Obstacles of healing - อุปสรรค์ต่อการหายป่วย

ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ การมีสุขภาพดีคือสิ่งที่คนที่รู้จักคุณค่าของชีวิตทุกคนย่อมตระหนักได้เป็นอย่างดี มีคนเป็นล้านๆ คนที่เจ็บป่วย บ้างก็ตายไปเพราะไม่สามารถรักษาให้หายได้ ความเจ็บไข้คือสิ่งที่ทำให้ชีวิตขาดความสุข ขาดความสมดุล ชีวิตไม่ได้เข้าสู่ที่พำนักที่พระเจ้าจัดไว้ให้ในโลกนี้ คนป่วยย่อมต้องการความช่วยเหลือ คนเป็นที่พึงแห่งตนไม่ได้เพราะป่วยไข้ เป็นโรคบาปก็ช่วยตัวเองไม่ได้ คนป่วยต้องการหมอรักษาที่ดี การรักษาคนป่วยทุกคนให้หายดีคือเป้าหมายของหมอทีดี แต่หมอเป็นเพียงผู้ที่ทำหน้าที่รักษาผู้ป่วยทางด้านร่างกายและจิตใจเป็นส่วนใหญ่เท่านั้น

การหายโรคเป็นสิ่งที่คนป่วยทุกๆ คนอยากได้รับ เมื่อสุขภาพเสื่อมโทรม ไม่สามารถทำกิจวัตรบางอย่างที่เคยทำได้ ย่อมทำให้เกิดความลำบาก เกิดทุกข์ทรมาน แต่ถ้าเราทราบเหตุผลบางประการที่อาจเป็นอุปสรรค์ต่อการรับการรักษาโรคอย่างอัศจรรย์ในพระนามพระเยซู เราก็จะเริ่มเรียนรู้ที่จะแสวงหาความจริงเกี่ยวกับพระเจ้า พระผู้สร้างโลกองค์เที่ยงแท้ด้วย

การรักษาโรคทั่วไปตามโรงพยาบาลและคลีนิคต่างๆ ผู้รับการรักษาจะซื้อบริการจากผู้ให้บริการทางการแพทย์ คือผู้ทำการรักษาทางเวชศาตร์ คนป่วยไม่จำเป็นต้องเป็นคนดี หรือเป็นคนไร้บาป หรือต้องเป็นคนมีศีลมีธรรม คนป่วยไม่จำเป็นต้องกลับใจอะไร ขอเพียงมีเงินก็เดินเข้ามาหาหมอได้เลย บางคนไม่มีเงินจ่ายค่ายาก็ใช้บัตรทองหรืออาศัยบัตรอนาถาก็สามารถรับการรักษาได้ หายไม่หายก็ว่ากันไปตามนั้น หายบ้างไม่หายบ้าง หรือเป็นๆ หาย บางรายเป็นหนักรักษาไม่หายต้องนอนทรมานอยู่ที่บ้านเป็นเดือนๆ ปีๆ มีชีวิตอยู่อย่างไร้ความหมาย ดูเหมือนคนรอวันที่วิญญาณจะออกจากร่างเท่านั้น น่ายินดีที่บทความนี้มีข่าวดีซ่อนอยู่

การขอการรับการรักษาด้วยพระนามพระเยซูอาจมีข้อแม้หลายประการทีเดียว ผมใคร่จะนำ้เสนอในบทความนี้บางส่วน เป็นเพียง บางข้อที่สามารถเปิดเผยได้ (ข้อมูลบางข้อเป็นข้อมูลที่อาจก่อให้เกิดการโต้แย้งของนักการศาสนาบางคนที่ไม่เชื่อว่าฤทธิ์อำนาจของพระเยซูว่าสามารถเกิดขึ้นได้ในปัจจุบัน นักการศาสนาบางคน บางคณะไม่เชื่อว่าโบสถ์หรือคณะของตนจะมีการอัศจรรย์ บางคนเชื่อว่าการอัศจรรย์หมดยุคไปแล้ว) ข้อมูลประเภทนี้จึงไม่สามารถนำเสนอเป็นวิทยาทานในที่นี้ได้ ต้องขออภัยมา ณ ที่นี่ด้วย แต่อย่างไรก็ตามเท่าที่นำเสนอในบทความนี้ก็นับว่าเป็นการรวบรวมความรู้จากหนังสือ ตำรา และประสบการณ์ในการเยียวยาจำนวนหลายเล่ม และใช้เวลาหลายปีทีเดียวในการเกิดตะกอนความรู้นี้

ผมมักจะบอกกับคนที่มาขอให้อธิษฐานเผื่อในพระนามพระเยซูเสมอว่า หากคุณมีเงินคุณก็สามารถไปหาแพทย์เพื่อให้รักษาคุณให้หายได้ หากคุณไปหาหมอแล้วไม่หาย หรือเป็นๆ หายไม่หายขาด ค่อยมาแสวงหาความช่วยเหลือจากพระเจ้า ข้อคิดเห็นของผมในข้อนี้อาจไม่ถูกต้องนัก เพราะดูเหมือนไม่ให้เกียรติพระเจ้า แต่ที่ผมท้าทายแบบนี้ เพราะคนที่ไม่เคยรู้จักพระเยซูจะดื้อมากๆ และยะโสด้วย หลายคนไปหาหมอดู หมอทำนาย หมอทางเลือก บางคนไปซื้อหนังสือรักษาโรคด้วยวิธีต่างๆ เช่น การกินแบบชีวจิต กินเจ กินอาหารสูตรพิเศษ อาหารเสริม ใช้เครื่องไฟฟ้า แม่เหล็ก ฯลฯ บางคนไปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไปทำพิธีกรรมต่างๆ เช่น การต่ออายุ ต่อบุญ เสริมดวง นอนในโลงศพ บ้างคนบ้าถึงขนาดไปเปลี่ยนชื่อตนเองเป็นคนอื่น บางคนไปแต่งงานกับหมา บ้างคนตั้งชื่อตนเองเป็นชื่อสัตว์ต่างๆ ตามความเชื่อของคนทั่วไป แต่ถ้าคนป่วยไปทำมาหลายอย่างแล้วยังไม่หาย แต่คนป่วยต้องการหายโรคที่เป็นอยู่ ผมขอแนะนำให้คุณลองมาหาพระเจ้าองค์นี้ดู เพราะพระเยซูคริสต์ช่วยได้จริงๆ (อยากให้ลองดูคลิปคำพยานจากคนหลายๆ คนจากหลายจังหวัด ดูซิว่าเขาหายจริงอย่างไร แล้วเขาเสียเงินค่ารักษาหรือเปล่า ผมพาเขามาเป็นสมาชิกในสังกัดของผมหรือเปล่า - ไม่เลย...ผมยังไม่คิดจะสร้างโบสถ์แข่งกับใครๆ เพราะยังไม่ใช่เวลาของผม)

ผมมักจะบอกกับคนทั่วไปที่ผมพบเสมอว่า "หากคุณมีปัญหาชีวิตที่แก้ยากที่สุด บางคนอาจใกล้ถึงทางตัน" "ลองอธิษฐานขอพระเยซูคริสต์เจ้าให้ช่วยซิ" "แล้วคุณจะรู้ว่าพระเจ้ารักคุณมาก" "มากจนกระทั้งสามารถยอมตายแทนคุณได้" พระเยซูสามารถช่วยคุณได้

