ต่อไปนี้เป็นซีรี่เขียนประสบการณ์ด้านการปลดปล่อย ของ Pastor Bruce Thomsons จากประเทศออสเตรเลีย ผมได้พบกับท่านหลายปี และได้ศึกษาวิธีการปลดปล่อยจากอาจารย์ท่านนี้มาโดยตลอด ท่านได้กรุณามอบหนังสือที่ท่านเขียนเอง เพื่อเล่าประสบการณ์การปลดปล่อยที่ท่านได้ประสบ ร่วมกับพี่น้องในทีมของท่าน เพื่อเป็นแนวทางแก่ คริสตชนที่สนใจที่จะใช้สิทธิอำนาจของผู้เชื่อ ในการประกาศข่าวประเสริฐด้วยสิทธิอำนาจ หมายสำคัญและการอัศจรรย์ในพระนามของพระเยซูเจ้า
สารบัญเรื่อง
บทที่ 1 ผีตัวแรกที่ฉันมีประสบการณ์
บทที่ 2 คริสเตียนสามารถถูกผีสิงได้หรือเปล่า
บทที่ 3 ประสบการณ์กับวิญญาณตัวที่สอง
บทที่ 4 ปิดทวารที่ผีใช้เป็นสื่อในการเข้าสิงคน
บทที่ 5 รู้จักวิญญาณกาลีและการควบคุมมัน
บทที่ 6 เราควรสนทนากับวิญญาณหรือไม่
บทที่ 7 วิญญาณเฝ้าทวาร
บทที่ 8 การต่อสู่กับวิญญาณลายสัก
บทที่ 9 รู้จักวิญญาณด้วยนิสัยประจำตัวของมัน
บทที่ 10 อาดัมเดินทางกลับบ้านเกิด
บทที่ 11 ผังการปกครองของวิญญาณชั่ว
บทที่ 12 เราควรส่งวิญญาณชั่วไปไหนดี
บทที่ 13 การอธิษฐานปลดปล่อยและขับไล่
บทที่ 14 ลักษะอาการแสดงตัวของวิญญาณชั่ว
บทที่ 15 อาวุธที่ใช้ในการต่อสู้กับวิญญาณร้าย
บทที่ 16 เริ่มการต่อสู้กับวิญญาณ
บทที่ 1 ประสบการณ์กับวิญญาณชั่วตัวแรก
ผมไม่เคยคิดที่จะมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องพันธกิจการปลดปล่อยเลย สิ่งนี้เราอาจจะเรียกว่า การไล่ผีหรือขับผีก็ได้ แต่ว่ามันเป็นเหตุที่ถูกกำหนดไว้ก็เป็นได้ ผมมีปู่ชื่อว่าเฟรดดิก ดันแคน (Fredrick Duncan) ปู่มีความสนใจอย่างลึกซึ้งในเรื่องพระเจ้า และมีความสนใจเป็นพิเศษในเรื่องพระวิญญาณบริสุทธิ์ ปู่ได้เข้าร่วมกับประชุมที่จัดโดย สมิท วิกเกอร์เวิร์ท (Smith Wiggles worth) ที่เมืองซีดนี่ย์ ในเดือนเมษายน ปี ค.ศ. 1922 เพราะปูของผมเป็นผู้ที่สนับสนุนนักประกาศคนนี้ สมิท จึงได้ชักชวนให้ปู่ของผมออกจากการเป็นสมาชิกของคริสตจักรที่ท่านอยู่
สมิทจึงหนุนใจให้ปู่ของผมจัดการประชุมสำหรับคนที่สนใจในเรื่องพระวิญญาณบริสุทธิ์ในเมืองซีดนีย์ ฟิลิป ดันแคนปู่ของผมต่อมาได้กลายเป็นศิษยาภิบาลของคริสตจักรแห่งนี้ (ในปัจจุบันคริสตจักรแห่งนี้คือคริสตจักรปีเตอร์เชม แห่งคณะคริสเตียนสัมพันธ์) ตั้งแต่ เดือนตุลาคม ค.ศ. 1926- มกราคม ปี ค.ศ. 1982 ผมได้รับพระพรด้านของประทานแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์อย่างมาก และผมก็มีภาระใจที่หนุนใจให้พี่น้องคริสเตียนคนอื่นๆ ในการที่จะเคลื่อนไปด้วยฤทธิเดชแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์
