พระเยซูกับผู้นำทางศาสนาที่มาหาพระองค์ในเวลากลางคืน
มีชายผู้หนึ่งมีความสงสัยว่าเขาต้องทำอย่างไรจะได้เห็นอาณาจักรของพระเจ้า
เขาไม่กล้ามาหาพระเยซูในตอนกลางวันเพราะเขากลัวคนจะเห็นว่าเขามาหาพระเยซู
เนื่องจากพระเยซูได้สั่งสอนในสิ่งที่เป็นสิ่งใหม่ๆ
ที่คนในศาสนาเดิมของเขายังรับไม่ได้
และชายคนนี้อาจไม่ต้องการให้ใครรู้ว่าเขาอยากพบพระเยซูเพราะพระเยซูเป็นที่เกลียดชังของศาสนาดั่งเดิม พระเยซูสั่งสอนด้วยสิทธิอำนาจ รักษาคนเจ็บป่วย ขับผีและเป็นพระองค์เดียวที่กล่าวถึงเรื่องการไปอยู่ในแผ่นดินของพระเจ้า
พร้อมทั้งทำการอัศจรรย์เหนือธรรมชาติได้คืนหนึ่งหัวหน้าชาวยิวชื่อ นิโคเดมัส เป็นคนหนึ่งในพวกฟาริสี มาหาพระเยซูกล่าวว่า
"อาจารย์
ครับ เราทราบดีว่าท่านเป็นผู้ที่พระเจ้าส่งมา
เห็นได้ว่าไม่มีใครทำการใหญ่ยิ่งอย่างที่ท่านทำนี้ได้
นอกจากพระเจ้าสถิตอยู่กับเขา"
พระเยซูกล่าวตอบ
"เชื่อเราเถอะ ไม่มีใครเห็นอาณาจักรของพระเจ้าได้ นอกจากเขาจะเกิดใหม่"
นิโคเดมัสแย้งว่า
"คนโตๆ แล้วจะกลับไปเกิดใหม่ได้อย่างไร เขาจะกลับเข้าในครรภ์มารดาไปเกิดใหม่อีกได้หรือ?"
พระเยซูตรัสตอบว่า
"เราขอยืนยันว่า ผู้ที่จะเป็นประชากรของอาณาจักรพระเจ้า จะต้องเป็นผู้ที่เกิดจากน้ำและพระวิญญาณบริสุทธิ์ มนุษย์ให้กำเนิดได้ก็แต่เพียงร่างกายมนุษย์ แต่พระวิญญาณของพระเจ้าจะให้กำเนิดทางจิตใจ ฉะนั้น จงอย่าแปลกใจไปเลยที่เราบอกท่านว่า ทุกคนจะต้องเกิดใหม่ ลมย่อมพัดไปตามใจชอบของมัน ท่านได้ยินเสียงลมพัดได้ แต่ก็ไม่ทราบว่า ลมเริ่มต้นพัดจากไหนหรือจะพัดไปสู่ ณ แห่งใด นี่ก็เช่นเดียวกัน ท่านก็บอกไม่ได้เหมือนกันว่า พระวิญญาณของพระเจ้าทำให้เขาเกิดใหม่ได้อย่างไร"
"จะเป็นไปได้อย่างไรเล่าครับ" คนโตแล้วจะกลับเข้าไปในครรภ์มารดาและเกิดใหม่อย่างไรได้"
นิโคเดมัสถามด้วยความฉงน
พระเยซูกล่าวตอบว่า
"ท่านเป็นอาจารย์ (ทางศาสนา) ที่มีชื่อเสียงในหมู่ชาวอิสราเอล แต่ยังไม่รู้เรื่องเหล่านี้อีกหรือ?"
เราขอบอกความจริงกับท่านว่า เรากำลังพูดถึงเรื่องที่เรารู้ และบอกท่านถึงเรื่องที่เราได้เห็น แต่กระนั้นก็ยังไม่มีใครในพวกท่านยอมรับเรื่องที่เราบอกท่าน นี้ ถ้าท่านไม่เชื่อเมื่อเราพูดถึงสิ่งที่เป็นไปในโลกนี้แล้ว ท่านจะเชื่อเมื่อเราพูดถึงสิ่งที่เป็นไปในสวรรค์ได้อย่างไร กัน ไม่มีใครเข้าสวรรค์นอกจาก* บุตรมนุษย์ผู้เสด็จมาจากสวรรค์
โมเสส (ผู้ปลดปล่อยคนยิวออกจากการเป็นทาสของประเทศอียิปต์ถึงสี่ร้อยปี) ได้ยกเสาที่มีงูทองเหลืองขึ้นในถิ่นกันดารฉันใด ในทำนองเดียวกันบุตรมนุษย์จะถูกยกขึ้นฉันนั้น (การถูกตรึงที่กางเขนของพระเยซูมีจุดประสงค์เพื่อเป็นเครื่องไถ่บาปมวล มนุษย์) เพื่อทุกคนที่ไว้วางใจพระองค์จะได้รับชีวิตนิรันดร์
"พระเจ้า ทรงรักมนุษย์ยิ่งนัก จึงได้ประทานพระบุตรองค์เดียวของพระองค์ เพื่อทุกคนที่วางใจจะไม่ตาย แต่มีชีวิตนิรันดร์ "
พระเจ้ามิได้ทรงใช้พระบุตรของพระองค์มาในโลก เพื่อพิพากษามวลมนุษย์ แต่ทรงใช้มาเพื่อจะช่วยเขาต่างหาก
ใครก็ตามที่ไว้วางใจใน พระบุตรของพระเจ้าก็ไม่ต้อง ถูกพิพากษา แต่คนที่ไม่ไว้วางใจก็ถูกลงโทษอยู่แล้ว เนื่องจากเขาไม่ไว้วางใจพระบุตรองค์เดียวของพระเจ้า
หลักการพิพากษาลงโทษเป็นอย่างนี้แหละ ความสว่างเข้ามาในโลกแล้ว แต่มนุษย์แสดงให้เห็นว่าเขารักความมืดมากกว่าความสว่าง เพราะความชั่วที่เขากระทำลงไป
คนที่ทำชั่วย่อมชังความสว่างและหลีกให้พ้นความสว่าง ทั้งนี้เพราะความสว่างจะเปิดเผยให้เห็นความชั่วช้าที่เขาทำ คนดีซื่อสัตย์มาสู่ที่สว่างเพื่อแสงสว่างจะส่องให้เห็นว่าเขา กระทำดีเพราะเขาเชื่อฟังพระเจ้า
[ พระธรรมยอห์น บทที่ 3 ]
..............................................................
ท่านที่รัก "ท่านเกิดใหม่หรือยัง" หรือท่านยังเป็นแค่คนที่อยู่ในศาสนา ท่านพยายามทำดี ท่านถือพิธีกรรมทางศาสนา ท่านปฏิบัติศาสนกิจด้วยความมุ่งมั่นพยายาม ด้วยเกรงว่าพระเจ้าจะไม่พอใจท่าน ท่านมาทำพิธีกรรมทางศาสนาเพราะกลัวว่าจะไม่ได้เข้าสู่ชีวิตหลังความตายที่ ดี ท่านเกรงว่าท่านอาจไม่ได้เข้าสู่ที่พำนักของจิตวิญญาณ ท่านพยายามทำให้คนรอบข้างของท่านยอมรับว่าท่านมีความสามารถ มีความเก่ง ประสบความสำเร็จ ท่านพยายามหาเงิน เพื่อเป็นการบ่งบอกว่าท่านเป็นคนมีความสามารถ มีฐานะ มีตำแหน่ง ท่านทำงานหนักเพื่อให้มั่นใจว่า เมื่อถึงเวลาที่ท่านมีอายุมากขึ้น หรือเจ็บป่วยท่านจะมีเงินเพียงพอสำหรับจ่ายค่าหมอค่ายา หรือเพื่อเหลือเก็บไว้ให้ลูกหลานของท่าน เพื่อให้เขาอยู่สบาย เขาจะได้ไม่ด่าท่านตอนที่ท่านตาย กล่าวหาว่าท่านเป็นคนแก่ไร้ความคิด ไร้สมบัติ ไม่มีอะไรเหลือไว้ให้ลูกหลานเท่านั้นหรือ
น่าเสียดาย ถ้าท่านคิดว่าการเข้าสู่อาณาจักรของพระเจ้าต้องทำด้วยความพยายามและความสามารถของมนุษย์ เพราะพระเยซูเจ้าได้กล่าวว่า
"ไม่มีใครได้เห็นแผ่นดินของพระเจ้า นอกจากเขาจะต้องเกิดใหม่ทางวิญญาณจิต"
คุณลักษณะของคนที่เกิดใหม่ทางวิญญาณจิต ต้องเป็นอย่างไรหรือ และเราจะเกิดใหม่ได้อย่างไร
คนที่เกิดจากพระเจ้าจะไม่มีความวิตกกังวลกับชีวิตมากเกินไป เพราะเขามีพระผู้ช่วยให้รอดคอยอวยพร ช่วยเหลือ แม้เขาไม่ร่ำรวยแต่เขาก็จะพบกับความสุขใจ มีสันติสุข ชีวิตมีหลักประกันมากกว่าการทำประกันชีวิตเสียอีก เพราะการประกันชีวิต บริษัทประกันจะให้เงินชดเชย หรือช่วยเหลือได้เพียงสูงสุด แค่ชีวิตในโลกนี้เท่านั้น