ผมชอบตั้งข้อสังเกต ผมมักจะคิดและเขียนในมุมมองที่นักการศาสนาทั่วไปไม่เขียน ไม่กล้าพูดถึง ผมเข้าใจว่าเว็บที่สอนเรื่องศาสนศาสตร์ คำสอนให้เป็นคนดีมันมีเยอะแล้ว ผมไม่อยากจะเสียเวลาไปเขียนอีก กลัวจะเลอะเพิ่มมากขึ้น อีกอย่างผมก็ไม่ได้พูดเก่งอย่างนั้น เพื่อนบางคนบอกผมว่า เวลาผมเทศนาดุมาก มีคำพูดหลายคำที่ฟังแล้วแืทบรับไม่ได้ ก็เป็นไปได้เพราะผมเทศนาโดยใช้สิทธิอำนาจ อาจเป็นไปได้ว่าผมไม่ต้องกลัวหม้อข้าวจะแตก ไม่ต้องกลัวเมียด่า เพราะเมียก็ไปกับผมทุกครั้ง เนื่องจากเราไม่ได้เป็นลูกจ้างของคณะนิกายใดๆ จึงไม่ต้องหวงเรื่องคำพูดที่จะกระทบกระแทก หรือเสียดแทงรอยแผลเก่าของใคร การเทศนาของผมหวังผลคือ ให้คนกลับใจจากบาป หายโรค รับความรอด และเปลี่ยนแปลงอุปนิสัย

ผมขอหนุนใจนักเทศน์น้องใหม่ทั้งหลายว่า ถ้าคุณเทศนาปลดปล่อยได้ เมื่อคุณกลับบ้านทุกครั้งคุณจะนอนอย่างมีความสุข เพราะความปิติอย่างล้นเหลือจะหลั่งไหลลงมาเมื่อคุณนึกถึงใบหน้าคนป่วยที่ทุกข์ทรมานได้รับการปลดปล่อย คนบาปหลายคนเลิกทำบาป ยอมกลับใจมาหาพระเจ้า ทุกๆ ครั้งที่คุณก้าวไปหน้าที่ประชุม คุณรู้ว่านั่นไม่ใช่งานของคุณแต่คุณกำลังเป็นเครื่องมืออันทรงพลังของพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่ และเมื่อคุณอธิษฐานจบ คุณรู้ว่าพระเยซูอยู่ที่นั่นคอยช่วยคุณและจะเห็นคนมากมายรับการปลดปล่อย

บางครั้งบทความของผมมันอาจดูจะแรงไปในบ้าง บางบทความดูเหมือนอาจจะก้าวร้าวด้วยซ้ำ แต่ผมเชื่อว่า สัจจะจะทำให้เราเป็นไทได้ (ยอห์น 8.31) คนปัจจุบันต้องการความจริงมากที่สุด เพราะเบื่อกับการฟังนักการศาสนาที่หลอกลวงต้มตุ๋น ดีแต่พูดมา ฆ่าเวลาไปเป็นอาทิตย์ๆ เป็นเดืิอนเป็นไป ไม่พาพี่น้องเคลื่อนออกไปประกาศที่เกิดผลอะไร ฟังมามากแล้ว ผมว่าความจริงคือสิ่งที่ไม่ตาย ใครจะว่าคนพูดความจริงอาจตายได้ ผมก็ยอม เพราะว่าสัจจะของพระเยซูไม่มีการออมชอบกับพวกมือถือสากปากถือศีลอยู่แล้ว

ถ้าหากเราเป็นโรคที่หมอรักษาให้หายได้ง่ายๆ คนเราก็ไม่ต้องการการอัศจรรย์อะไร ใครๆ ก็ทำได้ แต่ถ้าคนป่วยต้องการ แพทย์ผู้ประเสริฐที่ไม่เพียงสามารถรักษาโรคภัยทางร่างกายและจิตใจของคุณเท่านั้น แต่ยังสามารถรักษาโรคบาปของคุณได้ด้วย ผมคิดว่าใครไม่เอาพระเยซูก็ตามใจ เพราะผมเชื่อว่าคนที่ฉลาดจะรู้จักว่าควรจะเลือกแบบไหน เรื่องจริงมันต้องพูดตรงๆ ไม่ต้องอ้อมค้อม สไตล์ใครสไตล์มัน ผมไม่ออมชอบกับบาปอย่างแน่นอน ใครกลัวก็อย่าเชิญผมไปเทศน์ ถ้าไม่มีที่เทศน์ผมจะไปเทศนาประกาศตามตลาดสด สำหรับเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่ไม่น่าทำเป็นเรื่องที่น่าทำมากๆ และเชื่อว่าในไม่ช้าผมจะเทศนาให้แม่ค้าที่ตลาดสดต่างๆ ฟัง พร้อมกับทีมอธิษฐานรักษาและปลดปล่อย ขอบคุณพระเจ้าขอให้สำเร็จ

คนทุกคนต้องการพบความจริง ในการพิจารณาคดีของศาล ศาลต้องมีการไต่สวนให้ความจริงกระจ่างแล้วศาลจึงจะตัดสินว่าใครผิดใครถูก ใครสมควรได้รับโทษ ผมจะขอบอกทุกคนที่เป็นมนุษย์ในโลกใบนี้ว่า สิ่งที่มนุษย์ทำเมื่อมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ ไม่ว่าคุณจะคิดว่ามีคนเห็นหรือไม่มีใครเห็น ทุกสิ่งที่เราทำมีผู้คอยจดบันทึกและติดตามเราอยู่ บางครั้งการลงโทษไม่ได้เกิดขึ้นในช่วงเวลาหลังความตายหรอก การลงโทษและรับการทรมานมันเริ่มตั้งแต่เมื่อตอนที่เรามีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้แล้ว บางคนชีวิตเริ่มอับเฉา เริ่มป่วยเมื่ออายุเข้าสู่เลยสามสิบแก่ๆ เท่านั้น บางคนห้าสิบกว่าดูหน้า และสุขภาพเหมือนคนอายุเจ็ดสิบเข้าไปแล้ว

ทุกวันนี้คนไทยส่วนใหญ่รู้จักโลกของวิญญาณดี ผมจะไม่นำเสนอข้อพิสูจน์ใดๆ ว่าโลกนี้มีวิญญาณหรือมีผีอยู่หรือเปล่า เพราะในจิตสำนึกของคนไทย คนไทยรู้ดีว่าวิญญาณคืออะไร ผีคืออะไร ไม่เหมือนฝรั่งเพราะผีฝรั่งมันเป็นผีประเภทแอบซ่อน ผีแบบนั้นมันชอบสิงอยู่ในคนที่มีความรู้สูง บ้านเราเรียกมันว่าผียะโส
จิตยะโสจะชอบอยู่ในพวกที่อ้างตัวว่าเป็นคริสต์ที่เรียนรู้มามาก และได้ปริญญาหลายใบ เลยคิดว่าตนเองเป็นนักการศาสนา พวกนี้สนใจแต่พิธีกรรมพิธีการ ซึ่งก็น่าเห็นใจเพราะถูกวิญญาณผิดพลาดปิดตาไว้

