ไม่นานมานี้ ผมเริ่มได้ยินคนกล่าวถึงการนั่งวิปัสสนา "แบบคริสเตียน" ซึ่งผู้ปฏิบัติอ้างว่า เป็นการทำให้ใจบริสุทธิ์เพื่อเข้าถึงพระเจ้า...
ผมยังไม่อาจกล่าวถึงแนวคิดนี้โดยละเอียดได้ แต่อยากหยิบยกเรื่องการนั่งวิปัสสนามากล่าวเพียงย่อๆ ก่อนว่า สามารถจะนำมาปฏิบัติ "แบบคริสเตียน" หรือเป็นสิ่งที่สอดคล้องกับหลักการแห่งพระวจนะของพระเจ้าหรือไม่ อย่างแรก การนั่งวิปัสสนาของศาสนาพุทธและแนวความเชื่อแบบศาสนาดั้งเดิมทางตะวันออกของคนเอเซียเรานั้น คือความพยายามที่จะทำให้จิตว่างเปล่า เพื่อให้เข้าถึงโลกฝ่ายวิญญาณได้ แต่ "จิต" หรือ "จิตใจ" (Soul) นั้นคือศูนย์กลางแห่งบุคลิกภาพของคนเราอันประกอบไปด้วย ความคิด สติปัญญา, อารมณ์ความรู้สึก, และความตั้งใจ นั้นไม่อาจทำให้ว่างเปล่าได้ แม้แต่พระเจ้าก็ไม่อาจทำให้มันบังเกิดใหม่ได้ (องค์ประกอบในตัวเราที่บังเกิดใหม่คือ "วิญญาณ (spirit)" พระคัมภีร์จึงใช้หลักทำให้จิตใจของเรา "รับการเปลี่ยนแปลงใหม่ (renew)" (โรม 12 ข้อ 1-2)
วิธีการเปลี่ยนจิตใจใหม่ ตามแนวทางของพระคัมภีร์นั้นก็คือ การชำระล้างด้วยพระวจนะหรือการภาวนาพระธรรมของพระเจ้า ซึ่งแตกต่างและตรงกันข้ามกับการวิปัสสนาอย่างสิ้นเชิง ขณะที่การภาวนาหรือวิปัสสนาตามแนวศาสนาตะวันออกนั้น มุ่งเป้าที่จะทำให้จิตนิ่งหรือไปสู่ความว่างเปล่า การภาวนาพระธรรมของพระเจ้า เป็นการใคร่ครวญ พึมพำ หรือท่องจำพระวจนะของพระเจ้า โคโลสี 3.16 กล่าวว่า เป็นการสะสมหรือบรรจุพระวาทะของพระคริสต์เข้าไปอยู่ในตัวของเราให้เต็ม "
จงให้พระวาทะของพระคริสต์ดำรงอยู่ในตัวท่านอย่างบริบูรณ์ จงสั่งสอนและเตือนสติกันด้วยปัญญาทั้งสิ้น จงร้องเพลงสดุดีเพลงนมัสการ และเพลงสรรเสริญด้วยใจโมทนาขอบพระคุณพระเจ้า" โดยมีจุดประสงค์เพื่อ ให้ความคิดและจิตใจแบบพระเจ้าเข้ามาแทนที่ ความคิดและจิตใจแบบเก่าของเรา ความรู้แบบโลก ความคิดและเหตุผลแบบเนื้อหนัง เหตุผลจอมปลอมต่างๆ (ป้อม -2 คร.10.3-5) ก็จะค่อยๆ ถูกทำลายไป เริ่มเปลี่ยนไปตามพระฉายของพระเจ้า ซึ่งจะทำให้เรามีปัญญา รู้ว่าอะไรดี อะไรเป็นที่ชอบพระทัย และอะไรดียอดเยี่ยม (รม.12.1-2)แต่การวิปัสสนา เป็นความพยายามที่จะทำให้จิตนิ่ง โดยการกำหนดลมหายใจ ท่องพึมพำคำที่ไร้สาระสั้นๆ บางคำ เพื่อให้เป็นจุดรวมของสมาธิ เพื่อหยุดยั้งการคิด การใคร่ครวญหาเหตุผล และการเกิดความรู้สึกต่างๆ ซึ่งจริงๆ แล้วเชื่อว่าไม่ใช่การทำให้จิตว่างเปล่าได้ แค่เป็นการทำให้ "เสียง" ของความคิดและเหตุผลเงียบไปเท่านั้น ในสภาพนั้นเอง จินตนาการ(ส่วนหนึ่งของความคิด) จะเริ่มทำงานได้ดีและติดต่อเชื่อมโยงกับ "โลกฝ่ายวิญญาณ" ได้ง่ายขึ้น
แต่ในโลกฝ่ายวิญญาณนั้น ไม่ได้มีแต่พระเจ้า... มันยังมีวิญญาณซาตาน และวิญญาณชั่วต่างๆ ลอยล่องอยู่มากมาย
พระเยซูตรัสว่า บ้านที่ปัดกวาดไว้แล้ว ไม่มีผู้อยู่อาศัย จะกลายเป็นเหตุให้ผีอีกเจ็ดผีเข้ามาอาศัยอยู่ได้
ลัทธิทีเอ็ม (Transcendamental Meditation) ซึ่งเน้นการนั่งสมาธิและทำวิปัสสนานั้น มีสถิติสาวกเกิดจิตหลอนเพราะมายาภาพ จนถึงกับคุ้มคลั่งและฆ่าตัวตายมากเพราะเหตุผลเหล่านี้เอง
พระเจ้า เจ้าของจิตและวิญญาณของเรา พระองค์ทรงทราบโครงร่างและองค์ประกอบของเราเป็นอย่างดี พระองค์ได้ออกแบบวิธีที่จะจัดการและพัฒนาจิตใจของเราไว้แล้วโดยการภาวนาพระธรรมของพระเจ้า เราจึงไม่ควรเข้าไปเกี่ยวข้องกับปฏิบัติของคนต่างศาสนา และไม่จำเป็นต้องไปยืมคำศัพท์ของเขามาใช้เพื่อความกลมกลืนใดๆ เพราะนอกจากจะไม่เสริมสร้างให้เราเจริญขึ้นในทางของพระเจ้าแล้ว ยังอาจทำให้ผู้เล็กน้อยสับสนและนำไปสู่หายนะฝ่ายวิญญาณได้
ประพันธ์ หน่อราช
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
You may post your comments here.
หากท่านมีข้อคิดเห็นเพิ่มเติมหรือเสนอแนะเชิญออกความเห็นได้
(กรุณาใช้ข้อความสุภาพ และสร้างสรรค์)