เข้ามา เราจงเลิกการกระทำของความมืด และจงสวมเครื่องอาวุธของความสว่าง เราจงประพฤติตัวให้เหมาะสมกับเวลากลางวัน  
[พระธรรมโรม บทที่ 13]

พี่น้องที่รักแม้ว่าในสังคมปัจจุบันผู้คนส่วนใหญ่จะสวมหน้ากากเข้าหากัน  คนจำนวนมากมายคบหากันทางอินเตอร์เนท หรือในในสังคม ที่ทำงานอย่างผิวเผิน  แม้แต่บางคนไปสถานธรรมยังคบหากันอย่างผิวเผิน  ไม่มีความจริงใจต่อกันอย่างแท้จริง  แม้แต่นักการศาสนาจำนวนหนึ่งก็ยังดูแลสมาชิกเพื่อประโยชน์ของเขา  เพื่อสร้างคนให้เป็นสมาชิกให้อยู่ติดกับโบสถ์ของเขาไปจนตาย

 องค์กรของนักการศาสนาจำนวนหนึ่งแม้จะมีเป้าหมายสร้างคริสตจักร แต่พวกเขาก็ไม่มีเป้าหมายแจ่มชัดในการให้การสนับสนุน เป็นภาระด้านงบประมาณแก่ผู้ประกาศข่าวประเสริฐ    ไม่ส่งใครออกไปประกาศข่าวประเสริฐอย่างจริงจังด้วยการให้ค่าตอบแทน และงบประมาณสำหรับการออกไปประกาศข่าวประเสริฐ เพื่อสร้างคริสตจักรของพระคริสต์ 

 พวกเขาพร่ำเพ้อบ่อยๆ ว่า ทุกคนเป็นผู้รับใช้ของพระเจ้า  ให้ทุกคนออกไปประกาศ  จงออกไปประกาศ   แต่พวกเขาไม่สนับสนุนด้านงบประมาณอะไรเลย ส่งเสริมแค่ลมปาก หากจะส่งให้ออกไปก็เป็นเพียงจุดประสงค์เพื่อนำคนมาเพิ่มจำนวนสมาชิกให้กับคริสตจักรแม่เท่านั้น
 

คริสตจักรไทยจำนวนมาก ตั้งหน้าตั้งตาสร้างอาณาจักรของอาตมา มากกว่ากำหนดเป้าหมายและเวลาสำหรับสร้างคนแล้วส่งเขาออกไปตั้งคริสตจักรของพระคริสต์  หรือให้ความอิสระแก่คริสตจักรใหม่ในการบริหารงาน  หากเขาจะตั้งก็เป็นเพียงคริสตจักรเซลที่มีแต่กิจกรรม  งบประมาณถูกดูดไปสู่ศูนย์กลางเพื่อเก็บไว้เอาไว้สร้างอาคาร  ที่ดิน อุปกรณ์ไฮเทค เครื่องดนตรี ลำโพงแพงๆ และอุปกรณ์เสริมในอาณาจักรเป็นส่วนใหญ่

มีพี่น้องที่เสียใจกับผู้นำของเขามาเล่าให้ผมฟังอยู่เสมอว่า  ผู้นำของเขาไม่รักเขาจริง  ไม่ส่งเสริมเขาให้รับใช้เพื่อนำคนมารอดเพื่อสร้างคริสตจักรใหม่ๆ  แต่มีนโยบายดึงดูดคนให้มาเข้าโบสถ์เพื่อสร้างอาณาจักร  สร้างกฎเกณฑ์และข้อผูกมัดหยุมหยิม โดยเอาผลประโยชน์เล็กๆ น้อยมอบให้  เช่น ที่ฝังศพของคริสตจักร  สวัสดิการคริสต์จักร  แต่มีเพียงคริสตจักรไม่มากนักที่มุ่งสร้างคนเพื่อออกไปสร้างอาณาจักรของพระคริสต์  คริสตจักรที่สร้างคนเป็นสาวก และส่งเขาออกไปตั้งคริสตจักรจึงเป็นคริสตจักรที่น่าชื่นชม น่าสนับสนุน และเป็นความหวังของคนบาปอย่างแท้จริง

