ผู้นำที่มีนิมิต โดย ดร. เดวิด ยองกี โช - ตอนที่ 2

ผู้นำที่มีนิมิต โดย ดร. เดวิด ยองกี โช

หลังจากที่นิมิตนั้นได้เกิดขึ้นจริงๆแล้ว พระเจ้าทรงตรัสกับผมในใจว่า “ ถ้าเจ้าเงยหน้าของเจ้าขึ้นเหมือนอับราฮัมแล้วมองไปทางเหนือ ทางใต้ ทางตะวันออกและทางตะวันตก เราจะให้ผืนดินแก่เจ้าเท่าที่มองเห็น ” จากจำนวนสมาชิก 10,000 คนผมเห็นสมาชิก 30,000 คน ผมไม่คิดว่าผมจะเลี้ยงดูสมาชิกได้มากกว่า 30,000 คน

พระเจ้าตรัสว่า ” เอาล่ะ เราจะให้เจ้ามีสมาชิก 30,000 คน ” ดังนั้น ผมจึงตั้งครรภ์ด้วยนิมิตที่จะมีคริสตจักรประกอบด้วยสมาชิก 30,000 คน ไม่นานหลังจากที่คริสตจักรของเรามีสมาชิก 30,000 คน ผมก็บอกว่า ” ข้าแต่พระบิดาเจ้า พระองค์จะประทานนิมิตที่ยิ่งใหญ่กว่านี้ให้ข้าพระองค์อีกหรือไม่ ? ” แล้วพระองค์ก็ให้ผมมีนิมิตเห็นคริสตจักรที่มีสมาชิก 50,000 คน ผมมีความชื่นชมยินดี นั่นเป็นเป้าหมายที่ชัดเจนเหมือนกับมีแสงไฟส่องสว่างไปที่เป้าหมายนั้น จากนั้นเราก็มีสมาชิก 50,000 คน

ไม่นานหลังจากนั้น ในขณะที่ผมกำลังอ่านพระธรรมอิสยาห์บทที่ 54 พระวิญญาณบริสุทธิ์ก็ตรัสกับผมว่า “ ต่อเติมอาคารของเจ้า เสริมสร้างคริสตจักรให้เข้มแข็ง เจ้ากำลังจะเติบโต เจ้ากำลังจะมีคริสตจักรที่มีสมาชิก 100,000 คน ”

ผมงงมาก “ ผมไม่เคยได้ยินอะไรอย่างนี้เลย 100,000 คนเชียวหรือ สมาชิกของผมคงไม่เชื่อหรอก”
จากนั้นซาตานก็เริ่มรบกวนผมยั่วยุไม่ให้เชื่อเช่นนั้น มันกล่าวว่า “ เจ้าเป็นนักฝันเพราะเจ้ามีปัญหาทางจิตที่ไม่สมดุลเหมือนคนอื่น ความฝันของเจ้าเป็นแค่เกมส์เท่านั้นไม่ได้มาจากพระเจ้าหรอก ”

ดังนั้น ผมจึงเฝ้าอธิษฐานแล้วอธิษฐานอีก และพระเจ้าทรงใช้ข้อพระคัมภีร์เพื่อยืนยันนิมิตนั้น ผมจึงสามารถเห็นคริสตจักรที่มีสมาชิก 100,000 คนได้ ในวันอาทิตย์ต่อมา ผมพูดว่า “ เรากำลังจะวางแผนสำหรับคริสตจักรที่มีสมาชิก 100,000 คน ” ผู้ปกครองหลายคนเดินออกจากคริสตจักรไป

พวกเขาบอกว่า “ คุณบ้าไปแล้ว คุณไม่มีทางไปถึงเป้าหมายนั้นได้ เพราะตลอดประวัติศาสตร์คริสตจักรไม่เคยมีคริสตจักรไหนมีสมาชิกถึง 100,000 คนเลย ถ้าคุณจะทำอย่างนั้น เราก็ต้องต่อเติมคริสตจักรของเราอีกและต้องใช้เงินจำนวนมหาศาล เราจะคัดค้านในเรื่องนี้และต่อสู้กับคุณจนถึงที่สุด ”

ตลอดเวลาหลายปีที่ผมเทศนาเรื่องการเจริญเติบโตของคริสตจักร ผมไม่เคยเห็นคริสตจักรไหนเจริญเติบโตได้ถ้าไม่มีผู้นำที่เข้มแข็ง นิมิตและความฝันอาจจะตายได้ถ้าคุณต้องนำความฝันนั้นผ่านคณะกรรมการ มันจะเหลือแค่ซากศพเท่านั้น ตลอดประวัติศาสตร์ของคริสตจักร พระองค์ไม่เคยใช้คณะกรรมการหรือคณะนิกายใดในการนำการฟื้นฟู พระองค์ทรงใช้คนเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็น มาร์ติน ลูเธอร์ , จอห์น เวสเลย์ ดี แอล มูดี้ , บิลลี่ เกรแฮม และคนอื่น ๆ อีกมาก
     
