ท่านอยู่ในคริสตจักรที่เหมาะกับท่านหรือเปล่า
ตอนที่ 1
คนที่เพิ่งเข้ามาเชื่อพระเจ้าอาจไม่เคยคิดว่า การเชื่อพระเจ้าที่ค่อนข้างจะยากยิ่งกว่าการเปลี่ยนวิธีคิด เปลี่ยนวิธีการปฎิบัติที่เขาเรียกว่า ก้าวเข้าสู่ชีวิตใหม่นั้น ยังต้องมีอะไรต้องทำอีกมากมาย การเลือกที่จะเข้าเป็นสมาชิกประจำของโบสถ์ใดโบสถ์หนึ่งสักแห่งยิ่งเป็นการตัดสินใจที่ยากยิ่งเหมือนกัน ผมจึงขออนุญาตนำบทความนี้ซึ่งเขียนโดยนักเขียนดังท่านหนึ่ง จึงขออนุญาตนำมาลงเพื่อเป็นประโยชน์ต่อผู้เชื่อพระเจ้า หากใครเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ หากไม่ต้องการให้เผยแพร่กรุณาแจ้งด้วยครับ ผมจะได้เอาออกโดยไว
ถ้าเราอยู่ในคณะ หน่วยงาน กลุ่ม หรือคริสตจักรใดก็ตามที่เราไปร่วมด้วยกันไม่ได้ เนื่องจากมีสาเหตุต่างๆ ที่ทำให้เกิดความคิดที่ว่า “ไปกันไม่ได้ “ อาจเป็นเพราะความเห็นไม่ตรงกัน เราก็ควรถามตัวเองว่า การที่เราเข้าร่วมกับเขานั้นเกิดขึ้นเพราะพระเจ้าทรงกระทำ หรือเพราะการตัดสินใจของเราเอง
ถ้าเรามั่นใจว่าพระเจ้าได้ทรงนำเรามาเป็นสมาชิกคริสตจักรหรือหน่วยงานนั้น เราก็สามารถยอมรับตัวตนของผู้นำว่าตัวท่านและพันธกิจของท่านเป็นเหมือนของประทานจากพระเจ้าและท่าทีที่พร้อมเป็น “พระพร” มิใช่ทำตัวเป็นคน “โคลงเรือ จนล่มได้” มีคริสเตียนหลายคนในคริสตจักรต่างๆ ที่สร้างปัญหา เพราะพวกเขาอยู่ในที่ใครคริสตจักรที่ไม่ถูกต้อง
ผู้เชื่อพระเยซแต่ละคนมาร่วมตัวกันอยู่ในคริสตจักรก็เพื่อสร้างสรรค์มิใช่สร้างปัญหาท่าทีของผู้เชื่อพระเจ้าควรถูกต้องในงานที่พระเจ้าทรงเรียกให้เราเข้ามาร่วมด้วย โดยยึดมั่นอยู่ในนิมิตที่พระเจ้าทรงให้ และ “เกาะติด” อยู่กับนิมิตนั้น เพื่อเราสามารถเป็นส่วนหนึ่งของการทำให้น้ำพระทัยของพระเจ้าสำเร็จ
หลังจากที่เราได้ยอมรับผู้รับใช้เหล่านั้นเป็นของประทานจากพระเจ้าแล้วคำถามต่อไปที่ควรถามตัวเองก็คือ “ฉันอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องหรือไม่”
ถ้าท่านไม่อาจยอมรับผู้นำของท่านว่าผู้นำท่านเป็นของประทานจากพระเจ้า สิ่งนั้นก็แสดงอย่างชัดเจนว่าท่านอยู่ในที่ที่ผิดท่านควรออกมาทันทีก่อนที่กลายเป็นตัวสร้างปัญหาให้เกิด