เมื่อผมไปที่ห้างบิ๊กซี ผมเดินเข้าไปในห้างผ่านร้านรวงต่างๆ แต่ละร้าน แต่ละแผงขายของ ถ้าเราเป็นคนช่างสังเกต เราจะเห็นว่าเกือบทุกร้านมีการใช้วัตถุที่เกี่ยวกับวิญญาณหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในการดึงดูดลูกค้าให้เข้าไปซื้อของ หรือเพื่อทำให้เกิดแรงบันดาลบางอย่างที่เกิดจากการนับถือรูปเคารพ และสัญลักษณ์ทางวิญญาณ วัตถุทางวิญญาณเหล่านี้บางอย่างเป็นวิญญาณมาจากต่างประเทศ เช่น อินเดีย เนปาล สิงคโปร์ บางอย่างเป็นวิญญาณที่เกิดขึ้นในเมืองไทย เช่น นางกวัก ลูกแก้ว ลักยม กุมารทอง แมวกวักมือไฟฟ้า ฯลฯ สิ่งเหล่านี้แท้จริงคือสิ่งที่ช่วยยึดเหนี่ยวชีวิต และพยุงความหวังของคนให้ก้าวต่อไปในแต่ละวันใช่หรือไม่ รูปเคารพต่างๆ เหล่านี้ต้องการเครื่องบูชา ทุกที่ทุกแห่งที่มีคนไทยอยู่จะต้องมีสัญลักษณ์ทางวิญญาณเสมอ เพราะมนุษย์แท้จริงเป็นวิญญาณที่สิงอยู่ในเนื้อหนังที่หายใจได้ เมื่อวิญญาณหลุดจากร่าง ชีวิตก็จบสิ้นแต่นั้นไม่ใช่การสิ้นสุดของความเป็นมนุษย์ ยังมีชีวิตหลังความตายรออยู่อย่างแน่นอน

(ปัญญาจารย์ 12:14)
ด้วยว่าพระเจ้าจะทรงเอาการงาน ทุกประการเข้าสู่การพิพากษา
พร้อมด้วยสิ่งเร้นลับทุกอย่าง ไม่ว่าดีหรือชั่ว


เมื่อเราขับรถยนต์ไปในเมือง ตามสี่แยกไฟแดงมีคนขายพวงมาลัย มีคำถามว่าทำไมต้องมีคนขายพวงมาลัยแบบนี้ด้วย คุณลองสังเกตอีกทีซิ รถยนต์แต่ละคันที่ขับผ่านคุณไป ที่กระจกมองหลังของรถแต่ละคันเขาแขวนอะไร เขามีสัญลักษณ์ทางวิญญาณแขวนอยู่เกือบทุกคัน ที่บนรถเมล์ทุกคันผมคิดว่าน่าจะมีสัญลักษณ์แห่งความเชื่อศรัทธาทางวิญญาณอยู่เสมอ นั่นคือสิ่งยืนยันว่า มนุษย์ต้องการที่พึงพิงทางใจที่จะช่วยประคับประคองชีวิต ให้ชีวิตมีความหวังว่าจะผ่านพ้น จะโชคดี จะสำเร็จ ความหวังใจของคนโดยทั่วไปได้แก่ ความปลอดภัยของชีวิต ทรัพย์สิน แคล้วคลาดจากอุบัติภัย อุบัติเหตุ การมีสุขภาพดี ความสำเร็จ การนำมาซึ่งเงินกำไรและรายได้เพื่อประคับประคองชีวิต คนที่มั่งอยู่แล้วก็ต้องการความมั่นคงของฐานะและการงาน  และการก้าวไปข้างบน ในด้านที่ดีกว่าเสมอ  นี่คือสิ่งที่เป็นการแสดงออกถึงความต้องการภายในจิตใจของคนธรรมดาทั่วไป เป็นความเชื่อที่แสดงออกมาเป็นการกระทำเพื่อสื่อถึงความลึกลับของจิตใจมนุษย์ต่อเรื่องสิ่งที่มีอำนาจเหนือชีวิตของคนปกติทั่วไป

น่าเสียดายที่คนเป็นล้านๆ คนไม่รู้จักพระเยซู ทั้งๆที่พระดีๆ อย่างพระเยซูไม่ต้องแขวน ไม่ต้องห้อย ไม่ต้องพก ไม่ต้องปลุกเสก ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นด้วยฝีมือทางศิลปะ จินตนาการและฝีมือมนุษย์ พระองค์เป็นศาสดาเพียงองค์เดียวที่ถูกฆ่าตายด้วยการทรมานที่ไม้กางเขน หลังจากนั่นพระองค์ถูกนำไปฝังไว้ในอุโมงค์ได้สองคืน ในวันที่สามพระเยซูคริสต์เจ้าได้ฟื้นขึ้นมาจากความตาย พระองค์ยังปรากฎตัวให้สาวกและผู้ติดตามพระองค์ได้พบหน้า และรับประทานอาหารด้วยกันอีก ถึง 40 วัน พระเยซูได้ปรากฎตัวต่อหน้าคนห้าร้อยคนในคราวเดียวกัน ( 1 โครินธ์ 15.6)

ก่อนที่พระเยซูจะหายหน้าไปพระองค์ได้บอกให้สาวกของพระองค์รอคอยพระผู้ช่วยอีกองค์หนึ่งที่จะมาแทนองค์พระเยซูที่มีสภาพเป็นมนุษย์ที่ถูกจำกัดด้วยสภาพเนื้อหนัง คือองค์พระวิญญาณบริสุทธิ์ ก่อนที่จะให้สาวกออกไปประกาศเรื่องการยกบาปของพระเยซูที่ไม้กางเขน พระเยซูสั่งให้รอรับฤทธิ์อำนาจก่อน ให้รับบัพติสมาด้วยพระวิญญาณ ให้ประกาศด้วยหมายสำคัญและการอัศจรรย์แห่งการขับผีและรักษาโรคแก่คนเจ็บคนป่วยทั้งปวง

แต่น่าเสียดายมาก ลองไปอ่านในหลักข้อเชื่อของชาวคริสต์หลายๆ คณะมีหลักข้อเชื่อเพียงอย่างเดียวคือการบัพติสมาด้วยน้ำเท่านั้น บางคณะหากใครมาพูดคำว่าฮาเลลูยาในโบสถ์ดังๆ จะถูกคนข้างหาว่าเป็นพวกอื่นที่ไม่ใช่พวกเดียวกับตนอีกต่างหาก (ลูกา 3.16, กิจการ 1.5, 8, มัทธิว 3.11) คนที่เกลียดการพูดว่าฮาเลลูยา แท้จริงคือคนที่ถูกวิญญาณศาสนาและลัทธิถือพิธีกรรมครอบงำ ศาสนสถานที่เขาใช้ประกอบพิธีกรรมไม่มีการอัศจรรย์ใดๆ เกิดขึ้นเลย เป็นเวลาหลายอาทิตย์ เป็นเดือน และเป็นปีๆ เพราะที่ไหนมีศาสนาก็ต้องมีพิธีกรรม ในการนมัสการพระที่เขานับถือ  น่าเสียดายชาวคริสต์จำนวนมาก รู้จักพระเยซูแค่เป็นพระทางศาสนาเท่านั้น ไม่ได้มีฤทธิ์อำนาจของพระเยซูอยู่ในตัว  ทำการวางมือรักษาคนป่วยไม่ได้ ขับผีไม่ออก  เพราะได้รับการถ่ายทอดความรู้ทางศาสนาแค่เปลือกนอกของพระคริสต์เท่านั้น 

พระเยซูคริสต์เป็นพระเจ้าที่สถิตย์ทั่ว (Omnipresence) คือพระเจ้าองค์นี้เราสามารถขอความช่วยเหลือได้ไม่ว่าเวลาใด หรืออยู่สถานที่แห่งใด แล้วพระดีๆ แบบนี้ถ้าใครได้รู้จักแล้วไม่เชิญมาเป็นพระเจ้าประจำตัว  ก็อาจถือได้ว่าเป็นไก่ไม่รู้จักพลอยก็ว่าได้ แต่เชื่อไหมครับ คนจำนวนมากไม่กล้ารับพระเยซู พวกเขาแสวงหาสิ่งอื่นแทน เพราะสิ่งอื่นๆ มันไม่ต้องการสิ่งแลกเปลี่ยนมาก ไม่ต้องปรับเปลี่ยนค่านิยม พฤติกรรม หรืออุปนิสัยอะไรเลย ไม่ต้องเป็นคนสัตย์ซื่้อก็ได้  แม่ค้ามีรูปเคารพต่างๆ ใช้เรียกคนเข้ามาซื้อของในขณะที่พวกเขาโกงตาชั่ง  โกงเงินทอน ด่าว่าคนอื่น อิจฉาคนอื่น แต่สิ่งที่เขาเคารพนับถือไม่ได้ว่าอะไร ขอให้นับถือและเก็บสิ่งเคารพไว้ เขาก็จะมีกินมีใช้ นี่คือความเชื่อของคนไม่รู้จักพระเยซู ใครก็สามารถเชื่อถือวิญญาณเหล่านั้นโดยไม่ต้องทำความดี หรือทำงานอย่างถูกต้องชอบธรรม ซื่อสัตย์

