คำเทศนาเรื่องคำเชิญชวนที่ยิ่งใหญ่- A Sermon

คำเชิญชวนที่ยิ่งใหญ่

๑๗ ก.พ. ๐๘ ณ คจ. เชียงแสน โดย RW MU.

ข้อพระคัมภีร์สำคัญ มัทธิว ๑๑:๒๕-๓๐
มัทธิว ๑๑:๒๕ ขณะนั้นพระเยซูทูลว่า “ ข้าแต่พระบิดา ผู้เป็นเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์และโลก ข้าพระองค์สรรเสริญพระองค์ ที่พระองค์ได้ทรงปิดบังสิ่งเหล่านี้ไว้จากผู้มีปัญญาและผู้ฉลาด แต่สำแดงให้ผู้น้อยได้รู้ ๒๖. ข้าแต่พระบิดา พระองค์ทรงเห็นชอบดังนั้น ๒๗. พระบิดาของเราได้ทรงมอบสิ่งสารพัดให้แก่เรา และไม่มีใครรู้จักพระบิดานอกจากพระบุตร และผู้ที่พระบุตรประสงค์จะสำแดงให้รู้
๒๘. บรรดาผู้ทำงานเหน็ดเหนื่อย และแบกภาระหนัก จงมาหาเรา และเราจะให้ท่านทั้งหลายหายเหนื่อยเป็นสุข ๒๙ จงเอาแอกของเราแบกไว้ แล้วเรียนจากเรา เพราะว่าเราสุภาพและใจอ่อนน้อม และจิตใจท่านทั้งหลายจะได้พัก ๓๐ ด้วยว่าแอกของเราก็พอเหมาะและภาระของเราก็เบา

ชื่อเรื่อง คำเชิญชวนที่ยิ่งใหญ่

ข้อพระธรรมสำคัญ

จุดประสงค์
๑) เพื่อสร้างชี้ให้ประชากรของพระเจ้ารับคำเชิญชวนของพระเยซูและดำเนินชีวิตอย่างมีเป้าหมาย ตามที่พระเจ้าทรงเรียก
๒) เพื่อเร่งและหนุนใจให้สมาชิกทุกคน อุทิศตัวเพื่อแผ่นดินของพระเจ้า