เพราะท่านคิดว่าผู้นำของท่านผิด ไม่ช้าก็เร็วท่านก็เริ่มตำหนิ ติเตียน จับผิด เยาะเย้ย ยุแหย่ สร้างความแตกแยก ทำให้แตกสามัคคีในที่สุดท่านก็รวบรวมผู้ที่เห็นด้วยกับท่าน และตั้งเป็นก๊กต่อต้านผู้นำขึ้น ซึ่งถ้าหากผู้นำของท่านเป็นผู้รับใช้ของพระเจ้าจริงๆ ผลลัพธ์ก็จะเกิดที่แสดงว่าพระเจ้าไม่ทรงพอพระทัยในการกระทำของท่าน เพราะการสร้างความแตกแยก ไม่ใช่ลักษณะของคริสเตียนที่ดีอย่างแน่นอน
ปัญหาอาจเป็นตัวบ่งชี้ว่าท่านอยู่ไนที่ที่ผิด เพราะถ้าท่านควรอยู่ในที่ควรอยู่ ท่าทีของท่านก็สะท้อนให้เห็น ท่าทีของท่านควรจะถูกต้องสอดคล้องกับตำแหน่งของท่าน การอยู่ในที่หรือตำแหน่งที่ถูกต้องเป็นพระพรอย่างยิ่งดังเช่นแกะที่พระเจ้าไดทรงจัดเตรียมไว้บนภูเขาให้แก่
อับราฮาม อาหารและน้ำของเอลียาห์อยู่ที่ลำธาร และเมื่อลำธารนั้นแห่ง ก็ยังมีหญิงม่ายผู้ซึ่งคอยเลี้ยงดูอยู่ในเมือง ความจริงแล้วในพระกายพระคริสต์มีที่ที่ถูกต้องสำหรับท่านและที่นั้นจะมีทั้งการเจริญเติบโต การหายโรค และพระพรอันเปี่ยมล้นสำหรับท่าน
บ่อยครั้งที่บางคนขาดความสุขและก่อปัญหา เพราะเขาอยู่ในที่ที่ไม่ควรอยู่ ยิ่งกว่านั้นมีไม่น้อยที่อยู่ในคริสตจักรที่ไม่ควรอยู่ด้วย
บางคนมีนิสัยที่ไม่ยอมเข้ากับผู้นำในคริสตจักร ไม่ว่าผู้นำนั้นจะเป็นใครก็ตาม คริสตจักรใดที่มีสมาชิกแบบนี้ก็มีแต่เรื่องบ่นและคอยจับผิด ไม่ว่าผู้นำ หรือศิษยาภิบาลจะพูดอะไรหรือจะทำอะไร พวกนี้ก็คอยติเตียนนินทาว่าร้ายลับหลัง และพยายามสร้างปัญหาขึ้นมานั้นด้วยลมปากของเขา หลังจากการประชุมนมัสการวันอาทิตย์ แทนที่จะใช้เวลาย่างเนื้อเพื่อประกอบอาหารมื้อเที่ยง พวกเขากลับ “เผานักเทศน์” แทน แล้วพากันนั่งรอบโต๊ะในเวลาอาหารเย็น เพื่อ “เผา” ศิษยาภิบาลด้วยลมปากของเขา
ถ้าคริสตจักรของท่านเป็นเช่นนี้ ท่านก็อยู่ผิดตำแหน่งแหล่งที่ที่พระเจ้ามีพระประสงค์เสียแล้ว ท่านต้องออกมาและหาที่ที่องค์พระผู้เป็นเจ้ามีพระประสงค์ให้ท่านอยู่ พระเจ้ามีพระประสงค์ให้ท่านอยู่ ในที่ที่ท่านสามารถรับผู้รับใช้ของพระเจ้าเหมือนเป็นของขวัญ หรือของพระราชทานจากพระองค์ และถ้าเป็นเช่นนี้ท่านก็ได้รับประโยชน์จากการปกครองด้วยสิทธิอำนาจ และการถูกชโลมจากพระเจ้าของผู้รับใช้เหล่านั้น
ผู้รับใช้พระเจ้านั้น ไม่ว่าอยู่ในฐานะตำแหน่งใด จะมีสิทธิอำนาจและการเจิมหรือการชโลมจากพระเจ้าอยู่ด้วย ไม่ว่าท่านนั้นเป็นใคร ชายหรือหญิงเมื่อท่านอยู่ในที่ที่พระเจ้าให้ท่านอยู่ และยอมรับผู้นำฝ่ายวิญญาณของท่านว่าเป็นของประทานจากพระเจ้า ท่านก็ได้รับประโยชน์จากสิทธิอำนาจและการเจิมจากผู้รับใช้คนนั้น แต่ท่านอยู่ในที่ที่ผิด คือในคริสตจักร ที่สมาชิกไม่เคารพผู้นำหรือท่านผิดเองที่ไม่ยอมรับนับถือผู้นำของท่าน ท่านก็ได้ออกจากสิทธิอำนาจและการเจิมที่พระเจ้าได้มีต่อผู้นำของเสียแล้ว ผลลัพธ์ก็คือไม่ว่าท่านจะทำงานหนักขนานไหน ท่านก็จะไม่ได้รับประโยชน์อะไรเลย
