ความเห็นเกี่ยวกับการเจิม การได้รับสิทธิอำนาจ
ในทัศนะของผม ซึ่งเป็นคนหนึ่งที่ ผมขอบอกตรงๆ ว่า ผมเชื่อการเจิมครับ
เวลาผมไปอธิษฐานที่ไหน ผมคาดหวังการอัศจรรย์การหายโรค และการขับผีมาตลอด และผมไม่กลัวที่จะมีโอกาสได้รับเชิญให้ไปขับผี ไม่ว่าจะเป็นวิญญาณระดับไหนก็ตามครับ หากมันมาสิงสู่คน มันคือผีร้ายวิญญาณชั่ว และเมื่อเราไปขับไล่ อธิษฐานในพระนามพระเยซูมันมีทางเลือกทางเดียวเท่านั้น คือต้องออกอย่างเดียว อยู่ไม่ได้ครับ และเราไม่มีการต่อรอง หรือให้สินบน หรือให้ของกินแก่วิญญาณใดๆ ที่มาสิงสู่คน
ในทัศนะของผม ซึ่งเป็นคนหนึ่งที่ ผมขอบอกตรงๆ ว่า ผมเชื่อการเจิมครับ
เวลาผมไปอธิษฐานที่ไหน ผมคาดหวังการอัศจรรย์การหายโรค และการขับผีมาตลอด และผมไม่กลัวที่จะมีโอกาสได้รับเชิญให้ไปขับผี ไม่ว่าจะเป็นวิญญาณระดับไหนก็ตามครับ หากมันมาสิงสู่คน มันคือผีร้ายวิญญาณชั่ว และเมื่อเราไปขับไล่ อธิษฐานในพระนามพระเยซูมันมีทางเลือกทางเดียวเท่านั้น คือต้องออกอย่างเดียว อยู่ไม่ได้ครับ และเราไม่มีการต่อรอง หรือให้สินบน หรือให้ของกินแก่วิญญาณใดๆ ที่มาสิงสู่คน
ผมเชื่อว่าฤทธิ์อำนาจมีอยู่ การเจิมมีอยู่ในผู้เชื่อแท้ การขับผีไม่ใช่ของประทานครับ แต่เป็นสิทธิอำนาจของผู้เชื่อ และผมก็เขียนบทความเกี่ยวกับการเจิมมาตลอด ใครที่เคยอ่านบทความของผมแล้ว อาจเกิดความคิดหลายอย่างคือ คือไม่ขาวก็ดำครับ หรือสงสัยอย่างแรง หรือเกลียดอย่างแรง และไม่กลับมาอ่านอีกเลย คือมันจะบอกได้เลยว่าใครเชื่ออย่างไร มันก็จะเป็นไปอย่างนั้นครับ
สำหรับนักเทศน์ที่ไร้การเจิม เขาจะไม่สนใจการเจิมครับ เพราะเขาจะพึ่งพาสมองความรู้ทางศาสนศาสตร์เป็นหลัก การเทศนาจะใช้หลักข้อเชื่อและความรู้เป็นหลักมากกว่า การใช้การดลใจจากถ้อยคำของพระเจ้าและการเจิม แต่ถ้าถามว่า พระเจ้าใช้คนไม่มีการเจิมไหม พระเจ้าทรงใช้ทุกอย่างตามชอบใจของพระองค์ แม้แต่ผีร้ายวิญญาณชั่ว พระเจ้าก็ใช่ได้
สิ่งเหล่านี้มีในพระคัมภีร์มากมายอยู่แล้ว
ก่อนปิดท้าย ต้องบอกไว้ก่อนว่า การเจิมนี้ไม่ได้มาจากตัวตนของคน หรือความดี ความงดงาม ความอะไรๆ ก็แล้วแต่ของคนครับ แต่คนได้รับการเจิม เพราะความเมตตาของพระเจ้าครับ
ผมจึงกล้าท้าทายผู้ป่วย โรคร้าย โรคเรื้อรัง มาตลอดว่า ใครที่ป่วยไม่หาย หมอเอาไม่อยู่ให้ลองมาพระเยซู แต่พระเยซู คงไม่ลอยมาทำการอัศจรรย์ให้ใครๆ ง่ายๆ หรอกครับ แต่พระองค์ได้สังให้คนที่มีความเชื่อทำ และผมก็เป็นคนหนึ่งที่มีความเชื่อ คือผมเชื่อว่า มีผู้เชื่อ(แท้) ที่ไหน หมายสำคัญจะเกิดขึ้นที่นั่นครับ
การเป็นผู้เชื่อในพระเจ้า คือสิทธิพิเศษ ผู้เชื่อจะได้รับสิ่งนั้น ส่วนใครจะเป็นของแท้ หรือของเทียมนี่ผมไม่กล้าตัดสินครับ ผมทราบแต่เพียงว่า ของแท้ย่อมดีกว่าของเทียม
ถึงมันมีรูปร่าง หรือ Form ของทั้งสองสิ่งจะมองดูข้างนอกคล้ายๆ กัน หรือมีราคาใกล้เคียงกัน ของแท้ย่อมดีกว่าแน่ๆ ครับ และถ้าเป็นยา ถ้ายาเป็นของแท้ เมื่อกินแล้วจะมีผลดีต่อสุขภาพ มีคุณภาพรักษาตามสรรพคุณของยา