คำนำ
เมื่อปี ๔๗ ผมได้รับคำเชิญชวนที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตครั้งหนึ่ง คือ เลขาของคุณหญิงกษมา สำนักปลัดกระทรวงศึกษาได้โทรศัพท์ชวนให้ผมไปร่วมประชุมทำแผนภาษาอังกฤษระดับชาติ นับเป็นความภาคภูมิใจอย่างเหลือล้น ต่อผม
แม่ชีเทเรซาห์ เป็นผู้หนึ่งที่เป็นคนธรรมดา ได้รับเชิญไปพบประธานาธิปดีสหรัฐ แม่ชีเป็นคนธรรมดาสามัญคนหนึ่ง เมื่อได้รับเชิญไปพบที่ทำเนียบขาวย่อมไม่ใช่เรื่องธรรมดาแน่ๆ
คำเชิญชวนย่อมเป็น สิ่งที่ยิ่งใหญ่ ถ้าหาก คนที่เชิญเราเป็น คนที่มีฐานะสูง และ มีอำนาจ การเชิญชวนของเขาย่อมเป็นสิ่งที่ พิเศษ สำหรับเราทุกคน
ข้อพระธรรมตอนแรก คือ พระองค์ได้ทรงปิดบังสิ่งเหล่านี้ไว้จากผู้มีปัญญาและผู้ฉลาด แต่สำแดงให้ผู้น้อยได้รู้ อะไรคือ สิ่งที่พระเจ้าได้ปิดบังไว้จากผู้มีปัญญา และ คนฉลาด
ในคราวก่อน ข้าพเจ้าได้นำเสนอจากพระคัมภีร์ มัทธิว บทที่ ๑๓ ข้อ ๔๔ ที่ว่าแผ่นดินของพระเจ้าเปรียบเหมือนขุมทรัพย์ที่ซ่อนอยู่ คิดว่าพวกเราหลายคนอาจจะจำได้ ขุมทรัพย์นี้ ซ่อนอยู่ในที่ที่เปิดโลงที่เดียว แต่ก็มีเพียงคนที่ไปขายสิ่งของทั้งสิ้นที่เรามีอยู่ ไปซื้อเอานานั้น เขาจึงได้ครอบครองไป แผ่นดินของพระเจ้าเป็นสิ่งที่ลึกลับไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถหาพบได้ เพราะสิ่งที่เราไม่สามารถจะใช้ความรู้ สติปัญญา หรือ ความฉลาด หรือ เครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ใดๆ มาส่องดูให้เห็นพระเจ้าได้
แผ่นดินสวรรค์จึงเป็นสิ่งที่พระเจ้าทรงโปรดให้เรารู้โดยทางพระเยซูคริสต์
ให้เราเปิดดูใน มัทธิว บทที่ ๖ ข้อ ๔๔
ยอห์น ๖: ๔๔ ไม่มีผู้ใดมาถึงเราได้นอกจากพระบิดาจะทรงซักนำให้เขามาและเราจะให้ผู้นั้นฟื้นขึ้นมาในวันสุดท้าย
ผู้เหน็ดเหนื่อยและแบกภาระหนัก คือใคร
เมื่อผมเป็นเด็กนักเรียนมัธยม ผมต้องไปขนแกลบไปขายบ่อยๆ แกลบนี้ราคากระสอบละ 1 บาท วิธีการขนแกลบเราก็ต้องเอากระสอบป่านไปใส่ เวลาใส่นี่น่าสมเพชน่าดู เพราะเราต้องใช้ 3 ส่วนในการยัดแกลบใส่เข้าไปในกระสอบ คือ มือ 2 ข้าง และ ปากงับ แล้วก็ดันปากกระสอบไปที่กองแกลบ แล้วเราก็ต้องแบกใส่รถเข็น ไปส่งที่โรงก๋วยเตี๋ยวให้ได้เที่ยวละประมาณ 8-12 กระสอบ เขารับซื้อกระสอบละ 1 บาท ผมทำอย่างนี้อยู่หลายปีจนจบ ม. 3 ผมก็ออกจากบ้านไปเรียนโรงเรียนฝึกอาชีพที่เชียงราย ชื่อ โรงเรียนฝึกฝนอาชีพไทย-เยอรมัน สิ่งที่ผมประสบนี้ถือว่าเป็นภาระอย่างหนึ่งในชีวิต คนทุกคนก็ต้องเคยประสบกับการทำงานที่ยากลำบากในชีวิตกันทุกคน ยกเว้นลูกผมสามคนที่ ไม่ต้องทำงานอะไรมาก เออไม่ใช่ เขาอาจไม่ได้ทำงานหนัก แต่ภาระในชีวิตของคนเราก็อาจจะต่างกันไป วันนี้ได้นำพระวจนะที่พระเยซูตรัสสอน เกี่ยวกับการจัดการกับภาระในชีวิตและ เราจะได้รู้ถึงพระประสงค์ของพระเจ้าในชีวิตของเราแต่ละคนเพิ่มขึ้น ให้เราอ่านพระธรรม มัทธิว บทที่ ๑๑ ข้อที่ ๒๕ ถึง ๓๐