แม้ว่าใครจะสร้างคริสตจักรแนวไหน  เราคงไปตัดสินเขาไม่ได้ว่า เขาทำเพื่อใครกันแน่  ผมขอเรียกร้องให้ผู้เชื่อแต่ละคนกลับคืนมาสู่  การกลับใจใหม่ที่แท้จริงก่อน  หากผู้เชื่อยอมถ่อมใจยอมรับการอบรม  ยอมรับการสอน  ละทิ้งบาปที่ติดแน่น  ยอมทิ้งอารมณ์และนิสัยเลวร้ายอย่างแท้จริง  เลิกบาปชั่วทุกชนิด  เอาความรักของพระคริสต์มาสวมใส่เป็นเหมือนอาภรณ์ทางจิต  หัดพูดภาษาใหม่  ไม่ยอมให้คำหยาบคายออกมาจากการพูด การเขียนของเขา ผมเชื่อว่า ไม่นานนักเราจะเห็นผู้เชื่อแท้ที่ประกอบด้วยสิทธิอำนาจของพระเจ้า และออกไปเกิดผลอย่างมากมายเต็มแผ่นดินไทย


 ผมเห็นคริสเตียนบางคนที่เที่ยวไปโพสข้อความในที่ต่างๆ ตามเฟซบุ๊ค แล้วเหนื่อยใจ  เพราะวันหนึ่งเขาเขียนว่าให้เรารักซึ่งกันและกัน   ให้เราช่วยกันประกาศพระบารมีของพระเจ้า เขียนหนุนใจคนอื่นต่างๆ นานา มีข้อพระธรรมอะไรออกมาไม่เว้น  แต่อีกวันหนึ่ง พอมีเรื่องอะไรเข้ามาล่วงเกิน หรือกระทบต่อชีวิต อารมณ์ อาณาบริเวณแห่งสิทธิของเขา เขา เขียนว่า เมิx กรู  x ... E... สาx ฯลฯ  แม่x ฯลฯ 

ดังนั้นปรากฎการณ์  ข้อเขียน  คำพูด คำพยานสิ่งที่เขาอ้างว่าเขาเชื่อพระเจ้า  กับสิ่งที่เขาเขียน แสดงออกมันช่างตรงข้ามกับลัษณะของมนุษย์ใหม่ที่มีพระเจ้าจริงๆ  แม้ว่า ใครๆ อาจแกล้งทำตัวเป็นลูกพระเจ้าได้   แต่ใครจะเป็นลูกแท้ หรือลูกนอกรีต  ลูกจรจัด  มันดูได้ไม่ยาก  เพราะสิ่งที่ผู้อ้างตัวว่าเป็นคริสเตียนแสดงออก  บวกกับกาลเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ได้อย่างดี

คงไม่มีผู้ใด หรือพระองค์ใดทำให้ใครๆ เปลี่ยนแปลงชีวิตได้   ไม่ว่าจะเป็นคำสอนของศาสนาไหน  นอกจากเขาคนนั้นจะยอมรับว่าตัวเองเป็นตัวบาป  อ่อนแอต่อบาป  และต้องการชีวิตที่ดีกว่า และกลับใจเสียใหม่  ด้วยการต้อนรับเอาพระเจ้าเข้ามาอยู่ในใจ  เลือกและตัดสินใจอย่างเด็ดขาดว่าจะดำเนินชีวิตใหม่ไปกับพระเจ้า  ด้วยความรักเมตตา แสดงตนด้วยวาจาที่สุภาพ  อ่อนหวาน   แสดงออกถึงชีวิตที่เจริญขึ้นบ้างแล้ว  ด้วยการสำแดงชีวิตแห่งผู้เชื่อที่มีความรัก  ช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกัน  ตามที่พระคริสต์ได้สั่งสอนเราว่า

ถ้าใครมาเชื่อพระคริสต์เพียงแค่หวังให้พระเจ้าอวยพระพร ให้พระองค์ทำโนน้ เนรมิตนี่ให้เขา   ขอโนน้ขอนี่  เวลาจะนอนยังขอให้พระเจ้าคอยเฝ้าเขาเวลาเขานอน  เวลาตื่นก็ขอให้เขาเก่ง ให้เขาดี   ให้เขารวย   ให้เขาได้สมปรารถนา  ให้เขาสำเร็จ   ให้เขามีตำแหน่ง    ได้ครอบครองวัตถุ  อยากใช้จ่ายอะไรก็ไม่เคยถามพระเจ้าว่าสมควรซื้อไหม พอเงินหมดก็บ่นว่าพระเจ้าไม่เลี้ยงดู   การทำแบบนี้เป็นเหมือนกับว่า  ทำต่อพระเจ้าเป็นเหมือนคนใช้   เป็นยักษ์ในตะเกียงวิเศษ ผมขอถามว่าการนับถือพระเจ้าปฏิบัติต่อพระเจ้าแบบนี้เหมาะสมหรือเปล่า 

