ขุมทรัพย์ที่ซ่อนอยู่
:พระธรรมสำคัญ มัทธิว ๑๓ : ๔๔ แผ่นดินสวรรค์เปรียบเหมือนขุมทรัพย์ที่ซ่อนไว้ในทุ่งนา เมื่อมีผู้ได้พบแล้วก็กลับซ่อนเสียอีก และเพราะความปรีดีจึงไปขายสรรพสิ่งซึ่งเขามีอยู่แล้วไปซื้อนานั้น (น.๒๒)
จุดประสงค์
๑) เพื่อสร้างชี้ให้ประชากรของพระเจ้าเห็นและ ให้ถือว่าแผ่นดินของพระเจ้านั้นสำคัญยิ่งกว่าสิ่งใดๆ ในโลกนี้
๒) เพื่อเร่งและหนุนใจให้สมาชิกทุกคน อุทิศตัวเพื่อแผ่นดินของพระเจ้า
คำนำ
เมื่อพูดถึงทรัพย์สมบัติ คงไม่มีใครปฏิเสธว่า ไม่อยากได้ ไม่อยากมี และ มีคนจำนวนมากพยายามตลอดชีวิตเพื่อจะได้ในสิ่งที่เรียกว่า สมบัติ ทรัพย์สมบัติในโลกนี้ ย่อมเป็นสิ่งที่น่าปรารถนาเป็นอย่างยิ่งสำหรับคนธรรมดาทั่วไป แต่ในทัศนของคริสเตียนนั้น ทรัพย์สมบัติในโลกนี้เป็นอย่างไร และ เราควรจะทำอย่างไรกับการหาสมบัติ ข้าพเจ้าใคร่กล่าวถึงเรื่องสำคัญอีกเรื่องหนึ่งที่เป็นคำสอนโดยตรงของพระเยซูคริสต์ในหนังสือพระธรรมมัทธิวบทที่ ๑๓ :ที่ ๔๔
เนื้อความสำคัญ อ่าน มัทธิว ๑๓ : ๔๔
แผ่นดินสวรรค์เปรียบเหมือนขุมทรัพย์ที่ซ่อนไว้ในทุ่งนา เมื่อมีผู้ได้พบแล้วก็กลับซ่อนเสียอีก และเพราะความปรีดีจึงไปขายสรรพสิ่งซึ่งเขามีอยู่แล้วไปซื้อนานั้น (น.๒๒)
ทรัพย์สมบัติ คืออะไร –คือสิ่งที่มนุษย์ถือว่ามีค่า มีราคา เงิน ทอง ของเก่า วัตถุโบราณ
เพชร เครื่องประดับของกษัตริย์ ตำราต่างๆ พระคัมภีร์ อะไรๆ ที่หายากและมีน้อย
ประโยชน์ของมันคืออะไร - เป็นแหล่งแห่งทรัพย์นำมาซึ่งความสุขสบาย สุขใจ คือ เกียรติศักดิ์ศรี ฐานะ ความมั่นคงปลอดภัยทางเศรษฐกิจ
พระเยซูมีความประสงค์จะสอนเราอย่างไร เราจะได้รับบทเรียนอะไรบ้าง
ประการที่ ๑ คือ ทางแผ่นดินสวรรค์ได้มาแล้ว
พระเยซูทรงให้สาวกออกไปประกาศการกลับถึงของแผ่นดินสวรรค์ของพระเจ้าแล้ว แผ่นดินสวรรค์ คือ พระเยซูคริสต์ได้มาแล้ว เพราะพระองค์ตรัสว่า เราคือทางนั้น (ทางรอด) เป็นความจริง และเป็นชีวิต ไม่มีผู้หนึ่งผู้ใดมาถึงพระเจ้าได้ยกเว้นมาทางเรา
สมบัติที่ซ่อนอยู่ หมายถึงอะไร มีนักโบราณคดี ไปขุดค้นสมบัติในสุสานของฟาโรห์ เขาขุดไปลึกมาก จนเงินหมดไปมากมาย แต่ผลสุดท้ายเขาได้พบกับสมบัติ คนที่พบสมบัติย่อมยินดีปรีดามาก
แต่สมบัติที่ซ่อนอยู่ในเรื่องนี้ หมายถึง แผ่นดินของพระเจ้า หรือความรอด ที่พระเจ้าประทานทางพระเยซูคริสต์ เป็นสิ่งที่มาแล้ว โดยพระเยซูคริสต์ แต่ถูกปิดบังไว้จากโลก เพราะมนุษย์ไม่สามารถค้นหาพระเจ้าโดย ความรู้ สติปัญญาอันจำกัดของมนุษย์เอง หรือโยการใช้วิธีการต่างๆ ของมนุษย์ เช่น การภาวนา การทำบุญทำทาน การเข้าวิปัสสนา การปลีกวิเวก ทำทุกขกรรม หรือแม้กระทั้งทำความดีต่างๆ นานา