ผู้เหน็ดเหนื่อย คือ คนที่มีภาระต่างๆ ในชีวิตที่ต้องแบก หรือ ครอบงำ ภาระต่างๆ นี้ได้แก่
- การหาเลี้ยงชีพ ภาวะทางการเงิน ค่าครองชีพ ค่าใช้จ่ายต่างๆ ในครอบครัว
- ฐานะทางสังคม ความมั่นคงในอาชีพ (ตกงาน) การแข่งขัน ทางสังคม(หน้าตา)
- ความบกพร่องทางร่างกาย ความเจ็บป่วย ความพิการ
- สิ่งใดที่ทำให้หนักใจ นอนไม่หลับ กังวล เป็นห่วง
- สิ่งใดที่ทำให้จิตใจ เหนื่อยอ่อน อ่อนล้า เกินความสามารถที่เราจะจัดการได้
- ความผิดบาป นิสัยที่ทำให้เสื่อม (บุหรี่ ติดเหล้า สารเสพติด, การเสพติดรูปภาพโป๊ ทางอินเตอร์เน็ต การติดตามการงานที่ไร้ค่า
- ธรรมเนียมต่างๆ ของมนุษย์ การถือฤกษ์ยาม การพิธีกรรมต่างๆ การไหว้รูปเคารพ และเทศกาลต่างๆ การงานพิธีต่างๆ ที่เราเห็น คนไม่เชื่อพระเจ้าเมื่อมีคนตาย เขาทำสิ่งต่างๆ พิธีกรรมต่างๆ มากมายเพื่อให้เขาอุ่นใจว่า คนตายได้ไปอยู่ที่ดีๆ ซึ่งเขาเองก็ไม่รู้ว่าเป็นอย่างไร
- คำสอนต่างๆที่ตกทอดมา ความประพฤติต่างๆ ที่ติดตัวเรามา จากพ่อแม่ของเรา ซึ่ง ภาษากฎหมายเขาเรียกว่า ผู้สืบสันดาน นัย ของพระคำตอนนี้เป็นอย่างไร ข้าพเจ้าใคร่เชิญชวนให้เรามาพิจารณาร่วมกัน
ประการที่ ๑ ทรงเชิญชวนว่า “จงมาหาเราเราจะให้หายเหนื่อยและเป็นสุข”
พระเยซูทรงรู้ว่า มนุษย์นั้นมีความต้องการสิ่งใด และสิ่งใดมีอยู่มนุษย์ สิ่งนี้เป็นนัยยะของพระเจ้า คือว่า
เมื่อเราถูกเรียกให้ออกมาจากความมืดมาเข้าสู่ความสว่างของพระเจ้า ได้รู้จักความจริงของพระเจ้า เราจะได้รับการบำบัดรักษา และ ได้รับการปลดปล่อย แต่บางครั้ง เราพบว่า ทำไมเรายังมีสิ่งที่ต้องแบกอยู่เสมอ อย่าตกใจไปเลย พระเจ้ายังต้องการจะฝึกฝนท่านบางอย่างเพื่อพันธกิจที่ยากกว่าเดิม
ตัวอย่าง การฝึกทหารหน่วยพิเศษ การฝึกนักมวย การฝึกนักวิ่ง การฝึกของนักกีฬาต่างๆ
สิ่งที่พระองค์ประทานนั้น เป็นอย่างไร
อิสยาห์ ๕๕ ข้อ ๑-๕
- ไม่ต้องซื้อ คือผู้ที่ไม่มีเงิน ก็มาซื้อกินได้ คือ ต้องเอาชีวิตของเราทั้งชีวิตมาแลกเอาของนี้
- ไม่ต้องเสียค่า แต่ว่า ถึงมีเงินก็ซื้อเอาไม่ได้ เพราะไม่มีขายทั่วไป
- เป็นสิ่งที่ให้วิญญาณมีชีวิตตลอดไป (ชีวิตนิรันดร์)
พระเจ้าทรงเรียกเราให้เป็น
โคโลสี ๑ ข้อ ๑๓-๑๔ พระองค์ได้ทรงช่วยเราให้พ้นจากอำนาจของความมืด และได้ทรงย้ายเรามาตั้งไว้ในแผ่นดินแห่งพระบุตรที่รักของพระองค์ ๑๔ ในพระบุตรนั้นเราจึงได้รับการไถ่ ซึ่งเป็นการทรงโปรดยกบาปทั้งหลายของเรา
- ประชากรของพระเจ้า
- พ้นจากอำนาจของความืด
- ย้ายมาตั้งอยู่ในแผ่นดินของพระเจ้า
- เป็นบุตรที่รัก
- ได้รับการไถ่ ยกบาปทั้งหลาย ของเรา
ยอห์น ๘: ๓๒ และท่านทั้งหลายจะรู้จักสัจจะ และสัจจะจะทำให้ท่านทั้งหลายเป็นไทย

ประการที่ ๒ ทรงเชิญชวนให้เราเรียนรู้จากพระองค์
ข้อ ๒๙ จงเอาแอกของเราแบกไว้ แล้วเรียนจากเรา เพราะว่าเราสุภาพและใจอ่อนน้อม และจิตใจท่านทั้งหลายจะได้พัก
เมื่อพระเจ้าเรียกเรามาแล้ว พระเจ้ามีความประสงค์ที่จะให้เราได้เรียนรู้ที่จะเติบโตขึ้น
บางคนอาจสงสัยว่า ให้หายเหนื่อยและเป็นสุข ทำไมต้องเอาอะไรมาใส่ที่บ่าอีก
พระเจ้ามีพระประสงค์ที่จะให้เรา เป็นผู้ส่งผ่านความสุขนี้ไปให้คนอื่นๆ ต่อไป ดังนั้นเราจะต้องเรียนรู้ และ ต้องฝึกฝนตนเอง ก่อนที่เราจะออกไป เราต้องมีการฝึก และเรียนรู้
อิสยาห์ บทที่ ๕๕ ข้อที่ ๔ ดูเถิดเรากระทำให้ท่านเป็นพยานต่อประชาชาติทั้งหลายเป็นหัวหน้าและเป็นผู้บัญชาการเพื่อชนชาติทั้งปวง
๕. ดูเถิด เจ้าจะร้องเรียกประชาชาติซึ่งไม่รู้จัก และประชาชาติซึ่งไม่รู้จักเจ้าจะวิ่งมาหาเจ้า เหตุด้วยพระเจ้าของเจ้า และเพราะองค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอล เพราะพระองค์ทรงให้เจ้าได้รับเกียรติ
พันธกิจของเราคือ ว่า เราต้องเรียนรู้ และ มีหน้าที่เป็นพยานถึง ความจริงที่เปิดเผยแล้วในพระเยซูคริสต์