ผมอยากจะเล่าย้อนหลังเกี่ยวกับประสบการณ์แห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ในตอนเริ่มต้นของพันธกิจนี้ คือว่าผมได้รู้จักกับชายหนุ่มคนหนึ่งชื่อว่า อาดัม (นามสมมุติ) เขาได้มาหาผมและได้พูดกับผมว่า “ฉันรู้สึกว่านายน่ะเป็นคนมีพลังพิเศษภายในนะ” และต่อมาผมได้พูดคุยกับเขาอีกว่า “ฉันต้องการรู้มากขึ้นเกี่ยวกับเรื่องพระวิญญาณบริสุทธิ์” ในตอนนั้นผมคิดว่าการพูดคุยของผมกับอาดัมเป็นเพียงการพูดคุยกันธรรมดาไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องจริงจังอะไร แต่ต่อมาผมเริ่มตระหนักถึงความจริงเกี่ยวกับเรื่องพระวิญญาณบริสุทธิ์ ตอนนั้นผมยังไม่ได้รู้จักอาดัมดีพอ
แท้ที่จริงแล้วผมทราบภายหลังว่า อาดัมได้เรียนรู้เกี่ยวกับการเป็นพ่อมดที่มีพลังแก่กล้าก่อนที่จะเปลี่ยนมานับถือศาสนาคริสต์ ในครั้งแรกที่ผมพบอาดัมเราพูดคุยกันไม่กี่คำ แต่สองสัปดาห์หลังจากนั้นอาดัมถามผมว่า อยากจะให้ผมแนะนำเขามากขึ้นเกี่ยวกับเรื่องพระวิญญาณบริสุทธิ์ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผมสนใจอยู่แล้ว ผมจึงตกลงและนัดดื่มกาแฟด้วยกัน ผมสัญญาว่าจะไปรับเขาที่บ้านหลังในเวลาบ่ายประมาณห้าโมงเย็น เพื่อจะหาร้านกาแฟนั่งคุยกัน
ขณะที่ผมขับรถไปที่บ้านของอาดัม อาดัมโทรมาหาผมและบอกผมว่าเขาไม่ค่อยสบาย และอาดัมพูดว่า “อย่ามาเลยนะ” แต่ว่าผมได้ขับรถยนต์มาได้เกือบครึ่งทางและใกล้จะถึงบ้านของอาดัมแล้ว ผมจึงพูดกับอาดัมว่า “ไม่เป็นไร ผมจะไปอธิษฐานเผื่ออาการไม่สบายก็แล้วกันนะ” ไม่น่าเชื่อเลย พระเจ้าพูดกับผมในใจว่าอาดัมได้ไปเกี่ยวพันกับเวทมนตร์คาถา ผมไม่กล้าถามอาดัมตรงๆ ว่าเคยไปเล่นเวทมนตร์คาถามาก่อนหรือเปล่า เมื่อผมไปถึงบ้านของอาดัมผมจึงเลียบๆเคียงๆ ถามเขาว่า ตอนที่เขาอยู่ที่บ้านในประเทศมาเลเซีย ก่อนที่เขาจะมาอยู่ในประเทศออสเตรเลียนั้นเขาเคยทำอะไรมาบ้าง อาดัมก็เปรยๆ ว่า เขาน่ะเคยเล่นเกี่ยวกับเวทมนตร์คาถามาบ้าง
ที่คริสตจักรของผมได้จัดสัมมนาที่เราเรียกว่า สู่เสรีภาพ ในการสัมมนานี้มีกฎเกณฑ์ที่สำคัญอยู่ข้อหนึ่งที่สำคัญคือว่า “ให้ผู้ที่เข้าสัมมนาอธิษฐานขอการยกโทษของพระเจ้าสำหรับความผิดบาป และเราต้องมีความเต็มใจที่ละทิ้งความบาปนั้น เพราะจะเป็นการหักล้างอำนาจการคุกคามหรือมีอิทธิพลของซาตานที่มีต่อเรา” หากว่าท่านอ่านหนังสือเล่มนี้คิดว่าไม่ได้อะไรก็ขอให้ท่านจดจำกฎข้อนี้ไว้ให้ขึ้นใจก็เพียงพอแล้ว