คณะ นิกายมักจะพยายามหาจุดยืนของพระเจ้าด้วยการอภิปรายและความคิดที่เป็นเหตุ เป็นผล แต่คริสตจักรในสมัยพระคัมภีร์ไม่ได้ทำเช่นนั้น พวกเขาพูดกับสภาเยรูซาเล็มว่า “ เพราะว่าพระวิญญาณบริสุทิ์และข้าพเจ้าทั้งหลายก็เห็นชอบที่จะไม่วางภาระบน ท่านทั้งหลาย เว้นไว้แต่สิ่งเหล่านั้นที่จำเป็น ” ( กิจการ15:28 ) พวกเขาให้พระวิญญาณบริสุทธิ์เป็นประธานในคณะกรรมการของพวกเขาเสมอ

ในสมัยคริสตจักรยุคแรกเมื่อพวกเขามีการประชุมคณะกรรมการ พวกเขาจะอธิษฐานและรอคอยพระเจ้า พวกเขาจะได้ยินเสียงจากพระวิญญาณบริสุทธิ์แล้วเขาก็จะสามรถเขียนจดหมายเป็น ทางการซึ่งขึ้นต้นว่า “ ตามที่ได้รับความเห็นชอบจากพระวิญญาณบริสุทธิ์แล้วและเราทั้งหลายก็เห็นชอบ ด้วย”

ในปัจจุบัน เราไม่ได้ทำเช่นนั้นเราพิจารณาเพื่อตัดสินใจในเรื่องต่างๆด้วยเงื่อนไขต่างๆ ที่เป็นไปในโลก ไม่ว่าจะเป็นสภาพทางเศรษฐกิจ, สถานการณ์ทางสังคม และเงื่อนไขของคริสตจักร แล้วนิมิตกับความฝันของเราก็จะถูกทำลายลง
เมื่อคริสตจักรของเรามีสมาชิก 50,000 คน และผมตั้งเป้าหมายที่จะมีสมาชิก 50,000 คน มีหลายคนต่อต้านผม ผู้ปกครอง 3 คนเริ่มกระจายข่าวว่า “ โชกำลังจะขูดรีดเงินจากสมาชิกทุกคนและทำให้พวกเขายากจน เขากำลังจะทำให้คริสตจักรนี้ยุ่งวุ่นวาย ”
     
มัคนายกหลายคนก็เข้าร่วมกับผู้ปกครองเหล่านั้น พวกเขาออกจากคริสตจักรและปล่อยข่าวกับพวกผู้สื่อข่าวสื่อมวลชนต่างๆเริ่มโจม ตีผม พวกเขากล่าวว่า “โชกำลังจะสร้างคริสตจักรมหึมาเพื่อเกียรติยศและความต้องการของเขาเอง”

ในที่สุด พ่อของผมเองเข้ามาหาผมด้วยน้ำตานองหน้าบอกว่า “ลูกเอ๋ยเลิกคิดเรื่องนิมิตนี้ได้ไหม เรื่องนี้ทำให้ครอบครัวของเราวุ่นวายเหลือเกิน พวกเราสงสัยว่าลุกกำลังจะกลายเป็นคนหยิ่งยโส สมาชิก50,000 คนยังไม่ทำให้ลูกพอใจอีกหรือ? ”

ผมพูดกับพ่อว่า” ผมรู้ว่านิมิตของผมทำให้ทุกคนเครียด แต่พระบิดาที่ยิ่งใหญ่กว่าพ่อต้องการให้ผมทำสิ่งนี้ พ่อคนไหนที่ผมควรจะเชื่อฟัง ผมต้องเชื่อฟังพระบิดาในสวรรค์อย่างช่วยไม่ได้จริงๆ ”
ดังนั้น ผมจึงรักษานิมิตของผมไว้ผมเทศนาและยืนยันในเรื่องนี้ ผมเริ่มรณรงค์หาเงินทุนสำหรับต่อเติมอาคารของเรา
ผู้ปกครองที่ไม่พอใจค่อยๆเดินออกจากคริสตจักรไปทีละคน แต่ในที่สุดคริสตจักรก็ต่อเติมสำเร็จ ทันทีที่อาคารคริสตจักรของเราต่อเติมสำเร็จ เราก็มีสมาชิกมากกว่า 100,000 คนแล้ว

ผู้ปกครองคนหนึ่งที่ออกจากคริสตจักรไปแล้วเขียนมาบอกผมว่า “เราคิดว่าคุณจะต้องล้มเหลวแน่ แต่ในที่สุดคุณก็ทำสำเร็จ นั่นแสดงว่าพระเจ้าอยู่กับคุณ และเราผิดพลาดไป”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

You may post your comments here.
หากท่านมีข้อคิดเห็นเพิ่มเติมหรือเสนอแนะเชิญออกความเห็นได้
(กรุณาใช้ข้อความสุภาพ และสร้างสรรค์)