แต่คนที่รู้จักและยอมรับเชื่อพระเยซู ยอมถ่อมใจลงรับคำสอนจากสาวกของพระองค์ เข้าร่วมกับกลุ่มผู้เชื่อพระเยซู เขาจะได้รับการประกันว่า ในชีวิตนี้จะมีสันติสุข เมื่อตายไปวิญญาณก็จะพบกับความสุขสบาย ไม่ต้องกังวลเรื่องถูกการพิพากษาโทษเนื่องจากเคยทำบาป ชีวิตของเขาหลุดพ้นจากบ่วงและวิบากกรรม ไม่ต้องไปเวียนว่ายตายเกิด เกิดเป็นหมา เป็นแมว เป็นลิง เป็นนกเหยียว หรือเป็นสัตว์ชั้นต่ำชั้นสูง ใดๆ อีกแล้ว เขาจะพ้นจากอำนาจของกิเลส การครอบครองของอารมณ์ร้ายๆ การแทรกแซงของวิญญาณอื่น หรือวิญญาณร้ายทุกอย่าง
คนที่เกิดใหม่ในความเชื่อพระเยซูเจ้า เมื่อเขาตายไปแล้ววิญญาณเขาไม่ต้องไปทำหน้าเป็นผีบรรพบุรุธ รอขอกินส่วนบุญ และเครื่องสังเวยจากลูกหลานเหมือนคนบางที่เคยถวายทานให้กับวิญญาณต่างๆ ในขณะที่เป็นมนุษย์อยู่ หรือกลายเป็นผีเร่ร่อนไม่รู้ว่าจะไปไหน หรือไม่รู้ว่าจะได้เกิดหรือไม่ได้เกิดใหม่ยังไม่แน่ใจ เพราะความเชื่อเรื่องการเกิดในภพใหม่ ไม่มีใครกล้ารับประกันเลย มีแต่เรื่องที่เป็นเพียงตำนาน ความเชื่อพื้นบ้าน หรือเป็นคำสอนของคนที่เป็นผู้นำทางความเชื่อของลัทธิที่กล่าวออกมาลอยๆ เท่านั้น ไม่สามารถหลักฐานหรือข้อพิสูจน์ความจริงอะไรได้เลย
ท่านที่รัก เราจะรู้ว่าท่านเกิดใหม่ได้อย่างแน่นอน เมื่อท่านเริ่มสังเกตพฤติกรรม วิธีการการคิด วิธีการใช้ชีวิต วิธีการใช้อารมณ์ของท่าน การใช้เวลาในชีวิตแต่ละวัน คนที่เกิดใหม่กับพระเจ้า จะมีแนวคิด และวิถีชีวิตที่แตกต่างไปจากมนุษย์ที่ถือศาสนาทั่วไปอย่างชัดเจน
ลักษณะเหล่านี้อาจเป็นตัวบ่งชี้ ของมนุษย์ที่เกิดใหม่ฝ่ายวิญญาณ กล่าวคือ เขาจะเป็นผู้มีจิตใจที่งดงาม เอื้อเฟื้อ ไม่เห็นแก่ตนเอง ดำเนินชีวิตเพื่อให้ผู้อื่นเป็นสุข มีสันติสุขในชีวิต เขาจะไม่วิ่งไปวิ่งมา ไข่วคว้าหาสิ่งของต่างๆ มาครอบครองเกินความจำเป็น ไม่ปากว่าตาขยิบ ไม่สะสม กอบโกง ไม่หวังครอบครอง ไม่สร้างอาณาจักร หรือสร้างสำนักให้ใหญ่โต เพราะเขารู้ว่าสิ่งของเหล่านี้มันเป็นของที่ไม่ยังยืน เขาให้คุณค่าสิ่งของ สิ่งที่คนอื่นต่างแย่งชิง หรือของไฮเทค สิ่งที่คนส่วนใหญ่แสวงหาเป็นเพียงสิ่งธรรมดา เขาเห็นคุณค่าด้านจิตวิญญาณมากกว่าสิ่งของ
เป้าหมายสูงสุดในชีวิตของเขา คือการได้รู้จักพระเจ้าองค์เที่ยงแท้ พระเจ้าที่ไม่ได้เช่าหรือซื้อมาด้วยอำนาจเงิน ชีวิตเขามีสันติสุขอยู่ในการอ่าน การใคร่ครวญอยู่ในพระคำของพระเจ้า เขาดำเนินชีวิตเพื่อเป็นพรกับคนอื่น เขาชอบช่วยเหลือคนอื่นทั้งๆ ที่เขาเองก็ยังไม่ร่ำรวย หรือมีมากเกินความต้องการแล้ว การดำเนินชีวิตของเขา เขาเลือกที่จะทำตามวิธีแห่งความบริสุทธิ์ ความชอบธรรม แทนการทำตามใจและตอบสนองปราถนาชั่ว ราคะตัณหา ความโลภ และการเชื่อฟังตามความต้องการของธรรมชาติบาปในใจของมนุษย์ธรรมดาทั่วไปที่ ยังมีอยู่
เขาจะเป็นคนที่มีจิตใจสงบสุข ไม่ชอบทะเลาะเบาะแว้ง ไม่ชอบจับผิดคนอื่น ไม่ชอบก่อเรื่องบาดหมางกับคนรอบข้าง ให้อภัยคนง่าย เขานอนหลับสบายไม่เครียด ไม่วิตกกังวล เขามีสุขภาพดีทั้งกายและใจ เขาใช้เวลาไม่เพียงเพื่อตัวเอง แต่เขาให้เวลากับคนอื่น ให้เวลากับความรักเพื่อนมนุษย์ เขาเป็นกำลังใจให้กับคนรอบข้าง เขารู้จักเสียสละเพื่อคนอื่น ที่สำคัญเขาเป็นคนที่ยำเกรงพระเจ้า เกลียดชังการบาป มุ่งดำเนินชีวิตที่ขาวสอาด
พระคัมภีร์ได้กล่าวถึงการเกิดใหม่อย่างชัดเจนดังนี้
(1 ยอห์น 3.6-18)
6. ผู้ที่อยู่ในพระองค์ไม่ทำบาปอีกต่อไป ส่วนผู้ที่ทำบาปอยู่เรื่อยๆ คนนั้นยังไม่เห็นพระองค์ และยังไม่รู้จักพระองค์
7. ลูกทั้งหลายเอ๋ย อย่าให้ใครชักจูงท่านให้หลง ผู้ที่ประพฤติชอบก็ชอบธรรมเหมือนอย่างที่พระองค์ทรงชอบธรรม
8.ผู้ที่ทำบาปก็มาจากมาร เพราะว่ามารก็ทำบาปตั้งแต่เริ่มแรก พระบุตรของพระเจ้าได้เสด็จมาปรากฏก็เพราะเหตุนี้ คือเพื่อทรงทำลายกิจการของมาร
9.ผู้ที่เกิดจากพระเจ้าไม่ทำบาป เพราะเชื้อของพระเจ้าอยู่ในคนนั้นและเขาทำบาปไม่ได้ เพราะเขาเกิดจากพระเจ้า
10.เช่นนี้แหละ จึงเห็นได้ว่าใครเป็นลูกของพระเจ้า และใครเป็นลูกของมาร คือผู้ที่ไม่ได้ประพฤติชอบ และไม่รักพี่น้องของตน ก็ไม่ได้มาจากพระเจ้า
11 นี่เป็นคำสั่งสอนที่ท่านทั้งหลายได้ยินได้ฟังมาตั้งแต่เริ่มแรก คือให้เรารักซึ่งกันและกัน
12. อย่าเป็นเหมือนอย่างคาอินที่มาจากมารและฆ่าน้องของตนเอง ทำไมเขาถึงฆ่าน้อง? ก็เพราะการกระทำของเขาชั่วและการกระทำของน้องนั้นชอบธรรม (คาอินคือมนุษย์คนแรกที่ฆ่าน้องชายของตนตาย เพราะริษยาที่พระเจ้าโปรดปรานน้องมากกว่าตน)
13. พี่น้องเอ๋ย อย่าประหลาดใจที่โลกนี้เกลียดชังท่าน
14. เรารู้ว่า เราได้พ้นจากความตายไปสู่ชีวิตแล้ว ก็เพราะเรารักพี่น้อง ผู้ที่ไม่รัก ก็ยังอยู่ในความตาย
15. ผู้ที่เกลียดชังพี่น้องของตนก็เป็นผู้ฆ่าคน และพวกท่านก็รู้อยู่แล้วว่า ผู้ฆ่าคนนั้นไม่มีชีวิตนิรันดร์ดำรงอยู่ในตัวเขาเลย
16. เช่นนี้แหละเราจึงรู้จักความรัก โดยที่พระองค์ได้ทรงยอมสละพระชนม์ของพระองค์เพื่อเรา และเราก็ควรจะสละชีวิตของเราเพื่อพี่น้อง
17. แต่ถ้าใครมีทรัพย์สมบัติในโลกนี้ และเห็นพี่น้องของตนขัดสนแล้วยังไม่เปิดใจช่วยเขา ความรักของพระเจ้าจะดำรงอยู่ในคนนั้นได้อย่างไร?
