เมื่อสองสามวันที่ผ่านมา ( มิ.ย. 12) ขณะพักผ่อนอยู่ที่บ้าน มีผู้หญิงสาวคนหนึ่งอ้างตัวเป็นนักศึกษา จากเชียงใหม่ แวะเข้ามาที่บ้านของผม ซึ่งเป็นบ้านตึกแถว ขณะนั้นมีพี่น้องจาก กทม มาเยี่ยมผมที่บ้านสามคน เรากำลังนั่งคุยกัน น้องสาวคนนี้ทราบชื่อภายหลังว่า ชื่อ คุณธนพร ได้เข้ามาเร่ขายปากกา เพื่อรวบรวมเอาเงินไปเป็นทุนในการจัดค่ายอาสา เธอจะขายราคาด้ามละ ๖๐ บาท ซึ่งดูแล้วก็เป็นราคาที่แพงน่าดู สำหรับปากกาธรรมดาราคาแค่ไม่ถึงสิบบาท แต่เอามาขายตั้งหกสิบ เพื่อหาทุนไปทำการกุศลในการออกค่ายอาสาฯ
ตอนแรกผมก็ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องดีขึ้น ผมจึงบอกศิษย์ที่มาเยี่ยมผมว่า ให้ช่วยซื้อเขาไปสักหนึ่งด้าม ขณะที่กำลังจะจ่ายตังค์ ศิษย์คนหนึ่งคือคุณน้ำได้เอ่ยปากบอกว่า หนูค่ะเมื่อกี้หนูขอเวลาพี่่เพื่อจะบอกบุญ ตอนนี้ พี่ก็จะขออนุญาตบอกบุญให้น้องหน่อยเหมือนกัน พี่ขอเวลาน้องสักห้านาทีได้ไหม คุณพรบอกว่า ได้ค่ะ
คุณน้ำก็คุยๆ เรื่องพระเจ้า โดยมีคุณเปรมสิริ และคุณพรสิริคอยเสริม และผมก็ฉายวีดีโอขับผีให้น้องดู คุณน้ำก็เป็นพยานง่ายๆ ว่า ชีวิตคนเราต้องมีเป้าหมาย ชีวิตของน้องมีเป้าหมายหรือเปล่า น้องทราบไหมว่า หากคนเราเสียชีวิตไปแล้วจะไปที่ไหน มีใครรับรองได้ไหมว่า เราจะได้ไปอยู่สวรรค์ น้องเคยได้ยินเรื่องพระเยซูเจ้าหรือเปล่า น้องธนพรบอกว่า เคยได้ยินเรื่องพระเยซูมาเหมือนกัน แต่ยังไม่ได้เข้าเป็นผู้เชื่อในศาสนาคริสต์ เราก็ช่วยกันพูดเสริมว่า พระเยซูคริสต์ไม่ใช่ศาสนาคริสต์ พระเยซูคือพระเจ้าที่มีฤทธิอำนาจเหนือวิญญาณร้าย พระองค์สามารถประทานสันติสุข อนาคตและความหวังใจทั้งในชีวิตนี้และชีวิตในโลกหลังความตาย
เราก็ถามน้องพรเขาว่า น้องพรคิดอย่างไรกับเรื่องความเชื่อเรื่องพระเจ้า น้องพรเขาก็บอกว่า "ก็น่าเชื่อถือนะเพราะอย่างน้อยคริสเตียนก็เชื่อว่าโลกนี้มีพระเจ้าสร้าง คริสเตียนมีความหวัง พวกเขาดูเป็นคนมีความสุข และเขาก็รู้ว่ามนุษย์มาจากไหน ซึ่งศาสนาพุทธไม่ได้ให้คำตอบเรื่องความเป็นมาของโลก และชีวิตมนุษย์ได้ชัดเจนนัก หนูก็คิดว่าโลกนี้อาจจะมีพระเจ้าที่แท้จริงอยู่ แต่หนูจะรับพระเจ้าได้อย่างไร"