คนบาปบางคน  เมื่อเขาขออะไรพระเจ้าแล้วไม่ได้ตรงใจ   ไม่ทันใจ   เขาก็บอกว่า ถ้าไม่ได้ก็ไม่เอาพระเจ้าไม่เห็นช่วยอะไร  ถ้าใครมาหาพระคริสต์หวังแค่นี้    ก็อย่าหวังว่าจะได้พบพระเจ้าเลย  คือมันยากมาก   จงไปหาพระฮินดู  ผี  เจ้าองค์อื่น   วิญญาณองค์อื่นเถิด  เพราะสิ่งของและความสุข  ความสำเร็จชั่วคราวเหล่านี้  ศาสนาไหน  วิญญาณาไหนก็สามารถให้สิ่งนี้ได้  แม้แต่คนไม่มีพระเจ้าหากเขาขยันเรียนหนังสือ ตั้งใจทำงาน  เขาก็สามารถจะได้รับความสำเร็จในชีวิตได้ไม่ยาก   ไม่ใช่หรือ  ถ้าหวังแค่นี้จะมาหาพระคริสต์ทำไม  มันไม่แตกต่างกันไม่ใช่หรือ เหมือนคำที่ใครๆ ชอบพูดว่า “ศาสนาไหนก็เหมือนกัน”

 ผมสังเกตดูว่า  แม้แต่หมอดูและคนทรงยังมีดี  ยังมีความสามารถในการตอบสนองความต้องการของคนได้ดีกว่า ผู้นำศาสนาบางกลุ่มที่สอนแต่ให้คนเป็นคนดีเหมือนๆ กับศาสนาทั่วไป  แต่ปฏิเสธของประทานแห่งฤทธิ์เดชของพระคริสต์  ไม่เชื่อการอัศจรรย์  ไม่เชื่อหมายสำคัญ  แต่เอาเฉพาะสิ่งที่พวกเขาปฏิบัติได้  อันไหนทำไม่ได้ตัดออกไปหมด  ทำไมผมต้องกล่าวเช่นนี้  เพราะหมอดู  คนทรง ไสยศาสตร์ลี้ลับ ยังสามารถบอกอนาคต และให้ความหวังแก่คนได้ดีไม่น้อยทีเดียว

แต่หากผู้ใดมาเชื่อพระเจ้าแล้วยอมกลับใจใหม่   อย่างแท้จริง  ยอมละทิ้งตัวเก่า และบาปที่เกาะแน่นผู้เชื่อพระคริสต์จะได้มากกว่านี้ คือชีวิตที่เป็นสุข  มีสุข ลูกหลานได้รับพระพรเป็นมรดกต่อเนื่องสืบต่อจากพ่อแม่    แม้หากเขาตายแล้วยังได้รับชีวิตนิรันดร์ทางวิญญาณไม่ต้องไปตกนรกรับกรรมบาปอีกด้วย

ผมขอหนุนใจ ให้ผู้เชื่อทั้งหลายที่อยากมีชีวิตที่ไม่เสียชาติเกิด   ไม่เสียทีที่ได้รู้จักพระเจ้าองค์เที่ยงแท้    ขอให้เราดำเนินชีวิตดุจเป็นตะเกียงที่จุดอยู่  และตั้งไว้ในที่สูง  ไม่มีอะไรครอบไว้    เพื่อตะเกียงจะส่องสว่างแก่คนทั้งปวงที่หลงเดินอยู่ในที่มืด  ในความบาป  คนที่กำลังก้าวเดินไปสู่ความตายโดยไม่รู้เลยว่า  การดำเนินชีวิตในความบาป จะส่งผลอย่างไรต่อชีวิต