18. ลูกทั้งหลายเอ๋ย อย่าให้เรารักกันด้วยคำพูดและด้วยปากเท่านั้น แต่จงรักกันด้วยการกระทำและด้วยความจริง
[จากพระธรรม 1 ยอห์น 3.6-18]
ข้อพระธรรมตอนนี้บอกอย่างชัดเจนว่า คนที่เกิดใหม่ทางวิญญาณกับพระเจ้ามีคุณลักษณะเป็นอย่างไร
ก. เขาไม่มีสันดานชอบทำบาป ไม่พ่ายแพ้แก่บาปอีกแล้ว
ข. เขาไม่ยอมให้ใครมาชักจูงเขาให้เข้าสู่การทำบาป และเป็นทาสนิสัยบาปอีกแล้ว เพราะเขารู้ว่าถ้าเขายังทำบาปอยู่ก็ยังตกอยู่ภายใต้การควบคุมของมาร อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะพระเจ้าจะไม่คุ้มครองมนุษย์ที่ยังมีเจตนาทำบาปได้ เพราะเป็นกฏแห่งการหว่าน ใครยอมให้บาปควบคุม เขาก็ต้องรับผลกรรมนั่นอย่างแน่นอน
ค. เขารู้ว่าการเกิดใหม่ของเขาเป็นมาจากพระเจ้า และเขากลายเป็นเชื้อสายของพระเจ้าแล้ว
ง. เราสามารถแยกแยะออกอย่างชัดเจนว่า ใครเป็นลูกของมาร หรือเป็นลูกของพระเจ้า ก็สังเกตได้จากการประพฤติตามสันดานบาปนี่เอง
นิสัยบาปที่เห็นได้ชัดเจนก็คือ การอิจฉา การเกลียดกัน การทำร้าย การพูดให้ร้าย การทำลายน้ำใจกัน การตกอยู่ในอารมณ์ร้ายทั้งหลายที่คนทั่วไปถือว่าไม่ดีนั่นเอง
จ. คนที่เกิดใหม่จะดำเนินชีวิตด้วยความรัก
ฉ. คนที่เกิดใหม่กับพระเจ้าจริงๆ ไม่มีนิสัยรักการบาป และเสพบาป และจะถูกต่อต้านจากคนรอบข้างในเรื่องความเชื่อ ผู้ที่บังเกิดใหม่แล้วจะมีความกระตือรือร้นในการติดตามพระเจ้า การร่วมสามัคคีธรรม การอธิษฐาน อ่านพระคัมภีร์ การเป็นพยานนำคนอื่นมาถึงความรอด
คนที่เข้าใจว่าเป็นผู้เชื่อมานานแต่ไม่เกิดผล ไม่ถูกต่อต้าน ในรอบหลายปีไม่เคยในใครมา
รอด ชีวิตมีแต่อารมณ์ร้ายๆ เที่ยวไปโกรธคนโน้น ด่าคนนี้ ปากไว ใจเร็ว มีแต่เรื่องปวดหัว น่าจะตั้งสงสัยได้ว่า ตัวเองเกิดใหม่หรือยัง เพราะคนที่เกิดใหม่จริง ๆ ชีวิตจะเกิดผลแน่ๆ ไม่ใช่เป็นเหมือนต้นไม้ที่มีแต่ใบไม่มีผลออกมา อย่างน้อยภายในสามปีหลังกลับใจนี่เกิดผลแน่ๆ
ผู้เชื่อพระเยซูที่เกิดตามพ่อแม่ที่ เป็นคริสต์จำนวนมาก อาจไม่เคยถูกสังคมต่อต้าน ไม่รู้สึกกระด้างในการร่วมสังคมกับคนทั่วไป ชาวโลกกินอะไรเราก็กิน เขาเที่ยวสถานที่ไม่ดีเราก็เที่ยว เขาเมาเราเมา เขาส่ำส่อนทางเพศ เราก็ไม่รู้สึกอะไร ทั้งเล่่นไพ่ ดูดวงเล่นหวย เล่นเบอร์ เล่นผีถ้วยแ้ก้ว ชาวโลกสะสมรูปโป๊ เราก็ทำด้วย ทำในสิ่งต่างๆเรานี้ แบบไม่รู้สึกอะไรเลย คือเฉยๆ เลย
อันนี้ผมบอกได้เลยว่า ใครที่ทำแบบนี้ยังไม่ได้เกิดใหม่ฝ่ายวิญญาณ หรือเกิดแล้วและตายอีกทีหรือเปล่า นี่นักการศาสนาก็ยังเถียงกันไม่จบว่า เกิดใหม่แล้วจะตายได้อีกหรือเปล่า ใครที่เป็นแบบนี้ยังเป็นแค่คนนับถือศาสนาคริสต์เท่านั้น
ผมไม่ตัดสินนะ แต่ผมขอตั้งข้อสังเกตเพื่อเตือนใจคนที่อยากมีชีิวิตที่มีสุขว่า คุณอาจยังไม่ได้รับความรอดด้วยซ้ำ และที่แน่ๆ ถ้ามนุษย์คนใดยังมีนิสัยบาป และพ่ายแพ้ต่อบาปอย่างต่อเนื่อง จิตยังมีเจตนาทำบาป และชอบแอบทำแอบ ผมขอเตือนว่า คุณยังไม่ได้เกิดใหม่หรอกครับ
ผู้เชื่อพระเจ้าอาจตั้งข้อสงสัยได้ดังนี้ คือก่อนที่ท่านจะกลับใจเชื่อพระเจ้า พ่อแม่ก็เคยห้ามไม่ให้ทำสิ่ง หรือพฤติกรรมไม่ดี ไม่ให้ทำโน้นทำนี่ แต่เราก็ยังทำได้ ไปกินเหล้าเมายา ค้างคืนบ้านเพื่อน คุณแอบทำอะไรๆ ที่คนทั่วไปเขาบอกว่ามันคือบาป แต่คุณก็ทำได้ จะไปไหว้ผี ไหว้เทพอะไรก็ทำได้ ไปรับองค์รับเจ้าอะไร ไม่มีใครห้าม แต่พอเรากลับใจมาเชื่อพระเยซู เลิกทำบาป ทำตัวดีขึ้น คนใกล้ชิด พ่อแม่ ป้าน้าอา พากันพูดต่อต้าน ว่าไปเชื่อพระเยซูทำไม ทั้งๆ ที่เราปรับปรุงตัวดีขึ้นมาก ซึ่งแต่ก่อนทำไม่ได้ ทำไมคนต้องห้าม เบื้องหลังการต่อต้านนี้ พระเยซูได้บอกไว้ก่อนแล้ว
พระเยซูคริสต์ตรัสว่า
ท่านทั้งหลายจะเป็นสุข เมื่อคนทั้งหลายจะเกลียดชังท่าน และจะไล่ท่านออกจากพวกเขา และจะประณามท่าน และจะเหยียดชื่อของท่านว่าเป็นคนชั่วช้า เพราะท่านเห็นแก่บุตรมนุษย์ (ความเชื่อในพระเยซู) ในวันนั้นท่านทั้งหลายจงชื่นชม และเต้นโลดด้วยความยินดีเพราะ ดูเถิดบำเหน็จของท่านมีบริบูรณ์ในสวรรค์ เพราะว่าบรรพบุรุษของเขา ได้กระทำอย่างนั้นแก่พวกผู้เผยพระวจนะ(ผู้สื่อสารของพระเจ้ารุ่นก่อน) เหมือนกัน
[ลูกา บทที่ 6 22-23]
อีกตอนหนึ่งพระเยซูกล่าวว่า
ถ้าโลกนี้เกลียดชังท่านทั้งหลาย ก็จงรู้ว่าโลกได้เกลียดชังเราก่อน ถ้าท่านทั้งหลายเป็นของโลก โลกก็จะรักท่านซึ่งเป็นของโลก แต่เพราะท่านไม่ใช่ของโลก เพราะเราได้เลือกท่านออกจากโลก เหตุฉะนั้นโลกจึงเกลียดชังท่าน
จงระลึกถึงคำที่เราได้กล่าวแก่ท่านทั้งหลายแล้วว่า 'บ่าวมิได้เป็นใหญ่กว่านาย' ถ้าเขาข่มเหงเรา เขาก็จะข่มเหงท่านทั้งหลายด้วย ถ้าเขาปฏิบัติตามคำของเรา เขาก็จะปฏิบัติตามคำของท่านทั้งหลายด้วย แต่ทุกสิ่งที่เขาจะกระทำแก่พวกท่านนั้นก็เพราะนามของเรา เพราะเขาไม่รู้จักพระองค์ผู้ทรงใช้เรามา ถ้าเราไม่ได้มาสั่งสอนเขา เขาก็คงจะไม่มีบาป แต่บัดนี้ เขาไม่มีข้อแก้ตัวในเรื่องบาปของเขา ผู้ที่เกลียดชังเรา ก็เกลียดชังพระบิดาของเราด้วย
[พระธรรมยอห์น 15:18]
ช. คนที่เกิดใหม่กับพระเจ้า เขามั่นใจว่า เขาได้ผ่านพ้นจากการควบคุมของมาร พ้นจากความตายฝ่ายวิญญาณ และเขาไม่ได้อยู่ในนิสัยบาปอีกแล้ว
ซ. คนที่เกิดใหม่ฝ่ายวิญญาณสามารถทนทุกข์ทรมานต่อความเชื่อ และสามารถสละความสนุกเพลิดเพลิน กิจกรรมส่วนตัวที่ล่อแหลม เพื่อช่วยให้คนอื่นได้รับความรอดในพระเจ้าเช่นเดียวกับเขาได้
ฌ. ผู้ที่บังเกิดจากพระเจ้าจะรักความยุติธรรม เขาจะรู้จักเสียสละ รักความชอบธรรมของพระเจ้า ความเชื่อของเขาแสดงออกมาเป็นการกระทำ เขารู้จักช่วยเหลือคนรอบข้าง ชีวิตของเขาจะเป็นเหมือนแสงสว่างในสังคมด้วย
คนที่บังเกิดจากพระเจ้าสำแดงความรักออกมาเป็นการกระทำที่เห็นได้ชัดเจน เขาไม่รักคนอื่นด้วยคำพูดหวาน แต่ไม่จริงใจ ไม่ได้ช่วยอะไร แต่คนที่บังเกิดใหมจะสามารถรักคนอื่นด้วยการกระทำ และความจริง เขาสามารถดำเนินชีวิตต้านกระแสของโลกได้
คนที่ยังไม่เกิดใหม่จะสนใจแต่เรื่องของชีวิตในโลกนี้เพียงด้านเดียว ชีวิตวันๆ คิดแต่เรื่องกิน เรื่องงาน เรื่องความสุขทางเพศ ความสุขทางตา หู การตอบสนองต่อความต้องการตามตัณหาของตาและความรู้สึกที่ไม่รู้จักอิ่ม อยากเลิกแต่ทำไม่ได้ รู้ว่าบาปหนาแต่ยังทำอยู่ ทำแล้วก็รู้สึกผิด รู้สึกละอาย บางคนทำจนไม่รู้สึกละอายต่อบาปแล้ว
มนุษย์ธรรมดาจะไม่ สนใจเรื่องบุญ เรื่องบาป เพราะมันเป็นธรรมชาติที่ติดตัวมาแต่กำเนิด ไม่มีใครสอนคนก็ชอบทำบาป เห็นแก่ตัว เห็นแก่กิน เอาตัวรอด เอาดีเข้าตัว เอาชั่วเข้าคนอื่น ไม่สนใจพระ ไม่ถ่อมใจ ไม่ยอมฟังเรื่องบุญเรื่องบาป ปล่อยชีวิตไปตามใจตัวเอง คิดว่าตายแล้วไม่ไหนไม่รู้ ไม่สนใจดีกว่า
แม้มีใครมาบอกทางรอดเขาก็จะไม่สนใจ สิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิต คือ ของฉัน ตัวฉัน ความสุขสบาย ความสำเร็จ การยอมรับ การมีหน้าตาในสังคม พระเจ้า หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์คือส่วนเล็กๆ ในชีวิตของเขาเท่านั้น แต่เขาจะแสวงหาพระเจ้า หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์เมื่อเขาเข้าตาจน เมื่อเขาถูกความเจ็บป่วย โชคร้าย ความเครียด กระดูกกระเดี้ยวชำรุด ปวดๆ เจ็บๆ เกิดเป็นโรคที่รักษาไม่ได้รบกวนเท่านั้น แท้จริงมนุษย์ธรรมดาจะสนใจแต่เรื่องวัตถุ กิน กาม เกียรติ โกง โลภ ครอบครอง และความมั่นคงในชีวิตในโลกนี้เท่านั้น