สมบัตินี้ถูกซ่อนไว้จากคนที่ฉลาดที่สุด คนที่รอบรู้ นักปราชญ์ ร่องรอยของสมบัตินี้ถูกซ่อนไว้ในจิตใจส่วนลึกที่สุดของมนุษย์ มนุษย์ทุกคนอยากได้สิ่งนี้ พระเจ้าได้ทรงซ่อนเรื่องการรับรู้ถึงแผ่นดินของพระเจ้า (แผ่นดินสวรรค์) และความกระหายหาพระเจ้ไว้ในจิตใจของมนุษย์ทุกชาติ ทุกเผ่าพันธ์
ทำไมมันถึงต้องซ่อนสมบัติ - ตลอดทั่วยุคสมัยของมนุษย์มีการศึกสงคราม การสู้รบระหว่างเผ่า เมือง และการจลาจล คนร่ำรวย เมื่อจะหนี หากเอาสมบัติไปด้วย คงลำบาก ถูกปล้น ฆ่า ลัก จึงต้องฝังไว้ ความกลัว แผ่นดินอิสราเอล ถูกปกครองโดยอาณาจักรต่างๆ คือ อัสซีเรีย บาบิโลน เปอร์เซีย กรีก โรมัน คนอิสราเอลทุกชั่วอายุ คุ้นเคยกับการฝั่งสมบัติไว้ในที่ที่คิดว่าคนคิดไม่ถึง เผื่อมีชีวิตรอดกลับมาจะได้มาขุดเอา แต่หลายครั้งเขาไม่สามารถกลับมาขุดได้เนื่องจาก ความตาย และการพลัดพราก
ตัวอย่าง ชายชราคนหนึ่งซ่อนสมบัติไว้ เพราะกลัวว่าจะมีคนมาปล้นเอา จึงเขียนลายแทงไว้ แต่ไฟได้ไหม้บ้าน ไหม้ลายแทง และเขาก็ตายไปด้วย ยังไม่ทันได้บอกที่ซ่อนสมบัติแก่ไคร ต่อมาลูกหลานพากันไปขุดหา และสืบคนดูแต่ก็ไม่เจอ
ประการที่สอง ทรัพย์สมบัตินี้ หมายถึง ความรอดของพระเจ้าสำหรับคนที่พระเจ้าทรงเลือกสรรไว้ ที่พระเจ้าทรงซ่อนไว้ในที่ต่างๆ ในโลก พระเยซูได้มาตามหาทรัพย์ของพระองค์ มนุษย์ตกอยู่ในความบาป กระจัดกระจายไปตามที่ต่างๆ ตั้งแต่สมัยหอบาเบล พระเยซูคริสต์ทรงเสียสละทุกสิ่งที่พระองค์มี จนถึงความตายเพื่อจะได้ไถ่คืนผู้ที่พระองค์ทรงเลือกไว้
เราทั้งหลายเป็นคนนั้นที่พระเยซูคริสต์ได้ตามหา เราทั้งหลายเป็นเหมือนทรัพย์ล้ำค่าของพระเจ้า นั่นคือจิตวิญญาณของเราทั้งหลาย ที่พระเจ้าไม่อยากให้เสียไปเพราะถูกซาตานลวงให้ทำบาป และต้องตกบึงไฟนรก ต้องพรากจากพระเจ้าตลอดกาล พระเจ้าแสวงหาคนบาปที่ซ่อนตัวจากพระเจ้า ต้องการให้ท่านกลับไปมีสง่าราศีในชีวิตร่วมกับพระองค์
ประการที่ ๓ เขาขายทุกสิ่งที่มีอยู่เพื่อไปซื้อนานั้น หมายความว่าอย่างไร
เมื่อคนนี้ได้ค้นพบและทราบว่าสิ่งที่เขาพบเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ เขาจึงยอมที่จะขายทุกอย่างที่เขามีอยู่ เพื่อจะได้ครอบครองสมบัติที่ซ่อนอยู่นั้น ความรอด นี้เป็นสิ่งที่มีค่ามากที่สุดในโลก คือ ความรอดในพระเยซูคริสต์ คนที่รู้จักพระเยซูคริสต์จะยอมทนทุกข์ทรมาน การถูกข่มเหงนานับประการ เพื่อจะรักษาความรอดที่มีอยู่ในพระเยซูคริสต์ หลายคนยอมเสียสละ ครอบครัว คนรัก ความสุขสบาย ทรัพย์สมบัติ เสรีภาพถูกคุมขัง แม้กระทั้งยอมถูกฆ่าตายเพื่อจะรักษาความเชื่อในพระเยซูไว้จนลมหายใจสุดท้าย
ขอยกตัวอย่างบุคคลในพระคัมภีร์เป็นตัวอย่าง