อย่างไรก็ตามยังมีคนไทยอีกเป็นจำนวนมากที่ไม่เคยได้ยินเรื่องราวของพระเยซูเลย บางคนได้รับรู้เพียงแค่ว่า ศาสนาคริสต์คือศาสนาหนึ่งที่สอนให้คนเป็นคนดีเท่านั้น คนหลายคนเป็นลูกของชาวคริสต์ ไปโบสถ์ตั้งแต่เริ่มรู้ความ แต่ไม่รู้จักพระเยซูพอโตขึ้นก็ถูกเหยื่อล่อซาตาน กลายเป็นทาสของบาป กลายเป็นเหมือนสมาชิกที่ไร้เดียงสาของศาสนา ไม่มีเครื่องหมาย หรือพฤติกรรมดีๆ ใดๆ เลยที่บ่งบอกว่าเป็นลูกของพระเยซูคริสต์ ในที่นี้ผู้อ่านอย่าสับสนว่าการเป็นคนดีคือคริสเตียนนะ เพราะการจะเป็นคนดีศาสนาไหนมันก็สอนได้  คริสเตียนไม่ได้ดีหรือมีชีวิตที่สะอาดไปกว่าคนไม่รู้จักพระเยซู

ดังนั้นคนเราอาจไม่จำเป็นต้องมาเป็นคริสเตียนก็เป็นได้ แต่ที่ศาสนาให้ไม่ได้คือ ความรอดพ้นจากบาปเท่านั้น มันต่างกันตรงนี้ ความรอดพ้นบาปจะได้รับเมื่อถ่อมใจยอมรับพระเยซูเป็นพระเจ้าและรับการเปลี่ยนแปลอุปนิสัยเท่านั้น 

คนทั่วไปอาจไม่รับรู้ว่าพระเยซูคือพระเจ้าที่ยังเป็นอยู่และสามารถปกปักรักษาและดูแลผู้เชื่อได้ ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของคริสเตียนแท้ทุกคนที่จะป่าวประกาศ ด้วยวิธีการใดๆ ก็ได้เพื่อให้คนได้รู้ว่า พระเยซูเป็นพระเจ้าที่สามารถช่วยได้ ผู้เชื่อแท้ที่ติดตามพระเยซูสามารถทำการอัศจรรย์ในพระนามของพระองค์ได้ ขับผีได้ วางมือบนคนป่วยให้หายได้ และมีชีวิตที่ครบบริบูรณ์ สามารถหลุดพ้นจากคำแช่งสาปของบัญญัติทางศาสนาและสิ่งชั่วร้ายทั้งมวล นี่คือชีวิตที่อัศจรรย์สุดๆ เมื่อเป็นอย่างนี้แล้วทำไมพวกเราไม่พยายามดิ้นให้หลุดออกจากกะลาครอบของคณะ นิกาย และกฎเกณฑ์ธรรมเนียมอันครำครึนี้ล่ะ พระเยซูคือพระเจ้าแห่งการอัศจรรย์!!!  ที่ศาลาธรรม สถานธรรมของท่านมีการอัศจรรย์เกิดขึ้นเป็นประจำหรือเปล่า ถ้าไม่มีรีบกลับใจใหม่โดยไว

วิญญาณอื่นๆ รูปเคารพต่างๆ ทั่วไปต้องการเพียงน้ำแดงหนึ่งขวดและผลไม้สองสามลูกต่อวัน (น้ำแดงหมายถึงเลือด วิญญาณอื่นๆ ต้องการเลือดในการเสริมพลังของมัน) หรือเป็นเครื่องบูชาหาง่ายตามฤดูกาล เป็นดอกไม้ธูปเทียนอะไรเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่คนยอมให้ได้สำหรับการเป็นที่พึ่งพิงของชีวิตประจำวันของพวกเขา วิญญาณเหล่านี่ไม่ต้องการให้คุณเป็นคนดีเลิศเลออะไร เวลาขายของคนขายจะโกงตาชั่ง จะด่า จะแช่งหรือเอาเปรียบลูกค้า เวลาอยู่บ้านอาจจะด่าเพื่อนบ้านทั้งทางปากหรือด่าในใจ อาจจะเล่นชู้ ผิดผัว ผิดเมีย กินยาบ้าน เสพยาอะไรต่างๆ ยิ่งเลวเท่าไหร่มันยิ่งถือสิทธิเข้าครอบงำ เบียดเบียนได้มากขึ้น  ดังนั้นจึงไม่แปลกใจที่คนทำงานแทบตายเกือบทั้งชีวิต พอจะได้ดี จะได้สุขสภาพ พอมีเงินเก็บแล้ว กลับกลายเป็นต้องไปจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลตัวเอง หรือญาติมิตร คนในครอบครัว มีชีวิตที่ไร้สันติสุข  นอนก็หลับไม่ดี ผวา  เงินเงามืด เห็นผี  ต้องไปพึ่งพาคนทรงเจ้า และไสยศาสตร์ มนต์ดำ

วิญญาณที่แอบแฝงหากินอยู่เบื้องหลังรูปเคารพที่คนนับถือเหล่านี้มันไม่สนพฤติกรรมของใครหรอก ขอเพียงเจ้าของร้านมีอะไรบูชามันเล็กๆ น้อยมันก็อยู่ของมันไปอย่างนั้น เพราะถึงยังไง คนที่บูชามันก็อยู่ในอุ้งมือมันอยู่แล้ว แต่สำหรับพระเยซูคริสต์พระองค์ไม่ต้องการเพียงที่จะช่วยให้คนที่นับถือพระองค์มีรายได้ดี รวยขึ้นๆ มีลูกค้่าเยอะแยะโดยไม่สนใจสุขภาพร่างกาย สุขภาพอารมณ์ สุขภาพจิต พฤติกรรมหรือเรื่องการรอดพ้นบาปซึ่งเป็นเรื่องที่ลึกซึ้งกว่าเรื่องปากท้อง พระเยซูต้องการมากกว่านั้น คือ นอกจากให้มีชีวิตที่ครบบริบูรณ์แล้วยังอำนวยพระให้วิญญาณได้รับความรอด พ้นจากคำแช่งสาปของบาปและบทบัญญัติทางศาสนาอีกด้วย