วัตถุสิ่งสำคัญสูงสุดในชีวิตจริงหรือ หากท่านเป็นคนช่างสังเกต ลองเข้าไปในบ้านของใครสักคนที่มีฐานะดีพอประมาณ ลองสังเกตดูว่าสิ่งของที่เขาครอบครองอยู่มากมาย ท่านจะพบว่าสิ่งของจำนวนมากเมื่อเวลาผ่านไปหลายปีจะกลายเป็นเพียง "ขยะ" ที่รกบ้าน ทั้งๆ ที่ของนั้นไม่ได้นำเข้ามาในบ้านฟรีๆ แต่ต้องเสียเงินซื้อมา บางชิ้นมีราคาแพงมาก แต่เมื่อเวลาผ่านไปสิ่งของต่างๆ กลายเป็นขยะที่ทำให้บ้านรกรุงรัง เป็นที่อยู่ของแมลงสกปรก เป็นที่เพาะเชื้อโรค ฝุ่นเกาะไร้ค่า คอมพิวเตอร์รุ่นสิบปีก่อนมีราคาเป็นแสน มาถึงเวลานี้กลายเป็นขยะไปแล้ว ไอโฟน 1 ตอนนี้ไปอยู่ไหนหมดแล้ว มีราคาเหลือกี่บาทเอง
เมื่อเกิดมีไฟไหม้บ้านหลายคนวิ่งหนีออกไปแต่ตัวโดยละทิ้งสมบัติทั้งปวงไว้ เบื้องหลัง เพื่อเอาชีวิตรอดไม่ใช่หรือ ท่านคิดว่าจิตวิญญาณของท่านกับทรัพย์สมบัติ ศักดิ์ศรี เกียรติ หรือสิ่งที่ท่านครอบครองอยู่ สิ่งไหนสำคัญที่สุดในชีวิต น่าเสียดายคนจำนวนมากเห็นแก่เงิน ทำงานจนป่วย พออายุมากขึ้นยังไม่ทันแก่ก็ป่วยกระเซาะกระแซะ หมดสนุกกับชีวิตแล้ว
เมื่อท่านได้อ่านบทความนี้ ท่านลองสำรวจชีวิตของมนุษย์ดูซิว่า มนุษย์เกิดมาเพื่ออะไรกันแน่
"ท่านเกิดใหม่หรือยัง" หรือ ว่าท่านยังเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาที่ กำลังหมกมุ้นอยู่กับเรื่องเพศ การเล่น ความเพลิดเพลิน เพลง เกม ดนตรี งานอดิเรก ธุรกิจ ความอยู่รอด การกิน การเรียน สร้างฐานะ ความสำเร็จ ใช้เวลาวันๆ ไปกับสิ่งต่างๆ จนไม่มีเวลาไปเยี่ยมใคร ไม่มีเวลาเฝ้าอธิษฐานเพื่อสัมพันธ์กับพระเจ้าที่เป็นอยู่ ท่านไม่อยากอ่านพระคัมภีร์ การอ่านบางครั้งกลายเป็นเพียง สิ่งที่น่าจะทำและต้องทำเพื่อให้ตัวเองสบายใจว่า ได้ทำแล้วเท่านั้นหรือ บ่อยครั้งคนรู้สึกว่าตัวเองไม่สนใจว่าใครจะอยู่ จะกินอย่างไร ความสนใจจมอยู่แต่เรื่องของฉัน ของฉันท์ ชีวิตของฉัน อนาคตของฉัน ครอบครัวของฉันเท่านั้นหรือ
คนบางคนทำตัวเองน่าสงสารมาก เพราะปล่อยตัวให้ทำงานจนไม่คิดถึงเรื่องการพักผ่อน การกินอาหารที่มีคุณค่า ไม่มีเวลาคิดถึงญาติที่ลำบาก คนที่ตกทุกข์ลำบาก สังเกตได้ว่าตัวเองไม่สนใจการได้รู้จักสัมพันธ์กับบุคคลที่เป็นผู้ให้คำแนะนำฝ่ายวิญญาณ ไม่เคยคิดถึงเรื่องสุขภาพ หลายคนทำงานมากจนล้มป่วย เหมือนที่เราได้เห็นคนรวยหรือดาราดังหลายคนเขาล้มป่วยเพราะทำงานหามรุ่งหาม ค่ำ หวังกอบโกยให้รวยไวๆ ทำงานถ่ายละคนทุกคืนๆ ตีสาม ตีสี่ จนต่อมไร้ท่อทำงานผิดปกติเพราะโลภมากเกินไป คิดว่าน้ำขึ้นให้รีบตัก บางคนกว่าคนจะรู้ตัวว่าป่วยก็เกือบสาย หรือสายเกินไปแล้ว
ผมขอเชิญชวนผู้ที่รู้สึกตัวว่า มีความบาปซ่อนเร้น มีความบกพร่องทางจิตวิญญาณ หากท่านไม่แน่ใจว่าชีวิตท่านเกิดใหม่หรือยัง ขอเชิญชวนให้กลับใจใหม่เดี๋ยวนี้ การยอมรับความผิดพลาด และสารภาพบาปของท่าน จะทำให้ท่านสามารถกลับมาสู่อ้อมกอดของพระเจ้าได้ ท่านจะได้รับสันติสุข ท่านจะต้องเรียนรู้วิถีชีวิตแห่งความรัก ดำเนินชีวิตด้วยความถ่อมใจ พอเพียง ชีวิตของท่านจะเป็นพระพรต่อคนรอบข้าง
ผมขอยืนยันว่า เราไม่ต้องรอให้ตายก่อนแล้วจึงค่อยได้พบพระเจ้า เราสามารถพบพระเจ้าได้ขณะที่เรามีชีวิตอยู่ กลับใจใหม่วันนี้ก่อนที่จะสายเกินไป ขอพระเจ้าอวยพระพรให้ท่านมีโอกาสกลับใจใหม่อีกครั้ง
หากท่านอยากกลับใจใหม่ ขอให้เริ่มวันนี้ ยอมรับว่าท่านเป็นคนบาป เคยเป็นทาสบาป มีนิสัยบาป และพระเยซูคริสต์องค์เดียวเท่านั้น ที่ประกาศอย่างชัดเจน ว่าพระองค์สามารถยกบาปได้
พระคัมภีร์ศักดิ์สิทธิได้บรรทึกไว้อย่างชัดเจนว่า ...
ถ้าเรากล่าวว่าเราไม่มีบาป เราก็หลอกตัวเอง และสัจจะไม่ได้อยู่ในตัวเราเลย ถ้าเราสารภาพบาปของเรา พระองค์ทรงซื่อสัตย์และเที่ยงธรรม ก็จะทรงโปรดยกบาปของเรา และจะทรงชำระเราให้พ้นจากการอธรรมทั้งสิ้น
ถ้าเรากล่าวว่าเราไม่ได้ทำบาป ก็เท่ากับเราทำให้พระองค์เป็นผู้ตรัสมุสา และพระดำรัสของพระองค์ก็ไม่ได้อยู่ในตัวเราเลย [ พระธรรม 1 ยอห์น 1:9]
หากท่านได้รับรู้ว่าท่านเป็นคน บาป และต้องการรับการช่วยเหลือจากพระผู้ช่วยให้รอด หรือพระเยซูเจ้า ขอให้ท่านตั้งสัจจะ และกล่าวคำอธิษฐานตามด้านล่างนี้
คำอธิษฐานต้อนรับพระเยซูคริสต์
พระบิดาแห่งฟ้าสวรรค์ พระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่ ข้าฯ ขอมาหาพระองค์ในพระนามพระเยซูคริสต์
ข้าฯ ได้ตระหนักว่า ข้าไม่สามารถไปรอดพ้นบาป และการพิพากษาโทษด้วยการเป็นคนดี ด้วยการทำการกุศลให้เพียงพอต่อการได้รับอนุญาตให้ไปอยู่ในสวรรค์ ข้าฯ ขอยอมรับว่าข้าเป็นคนบาป ชอบทำบาป ข้าอยากเลิกบาปแต่ทำไม่ได้
ข้าฯ ขอสารภาพบาปต่อไปนี้ คือ .....................
ข้าฯ ขอยกโทษต่อคนที่ทำผิด/ละเมิดต่อข้าทุกคน คือ ............................
ข้าไม่ถือโทษ และขอปลดปล่อยภาระการแก้แค้นให้อยู่ในมือของพระเยซูเจ้า
ขอพระเยซูคริสต์เจ้าช่วยลบล้างความผิดบาปของข้า และคำแช่งสาปที่ตกทอดมาจากบรรพบุรุธในส่วนโทษและการบาปที่ตกมาถึงข้าฯ ขอพระองค์ปลดปล่อยข้าฯ ออกจากการเป็นทาสบาป และพฤติกรรมไม่ดี คือ.........
ต่อไปนี้ข้าฯ ขอละเลิกจากการบาปทุกอย่าง และขอตั้งต้นเป็นคนใหม่
ข้าฯ ขอเปิดใจยอมรับพระเยซูเจ้าเป็นพระเจ้า เป็นพระผู้ช่วยให้รอดของข้าฯ ด้วยสัจจะวาจานี้ ขอพระเยซูเจ้าโปรดยกโทษที่ข้าฯ เคยกราบไว้สิ่งอื่น ถือเป็นพระเจ้า และได้ทำสารพันบาปชั่ว ข้าฯ ขอพระเยซูเจ้าปลดปล่อยข้าฯ ออกจากการครอบงำ การแทรกแซงของวิญญาณอื่นทุกชนิด ข้าฯ ขอกล่าวตัดสัมพันธ์กับวิญญาณอื่น วิญญาณแห่งโลก วิญญาณไสยศาสตร์ เวทมนต์ วิญญาณคุ้นเคย วิญญาณประจำถิ่น วิญญาณลัทธิ และขอกล่าวห้ามไม่ให้วิญญาณใดๆ เข้ามารบกวน หรือแทรกแซงในวิถีชีวิต สุขภาพ การงาน ความคิด การตัดสินใจ และวิญญาณจิตของข้า
ข้าขอกล่าวห้าม และสั่งการในพระนามพระเยซูคริสต์ว่า วิญญาณแห่งความมืด วิญญาณแห่งโลกวิญญาณคุ้นเคยทุกอย่าง จงถอยไปจากเราและห้ามกลับมาอีก ในพระนามพระเยซู
ข้าฯ ขอต้อนรับองค์พระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระเยซูคริสต์เจ้า ขอเชิญเข้ามาปกปักรักษา และช่วยเหลือข้าฯ ตามพระสัญญาในหนังสือพระคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ ต่อแต่นี้ไปข้าฯ ขอเป็นลูกของพระเยซูเจ้าแต่เพียงผู้เดียว
ขออธิษฐานในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า อาเมน
หากท่านได้กล่าวคำอธิษฐานนี้ด้วยสัจจะและ ความจริงใจ เชื่่อแน่ว่าพระเยซูเจ้าพระผู้ช่วยที่สามารถยกบาปได้ พระเจ้าผู้ทรงมีพระชนม์อยู่ และสถิตอยู่ทั่วทุกหนแห่งจะได้ยินคำอธิษฐานของท่านและจะตอบคำอธิษฐานตามที่ ท่านได้กล่าวอย่างแน่นอน
ก่อนจบผมมีวีดีโอคลิปที่น่าดูมาก และให้ข้อคิด หากท่านมีเวลาก็ลองคลิกดูนะครับ
Rice Mu. August 2011
กลับไปหน้าแรกของเว็บ
พระเยซูกล่าวตอบ
"เชื่อเราเถอะ ไม่มีใครเห็นอาณาจักรของพระเจ้าได้ นอกจากเขาจะเกิดใหม่"
นิโคเดมัสแย้งว่า
"คนโตๆ แล้วจะกลับไปเกิดใหม่ได้อย่างไร เขาจะกลับเข้าในครรภ์มารดาไปเกิดใหม่อีกได้หรือ?"