ท่านเข้าใจในเรื่องนี้หรือยัง หลายคนในคริสตจักรต่างๆที่เฝ้าเพียรถวายสิบลด แต่เพราะเขามีท่าทีที่ไม่ถูกต้องต่อศิษยาภิบาลจึงต้องพบกับความประหลาดใจที่ไม่ได้รับพระพรอย่างที่ควรจะเป็น เหตุผลก็คือพวกเขายังไม่ได้รับผู้รับใช้ของพระเจ้า ท่านอาจถวายสิบลดบ่อยๆ หรือมากกว่าสิบลด แต่ท่าทีต่อคนของพระเจ้ายังผิด ท่านจะไม่ได้รับผลประโยชน์จากคำทรงสัญญา และกฎเกณฑ์ของพระเจ้า ซึ่งได้ทรงประทานคนเหล่านั้นให้คริสตจักร ถ้าท่านไม่ยอมรับผู้รับใช้ของพระเจ้าเหมือนเป็นของพระราชทานจากพระองค์ท่านก็ไม่ได้รับของพระราชทานที่เป็นวัตถุจากพระองค์ด้วย
ดังนั้น เพื่อที่จะได้รับประโยชน์จากพระพรฝ่ายวัตถุจากพระเจ้า ให้เรามีท่าทีที่ถูกต้องต่อผู้รับใช้ ซึ่งเป็นของประทานจากพระเจ้าเหล่านั้น เป็นการดีทั้งต่อตัวท่านและข้าพเจ้าที่จะเรียนรู้การเคารพนับถือคนของพระเจ้า อย่างน้อยก็เพื่อมิให้มีอะไรมาขัดขวางพระพรของพระเจ้าที่พระองค์ทรงมีพระประสงค์จะพระราชทานให้แก่เรา
ท่าทีประการแรกของเราจึงควรเป็นเช่นนี้ “เพราะท่านผู้นี้ได้รับการแต่งตั้งให้มีศักดิ์และสิทธิ์จากพระเจ้า ข้าพเจ้าจึงขอยอมรับเขา (หรือเธอ)ในฐานะเป็นผู้รับใช้พระเจ้า” และท่าทีประการที่สองคือ “เพราะข้าพเจ้ายอมรับท่านในฐานะเป็นผู้รับใช้ของพระเจ้าและเชื่อว่าพระองค์ได้ทรงแต่งตั้งให้มีศักดิ์และสิทธิ์จากพระเจ้าและเชื่อว่าพระองค์ได้ทรงแต่งตั้งเราในฐานะที่เป็นอยู่ ข้าพเจ้าจะไม่ยอมทำตัวให้เกิดปัญญา แต่จะรับพระพรจากพระเจ้า"
ถ้าท่านยังไม่แน่ใจว่าท่านควรจะอยู่คริสตจักรใด ท่านควรอธิษฐานให้พระผู้เลี้ยงได้ทรงนำพาท่านไปยังฝูงของท่าน ซึ่งเป็นสถานที่ที่ท่านสามารถเป็นพระพรและรับพระพรได้มีฝูงแกะที่ดีสำหรับทุกคน คริสเตียนทุกคนควรมีศิษยาภิบาล มิใช่อยู่ที่บ้านดูรายการ คริสเตียนก็พอ เพราะ “ศิษยาภิบาลในโทรทัศน์” ไม่มีคริสเตียนบางคนพูดว่า “ฉันไม่ต้องไปโบสถ์ก็ได้ เพราะฉันอาจารย์เฟรด ไพรซ์ (หรือเค็นเน็ธ โค็ปแลนด์ หรือไม่ก็โอรอล โรเบิร์ต และนักเทศน์ทางโทรทัศน์คนอื่นๆ) เป็นศิษยาภิบาลของฉันอยู่แล้ว”