เออ...ผมเกือบลืมบอกไป เดี๋ยวนี้เริ่มมีวิญญาณต่างประเทศเข้ามาในไทยเพิ่มขึ้นอีกหลายตัว วิญญาณเหล่านี้ผู้เผยแพร่ และสาวกขอมันต่างอ้างว่าเป็นพระเจ้า ชักจูงให้ผู้หลงติดตามต้องปฏิบัติตัวหลายอย่าง นัยว่าประกอบด้วยความเมตตาต่อสัตว์โลก สอนให้งดเว้นเนื้อ และการฆ่าสัตว์ หันไปกินแต่ผัก กินน้ำบางอย่าง ต้องทำโน่นทำนี่ บางทีก็สอนให้เอาเงินไปทำกุศลเพื่อสร้างที่อยู่หลังความตาย ไปซื้อโลงศพ ซื้อผ้าอะไรต่างๆ สร้างสิ่งก่อสร้างอะไรๆ ต้องทำบุญอย่างนั้นอย่างนี้ก็มี เพื่อจะได้ใช้ชีวิตหลังความตายอย่างมีความสุข คนที่ไม่รู้จักพระเยซูคริสต์ก็ทำกันมากมาย ผมเคยพบกับผู้หญิงที่ถือพระศรีอะไรสักอย่าง ชวนผมไปกราบไหว้รูปเคารพเหล่านี้ เขาบอกว่า "อาจารย์มาซิ มารับเอาธรรมของเรานะ แล้วอาจารย์จะได้รับรู้ว่าพระแม่เจ้าของโลกคืออะไร คนที่เป็นคริสต์เขาก็มารับธรรมหลายคนนะอาจารย์"

ผมมีโอกาสอธิษฐานให้กับคนหลายคนที่หลงไปติดกับดักของลัทธิผี และเจ้าแม่จากต่างประเทศ คือลัทธิของเจ้าแม่จากสิงคโปร์ และประเทศจีน  ลัทธิเหล่านี้จะขยันมาก เพราะพวกเขามีวิธีในการดึงดูดเงินเข้ากระเป๋า  เพราะเขาสอนให้ซื้อบุญ ใครอยากจะไปอยู่สวรรค์ให้มารับ คำพูดเพียงห้าคำจากตัวแทนลัทธิ  และให้หัดทำมือเป็นรูปต่างๆ เอานิ้วโป้งเตะนิ้วก้อย นิ้วนาง นิัวกลาง และทำพิธีกรรมที่เขาเรียกว่า "รับบุญ"

โอ้โหคำว่ารับบุญคนไทยชอบมากเลย  เพราะลัทธินี้เขาฉลาดกว่าพวกคริสต์สายหัวโบราณ ที่บัญญัติคำศัพท์เพี้ยนๆ ที่คนไทยฟังไม่รู้เรื่อง  แล้วพยายามจะออกไปชักจูง สื่อสารเรื่องพระเจ้าใหม่ให้คนมาเข้ารีตด้วยภาษาและคำศัพท์ทางศาสนาที่คนไทยที่ไม่คุ้นเคยกับคำแปลกๆ เหล่านี้ ให้มารับพระเจ้า คนไทยฟังไม่เข้าใจ เลยไม่เอาพระเยซูไปเลยก็มีมากมาย 

ลัทธินี้จะไปชักจูงเด็กๆ ให้ไปรับธรรมที่ศาลาธรรมของพวกเขา  เมื่อเด็กไปรับบุญ รับธรรมมาแล้ว พวกเขาจะถูกล้างสมองให้เชื่อว่า การกินเนื้อสัตว์ต่างๆ มันบาป  พอเด็กได้รับการสอนมากเข้า จะมาถึงขั้นตอนที่เขาเรียกว่า  รับเจ้า รับองค์ รับเจ้าแม่  ตอนนี้แหละ เด็กและใครๆ ไม่รู้ตัว นึกว่าเอาของดีมาอยู่กับตัว จะได้รับวิญญาณเข้ามาอยู่ในตัวเลย  ใหม่ๆ จะรู้สึกว่าดี เหมือนมีคนคุ้มครองป้องกัน  ต่อมาไม่นานถ้าพวกนี้ไม่ไปเข้าร่วมพิธีกรรมกับลัทธิ  จะไม่ค่อยสบาย  ปวดหัว เป็นหวัดบ่อยๆ เจ็บออดๆ แอดๆ

ผมเคยปลดปล่อยให้คนหลายคนที่หลงไปเข้าร่วม ไปรับเจ้า รับองค์จากลัทธินี้มาแล้ว ใครที่เคยไปสัญญากับลัทธินี้ คิดว่า ถ้าไปเลิกสัญญากับผีสิงคโปร์แล้วจะถูกมันรบกวน รังครวญ หรือถูกทำให้ตกนรก ขอให้มาหาผมโดยด่วน  ผมจะอธิษฐานปลดปล่อยให้ เพราะเจ้าเหล่านี้มันคือวิญญาณชั่วร้ายแปลงกายมาทั้งนั้น ไม่ได้เป็นเจ้าแม่ผู้ครองโลก ครองฟ้าอะไรทั้งสิ้น  ถ้ามันเป็นเจ้าแม่จริง เวลาไปรับมันทำไมทำลับๆ ล่อ ไม่ทำให้ที่สาธารณะที่มีคนรู้ คนเห็นมากๆ ล่ะ

ผมบอกว่า ถ้าวันไหนเจ้าแม่ เจ้าพ่อมาเข้าทรงผมจะไปไล่มันให้คุณดู เพราะผมรู้ว่าไม่มีผี หรือเจ้าตนใดจะใหญ่กว่าพระเยซูอีกแล้ว อันนี่คือเรื่องจริงเพราะผมไล่ผีมาเยอะแล้ว ผีระดับเจ้า ระดับเทพก็ไล่มาแล้ว ผีปอบที่ชอบแลบลิ้นยาวๆ ก็เจอมาแล้วที่ภาคอิสานเมื่อเดือนก่อนนี้เอง ไม่มีวิญญาณใดๆ กล้าแข็งข้อกับพระนามของพระเยซูได้แม้แต่น้อย นี่คือความจริง (ดูลูกา บทที่ 10 ข้อ 19)

พระธรรม เอเฟซัส บทที่ 1 ข้อ 18-20 กล่าวว่า

(18) ... ขอให้ตาใจของท่านสว่างขึ้นเพื่อท่านจะได้รู้ว่า ในการที่พระองค์ทรงเรียกท่านนั้น พระองค์ได้ประทานความหวังอะไรแก่ท่านและรู้ว่ามรดกของพระองค์สำหรับธรรมิกชนมีสง่าราศีอันอุดมบริบูรณ์เพียงไร
(19) และรู้ว่าฤทธานุภาพอันใหญ่ของพระองค์มีมากยิ่งเพียงไร สำหรับเราทั้งหลายที่เชื่อ ตามอำนาจของพระกำลัง และฤทธานุภาพอันใหญ่ยิ่งของพระองค์
(20) ซึ่งพระองค์ได้ทรงกระทำในพระคริสต์ เมื่อทรงชุบให้พระองค์เป็นขึ้นมาจากความตาย และให้สถิตเบื้องขวาพระหัตถ์ของพระองค์ในสวรรคสถาน
(21) สูงยิ่งเหนือบรรดาเทพผู้ครองเหนือศักดิเทพ เหนืออิทธิเทพ เหนือเทพอาณาจักรและเหนือนามทั้งปวงที่เขาเอ่ยขึ้น มิใช่ในยุคนี้เท่านั้นแต่ในยุคที่จะมาถึงด้วย