โมเสส- ใน ฮีบรู บทที่ ๑๑ : ๒๔-๑๖ โมเสสเมื่อรู้จักพระเจ้าแล้ว เขายอมสละทุกอย่าง เพื่อจะได้บำเหน็จที่พระเจ้าได้จัดเตรียมไว้ ทั้งๆที่ท่านมีฐานะเป็นราชบุตรของพระราชาแห่งอียิปต์ ท่านมีความสุขสบายทุกอย่าง ท่านสามารถจะอยู่สบายไปจนชั่วลูกชั่วหลาน จะมีภรรยาเป็นหญิงงามของเมืองอียิปต์สักกี่คนก็สามารถทำได้ แต่เมื่อโมเสสทราบความจริงว่า ท่านไม่ใช่ชาวอียิปต์ ท่านเป็นคนยิว เป็นพลเมืองทาส ที่ถูกคนอียิปต์ข่มเหงใช้ให้ทำงานหนักโดยไม่ได้ค่าแรง
เมื่อท่านได้รู้ว่า ชนชาวยิวคือชนชาติของพระเจ้าผู้สูงสุด ท่านทำอย่างไร ท่านได้ยอมสละทุกสิ่ง กลับกลายเป็นเหมือนพลเมืองทาสคนหนึ่ง และท่านต้องหนีออกจากพระราชวัง ไปเป็นคนเลี้ยงสัตว์ในทะเลทรายเป็นเวลาถึง 40 ปี เมื่อถึงเวลากำหนดของพระเจ้าแล้ว ท่านได้พบกับการทรงเรียกของพระเจ้า จากพุ่มไม้ที่ลุกเป็นไฟ แต่ไม่ไหม้ ท่านรับหน้าที่เป็นผู้ปลดปล่อยชนชาติอิสราเอลออกจากการเป็นทาสชาวอียิปต์
ในพระธรรม ฮีบรู ๑๑: ๒๔-๒๕-๒๖ กล่าว่า
เพราะความเชื่อ เมื่อโมเสสโตแล้วท่านไม่ยอมให้ใครเรียกท่านว่าเป็นบุตรของธิดากษัตริย์ ฟาโรห์ ท่านเลือกการร่วมทุกข์กับชนชาติของพระเจ้าแทนการเริงสำราญในความชั่ว
(๒๖) ท่านถือว่าการอดทนต่อความอัปยศเพื่อพระคริสต์ ประเสริฐกว่าสมบัติของประเทศอียิปต์ เพราะท่านหวังบำเหน็จที่จะได้รับนั้น
เมื่อเราศึกษาลึกไปอีก เราพบว่า โมเสส นั้นยังไม่ได้เข้าไปในแผ่นดินที่ทรงสัญญา แต่เพียงได้เห็นเท่านั้น (ฉธบ. ๓๔ : ๑ : ๔)
(ฉธบ. ๓๔ : ๔) และพระเยโฮวาห์ตรัสกับท่านว่า "นี่คือแผ่นดินซึ่งเราได้ปฏิญาณต่ออับราฮัม ต่ออิสอัค และต่อยาโคบ ว่า `เราจะให้แก่เชื้อสายของเจ้า' เราให้เจ้าเห็นกับตา แต่เจ้าจะไม่ได้เข้าไปในแผ่นดินนั้น"
สรุป
พระธรรม ๑ เปโตร ๑ : ๑๘ สอนว่า ท่านพึ่งรู้ว่าพระองค์(พระเยซูคริสต์) ได้ทรงไถ่ท่านทั้งหลายออกจาก การประพฤติอันหาสาระมิได้ ซึ่งท่านได้รับต่อจากบรรพบุรุธของท่าน มิใช่ไถ่ด้วยสิ่งที่เสื่อมสลายได้ เช่นเงินและทอง แต่ทรงไถ่ด้วยพระโลหิตประเสริฐของพระคริสต์ดังเลือกลูกแกะที่ปราศจากตำหนิหรือจุดด่าง
พระคัมภีร์ตอนนี้ได้มาถึงเราโดยตรง เราทุกคนที่เป็นลูกของความสว่าง มาเป็นคริสเตียน เรารู้ดีว่าความรอดที่เราได้รับนั้น พระเยซูคริสต์ได้ทรงซื้อเราด้วยราคาสูง ด้วยพระโลหิตอันประเสริฐของพระองค์
๑ เปโตร ๔ : ๓ จงให้เวลาที่ผ่านไปแล้วนั้น เพียงพอสำหรับการกระทำที่คนต่างชาติชอบกระทำ คือประพฤติตัวตามราคะตัณหา ตามใจปรารถนาอันชั่ว เมาเหล้าองุ่น เลี้ยงกันอย่างถึงใจ กินเหล้าวุ่นวายกัน และการไหว้รูปเคารพซึ่งผิดธรรม
โรม ๑๔ : ๑๗ เพราะว่าแผ่นดินของพระเจ้านั้นไม่ใช่การกินและการดื่ม แต่เป็นความชอบธรรมและสันติสุข และความชื่นชมยินดีในพระวิญญาณบริสุทธิ