พระเยซูตรัสตอบว่า
"เราขอยืนยันว่า ผู้ที่จะเป็นประชากรของอาณาจักรพระเจ้า จะต้องเป็นผู้ที่เกิดจากน้ำและพระวิญญาณบริสุทธิ์ มนุษย์ให้กำเนิดได้ก็แต่เพียงร่างกายมนุษย์ แต่พระวิญญาณของพระเจ้าจะให้กำเนิดทางจิตใจ ฉะนั้น จงอย่าแปลกใจไปเลยที่เราบอกท่านว่า ทุกคนจะต้องเกิดใหม่ ลมย่อมพัดไปตามใจชอบของมัน ท่านได้ยินเสียงลมพัดได้ แต่ก็ไม่ทราบว่า ลมเริ่มต้นพัดจากไหนหรือจะพัดไปสู่ ณ แห่งใด นี่ก็เช่นเดียวกัน ท่านก็บอกไม่ได้เหมือนกันว่า พระวิญญาณของพระเจ้าทำให้เขาเกิดใหม่ได้อย่างไร"
"จะเป็นไปได้อย่างไรเล่าครับ" คนโตแล้วจะกลับเข้าไปในครรภ์มารดาและเกิดใหม่อย่างไรได้"
นิโคเดมัสถามด้วยความฉงน
พระเยซูกล่าวตอบว่า
"ท่านเป็นอาจารย์ (ทางศาสนา) ที่มีชื่อเสียงในหมู่ชาวอิสราเอล แต่ยังไม่รู้เรื่องเหล่านี้อีกหรือ?"
เราขอบอกความจริงกับท่านว่า เรากำลังพูดถึงเรื่องที่เรารู้ และบอกท่านถึงเรื่องที่เราได้เห็น แต่กระนั้นก็ยังไม่มีใครในพวกท่านยอมรับเรื่องที่เราบอกท่าน นี้ ถ้าท่านไม่เชื่อเมื่อเราพูดถึงสิ่งที่เป็นไปในโลกนี้แล้ว ท่านจะเชื่อเมื่อเราพูดถึงสิ่งที่เป็นไปในสวรรค์ได้อย่างไร กัน ไม่มีใครเข้าสวรรค์นอกจาก* บุตรมนุษย์ผู้เสด็จมาจากสวรรค์
โมเสส (ผู้ปลดปล่อยคนยิวออกจากการเป็นทาสของประเทศอียิปต์ถึงสี่ร้อยปี) ได้ยกเสาที่มีงูทองเหลืองขึ้นในถิ่นกันดารฉันใด ในทำนองเดียวกันบุตรมนุษย์จะถูกยกขึ้นฉันนั้น (การถูกตรึงที่กางเขนของพระเยซูมีจุดประสงค์เพื่อเป็นเครื่องไถ่บาปมวล มนุษย์) เพื่อทุกคนที่ไว้วางใจพระองค์จะได้รับชีวิตนิรันดร์
"พระเจ้า ทรงรักมนุษย์ยิ่งนัก จึงได้ประทานพระบุตรองค์เดียวของพระองค์ เพื่อทุกคนที่วางใจจะไม่ตาย แต่มีชีวิตนิรันดร์ "
พระเจ้ามิได้ทรงใช้พระบุตรของพระองค์มาในโลก เพื่อพิพากษามวลมนุษย์ แต่ทรงใช้มาเพื่อจะช่วยเขาต่างหาก
ใครก็ตามที่ไว้วางใจใน พระบุตรของพระเจ้าก็ไม่ต้อง ถูกพิพากษา แต่คนที่ไม่ไว้วางใจก็ถูกลงโทษอยู่แล้ว เนื่องจากเขาไม่ไว้วางใจพระบุตรองค์เดียวของพระเจ้า
หลักการพิพากษาลงโทษเป็นอย่างนี้แหละ ความสว่างเข้ามาในโลกแล้ว แต่มนุษย์แสดงให้เห็นว่าเขารักความมืดมากกว่าความสว่าง เพราะความชั่วที่เขากระทำลงไป
คนที่ทำชั่วย่อมชังความสว่างและหลีกให้พ้นความสว่าง ทั้งนี้เพราะความสว่างจะเปิดเผยให้เห็นความชั่วช้าที่เขาทำ คนดีซื่อสัตย์มาสู่ที่สว่างเพื่อแสงสว่างจะส่องให้เห็นว่าเขา กระทำดีเพราะเขาเชื่อฟังพระเจ้า
[ พระธรรมยอห์น บทที่ 3 ]
..............................................................
ท่านที่รัก "ท่านเกิดใหม่หรือยัง" หรือท่านยังเป็นแค่คนที่อยู่ในศาสนา ท่านพยายามทำดี ท่านถือพิธีกรรมทางศาสนา ท่านปฏิบัติศาสนกิจด้วยความมุ่งมั่นพยายาม ด้วยเกรงว่าพระเจ้าจะไม่พอใจท่าน ท่านมาทำพิธีกรรมทางศาสนาเพราะกลัวว่าจะไม่ได้เข้าสู่ชีวิตหลังความตายที่ ดี ท่านเกรงว่าท่านอาจไม่ได้เข้าสู่ที่พำนักของจิตวิญญาณ ท่านพยายามทำให้คนรอบข้างของท่านยอมรับว่าท่านมีความสามารถ มีความเก่ง ประสบความสำเร็จ ท่านพยายามหาเงิน เพื่อเป็นการบ่งบอกว่าท่านเป็นคนมีความสามารถ มีฐานะ มีตำแหน่ง ท่านทำงานหนักเพื่อให้มั่นใจว่า เมื่อถึงเวลาที่ท่านมีอายุมากขึ้น หรือเจ็บป่วยท่านจะมีเงินเพียงพอสำหรับจ่ายค่าหมอค่ายา หรือเพื่อเหลือเก็บไว้ให้ลูกหลานของท่าน เพื่อให้เขาอยู่สบาย เขาจะได้ไม่ด่าท่านตอนที่ท่านตาย กล่าวหาว่าท่านเป็นคนแก่ไร้ความคิด ไร้สมบัติ ไม่มีอะไรเหลือไว้ให้ลูกหลานเท่านั้นหรือ
น่าเสียดาย ถ้าท่านคิดว่าการเข้าสู่อาณาจักรของพระเจ้าต้องทำด้วยความพยายามและความสามารถของมนุษย์ เพราะพระเยซูเจ้าได้กล่าวว่า
"ไม่มีใครได้เห็นแผ่นดินของพระเจ้า นอกจากเขาจะต้องเกิดใหม่ทางวิญญาณจิต"
คุณลักษณะของคนที่เกิดใหม่ทางวิญญาณจิต ต้องเป็นอย่างไรหรือ และเราจะเกิดใหม่ได้อย่างไร
คนที่เกิดจากพระเจ้าจะไม่มีความวิตกกังวลกับชีวิตมากเกินไป เพราะเขามีพระผู้ช่วยให้รอดคอยอวยพร ช่วยเหลือ แม้เขาไม่ร่ำรวยแต่เขาก็จะพบกับความสุขใจ มีสันติสุข ชีวิตมีหลักประกันมากกว่าการทำประกันชีวิตเสียอีก เพราะการประกันชีวิต บริษัทประกันจะให้เงินชดเชย หรือช่วยเหลือได้เพียงสูงสุด แค่ชีวิตในโลกนี้เท่านั้น
แต่คนที่รู้จักและยอมรับเชื่อพระเยซู ยอมถ่อมใจลงรับคำสอนจากสาวกของพระองค์ เข้าร่วมกับกลุ่มผู้เชื่อพระเยซู เขาจะได้รับการประกันว่า ในชีวิตนี้จะมีสันติสุข เมื่อตายไปวิญญาณก็จะพบกับความสุขสบาย ไม่ต้องกังวลเรื่องถูกการพิพากษาโทษเนื่องจากเคยทำบาป ชีวิตของเขาหลุดพ้นจากบ่วงและวิบากกรรม ไม่ต้องไปเวียนว่ายตายเกิด เกิดเป็นหมา เป็นแมว เป็นลิง เป็นนกเหยียว หรือเป็นสัตว์ชั้นต่ำชั้นสูง ใดๆ อีกแล้ว เขาจะพ้นจากอำนาจของกิเลส การครอบครองของอารมณ์ร้ายๆ การแทรกแซงของวิญญาณอื่น หรือวิญญาณร้ายทุกอย่าง
คนที่เกิดใหม่ในความเชื่อพระเยซูเจ้า เมื่อเขาตายไปแล้ววิญญาณเขาไม่ต้องไปทำหน้าเป็นผีบรรพบุรุธ รอขอกินส่วนบุญ และเครื่องสังเวยจากลูกหลานเหมือนคนบางที่เคยถวายทานให้กับวิญญาณต่างๆ ในขณะที่เป็นมนุษย์อยู่ หรือกลายเป็นผีเร่ร่อนไม่รู้ว่าจะไปไหน หรือไม่รู้ว่าจะได้เกิดหรือไม่ได้เกิดใหม่ยังไม่แน่ใจ เพราะความเชื่อเรื่องการเกิดในภพใหม่ ไม่มีใครกล้ารับประกันเลย มีแต่เรื่องที่เป็นเพียงตำนาน ความเชื่อพื้นบ้าน หรือเป็นคำสอนของคนที่เป็นผู้นำทางความเชื่อของลัทธิที่กล่าวออกมาลอยๆ เท่านั้น ไม่สามารถหลักฐานหรือข้อพิสูจน์ความจริงอะไรได้เลย
ท่านที่รัก เราจะรู้ว่าท่านเกิดใหม่ได้อย่างแน่นอน เมื่อท่านเริ่มสังเกตพฤติกรรม วิธีการการคิด วิธีการใช้ชีวิต วิธีการใช้อารมณ์ของท่าน การใช้เวลาในชีวิตแต่ละวัน คนที่เกิดใหม่กับพระเจ้า จะมีแนวคิด และวิถีชีวิตที่แตกต่างไปจากมนุษย์ที่ถือศาสนาทั่วไปอย่างชัดเจน