นอกจากนี้ผมข้อเพิ่มอีกหน่อย คือ สุขภาพฝ่ายวิญญาณเป็นเรื่องที่คนทั่วไปไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันต้องมีตัวนี้ คือพระเยซูต้องการให้คนที่มาเชื่อในพระองค์ รับการเปลี่ยนแปลงทั้งความคิด อุปนิสัยในการกิน การอยู่ การทำอาชีพ การคิด และการอยู่ร่วมกับผุ้อื่นในสังคมด้วย พระเยซูสามารถปกป้องผู้เชื่อของพระองค์ให้พ้นจากความป่วยใข้และการเบียดเบียนทุกชนิดไม่ว่าจะเป็นจาก สภาพอากาศ ตัวแมลงมีโทษภัย มีพิษ สภาพแวดล้อมที่อันตราย โรคภัยไข้เจ็บ ความยากจน แม้กระทั้งฤดูกาลและระดับของน้ำฝนในเขตตำบลที่เราอยู่ด้วย พระเยซูคริสต์ยังสามารถดลบันดาลให้เป็นไปเพื่อประโยชน์ของลูกของพระองค์ได้ และเมื่อเราตายไปเราไม่ต้องไปขอส่วนบุญอะไร ไม่ต้องให้ใครทำบุญอุทิศส่วนกุศลเล็กๆ น้อยไปให้โดยผ่านทางศาสนา  เพราะพระเยซูเจ้าจะมารับวิญญาณจิตของผู้เชื่อเข้าสู่เมืองแห่งความสุขสำราญในโลกวิญญาณต่อไป

เกริ่นมายืดยาวเพื่อจะบอกว่า พระเจ้าต้องการให้คุณมีสุขภาพดีและมีวิถีชีวิตอันเลิศ ด้วยการที่คุณปฎิบัติตามคำแนะนำของพระเจ้าที่จารึกไว้ในหนังสือพระคริสต์ธรรมคัมภีร์ หรือที่เรียกว่าพระคัมภีร์ไบเบิ้ลนั่นเอง

ปัจจัยที่ทำให้คนป่วยไข้ ผู้เชี่ยวชาญด้านการปลดปล่อยและเียียวยาได้มีประสบการณ์มา หลายท่านได้เขียนถ่ายทอดไว้ บางข้ออาจไม่ใช่หลักการทางทฤษฏีหรือเป็นข้อที่เป็นหลักตายตัว แต่ก็เป็นความรู้ และเป็นประสบการณ์ที่ผู้เขียนหนังสือเกี่ยวกับการปลดปล่อยและเียียวยาได้เขียนไว้ ผมได้อ่านหนังสือจำพวกนี้มามากพอควร ส่วนใหญ่เป็นตำราภาษาต่างประเทศ ผมขออนุญาตนำมาถ่ายทอดบางส่วนเพื่อเป็นพื้นฐานและอาจะเป็นการแนะนำหรือสกิดใจนักการศาสนาคริสต์หลายๆ ท่านที่อาจจะเริ่มเบื่อหน่ายกับศาสนวัตร ศาสนกิจที่ไร้เรี่ยวแรง พิธีกรรมพิธีการ ศาสนศาสตร์หลักคำสอนเพื่อการเป็นคนดี หลายท่านอาจสนใจที่ศึกษาเพิ่มเติมทางด้านนี้เพื่อที่ท่านจะเิติบโตขึ้นกลายเป็นคนหนึ่งที่สามารถปลดปล่อยพี่น้องได้ดียิ่งขึ้น เห็นการอัศจรรย์ในพระนามพระเยซูคริสต์เพิ่มขึ้นด้วยมือด้วยตาของตนเอง เมื่อท่านรู้จักสิทธิอำนาจของผู้เชื่อ และได้ศึกษาเพิ่มเติมในเรื่องนี้

พระคัมภีร์ โฮเชยา บทที่ 4 ข้อที่ 6 - ได้กล่าวว่า

ประชากรของเราถูกทำลายเพราะขาดความรู้
(6) เพราะเจ้าปฏิเสธไม่รับความรู้
เราก็ปฏิเสธเจ้าไม่ให้รับเป็นปุโรหิตของเรา
เพราะเจ้าหลงลืมพระบัญญัติแห่ง
พระเจ้าของเจ้า
เราก็จะลืมพงศ์พันธุ์ของเจ้าเสียด้วย

(7)เขาทวีมากขึ้นเท่าใด
เขาก็กระทำบาปต่อเรามากขึ้นเท่านั้น
เราจะให้ศักดิ์ศรีของเขากลายเป็นความอับอาย

พิธีกรรมอยู่คู่มนุษย์มานานตั้งแต่ปีไหน ไม่แน่ชัดแต่มีมานานมาก
มนุษย์ต้องการสิ่งศักดิ์สิทธิที่จะช่วยดลบันดาลให้สิ่งดีเกิดขึ้นแก่ตนเองและครอบครัว

อุปสรรค์สำคัญที่มีผลต่อการหายโรคด้วยฤทธิ์อำนาจของพระเจ้า


แท้จริงพระเจ้าต้องการปลดปล่อยและเยียวยาทุกคน แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะไ้ด้รับการรักษาได้ทันที เพราะอาจมี "บางสิ่ง บางอย่าง" ที่เป็นอุปสรรค์ สิ่งเหล่านี้ได้แก่ (รายละเอียดไม่สามารถลงเจาะลึกได้เพราะจะทำให้บทความนี้ยาวเกินไปและ อาจสร้างความสับสนแก่ผู้อ่านมากกว่านี้) พระเจ้าสามารถปลดปล่อยคนป่วยทุกคนได้ทันที และสิ่งที่เป็นอุปสรรคนี้ก็ไม่ได้ยิ่งใหญ่กว่าฤทธิ์อำนาจของพระเจ้า แต่เป็นเพราะเหตุใดพระเจ้าจึงไม่ช่วยคนที่มีอุปสรรคเหล่านี้ในชีวิต เป็นเรื่องที่ทุกคนต้องคิดใคร่ครวญเอาเอง แล้วจะรู้ได้

สิ่งที่นำมาซึ่งความวิบัติ ความอ่อนแอของร่างกาย จิตใจและวิญญาณ การถูกเบียนเบียน อาจได้แ่ก่

ก. การไม่ยกโทษให้ตนเอง ผู้อื่น หรือคนที่เราได้ปะทะสัมพันธ์ด้วย ได้แก่ การฝังใจเจ็บกับความแค้น ความเจ็บปวด การถูกคนอื่นยำยี กดขี่ ถูกปฎิเสธ คำพูดที่แช่งสาปซ้ำๆ การไม่ให้อภัย

ข. การขาดความรู้ในเรื่องพระเจ้า การไม่ดำเนินชีวิตอยู่ในศีลธรรมบทบัญญัติแห่งศีลธรรม คุณธรรม

ค. การไม่รู้จักบุญไม่รู้จักบาป ไม่สนใจหลักศีลธรรม ทำอะไรตามอำเภอใจ ไม่นับถือบัญญัติแห่งศาสนา คริสเตียนมีคำสาปแช่งไว้มากมายสำหรับผู้ที่ทำอะไรตามใจฉัน (ฉธบ. บทที่ 28 มีบทความนี้แล้วในบล๊อกนี้)

ง. ความบาปที่ตกทอดมาตามสายเลือด พฤติกรรมการดำรงชีวิต กรรมชั่วของตระกูล คำแช่งสาป/โรคทางสายเลือด อุปนิสัยบาปที่ตกทอดมาทางครอบครัว

มีครอบครัวคนหนึ่งซึ่งเป็นคนที่อยู่ในศาสนาคริสต์แต่พวกเขายังไม่ได้รับการปลดปล่อย ตอนนี้ลูกของคริสเตียนคนนี้ตายเป็นโรคหัวใจแล้ว 3 คนทยอยตายไปทีละคน บางครอบครัวตายเป็นโรคมะเร็งไปทีละคนสองคน บางครอบครัวพ่อแม่เป็นความดันสูง เป็นเบาหวานลูกๆ ก็พากันเป็นเหมือนพ่อแม่ แก้ไขไม่ได้