ความคิดเช่นนี้ไม่ถูกต้อง – นอกจากว่าท่านอยู่ในเมืองที่นักเทศน์เหล่านั้นอาศัยอยู่และท่านไปร่วมเป็นสมาชิกในคริสตจักรของท่านเหล่านั้นผู้รับใช้ของพระเจ้าทั้งชายและหญิงเหล่านี้จะบอกท่านแน่นอนว่า การจัดรายการทางโทรทัศน์นั้น มิได้ตั้งใจให้ท่านไม่ไปโบสถ์ และถือท่านเหล่านั้นเป็นศิษยาภิบาล ตรงกันข้ามพวกท่านเหล่านั้นพยายามช่วยกันทำรายการเพื่อเสริมสร้างคริสตจักรท้องถิ่นทั้งหลายและมีจุดประสงค์ใหญ่เพื่อประกาศนำวิญญาณและบริการแก่คนในท้องถิ่นห่างไกล ไม่อาจใช้วิธีอื่นได้ต่างหากพวกท่านเหล่านั้นอยากให้คนที่ไม่ไปโบสถ์ได้ไปโบสถ์ ดังนั้นท่านและข้าพเจ้าไม่ควรอยู่กับพวกที่ปฏิเสธการเป็นส่วนหนึ่งในพระกายของพระคริสต์คือการยอมเข้าเป็นคริสตจักรท้องถิ่น
รายการคริสเตียนไม่ว่าทางวิทยุโทรทัศน์ จัดขึ้นเพื่อนำวิญญาณคนมาหาพระเจ้า มิใช่เพื่อคริสเตียนโดยตรง ผู้ที่บังเกิดใหม่แล้วจึงควรมีศิษยาภิบาลในท้องถิ่นค่อยดูและฝ่ายจิตวิญญาณมิใช่อยู่ที่บ้านและดูโทรทัศน์ก็พอ นอกจากท่านพิการจนไม่สามารถไปโบสถ์ได้ พระเจ้าไม่ทรงมีพระประสงค์ให้เรานั่งดูรายการนมัสการ พระคัมภีร์เตือนในเรื่องนี้เป็นการ...ขาดการประชุมเหมือนอย่างบางคนที่ขาดอยู่นั้น...(ฮบ.10:25)
ดังนั้น ในฐานะที่เราเป็นส่วนหนึ่งของฝูงแกะของพระเจ้า ให้เราแต่ละคนยอมเป็นสมาชิกของศิษยาภิบาลคนใดคนหนึ่งในท้องถิ่นของเรา องค์พระคริสต์ทรงเป็นพระผู้เลี้ยงอันยิ่งใหญ่ มีพระประสงค์ที่จะทรงนำเราไปหาผู้เลี้ยงที่ดีในท้องถิ่นของเรา
ตอนที่ 2
ตอนที่ 3
Good
ตอบลบGood
ตอบลบมีคริสตจักรที่ไหนบ้างครับ ที่เน้นสอนให้แสดงออกเรื่องความรักความเมตตา ไม่ทวงสิบลด ไม่เทศน์เรื่องเงินทองบ่อยๆ ไม่สอนว่าแค่เชื่อก็รอด เพราะความเชื่อมันต้องเชื่อออกมาหมดทั้งจิตใจคือทั้งจิตสำนึกและจิตใต้สำนึก ส่วนใหญ่เห็นเชื่อกันแค่จิตสำนึกธรรมดา(ชอบอ้างกันจริงเรื่องโจรบนไม้กางเขน-ทั้งที่ ๑เปโตร ๓:๑๙ ว่าตลอด 3 วันหลังสิ้นพระชนม์พระเยซูไม่ได้เสด็จไปสวรรค์อย่างที่ตรัสกับโจรในลูกาเลย) มีที่ไหนที่ไม่เน้นการหาคนมาเชื่อเยอะๆ มธ ๒๓:๑๕ .... ผมจะไปคริสตจักรนั้น ช่วยนำมาตอบที่นี้ด้วย
ตอบลบมีค่ะติดต่อมาน่ะค่ะ0895047112 ค่ะ
ลบหายากครับ
ลบคริสตจักรเครือข่ายบ้านคือคำตอบที่ดีอย่างหนี่งนะครับ
ตอบลบhttp://www.facebook.com/groups/housenetworkchurch/
ขอบคุณครับ จะลองศึกษาดู
ตอบลบอ่านแล้วเหนภาพชัดเลยครับ
ตอบลบอ่านแล้วเห็นภาพชัดเลยครับ/ We Will
ตอบลบ