ลักษณะเหล่านี้อาจเป็นตัวบ่งชี้ ของมนุษย์ที่เกิดใหม่ฝ่ายวิญญาณ กล่าวคือ เขาจะเป็นผู้มีจิตใจที่งดงาม เอื้อเฟื้อ ไม่เห็นแก่ตนเอง ดำเนินชีวิตเพื่อให้ผู้อื่นเป็นสุข มีสันติสุขในชีวิต เขาจะไม่วิ่งไปวิ่งมา ไข่วคว้าหาสิ่งของต่างๆ มาครอบครองเกินความจำเป็น ไม่ปากว่าตาขยิบ ไม่สะสม กอบโกง ไม่หวังครอบครอง ไม่สร้างอาณาจักร หรือสร้างสำนักให้ใหญ่โต เพราะเขารู้ว่าสิ่งของเหล่านี้มันเป็นของที่ไม่ยังยืน เขาให้คุณค่าสิ่งของ สิ่งที่คนอื่นต่างแย่งชิง หรือของไฮเทค สิ่งที่คนส่วนใหญ่แสวงหาเป็นเพียงสิ่งธรรมดา เขาเห็นคุณค่าด้านจิตวิญญาณมากกว่าสิ่งของ
เป้าหมายสูงสุดในชีวิตของเขา คือการได้รู้จักพระเจ้าองค์เที่ยงแท้ พระเจ้าที่ไม่ได้เช่าหรือซื้อมาด้วยอำนาจเงิน ชีวิตเขามีสันติสุขอยู่ในการอ่าน การใคร่ครวญอยู่ในพระคำของพระเจ้า เขาดำเนินชีวิตเพื่อเป็นพรกับคนอื่น เขาชอบช่วยเหลือคนอื่นทั้งๆ ที่เขาเองก็ยังไม่ร่ำรวย หรือมีมากเกินความต้องการแล้ว การดำเนินชีวิตของเขา เขาเลือกที่จะทำตามวิธีแห่งความบริสุทธิ์ ความชอบธรรม แทนการทำตามใจและตอบสนองปราถนาชั่ว ราคะตัณหา ความโลภ และการเชื่อฟังตามความต้องการของธรรมชาติบาปในใจของมนุษย์ธรรมดาทั่วไปที่ ยังมีอยู่
เขาจะเป็นคนที่มีจิตใจสงบสุข ไม่ชอบทะเลาะเบาะแว้ง ไม่ชอบจับผิดคนอื่น ไม่ชอบก่อเรื่องบาดหมางกับคนรอบข้าง ให้อภัยคนง่าย เขานอนหลับสบายไม่เครียด ไม่วิตกกังวล เขามีสุขภาพดีทั้งกายและใจ เขาใช้เวลาไม่เพียงเพื่อตัวเอง แต่เขาให้เวลากับคนอื่น ให้เวลากับความรักเพื่อนมนุษย์ เขาเป็นกำลังใจให้กับคนรอบข้าง เขารู้จักเสียสละเพื่อคนอื่น ที่สำคัญเขาเป็นคนที่ยำเกรงพระเจ้า เกลียดชังการบาป มุ่งดำเนินชีวิตที่ขาวสอาด
พระคัมภีร์ได้กล่าวถึงการเกิดใหม่อย่างชัดเจนดังนี้
(1 ยอห์น 3.6-18)
6. ผู้ที่อยู่ในพระองค์ไม่ทำบาปอีกต่อไป ส่วนผู้ที่ทำบาปอยู่เรื่อยๆ คนนั้นยังไม่เห็นพระองค์ และยังไม่รู้จักพระองค์
7. ลูกทั้งหลายเอ๋ย อย่าให้ใครชักจูงท่านให้หลง ผู้ที่ประพฤติชอบก็ชอบธรรมเหมือนอย่างที่พระองค์ทรงชอบธรรม
8.ผู้ที่ทำบาปก็มาจากมาร เพราะว่ามารก็ทำบาปตั้งแต่เริ่มแรก พระบุตรของพระเจ้าได้เสด็จมาปรากฏก็เพราะเหตุนี้ คือเพื่อทรงทำลายกิจการของมาร
9.ผู้ที่เกิดจากพระเจ้าไม่ทำบาป เพราะเชื้อของพระเจ้าอยู่ในคนนั้นและเขาทำบาปไม่ได้ เพราะเขาเกิดจากพระเจ้า
10.เช่นนี้แหละ จึงเห็นได้ว่าใครเป็นลูกของพระเจ้า และใครเป็นลูกของมาร คือผู้ที่ไม่ได้ประพฤติชอบ และไม่รักพี่น้องของตน ก็ไม่ได้มาจากพระเจ้า
11 นี่เป็นคำสั่งสอนที่ท่านทั้งหลายได้ยินได้ฟังมาตั้งแต่เริ่มแรก คือให้เรารักซึ่งกันและกัน
12. อย่าเป็นเหมือนอย่างคาอินที่มาจากมารและฆ่าน้องของตนเอง ทำไมเขาถึงฆ่าน้อง? ก็เพราะการกระทำของเขาชั่วและการกระทำของน้องนั้นชอบธรรม (คาอินคือมนุษย์คนแรกที่ฆ่าน้องชายของตนตาย เพราะริษยาที่พระเจ้าโปรดปรานน้องมากกว่าตน)
13. พี่น้องเอ๋ย อย่าประหลาดใจที่โลกนี้เกลียดชังท่าน
14. เรารู้ว่า เราได้พ้นจากความตายไปสู่ชีวิตแล้ว ก็เพราะเรารักพี่น้อง ผู้ที่ไม่รัก ก็ยังอยู่ในความตาย
15. ผู้ที่เกลียดชังพี่น้องของตนก็เป็นผู้ฆ่าคน และพวกท่านก็รู้อยู่แล้วว่า ผู้ฆ่าคนนั้นไม่มีชีวิตนิรันดร์ดำรงอยู่ในตัวเขาเลย
16. เช่นนี้แหละเราจึงรู้จักความรัก โดยที่พระองค์ได้ทรงยอมสละพระชนม์ของพระองค์เพื่อเรา และเราก็ควรจะสละชีวิตของเราเพื่อพี่น้อง
17. แต่ถ้าใครมีทรัพย์สมบัติในโลกนี้ และเห็นพี่น้องของตนขัดสนแล้วยังไม่เปิดใจช่วยเขา ความรักของพระเจ้าจะดำรงอยู่ในคนนั้นได้อย่างไร?
18. ลูกทั้งหลายเอ๋ย อย่าให้เรารักกันด้วยคำพูดและด้วยปากเท่านั้น แต่จงรักกันด้วยการกระทำและด้วยความจริง
[จากพระธรรม 1 ยอห์น 3.6-18]
ข้อพระธรรมตอนนี้บอกอย่างชัดเจนว่า คนที่เกิดใหม่ทางวิญญาณกับพระเจ้ามีคุณลักษณะเป็นอย่างไร
ก. เขาไม่มีสันดานชอบทำบาป ไม่พ่ายแพ้แก่บาปอีกแล้ว
ข. เขาไม่ยอมให้ใครมาชักจูงเขาให้เข้าสู่การทำบาป และเป็นทาสนิสัยบาปอีกแล้ว เพราะเขารู้ว่าถ้าเขายังทำบาปอยู่ก็ยังตกอยู่ภายใต้การควบคุมของมาร อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะพระเจ้าจะไม่คุ้มครองมนุษย์ที่ยังมีเจตนาทำบาปได้ เพราะเป็นกฏแห่งการหว่าน ใครยอมให้บาปควบคุม เขาก็ต้องรับผลกรรมนั่นอย่างแน่นอน
ค. เขารู้ว่าการเกิดใหม่ของเขาเป็นมาจากพระเจ้า และเขากลายเป็นเชื้อสายของพระเจ้าแล้ว
ง. เราสามารถแยกแยะออกอย่างชัดเจนว่า ใครเป็นลูกของมาร หรือเป็นลูกของพระเจ้า ก็สังเกตได้จากการประพฤติตามสันดานบาปนี่เอง
นิสัยบาปที่เห็นได้ชัดเจนก็คือ การอิจฉา การเกลียดกัน การทำร้าย การพูดให้ร้าย การทำลายน้ำใจกัน การตกอยู่ในอารมณ์ร้ายทั้งหลายที่คนทั่วไปถือว่าไม่ดีนั่นเอง
จ. คนที่เกิดใหม่จะดำเนินชีวิตด้วยความรัก
ฉ. คนที่เกิดใหม่กับพระเจ้าจริงๆ ไม่มีนิสัยรักการบาป และเสพบาป และจะถูกต่อต้านจากคนรอบข้างในเรื่องความเชื่อ ผู้ที่บังเกิดใหม่แล้วจะมีความกระตือรือร้นในการติดตามพระเจ้า การร่วมสามัคคีธรรม การอธิษฐาน อ่านพระคัมภีร์ การเป็นพยานนำคนอื่นมาถึงความรอด
คนที่เข้าใจว่าเป็นผู้เชื่อมานานแต่ไม่เกิดผล ไม่ถูกต่อต้าน ในรอบหลายปีไม่เคยในใครมา
รอด ชีวิตมีแต่อารมณ์ร้ายๆ เที่ยวไปโกรธคนโน้น ด่าคนนี้ ปากไว ใจเร็ว มีแต่เรื่องปวดหัว น่าจะตั้งสงสัยได้ว่า ตัวเองเกิดใหม่หรือยัง เพราะคนที่เกิดใหม่จริง ๆ ชีวิตจะเกิดผลแน่ๆ ไม่ใช่เป็นเหมือนต้นไม้ที่มีแต่ใบไม่มีผลออกมา อย่างน้อยภายในสามปีหลังกลับใจนี่เกิดผลแน่ๆ
ผู้เชื่อพระเยซูที่เกิดตามพ่อแม่ที่ เป็นคริสต์จำนวนมาก อาจไม่เคยถูกสังคมต่อต้าน ไม่รู้สึกกระด้างในการร่วมสังคมกับคนทั่วไป ชาวโลกกินอะไรเราก็กิน เขาเที่ยวสถานที่ไม่ดีเราก็เที่ยว เขาเมาเราเมา เขาส่ำส่อนทางเพศ เราก็ไม่รู้สึกอะไร ทั้งเล่่นไพ่ ดูดวงเล่นหวย เล่นเบอร์ เล่นผีถ้วยแ้ก้ว ชาวโลกสะสมรูปโป๊ เราก็ทำด้วย ทำในสิ่งต่างๆเรานี้ แบบไม่รู้สึกอะไรเลย คือเฉยๆ เลย