ใครจะส่องสว่างได้อย่างไรถ้าในวิญญาณของเขาไม่มีพระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระเจ้า  หากเขาไม่มีแสงสว่างของพระคริสต์อย่างแท้จริงในชีวิต  ผู้เชื่อพระคริสต์จะเป็นเกลือได้อย่างไร  ถ้าชีวิตของเขาไม่มีเกลืออยู่ในตัว  ใครที่เชื่ออย่างลมๆ ว่าพระเจ้าอยู่กับเขา  แล้วยังติดนิสัยบาป  สันดานบาป   แน่ใจหรือว่าพระเจ้าอยู่กับคนที่ยังชอบทำบาป  เป็นทาสบาป

 มีใครเอาของเหลวที่สะอาดใส่ลงไปเก็บไว้ภาชนะที่สกปรกบ้าง  ใครจะเอาน้ำดื่มสะอาดใส่ลงไปในแก้วน้ำที่สกปรกเพื่อให้คนดื่มกิน  น้ำสกปรก น้ำปนเปื้อนสิ่งโสโครก น้ำที่ผ่านการใช้งานจากปากและลิ้นที่สกปรกมาแล้วยังจะเป็นน้ำบริสุทธิ์อยู่หรือ   ฉันใดก็ฉันนั้นพระเจ้าคงจะไม่สามารถประทานสิ่งบริสุทธิ์เข้ามาบรรจุอยู่ในภาชนะที่สกปรกแบบนี้ได้  

ผมขอหนุนใจว่า  จงกลับใจใหม่วันนี้  สารภาพบาป  เชิญพระคริสต์เข้ามาชำระความคิด จิตใจและวิญญาณด้วยพระโลหิตของพระองค์  ตัดสินใจแน่วแน่ที่จะเปลี่ยนแปลงจากการดำเนินชีวิตเพื่อความจำเป็นในปัจจุบัน  เพื่อความสนุก  เพลิดเพลินทางตา  ทางหู ทางปาก  ทางเพศที่ผิดธรรม   มาเป็นการดำเนินชีวิตเพื่อชีวิตที่ดีกว่าในวันนี้และวันข้างหน้า และในวาระสุดท้ายแห่งชีวิตหลังความตายยังได้พบกับชีวิตทางวิญญาณที่เป็นอมตะสุขด้วยการกลับใจใหม่อย่างแท้จริง 

หากผู้ใดได้กลับใจอย่างแท้จริงแล้ว   คำว่า “ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว”  จะไม่เป็นจริงในชีวิตของเราเพราะความบาปเก่าๆ  คำแช่งสาปเก่าๆ  ตามเราไม่ทัน เพราะมันจะถูกยกเลิก เพิกถอน   เวรกรรมทั้งปวงจะไม่สามารถตามทันท่านได้อีกต่อไป  เพราะท่านมีพระเจ้าแท้ที่มีอำนาจลบล้างความบาป  ลบล้างเวรกรรม  พระองค์มีความสามารถดูแลทั้งร่างกาย จิตใจ ความคิด และวิญญาณ ให้ท่านได้พักสงบในชีวิต มีชีวิตที่มีสันติสุขทั้งในปัจจุบันและหลังความตาย  พระพรนี้ไม่เพียงแค่ตัวท่านเท่านั้นแต่จะตกไปถึงลูกหลานของท่านอีกหลายชั่วอายุ 

ขอเชิญกลับใจใหม่วันนี้ เดี๋ยวนี้  ก่อนที่หายนะจะมาถึงเรา

หากท่านอยากกลับใจใหม่  อยากเริ่มต้นชีวิตใหม่กับพระเจ้าเพื่อชีวิตที่ดีกว่า ขอเชิญชวนให้อธิษฐานตามแนวคำอธิษฐานนี้ ด้วยสัจจะวาจา  ผมเชื่อว่าท่านจะไม่เหมือนเดิมอย่างแน่นอน 
]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]] [[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[