ในการจัดสัมมนาสู่เสรีภาพ มักจะได้พบปรากฎการณ์ทางด้านวิญญาณชั่วต่างๆ ที่มักจะปรากฏขึ้น เพื่อให้ผู้ดำเนินสัมมนามีความเข้าใจและรู้จักวิธีการในการปลดปล่อยจึงควรเรียนรู้เกี่ยวกับกฎแห่งการปฏิบัติต่างๆในการทำการต่อสู้ฝ่ายวิญญาณ
กฎข้อที่ 1 อธิษฐานขอการยกโทษจากพระเจ้าสำหรับความผิดบาปของเรา และต้องมีความเต็มใจที่จะหันกลับจากความบาปเพื่อหักล้างทำลายอำนาจของซาตานที่มีต่อชีวิตของเรา
พระธรรมสุภาษิต บทที่ 28: 13 “บุคคลที่ซ่อนการละเมิดของตนจะไม่จำเริญ แต่บุคคลที่สารภาพและทิ้งความชั่วเสียจะได้ความกรุณา”
ผมได้อธิษฐานเผื่ออาดัมและเดินทางกลับบ้าน ผมยังคงแบ่งปันและหนุนใจ
...ผมได้เรียนรู้ว่านี้คือต่อสู้ฝ่ายวิญญาณ การต่อสู้กับวิญญาณชั่ว พวกมันจะไม่ยอมแพ้ง่ายๆ เราต้องยืนยันในคำสั่งของเราในพระนามพระเยซู ผมสั่งขับมันออกไปอีกครั้งแต่ในครั้งนี้ผมบอกมันว่าสิทธิอันชอบธรรมในการครอบครองที่มันเคยมีอยู่เหนืออาดัมได้ถูกหักล้างทำลายแล้ว โดยคำอธิษฐานสารภาพบาปซึ่งเป็นเครื่องหมายสำคัญในการหักล้างสิทธิการครอบครองของซาตาน ผมรู้สึกว่าอำนาจการครอบครองของวิญญาณในตัวอาดัมได้ค่อยๆ เสื่อมลง ผมยืนยันครั้งแล้วครั้งเล่าในพระนามพระเยซูเพื่อขับวิญญาณให้ออกไป และมันไม่มีสิทธิในการครอบครองอีกแล้ว ผมสังเกตเห็นน้ำลายเล็กน้อยไหลออกมาจากปากของอาดัม ดวงตาที่แข็งทื่อและดุร้ายของอาดัมค่อยผ่อนลงและหายไปในที่สุด
และตอนนี้ผมรู้สึกว่าผมกำลังพูดกับอาดัม ผมไม่ค่อยได้อ่านหนังสือเกี่ยวกับการปลดปล่อยมาก่อน แต่โชคดีที่ คุณกรอเลีย อินแมน ได้มอบหนังสือเล่มหนึ่งให้กับผมซึ่งมีชื่อว่า “ การรักษาด้วยการปลดปล่อย ” โดยปีเตอร์ ฮอรอบิน (Peter Horrobin) ในขณะนั้นผมกำลังเป็นหนอนหนังสือ ผมพยายามอ่านหนังสือหลายเล่ม แต่ไม่เคยพบหนังสือเกี่ยวกับการรักษา สำหรับผมแล้วมันเป็นเพียงหนังสือเล่มหนึ่งเกี่ยวกับการรักษาโรคเพราะผมยังไม่มีความสนใจเกี่ยวกับการรักษาโรคด้วยฤทธิเดชของพระเจ้ามาก่อน อย่างไรก็ตามเหมือนกับพระเจ้าได้เตรียมผมไว้ เนื้อหาในหนังสือเล่มนี้เคยบอกเกี่ยวกับลักษณะอาการของคนถูกผีสิงที่ว่าน้ำลายที่ไหลจากปากเป็นเครื่องหมายยืนยันว่า วิญญาณได้ออกไปแล้ว
เมื่ออาดัมรู้สึกตัวอีกครั้งพบจึงพาเขาไปที่ห้องนั่งเล่น แล้วผมก็ขับรถกลับบ้านด้วยความรู้สึกลิงโลด ตื่นเต้นในประสบการณ์กับโลกวิญญาณ และได้รับทราบว่าพระเจ้าได้ใช้ผมในเรื่องที่ไม่น่าเชื่อนี้