จ. การไม่นับถือผู้อื่น การไม่ถ่อมใจ ไม่ยอมฟัง ไม่เคารพบุคคลตามความสัมพันธ์และสิทธิอำนาจ สมาชิกเกเรที่ไม่ค่อยเข้าโบสถ์และชอบนินทาว่าร้าย กระจายข่าวไม่ดีเกี่ยวกับผู้มีสิทธิอำนาจทางวิญญาณในคริสตจักร คนพวกนี้ อ.เฮนรี ไรท์ อ.ผู้เชี่ยวชาญด้านการเยียวยา บอกว่า คน ร้อยละ 40 ที่มาขอรับการรักษาเยียวยาเป็นคริสเตียนหย่อนยานต่อวัตรปฎิบัติของคริสเตียน นับถือพระเยซูแค่เป็นพระเจ้าทางศาสนาเท่านั้น

ฉ. ความไม่เชื่อเรื่องการลงโทษ และการอวยพรของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ปกครองอยู่เหนือสรรพสิ่ง

ช. การไม่นับถือพ่อแม่ ( อพยพ 20. 12)

ซ. ชอบตัดสินผู้อื่น ชอบแช่งด่าตัวเอง ผู้อื่น และบ่นด่าว่าพระเจ้า (มัทธิว 7.1, กดว 14) มักมีอาการเกี่ยวกับดวงตา โรคตา ตาฟางก่อนวัย มีโรคเกี่ยวกับสมอง ความคิด สายตา

ญ. นิสัยบาป หมกหมุ่นกับสิ่งไม่ดี บังคับใจตนเองไม่ได้ ปล่อยตัวปล่อยใจไปกับสิ่งโสโครก สิ่งไร้ค่า การกินดื่มจนเกินพอดี โลภ ตัณหา การเล่นชู้ ลวงประเวณี สิ่งลามก สิ่งอุบาตที่ใครๆ ก็บอกว่าไม่ดีกลับบอกว่าดี เอามาเก็บ หรือสะสมไว้ในครอบครอง

ฎ. ปล่อยให้ความเครียดความวิตกกังวล ความกลัว เข้าครอบครองชีวิตจิตใจ วิตกถึงสิ่งที่ยังมาไม่ถึง ไม่วางใจพระเจ้า  ไม่มีความมั่นใจในการดำเนินชีวิต วิตกจริตมากเกินไป

ฏ. ทำผิดศีลธรรมร้ายแรง ไม่ยอมกลับใจ ทำกับผู้อื่นโดยตั้งใจและไม่ตั้งใจ ไม่มีการชดเชยหรือขอการยกโทษจากผู้ที่เราละเมิดต่อเขา

ฐ. นับถือวิญญาณอื่นๆ ว่าเป็นพระเจ้า ยอมตัวเป็นลูกของวิญญาณต่างๆ เมื่อทำผิดพลาดถูกวิญญาณรังครวญ คนไทยเขาใช้คำว่า ผิดผี ของขึ้น หรือ ผิดครู

ฑ. ไปล่วงเกินสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทำสัญญา หรือตั้งสัจจะกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์แล้วไม่แก้ไข (สิ่งเหล่านี้มีแต่พระเยซูคริสต์เท่านั้นที่สามารถตัดสายสัมพันธ์และปลดปล่อยให้พ้นได้) (ปัญญาจารย์ 5.4)

บ. ไม่ทันระวังตัวหลงเชื่อผู้อื่นโดยไปเชิญวิญญาณอื่นมาคุ้มครอง หรือเป็นตัวช่วยในการดำเนินชีวิต เชิญวิญญาณสัตว์ต่างๆ มาอยู่กับตัวเอง เช่น หนุมาน งูใหญ่ เสือโคร่ง ย่านาง ตาปู่ ตาเถร เจ้าพ่อ เจ้าแม่ นางไม้ต่างๆ ฯลฯ โดยทำเครื่องหมายไว้บนตัวหรือ สักน้ำมัน  เสกด้วยมนต์คาถา หรือยึดถือผูกพัน หรือเก็บรักษาเครื่องหมายทางวิญญาณไว้ในครอบครอง

ป. การไปยุ่งเกี่ยวกับไสยศาสตร์ เวทมนตร์ ผีป่า ผีตายโหง วิญญาณครูต่างๆ เข้าร่วมพิธีกรรมสังเวยวิญญาณต่างๆ เข้าร่วมพิธีกรรมบูชา สังเวยบรรพบุรุธหรือเทพ เจ้าต่างๆ ตามเทศกาล หรืองานพิเศษต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับพลังแห่งวิญญาณ

ผ. มีความคิดที่วิปลาด เล่นลูกสวาท incest สมสู่กับสัตว์ กามวิปริต ผิดเพศ ผิดฝาผิดตัว รักร่วมเพศ สำส่อนทางเพศ (โรม 1. 24-28)

ฝ. สะสมสิ่งที่พระคัมภีร์เรียกว่า สิ่งน่าสะอิดสะเอียนไว้กับตัวหรือในบ้าน หรือครอบครองของใช้ต่างๆ ที่เป็นวัตถุแห่งคำแช่งสาป (ฉธบ. 7.26)

พ. เอาเงินหรือทรัพย์สิ่งของที่ได้มาอย่างสกปรก หรือการไหว้รูปเคารพมาถวายพระเจ้า (ฉธบ. 23.18)

ฟ. ไม่เชื่อเรื่องกฏแห่งการหว่าน ถ้าหว่านสิ่งใดก็จะได้สิ่งนั้น หว่านสิ่งเลวก็ได้สิ่งไม่ดีกับตัวเอง

ภ. เป็นอาการป่วยที่จะนำผู้ป่วยเข้าไปสู่ขั้นตอนวาระสุดท้ายของชีวิตแล้ว

ข้อพระธรรมหนุนใจ

โยบ 36:12:
แต่ถ้าเขาทั้งหลายไม่เชื่อฟัง เขาทั้งหลายจะพินาศด้วยดาบ
และตายโดยปราศจากความรู้


1 ยอห์น 1.6-10
(6) ถ้าเราจะว่าเราร่วมสามัคคีธรรมกับพระองค์และยังดำเนินอยู่ในความมืด เราก็พูดมุสา และไม่ได้ดำเนินชีวิตตามความจริง

(7) แต่ถ้าเราดำเนินอยู่ในความสว่าง เหมือนอย่างพระองค์ทรงสถิตในความสว่าง เราก็ร่วมสามัคคีธรรมซึ่งกันและกัน และพระโลหิตของพระเยซูคริสต์พระบุตรของพระองค์ ก็ชำระเราทั้งหลายให้ปราศจากบาปทั้งสิ้น

(8) ถ้าเราทั้งหลายจะว่าเราไม่มีบาป เราก็ลวงตนเอง และสัจจะไม่ได้อยู่ในเราเลย

(9) ถ้าเราสารภาพบาปของเรา พระองค์ทรงสัตย์ซื่อและเที่ยงธรรม ก็จะทรงโปรดยกบาปของเรา และจะทรงชำระเราให้พ้นจากการอธรรมทั้งสิ้น

(10) ถ้าเรากล่าวว่าเราไม่ได้ทำบาป ก็เท่ากับเราทำให้พระองค์เป็นผู้ตรัสมุสา และพระดำรัสของพระองค์ก็มิได้อยู่ในเราทั้งหลายเลย

พระธรรมสุภาษิต บทที่ 14 ข้อ 12

มีทางหนึ่งซึ่งคนเราดูเหมือนถูก
แต่มันสิ้นสุดลงที่ทางของความมรณา

ทางในโลกนี้มีให้เลือกเดินมากมาย มีไลฝสไตล์มากแบบให้เราเลือกก๊อปปี้ แต่เราจะต้องรับผิดชอบสำหรับการตัดสินใจเลือกทางเดินของชีวิตอย่างแน่นอน