อันนี้ผมบอกได้เลยว่า ใครที่ทำแบบนี้ยังไม่ได้เกิดใหม่ฝ่ายวิญญาณ หรือเกิดแล้วและตายอีกทีหรือเปล่า นี่นักการศาสนาก็ยังเถียงกันไม่จบว่า เกิดใหม่แล้วจะตายได้อีกหรือเปล่า ใครที่เป็นแบบนี้ยังเป็นแค่คนนับถือศาสนาคริสต์เท่านั้น
ผมไม่ตัดสินนะ แต่ผมขอตั้งข้อสังเกตเพื่อเตือนใจคนที่อยากมีชีิวิตที่มีสุขว่า คุณอาจยังไม่ได้รับความรอดด้วยซ้ำ และที่แน่ๆ ถ้ามนุษย์คนใดยังมีนิสัยบาป และพ่ายแพ้ต่อบาปอย่างต่อเนื่อง จิตยังมีเจตนาทำบาป และชอบแอบทำแอบ ผมขอเตือนว่า คุณยังไม่ได้เกิดใหม่หรอกครับ
ผู้เชื่อพระเจ้าอาจตั้งข้อสงสัยได้ดังนี้ คือก่อนที่ท่านจะกลับใจเชื่อพระเจ้า พ่อแม่ก็เคยห้ามไม่ให้ทำสิ่ง หรือพฤติกรรมไม่ดี ไม่ให้ทำโน้นทำนี่ แต่เราก็ยังทำได้ ไปกินเหล้าเมายา ค้างคืนบ้านเพื่อน คุณแอบทำอะไรๆ ที่คนทั่วไปเขาบอกว่ามันคือบาป แต่คุณก็ทำได้ จะไปไหว้ผี ไหว้เทพอะไรก็ทำได้ ไปรับองค์รับเจ้าอะไร ไม่มีใครห้าม แต่พอเรากลับใจมาเชื่อพระเยซู เลิกทำบาป ทำตัวดีขึ้น คนใกล้ชิด พ่อแม่ ป้าน้าอา พากันพูดต่อต้าน ว่าไปเชื่อพระเยซูทำไม ทั้งๆ ที่เราปรับปรุงตัวดีขึ้นมาก ซึ่งแต่ก่อนทำไม่ได้ ทำไมคนต้องห้าม เบื้องหลังการต่อต้านนี้ พระเยซูได้บอกไว้ก่อนแล้ว
พระเยซูคริสต์ตรัสว่า
ท่านทั้งหลายจะเป็นสุข เมื่อคนทั้งหลายจะเกลียดชังท่าน และจะไล่ท่านออกจากพวกเขา และจะประณามท่าน และจะเหยียดชื่อของท่านว่าเป็นคนชั่วช้า เพราะท่านเห็นแก่บุตรมนุษย์ (ความเชื่อในพระเยซู) ในวันนั้นท่านทั้งหลายจงชื่นชม และเต้นโลดด้วยความยินดีเพราะ ดูเถิดบำเหน็จของท่านมีบริบูรณ์ในสวรรค์ เพราะว่าบรรพบุรุษของเขา ได้กระทำอย่างนั้นแก่พวกผู้เผยพระวจนะ(ผู้สื่อสารของพระเจ้ารุ่นก่อน) เหมือนกัน
[ลูกา บทที่ 6 22-23]
อีกตอนหนึ่งพระเยซูกล่าวว่า
ถ้าโลกนี้เกลียดชังท่านทั้งหลาย ก็จงรู้ว่าโลกได้เกลียดชังเราก่อน ถ้าท่านทั้งหลายเป็นของโลก โลกก็จะรักท่านซึ่งเป็นของโลก แต่เพราะท่านไม่ใช่ของโลก เพราะเราได้เลือกท่านออกจากโลก เหตุฉะนั้นโลกจึงเกลียดชังท่าน
จงระลึกถึงคำที่เราได้กล่าวแก่ท่านทั้งหลายแล้วว่า 'บ่าวมิได้เป็นใหญ่กว่านาย' ถ้าเขาข่มเหงเรา เขาก็จะข่มเหงท่านทั้งหลายด้วย ถ้าเขาปฏิบัติตามคำของเรา เขาก็จะปฏิบัติตามคำของท่านทั้งหลายด้วย แต่ทุกสิ่งที่เขาจะกระทำแก่พวกท่านนั้นก็เพราะนามของเรา เพราะเขาไม่รู้จักพระองค์ผู้ทรงใช้เรามา ถ้าเราไม่ได้มาสั่งสอนเขา เขาก็คงจะไม่มีบาป แต่บัดนี้ เขาไม่มีข้อแก้ตัวในเรื่องบาปของเขา ผู้ที่เกลียดชังเรา ก็เกลียดชังพระบิดาของเราด้วย
[พระธรรมยอห์น 15:18]
ช. คนที่เกิดใหม่กับพระเจ้า เขามั่นใจว่า เขาได้ผ่านพ้นจากการควบคุมของมาร พ้นจากความตายฝ่ายวิญญาณ และเขาไม่ได้อยู่ในนิสัยบาปอีกแล้ว
ซ. คนที่เกิดใหม่ฝ่ายวิญญาณสามารถทนทุกข์ทรมานต่อความเชื่อ และสามารถสละความสนุกเพลิดเพลิน กิจกรรมส่วนตัวที่ล่อแหลม เพื่อช่วยให้คนอื่นได้รับความรอดในพระเจ้าเช่นเดียวกับเขาได้
ฌ. ผู้ที่บังเกิดจากพระเจ้าจะรักความยุติธรรม เขาจะรู้จักเสียสละ รักความชอบธรรมของพระเจ้า ความเชื่อของเขาแสดงออกมาเป็นการกระทำ เขารู้จักช่วยเหลือคนรอบข้าง ชีวิตของเขาจะเป็นเหมือนแสงสว่างในสังคมด้วย
คนที่บังเกิดจากพระเจ้าสำแดงความรักออกมาเป็นการกระทำที่เห็นได้ชัดเจน เขาไม่รักคนอื่นด้วยคำพูดหวาน แต่ไม่จริงใจ ไม่ได้ช่วยอะไร แต่คนที่บังเกิดใหมจะสามารถรักคนอื่นด้วยการกระทำ และความจริง เขาสามารถดำเนินชีวิตต้านกระแสของโลกได้
คนที่ยังไม่เกิดใหม่จะสนใจแต่เรื่องของชีวิตในโลกนี้เพียงด้านเดียว ชีวิตวันๆ คิดแต่เรื่องกิน เรื่องงาน เรื่องความสุขทางเพศ ความสุขทางตา หู การตอบสนองต่อความต้องการตามตัณหาของตาและความรู้สึกที่ไม่รู้จักอิ่ม อยากเลิกแต่ทำไม่ได้ รู้ว่าบาปหนาแต่ยังทำอยู่ ทำแล้วก็รู้สึกผิด รู้สึกละอาย บางคนทำจนไม่รู้สึกละอายต่อบาปแล้ว
มนุษย์ธรรมดาจะไม่ สนใจเรื่องบุญ เรื่องบาป เพราะมันเป็นธรรมชาติที่ติดตัวมาแต่กำเนิด ไม่มีใครสอนคนก็ชอบทำบาป เห็นแก่ตัว เห็นแก่กิน เอาตัวรอด เอาดีเข้าตัว เอาชั่วเข้าคนอื่น ไม่สนใจพระ ไม่ถ่อมใจ ไม่ยอมฟังเรื่องบุญเรื่องบาป ปล่อยชีวิตไปตามใจตัวเอง คิดว่าตายแล้วไม่ไหนไม่รู้ ไม่สนใจดีกว่า
แม้มีใครมาบอกทางรอดเขาก็จะไม่สนใจ สิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิต คือ ของฉัน ตัวฉัน ความสุขสบาย ความสำเร็จ การยอมรับ การมีหน้าตาในสังคม พระเจ้า หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์คือส่วนเล็กๆ ในชีวิตของเขาเท่านั้น แต่เขาจะแสวงหาพระเจ้า หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์เมื่อเขาเข้าตาจน เมื่อเขาถูกความเจ็บป่วย โชคร้าย ความเครียด กระดูกกระเดี้ยวชำรุด ปวดๆ เจ็บๆ เกิดเป็นโรคที่รักษาไม่ได้รบกวนเท่านั้น แท้จริงมนุษย์ธรรมดาจะสนใจแต่เรื่องวัตถุ กิน กาม เกียรติ โกง โลภ ครอบครอง และความมั่นคงในชีวิตในโลกนี้เท่านั้น
วัตถุสิ่งสำคัญสูงสุดในชีวิตจริงหรือ หากท่านเป็นคนช่างสังเกต ลองเข้าไปในบ้านของใครสักคนที่มีฐานะดีพอประมาณ ลองสังเกตดูว่าสิ่งของที่เขาครอบครองอยู่มากมาย ท่านจะพบว่าสิ่งของจำนวนมากเมื่อเวลาผ่านไปหลายปีจะกลายเป็นเพียง "ขยะ" ที่รกบ้าน ทั้งๆ ที่ของนั้นไม่ได้นำเข้ามาในบ้านฟรีๆ แต่ต้องเสียเงินซื้อมา บางชิ้นมีราคาแพงมาก แต่เมื่อเวลาผ่านไปสิ่งของต่างๆ กลายเป็นขยะที่ทำให้บ้านรกรุงรัง เป็นที่อยู่ของแมลงสกปรก เป็นที่เพาะเชื้อโรค ฝุ่นเกาะไร้ค่า คอมพิวเตอร์รุ่นสิบปีก่อนมีราคาเป็นแสน มาถึงเวลานี้กลายเป็นขยะไปแล้ว ไอโฟน 1 ตอนนี้ไปอยู่ไหนหมดแล้ว มีราคาเหลือกี่บาทเอง
เมื่อเกิดมีไฟไหม้บ้านหลายคนวิ่งหนีออกไปแต่ตัวโดยละทิ้งสมบัติทั้งปวงไว้ เบื้องหลัง เพื่อเอาชีวิตรอดไม่ใช่หรือ ท่านคิดว่าจิตวิญญาณของท่านกับทรัพย์สมบัติ ศักดิ์ศรี เกียรติ หรือสิ่งที่ท่านครอบครองอยู่ สิ่งไหนสำคัญที่สุดในชีวิต น่าเสียดายคนจำนวนมากเห็นแก่เงิน ทำงานจนป่วย พออายุมากขึ้นยังไม่ทันแก่ก็ป่วยกระเซาะกระแซะ หมดสนุกกับชีวิตแล้ว