มัทธิว ๗ : ๒๑ ไม่ใช่ทุกคนที่เรียกเราว่า “พระองค์เจ้าข้า พระองค์เจ้าข้า” จะได้เข้าในแผ่นดินสวรรค์ แต่ผุ้ที่ปฏิบัติตามพระทัยพระบิดาของเราผุ้สถิตในสวรรค์จึงจะเข้าได้
ลูกาบทที่ ๙ : ๓ ถ้าผู้ใดใคร่ตามเรามา ให้ผู้นั้นเอาชนะตนเองและแบกกางเขนของตนทุกวัน แบกตามเรามา
๒ โครินธ์ ๔ : ๗ แต่ว่าเรามีของมีค่านี้อยู่ในภาชนะดินเพื่อให้เห็นว่า ฤทธิเดชอันเลิศนั้นเป็นของพระเจ้า ไม่ได้มาจากตัวเราเอง (น.๒๘๐)
๒ โครินธ์ ๔:๗ แต่ว่าเรามีทรัพย์สมบัตินี้อยู่ในภาชนะดิน เพื่อให้เห็นว่าฤทธิ์เดชอันเลิศนั้นเป็นของพระเจ้า ไม่ได้มาจากตัวเราเอง
โรม ๑๔ : ๑๗ เพราะว่าแผ่นดินของพระเจ้านั้นไม่ใช่การกินและการดื่ม แต่เป็นความชอบธรรมและสันติสุข และความชื่นชมยินดีในพระวิญญาณบริสุทธิ์
มัทธิว ๗ : ๒๑ ไม่ใช่ทุกคนที่เรียกเราว่า “พระองค์เจ้าข้า พระองค์เจ้าข้า” จะได้เข้าในแผ่นดินสวรรค์ แต่ผุ้ที่ปฏิบัติตามพระทัยพระบิดาของเราผุ้สถิตในสวรรค์จึงจะเข้าได้
๒ เธซะโลนิกา ๒:๑๓ พี่น้องทั้งหลาย ผู้เป็นที่รักขององค์พระผู้เป็นเจ้า เราจำต้องขอบพระคุณพระเจ้าเพราะท่านอยู่เสมอ เพราะว่าพระเจ้าได้ทรงเลือกท่านไว้ตั้งแต่เริ่มแรกให้ถึงที่รอด โดยพระวิญญาณทรงชำระตั้งท่านไว้ให้บริสุทธิ์ และโดยท่านได้เชื่อความจริง
๒ เธซะโลนิกา ๒:๑๔ พระองค์ได้ทรงเรียกท่านทั้งหลายโดยทางข่าวประเสริฐของเรา เพื่อจะได้รับสง่าราศีของพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา
ขอพระเจ้าอวยพร
@rice mu
We should consider the salvation of God,
๑. As our only treasure, and value it above all the riches in the world.
๒. Search for it in the Scriptures, till we fully understand its worth and excellence.
๓. Deeply ponder it in the secret of our souls.
๔. Part with all we have in order to get it.
๕. Place our whole joy and felicity in it; and
๖. Be always convinced that it must be bought, and that no price is accepted for it but the blood of the covenant; the sufferings and death of our only Lord and Savior Jesus Christ.
ลูกาบทที่ ๙ : ๓ ถ้าผู้ใดใคร่ตามเรามา ให้ผู้นั้นเอาชนะตนเองและแบกกางเขนของตนทุกวัน แบกตามเรามา
ท่าน
เสียสละอะไรบ้างในการที่จะไปรับเอาทรัพย์สมบัติอันมั่นคงถาวร
ที่โลกไม่สามารถให้ท่านได้ นั่นคือ
ชีวิตนิรันดร์ที่พระเยซูคริสต์มอบให้กับทุกคนที่เชื่อในพระองค์
ด้วยความสัตย์ซื่อและจริงใจต่อพระองค์
ท่านได้ขายบางอย่างในชีวิตของท่าน เพื่อท่านจะเป็นผู้คู่ควรกับการเป็นลูกของพระเจ้าหรือไม่
ขอพระเจ้าเสริมกำลัง -- อาเมน--
๒๐ ม.ค.๐๘ คจ. เชียงแสน โดย RW MU.
HOME
๒๐ ม.ค.๐๘ คจ. เชียงแสน โดย RW MU.
HOME
หนุนใจมากคับ
ตอบลบ