คำอธิษฐานขอคืนดีกับพระเจ้า และกลับใจใหม่ (อธิษฐานบ่อยๆ ทุกๆ วัน จนกว่าจะหลุดพ้นจากสิ่งที่ผูกมัด)
“””””””””””””””””””””””””””””””””””
พระบิดาแห่งฟ้าสวรรค์ พระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่  ข้าฯ ขอมาหาพระองค์ในพระนามพระเยซูคริสต์
ข้าฯ ได้ตระหนักว่า ข้าไม่สามารถไปรอดพ้นบาป และการพิพากษาโทษด้วยการเป็นคนดี  ด้วยการทำการกุศลให้เพียงพอต่อการได้รับอนุญาตให้ไปอยู่ในสวรรค์  ข้าฯ ขอยอมรับว่าข้าเป็นคนบาป ชอบทำบาป  ข้าอยากเลิกบาปแต่ทำไม่ได้ 
ข้าฯ ขอสารภาพบาปต่อไปนี้ คือ .....................
ข้าฯ ขอยกโทษ/อโหสิกรรมต่อคนที่ทำผิด/ละเมิดต่อข้าทุกคน คือ ............................
ข้าไม่ถือโทษ และขอปลดปล่อยภาระการแก้แค้นให้อยู่ในมือของพระเยซูเจ้า   ขอพระองค์เป็นผู้ตัดสินและตอบแทนแก่ทุกคนตามการกระทำของแต่ละคน  ข้าไม่ขอเก็บเอาความเกลียดชัง  ความขมขืนไว้ในใจอีกต่อไป ขอพระองค์ทรงยกเอาความเกลียดชัง ความขมขืน และผลแห่งความเกลียดชังนี้ออกไปจากข้าด้วยเถิด

ขอพระเยซูคริสต์เจ้าช่วยลบล้างความผิดบาปของข้า และคำแช่งสาปที่ตกทอดมาจากบรรพบุรุธในส่วนโทษและการบาปที่ตกมาถึงข้าฯ   ขอพระองค์ปลดปล่อยข้าฯ ออกจากการเป็นทาสบาป และพฤติกรรมไม่ดี คือ.........
ต่อไปนี้ข้าฯ ขอละเลิกจากการบาปทุกอย่าง   และขอตั้งต้นเป็นคนใหม่ 

ข้าฯ ขอเปิดใจยอมรับพระเยซูเจ้าเป็นพระเจ้า  เป็นพระผู้ช่วยให้รอดของข้าฯ ด้วยสัจจะวาจานี้  ขอพระเยซูเจ้าโปรดยกโทษที่ข้าฯ เคยกราบไว้สิ่งอื่น ก้อนดิน หินทราย  สิ่งที่มีอยู่ในธรรมชาติถือเป็นพระเจ้า ข้าได้เพลอตัวทำสารพันบาปชั่ว 

ข้าฯ ขอพระเยซูเจ้าปลดปล่อยข้าฯ ออกจากการครอบงำ การแทรกแซงของวิญญาณอื่นทุกชนิด  ในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า แห่งนาซาเร็ธ ข้าฯ ขอกล่าวตัดสัมพันธ์กับวิญญาณอื่น วิญญาณแห่งจิตอ่อนแอทุกชนิด  วิญญาณแห่งโลก วิญญาณไสยศาสตร์ เวทมนต์  วิญญาณคุ้นเคย  วิญญาณประจำถิ่น  วิญญาณลัทธิ  และขอกล่าวห้ามไม่ให้วิญญาณใดๆ  เข้ามารบกวน หรือแทรกแซงในวิถีชีวิต สุขภาพ การงาน ความคิด การตัดสินใจ และวิญญาณจิตของข้า 

ข้าขอกล่าวห้าม และสั่งการในพระนามพระเยซูคริสต์ว่า  วิญญาณแห่งความมืด วิญญาณแห่งโลกวิญญาณคุ้นเคยทุกชนิด ทุทตัวตน  จงถอยไปจากเราและห้ามกลับมาอีก ในพระนามพระเยซู

ข้าฯ ขอต้อนรับองค์พระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระเยซูคริสต์เจ้า ขอเชิญเข้ามาปกปักรักษา  เป็นพระผู้ช่วย ฯ ตามพระสัญญาในหนังสือพระคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ ตามที่พระเยซูคริสต์ได้ตรัสว่า ผู้ที่มาหาเรา เราจะไม่ทิ้งเขาเลย  ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ข้อ ขอเป็นลูกของพระบิดาเจ้า  มีพระคริสต์เป็นพระผู้ช่วยให้รอดตามพระสัญญาของพระองค์แต่เพียงผู้เดียว

ขออธิษฐานด้วยสัจจะวาจาในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า  อาเมน

ขอพระเจ้าอวยพระพร
Shalom
Original Message from Rice Mu. January 10, 2013

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

You may post your comments here.
หากท่านมีข้อคิดเห็นเพิ่มเติมหรือเสนอแนะเชิญออกความเห็นได้
(กรุณาใช้ข้อความสุภาพ และสร้างสรรค์)