พวกเราหลายคนก็ช่วยกันเป็นพยานพูดไปพูดมา บอกว่าพระเจ้าคือพระผู้สร้าง พระองค์คือพระเจ้าที่แท้จริง พระเยซูบอกว่า เราคือทางนั้น เป็นความจริง และเป็นชีวิต ไม่มีใครไปถึงพระเจ้าได้ยกเว้นมาทางพระองค์ และพระเยซูเจ้าไม่ใช่พระเจ้าที่ตายแล้วเหลือเศษซากไว้ให้คนคิดถึง หรือเคารพบูชา แต่พระองค์ยังเป็นอยู่ พระองค์สามารถตอบคำอธิษฐานได้ เราจึงขอเชิญชวนให้คุณธนพร ลองเชื่อพระเจ้าดู
คุณน้ำก็เชิญชวนให้คุณธนพรเชื่อพระเจ้า ลองเปิดใจต้อนรับพระเจ้า น้องธนพรลังเลนิดหน่อยในตอนแรก แต่หลังจากได้ฟังคำพยาน และได้ดูวีดีโอ คุณธนพรจึงยอมเปิดใจต้อนรับพระเจ้า ตอนแรกผมก็ยังคิดว่า คุณพรเขาจะเอาจริงหรือเปล่า เพราะมันเร็วมาก แต่ขณะที่เราอธิษฐานนำเธอรับเชื่อ เธอมีน้ำตาไหล ออกมาจากตา และเธอบอกว่ารู้สึกมีสันติสุข
หลังจากนำคุณพรรับเชื่อแล้ว ผมจึงอธิษฐานวางมือเธออีกครั้งเพื่อ ตัดสัมพันธ์กับ "สิ่งเก่าๆ" ที่ติดตามเธอ คุณพรบอกว่า "โล่ง สบาย"
พี่น้องครับการนำคนมาเชื่อพระเจ้า เพื่อรับความรอด ได้หลุดพ้นจากวิญญาณเก่าๆ ความบาป ความชั่วร้ายและคำแช่งสาป มันไม่ยากเย็นเข็ญใจอะไรมากนัก ถ้าเรามีพระเจ้าอยู่ด้วย ผมอยากหนุนใจขอให้ท่านทั้งหลายจงเชื่อว่า เมื่อพระเจ้าอยู่ด้วย ท่านทั้งหลายก็จะมีสิทธิอำนาจในการเป็นพยาน การวางมือรักษาคนป่วย และท่านสามารถเรียกผีให้ออกจากคนปกติได้ แหละสิ่งนี้เราเรียกว่า การขับผีในพระนามพระเยซู
พระธรรมวิวรณ์บทที่ 3:19-20 ได้กล่าวว่า
พระองค์ผู้ทรงเป็นพระเจ้าผู้ทรงสร้างได้ตรัสไว้ดังนี้ ....
"เรารักผู้ใดเราก็ตักเตือนและตีสอนผู้นั้น เหตุฉะนั้นจงมีความกระตือรือร้น และกลับใจเสียใหม่ นี่แน่ะเรายืนเคาะอยู่ที่ประตู ถ้าผู้ใดได้ยินเสียงของเราและเปิดประตู เราจะเข้าไปหาผู้นั้นและจะรับประทานอาหารร่วมกับเขา และเขาจะรับประทานอาหารร่วมกับเรา"
ถ้าหากใครเปิดใจต่อพระเจ้า เขาจะได้รับสิทธิพิเศษ ให้เป็นคนบริสุทธิ์ด้วยความเชื่อ และได้รับสิทธิให้เป็นเหมือนลูกชาย ลูกสาวของพระเจ้า มีชีวิตที่มีชัยชนะเหนือความบาป และวิญญาณร้าย
ขอพระเจ้าอวยพระพร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
You may post your comments here.
หากท่านมีข้อคิดเห็นเพิ่มเติมหรือเสนอแนะเชิญออกความเห็นได้
(กรุณาใช้ข้อความสุภาพ และสร้างสรรค์)