ผมเข้าใจว่า คนโง่เท่านั้นที่ไปซื้อยาเก๊มากิน แต่น่าเสียดายครับ คนไปซื้อยาเพื่อให้ตัวเองหายป่วยจากโรคบางอย่าง อาจไม่รู้ซองว่าซองไหนเป็นของแท้ หรือของเทียม เพราะดูรูปแบบ Format ดูหีบห่อ มันคล้ายๆ กัน หรือเหมือนแป๊ะเลย
ผู้ซื้อยาปลอมจึง เผลอตัวโดนหลอกให้เสพยาเก๊ บางครั้ง คนบางคน เวลาซื้อของจะดูแต่รูปร่าง ของแพ็กเก็ตมากกว่า การพิจารณา ปริมาณและคุณภาพ ต่อหน่วยราคา
คณะนิกาย กลุ่มความเชื่อ คือซองยาเท่านั้นครับ พิธีกรรมคือหีบห่อ คงไม่มีคนฉลาดคนไหน อยากเสียเงินซื้อยามากินแต่แกะกินหีบห่อข้างนอกของยาหรอกครับ
พระเยซูคือแสงสว่างของโลก เป็นอาหารแท้ของชีวิต คนที่ฉลาดจึงเลือกพิจารณาดูสิ่งที่อยู่ภายในมากกว่า สิ่งที่ห่อหุ้มอยู่ภายนอก
Luke 10:19
Luke 10:19 ดูเถิด เราได้ให้พวกท่านมีอำนาจเหยียบงูร้ายและแมลงป่อง และมีอำนาจใหญ่ยิ่งกว่ากำลังศัตรู ไม่มีสิ่งหนึ่งสิ่งใดจะทำอันตรายแก่ท่านได้เลย
Luk 10:20 แต่ว่าอย่าเปรมปรีดิ์ในสิ่งนี้ คือที่พวกผีอยู่ใต้บังคับของท่าน แต่จงเปรมปรีดิ์เพราะชื่อของท่านจดไว้ในสวรรค์"
Luk 10:21 ในโมงนั้นเอง พระเยซูทรงมีความเปรมปรีดิ์ในพระวิญญาณ จึงตรัสว่า "โอ ข้าแต่พระบิดา ผู้เป็นเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก ข้าพระองค์ขอบพระคุณพระองค์ที่พระองค์ได้ทรงปิดบังสิ่งเหล่านี้ไว้จากคนมีปัญญาและคนสุขุมรอบคอบ และได้ทรงเปิดเผยสิ่งเหล่านี้แก่ทารกน้อย ข้าแต่พระบิดา ที่เป็นอย่างนั้นก็เพราะเป็นที่ชอบพระทัยในสายพระเนตรของพระองค์
Luk 10:22 พระบิดาของเราได้ทรงมอบสิ่งสารพัดให้แก่เรา และไม่มีใครรู้ว่าพระบุตรเป็นผู้ใดนอกจากพระบิดา และไม่มีใครรู้ว่าพระบิดาเป็นผู้ใดนอกจากพระบุตร และผู้ที่พระบุตรประสงค์จะสำแดงให้รู้"
Luk 10:23 พระองค์ทรงเหลียวหลังไปทางเหล่าสาวกตรัสเฉพาะแก่พวกเขาว่า "นัยน์ตาทั้งหลายที่ได้เห็นการณ์ซึ่งพวกท่านได้เห็นก็เป็นสุข
Luk 10:24 เพราะเราบอกท่านทั้งหลายว่า ศาสดาพยากรณ์หลายคน และกษัตริย์หลายองค์ ปรารถนาจะเห็นซึ่งท่านทั้งหลายเห็นอยู่นี้ แต่เขามิเคยได้เห็น และอยากจะได้ยินซึ่งท่านทั้งหลายได้ยิน แต่เขามิเคยได้ยิน"
อาจารย์รีวัฒน์ครับ เมื่อหลายปีก่อนผมได้ดูรายการเจาะใจ มีแอร์โฮสเตสไทยประสพอุบัติเหตุทางรถยนต์ กระดูกต้นคอหัก เป็นอัมพาตจากคอจนถึงเท้า แต่เธอยังออกปากสรรเสริญพระเจ้าตลอด เธอชื่อ สุภัทรา ตันอธิคม ไม่เห็นมีพี่น้องคริสเตียนไปช่วยเธอให้หายเลย เคยคุยกับคนในคริสตจักรอื่นเขาก็ตอบว่าอยู่ คริสตจักรไหนก็ให้ คจ.นั้นช่วย ผมหวนนึกถึงครั้งใด ก็สงสารจับใจ ไม่รู้ว่าอาจารย์เคยได้ข่าวบ้างไหมครับ เคยมีคริสเตียนร่วมใจกันอดอาหารอธิษฐานเพื่อพี่น้องของเราคนนี้บ้างไหมครับ อยากให้อาจารย์ระลึกถึงเธอบ้าง
ตอบลบติดต่อคุณสุภัทราพร ตันอธิคม 087 348 4439
ลบขออภัยครับ ค้นทางอินเทอร์เนต ชื่อที่ถูกต้องคือ สุภัทราพร ตันอธิคม
ตอบลบขอบคุณพระเจ้าที่ทรงประทานอนุญาติให้น้องยังมีชิวิตจิตวิญญาณและลมหายใจอยู่ค่ะ ชีวิตของเธอจะเป็นคำพยานและพระพรที่ยิ่งใหญ่เพื่อถวายเกียรติ์แด่พระเจ้าค่ะ เพราะในพระคำภีร์ได้ตรัสไว้ว่าชีวิตสำคัญที่สุดค่ะ ขอพระเจ้าอวยพรค่ะ
ตอบลบ