พระธรรมฮีบรู 4.13
ไม่มีสิ่งหนึ่งสิ่งใดซ่อนไว้พ้นพระเนตรพระองค์แต่ตรงข้ามทุกสิ่งปรากฏแจ้งต่อพระองค์ผู้ซึ่งเราต้องสัมพันธ์ด้วย ฮีบรู 4.13

ก่อนจบขอตั้งหมายเหตุไว้นิดหนึ่ง สิ่งที่ไม่น่าแปลกใจที่เกิดขึ้นสำหรับการหายโรคก็คือว่า คนป่วยเมื่อหายโรคแล้วมักจะลืมพระเจ้า ลืมเจ็บ ลืมสำนึก กลับไปทำบาปซ้ำเดิม เหมือนสุนัขกลับไปกลืนกินสิ่งที่มันอาเจียนออกมา บางคนไม่ยอมนับถือพระเยซู ไม่รู้จักการแสดงความขอบคุณพระเจ้าและผู้ที่อธิษฐานวางมือรักษาเขา บางคนกลับไปทางเก่า มีอุปนิสัยที่เลวร้าย หลังจากนั้นไม่นานโรคภัยที่ร้ายแรงก็กลับมารุมเร้าและเป็นมากกว่าเดิม (มัทธิว 12.43)

ขอพระเจ้าอวยพรผู้ที่ผ่านเข้ามาพบสัจจะจากเว็บบล็อกแห่งการปลดปล่อยนี้

Amen

Written By :RW Sept 29, 2010



Tags: การหายป่วย วิธีการรักษา  แผลเน่า  มะเร็งเต้านม  มะเร็ง โรคเรื้อรัง อาการทางจิต  ประสาท 
ไมเกรน  การรักษาโรคไมเกรน  ริดสีดวง โรคตับอักเสบ  แพทย์ดีเด่น  การเยียวยา การรักษาด้วยพลังจิต รับสะเดาะห์เคราะห์  ตัดกรรม แก้กรรม เจ้ากรรมนายเวร  วิญญาณรบกวน เห็นผี โรคประหลาด อาการป่วยที่รักษาได้ยาก  ไม่ทราบสาเหตุ เป็นๆ หายๆ  การดูแลผู้สูงอายุ ความเครียดเรื้อรัง  ความกลัว รู้สึกกลัว  การรักษาทางเลือก  reewat.com  กลุ้มใจแฟนทิ้ง สามีนอกใจ ภรรยานอกใจ ส่ำสอนทางเพศ
กลุ่มรักร่วมเพศ  หญิงรักหญิง ชายรักชาย ท่าทางในการมีเพศสัมพันธ์ วิธีการมัดใจสามี  การทำสเน่ห์
การทำของ คุณใสย  รับทำพิธีกรรม เรียกผัว เรียกเมีย คุณไสย ไสยศาสตร์ ปัดรังครวญ  ตัดกรรม ตัดเคราะห์ เสริมดวง ทำนายโชคชะตา หมอดูแม่นๆ  ดวงดาววันนี้  ดาราฆ่าตัวตาย วิธีการฆ่าตัวตาย วิธีการทรมานสัตว์ วิธีการแก้แค้น  วิธีลงโทษ  ภาพโป๊ Node คลิปลับ คลิปหลุด สาวสยิว  แก้ดวง แก้กรรม ลัก-ยม ลักยม กุมารทอง นางกวัก  คาถาปลุกพระ คาถาขับผี คาถาสกดวิญญาณ  การขึ้นครู ของขึ้น แก้ของขึ้น  ขับผี วิธีการบนเจ้าที่ การขอหวย การผูกดวง ยาผีบอก  ยาแก้มะเร็ง สูตรลับ



















































แพทย์หญิงชนิกา  อังสนันท์สุข
นายแพทย์จตุพล  โสวิรัชน์  
นิโคลัส เจ ไวท์ 
นายแพทย์.วิจารณ์  
พ.ศ. 2528
  1. นายแพทย์สาธิต ไผ่ประเสริฐ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช
  2. นายแพทย์อุกฤษฏ์ มิลินทางกูร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลปาย จ.แม่ฮ่องสอน

พ.ศ. 2529
  1. นายแพทย์ประวิ อ่ำพันธุ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ
  2. นายแพทย์พิพัฒน์ สินถาวร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลตาพระยา จ.ปราจีนบุรี

พ.ศ. 2530
  1. นายแพทย์พิชิต ปิยานนทพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเขาชัยสน จ.พัทลุง
  2. นายแพทย์ทรงวุฒิ หุตามัย ผู้อำนวยการโรงพยบาลขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน
  3. นายแพทย์กังวาล วงศ์รัศมีเดือน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลน้ำโสม จ.อุดรธานี

พ.ศ. 2531
  1. นายแพทย์นิสิต วรรธนัจฉริยา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลอมก๋อย จ.เชียงใหม่
  2. นายแพทย์สุรพร ลอยหา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลน้ำยืน จ.อุบลราชธานี

พ.ศ. 2532
  1. นายแพทย์ละเอียด นาคใหม่ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี
  2. แพทย์หญิงบุษกร อนุชาติวรกุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลชุมพวง จ.นครราชสีมา

พ.ศ. 2533
  1. นายแพทย์สมเกียรติ อัศวศรีประไพ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลแม่ลาน้อย จ.แม่ฮ่องสอน
  2. นายแพทย์สุเทพ วัชรปิยานันทน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลรัตนภูมิ จ.สงขลา

พ.ศ. 2534
  1. นายแพทย์ภักดี สืบนุการณ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลด่านซ้าย จ.เลย
  2. นายแพทย์จรัส สิงห์แก้ว ผู้อำนวยการโรงพยาบาลดอยเต่า จ.เชียงใหม่

พ.ศ. 2535
  1. นายแพทย์ประยูร โกวิทย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเขาวง จ.กาฬสินธุ์
  2. นายแพทย์พิสุทธิ์ พรสัมฤทธิ์โชค ผู้อำนวยการโรงพยาบาลแม่แจ่ม จ.เชียงใหม

พ.ศ. 2536
  1. นายแพทย์ธารา อ่อนชมจันทร์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพญาเม็งราย จ.เชียงราย
  2. นายแพทย์ชาตรี เจริญศิริ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเรณูนคร จ.นครพนม

พ.ศ. 2537
  1. นายแพทย์ไกร ดาบธรรม ผู้อำนวยการโรงพยาบาลแม่อาย จ.เชียงใหม่
  2. นายแพทย์สมชาย ลี่ทองอิน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลปาย จ.แม่ฮ่องสอน
  3. นายแพทย์ณัฐวุฒิ ประเสริฐสิริพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลดอนสัก จ.สุราษฏร์ธานี

พ.ศ. 2538
  1. นายแพทย์ธงชัย กีรติหัตถยากร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลรือเสาะ จ.นราธิวาส
  2. นายแพทย์วรวิทย์ ตันติวัฒนทรัพย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลอุ้มผาง จ.ตาก

พ.ศ. 2539
  1. นายแพทย์วิสุทธิ์ ชนะสิทธิ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลโป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี
  2. นายแพทย์เอกชัย ปัญญาวัฒนานุกูล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกาบเชิง จ.สุรินทร์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

You may post your comments here.
หากท่านมีข้อคิดเห็นเพิ่มเติมหรือเสนอแนะเชิญออกความเห็นได้
(กรุณาใช้ข้อความสุภาพ และสร้างสรรค์)