เมื่อท่านได้อ่านบทความนี้ ท่านลองสำรวจชีวิตของมนุษย์ดูซิว่า มนุษย์เกิดมาเพื่ออะไรกันแน่
"ท่านเกิดใหม่หรือยัง" หรือ ว่าท่านยังเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาที่ กำลังหมกมุ้นอยู่กับเรื่องเพศ การเล่น ความเพลิดเพลิน เพลง เกม ดนตรี งานอดิเรก ธุรกิจ ความอยู่รอด การกิน การเรียน สร้างฐานะ ความสำเร็จ ใช้เวลาวันๆ ไปกับสิ่งต่างๆ จนไม่มีเวลาไปเยี่ยมใคร ไม่มีเวลาเฝ้าอธิษฐานเพื่อสัมพันธ์กับพระเจ้าที่เป็นอยู่ ท่านไม่อยากอ่านพระคัมภีร์ การอ่านบางครั้งกลายเป็นเพียง สิ่งที่น่าจะทำและต้องทำเพื่อให้ตัวเองสบายใจว่า ได้ทำแล้วเท่านั้นหรือ บ่อยครั้งคนรู้สึกว่าตัวเองไม่สนใจว่าใครจะอยู่ จะกินอย่างไร ความสนใจจมอยู่แต่เรื่องของฉัน ของฉันท์ ชีวิตของฉัน อนาคตของฉัน ครอบครัวของฉันเท่านั้นหรือ
คนบางคนทำตัวเองน่าสงสารมาก เพราะปล่อยตัวให้ทำงานจนไม่คิดถึงเรื่องการพักผ่อน การกินอาหารที่มีคุณค่า ไม่มีเวลาคิดถึงญาติที่ลำบาก คนที่ตกทุกข์ลำบาก สังเกตได้ว่าตัวเองไม่สนใจการได้รู้จักสัมพันธ์กับบุคคลที่เป็นผู้ให้คำแนะนำฝ่ายวิญญาณ ไม่เคยคิดถึงเรื่องสุขภาพ หลายคนทำงานมากจนล้มป่วย เหมือนที่เราได้เห็นคนรวยหรือดาราดังหลายคนเขาล้มป่วยเพราะทำงานหามรุ่งหาม ค่ำ หวังกอบโกยให้รวยไวๆ ทำงานถ่ายละคนทุกคืนๆ ตีสาม ตีสี่ จนต่อมไร้ท่อทำงานผิดปกติเพราะโลภมากเกินไป คิดว่าน้ำขึ้นให้รีบตัก บางคนกว่าคนจะรู้ตัวว่าป่วยก็เกือบสาย หรือสายเกินไปแล้ว
ผมขอเชิญชวนผู้ที่รู้สึกตัวว่า มีความบาปซ่อนเร้น มีความบกพร่องทางจิตวิญญาณ หากท่านไม่แน่ใจว่าชีวิตท่านเกิดใหม่หรือยัง ขอเชิญชวนให้กลับใจใหม่เดี๋ยวนี้ การยอมรับความผิดพลาด และสารภาพบาปของท่าน จะทำให้ท่านสามารถกลับมาสู่อ้อมกอดของพระเจ้าได้ ท่านจะได้รับสันติสุข ท่านจะต้องเรียนรู้วิถีชีวิตแห่งความรัก ดำเนินชีวิตด้วยความถ่อมใจ พอเพียง ชีวิตของท่านจะเป็นพระพรต่อคนรอบข้าง
ผมขอยืนยันว่า เราไม่ต้องรอให้ตายก่อนแล้วจึงค่อยได้พบพระเจ้า เราสามารถพบพระเจ้าได้ขณะที่เรามีชีวิตอยู่ กลับใจใหม่วันนี้ก่อนที่จะสายเกินไป ขอพระเจ้าอวยพระพรให้ท่านมีโอกาสกลับใจใหม่อีกครั้ง
หากท่านอยากกลับใจใหม่ ขอให้เริ่มวันนี้ ยอมรับว่าท่านเป็นคนบาป เคยเป็นทาสบาป มีนิสัยบาป และพระเยซูคริสต์องค์เดียวเท่านั้น ที่ประกาศอย่างชัดเจน ว่าพระองค์สามารถยกบาปได้
พระคัมภีร์ศักดิ์สิทธิได้บรรทึกไว้อย่างชัดเจนว่า ...
ถ้าเรากล่าวว่าเราไม่มีบาป เราก็หลอกตัวเอง และสัจจะไม่ได้อยู่ในตัวเราเลย ถ้าเราสารภาพบาปของเรา พระองค์ทรงซื่อสัตย์และเที่ยงธรรม ก็จะทรงโปรดยกบาปของเรา และจะทรงชำระเราให้พ้นจากการอธรรมทั้งสิ้น
ถ้าเรากล่าวว่าเราไม่ได้ทำบาป ก็เท่ากับเราทำให้พระองค์เป็นผู้ตรัสมุสา และพระดำรัสของพระองค์ก็ไม่ได้อยู่ในตัวเราเลย [ พระธรรม 1 ยอห์น 1:9]
หากท่านได้รับรู้ว่าท่านเป็นคน บาป และต้องการรับการช่วยเหลือจากพระผู้ช่วยให้รอด หรือพระเยซูเจ้า ขอให้ท่านตั้งสัจจะ และกล่าวคำอธิษฐานตามด้านล่างนี้
คำอธิษฐานต้อนรับพระเยซูคริสต์
พระบิดาแห่งฟ้าสวรรค์ พระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่ ข้าฯ ขอมาหาพระองค์ในพระนามพระเยซูคริสต์
ข้าฯ ได้ตระหนักว่า ข้าไม่สามารถไปรอดพ้นบาป และการพิพากษาโทษด้วยการเป็นคนดี ด้วยการทำการกุศลให้เพียงพอต่อการได้รับอนุญาตให้ไปอยู่ในสวรรค์ ข้าฯ ขอยอมรับว่าข้าเป็นคนบาป ชอบทำบาป ข้าอยากเลิกบาปแต่ทำไม่ได้
ข้าฯ ขอสารภาพบาปต่อไปนี้ คือ .....................
ข้าฯ ขอยกโทษต่อคนที่ทำผิด/ละเมิดต่อข้าทุกคน คือ ............................
ข้าไม่ถือโทษ และขอปลดปล่อยภาระการแก้แค้นให้อยู่ในมือของพระเยซูเจ้า
ขอพระเยซูคริสต์เจ้าช่วยลบล้างความผิดบาปของข้า และคำแช่งสาปที่ตกทอดมาจากบรรพบุรุธในส่วนโทษและการบาปที่ตกมาถึงข้าฯ ขอพระองค์ปลดปล่อยข้าฯ ออกจากการเป็นทาสบาป และพฤติกรรมไม่ดี คือ.........
ต่อไปนี้ข้าฯ ขอละเลิกจากการบาปทุกอย่าง และขอตั้งต้นเป็นคนใหม่
ข้าฯ ขอเปิดใจยอมรับพระเยซูเจ้าเป็นพระเจ้า เป็นพระผู้ช่วยให้รอดของข้าฯ ด้วยสัจจะวาจานี้ ขอพระเยซูเจ้าโปรดยกโทษที่ข้าฯ เคยกราบไว้สิ่งอื่น ถือเป็นพระเจ้า และได้ทำสารพันบาปชั่ว ข้าฯ ขอพระเยซูเจ้าปลดปล่อยข้าฯ ออกจากการครอบงำ การแทรกแซงของวิญญาณอื่นทุกชนิด ข้าฯ ขอกล่าวตัดสัมพันธ์กับวิญญาณอื่น วิญญาณแห่งโลก วิญญาณไสยศาสตร์ เวทมนต์ วิญญาณคุ้นเคย วิญญาณประจำถิ่น วิญญาณลัทธิ และขอกล่าวห้ามไม่ให้วิญญาณใดๆ เข้ามารบกวน หรือแทรกแซงในวิถีชีวิต สุขภาพ การงาน ความคิด การตัดสินใจ และวิญญาณจิตของข้า
ข้าขอกล่าวห้าม และสั่งการในพระนามพระเยซูคริสต์ว่า วิญญาณแห่งความมืด วิญญาณแห่งโลกวิญญาณคุ้นเคยทุกอย่าง จงถอยไปจากเราและห้ามกลับมาอีก ในพระนามพระเยซู
ข้าฯ ขอต้อนรับองค์พระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระเยซูคริสต์เจ้า ขอเชิญเข้ามาปกปักรักษา และช่วยเหลือข้าฯ ตามพระสัญญาในหนังสือพระคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ ต่อแต่นี้ไปข้าฯ ขอเป็นลูกของพระเยซูเจ้าแต่เพียงผู้เดียว
ขออธิษฐานในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า อาเมน
หากท่านได้กล่าวคำอธิษฐานนี้ด้วยสัจจะและ ความจริงใจ เชื่่อแน่ว่าพระเยซูเจ้าพระผู้ช่วยที่สามารถยกบาปได้ พระเจ้าผู้ทรงมีพระชนม์อยู่ และสถิตอยู่ทั่วทุกหนแห่งจะได้ยินคำอธิษฐานของท่านและจะตอบคำอธิษฐานตามที่ ท่านได้กล่าวอย่างแน่นอน
ก่อนจบผมมีวีดีโอคลิปที่น่าดูมาก และให้ข้อคิด หากท่านมีเวลาก็ลองคลิกดูนะครับ
กลับไปหน้าแรกของเว็บ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
You may post your comments here.
หากท่านมีข้อคิดเห็นเพิ่มเติมหรือเสนอแนะเชิญออกความเห็นได้
(กรุณาใช้ข้อความสุภาพ และสร้างสรรค์)