มาถึงจุดนี้ผมอยากจะพูดเกี่ยวกับกฎข้อที่สอง “อย่าอธิษฐานขับผีตามลำพัง” โดยพระคุณของพระเจ้าที่ไม่เกิดอะไรที่รุนแรงกับผมในขณะที่ผมไม่ทันระวังตัว ในบทต่อไปผมจะแบ่งปันเกี่ยวกับผู้ชายทีแข็งแรงหก เจ็ดคนต้องช่วยกันจับอาดัมเพียงคนเดียวที่ถูกวิญญาณเข้าสิงอย่างยากลำบากเพราะพลังอำนาจของวิญญาณที่มาสิงสู่อาดัมทำให้อาดัมมีแรงมากผิดปกติ
กฎข้อที่ 2 อย่าอธิษฐานปลดปล่อยตามลำพังในการต่อสู้กับวิญญาณระดับสูง แต่ให้มีผู้อื่นร่วมอธิษฐานด้วย
ปัญญาจารย์ 4: 9-10
สองคนดีกว่าคนเดียว เพราะว่าเขาทั้งสองได้รับผลของงานดี 10ด้วยว่าถ้าคนหนึ่งล้มลง อีกคนหนึ่งจะได้พะยุงเพื่อนของตนให้ลุกขึ้น แต่วิบัติแก่คนนั้นที่อยู่คนเดียวเมื่อเขาล้มลง และไม่มีผู้อื่นพะยุงยกเขาให้ลุกขึ้น
เมื่อผมกลับมาถึงบ้านขณะนอนคิดไคร่ครวญถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งประสบการณ์ ผมนึกขึ้นได้ว่าอาดัมเคยพูดว่า “ฉันรู้สึกว่านายน่ะเป็นคนมีพลังพิเศษภายในนะ” ผมรู้สึกว่าอาดัมมีการรับรู้เกี่ยวกับพลังอำนาจ เขาคงได้รับพลังอำนาจบางอย่างจากซาตาน แต่อาดัมก็ยังบอกกับผมว่าผมมีพลังพิเศษบางอย่าง “อาดัมกำลังพูดถึงเรื่องอะไรกันแน่” พระเจ้าได้ทรงเปิดเผยกับผมขณะที่ผมกำลังหนุนใจคนอื่นเรื่องพระวิญญาณบริสุทธิ์ อาดัมคงได้เห็นการสำแดงของพระวิญญาณบริสุทธิ์ในตัวผม
อาดัมคงเห็นและรู้สึกถึงฤทธิเดชของพระวิญญาณบริสุทธิ์ในตัวของผมมากกว่าที่ผมรู้สึกได้ด้วยตนเอง อาดัมคงได้รับรู้เกี่ยวกับโลกฝ่ายจิตวิญญาณมากกว่าเพราะว่าเขามีความเกี่ยวข้องกับซานตานมาก่อน เนื่องอาดัมกำลังแสวงหาฤทธิเดชในเรื่องวิญญาณและพบว่าฤทธิเดชของพระเจ้านั้นยิ่งใหญ่กว่าฤทธิเดชของซาตาน เรื่องนี้คงคล้ายๆ กับเหตุการณ์ในหนังสือพระธรรมกิจการบทที่ 8 (ซีโมนคนทำวิทยาคมได้เห็นสาวกของพระเยซูคือเปโตรกับยอห์น ทำการอิทธิฤทธิ์และการอัศจรรย์ต่างๆ ในนามพระเยซู และเขาใคร่จะมีฤทธิอำนาจมากเหมือนกับสาวกของพระเยซูจึงเสนอให้เงินแลกกับของประทานของพระวิญญาณบริสุทธิ์ (ผู้แปล) )
โปรดติดตามบทที่ สอง เร็วๆ นี้
Home
ชอบมากครับ
ตอบลบขอบคุณค่ะ ดีมากค่ะได้ความรู้เพิ่มเติม เรื่องจิตวิญญาณที่เรามองไม่้เห็น แต่มีจริง
ลบIt's would be good, I have a new learning.
ตอบลบหากท่านใดต้องการอ่านทั้งหมด กรุณาติดต่อร้านหนังสือคริสเตียนใน กทม หรือต่างจังหวัด
ตอบลบhttps://fbcdn-sphotos-a.akamaihd.net/hphotos-ak-snc7/419168_3393198310654_1290548095_33368969_121788767_n.jpg
สุดยอดเลยค่ะอาจารย์ ดิฉันเป็นผู้เชื่อใหม่ค่ะ แต่สนใจที่จะศึกษาเรื่องนี้มากค่ะ อาจารย์เป็นพระพรจริงๆค่ะ
ตอบลบอยากได้หนังสือที่อาจารย์พูดถึงค่ะ อยู่ที่แม่ฮ่องสอนค่ะ
ตอบลบ