ประการที่ ๓ ทรงเชิญชวนให้เราเป็นผู้สื่อสารของพระเจ้า
๑ เปโตร ๒:๙ แต่ท่านทั้งหลายเป็นชาติที่พระองค์ทรงเลือกไว้แล้ว เป็นพวกปุโรหิตหลวง เป็นประชาชาติบริสุทธิ์ เป็นชนชาติของพระเจ้าโดยเฉพาะ เพื่อให้ท่านทั้งหลายประกาศพระบารมีของพระองค์ ผู้ได้ทรงเรียกท่านทั้งหลายออกมาจากความมืด เข้าไปสู่ความสว่างอันมหัศจรรย์ของพระองค์
วิวรณ์ ๑๐ : ๑๑ และมีผู้บอกข้าพเจ้าว่า “เจ้าต้องพยากร์อีก เกี่ยวกับชนชาติทั้งหลาย บรรดาประชาชาติ ภาษา และ กษัตริย์ Then some voices said, "Keep on telling what will happen to the people of many nations, races, and languages, and also to kings."
ฮีบรู ๔:๑ เหตุฉะนั้นเมื่อพระสัญญายังมีอยู่ว่า จะให้เราเข้าสู่การพำนัก ซึ่งพระองค์ทรงประทานก็ให้เราทั้งหลายระมัดระวังอยู่เสมอ มิฉะนั้นจะมีบางคนในพวกท่านไปไม่ถึง ๒. เพราะว่าแท้ที่จริง เราได้รับข่าวอันประเสริฐเช่นเดียวกับเขา แต่ว่าเขาไม่ได้รับประโยชน์จากข่าวอันประเสริฐ เพราะเขาไม่เชื่อ
Jonas Salk คนยิวที่เป็นผู้ค้นคว้า โดยใช้เวลา ถึง 8 ปี และได้ค้นพบวิธีผลิตวัคซีน ป้องกันโรคโปริโอ ในปี 1955 เขาได้ช่วยชีวิตคนจำนวนหลายล้านคนทั่วโลก โดยไม่คิดที่จะจดทะเบียนลิขสิทธิ์ ทรัพย์สินทางปัญญา แด่ได้อุทิศตัวเพื่อการหายป่วยไข้ของชาวโลก การที่โจนาส จะทำสำเร็จได้คงไม่ใช่เรื่องง่าย เวลา เวลาในการทดลอง ลองผิด ลองถูกถึง 8 ปี จึงสำเร็จ บางครั้งเราอยากจะเห็นผลในงานของพระเจ้าไวๆ แต่ตัวเราก็ยังล้มเหลว และ ไม่ก้าวหน้าไปถึงไหน แต่อย่าเพิ่งท้อถอยเลย ข้าพเจ้าใคร่ขอเชิญชวนผู้ฟังทุกคน ทำเช่นเดียวกัน คือ รับคำเชิญชวนของพระเยซู มอบตัว มอบใจ ถวายแด่พระเจ้า เป็นเครื่องบูชาอันมีชีวิตอยู่ (โรม ๑๒:๑-๒๗ เพื่อรับชีวิตใหม่อย่างแท้จริง ยอมให้พระวจนะของพระเจ้าเปลี่ยนแปลงภายในสู่ภายนอก รับแอกแห่งความรักของพระเยซูแบกไว้ เดิมตามพระเยซู ร่วมเรียนรู้ไปกับพี่น้องคริสเตียนในคริสตจักรทุกคน ให้เราเป็นผู้ที่พระเจ้าทรงใช้ได้ ถือพระแสงแห่งพระวิญญาณ คือพระวจนะของพระเจ้า ให้ที่ทำงานของเราเป็นที่ประกาศ การทรงไถ่ บอกเล่าเรื่องราวการยกบาปของพระเยซู บอกสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อคนทุกประเภทถึงเหตุผลที่เขาจะต้องกลับใจใหม่ ความสุขความยินดีในแผ่นดินของพระเจ้า และมีความรอดเหมือนที่พวกเราได้รับแล้ว ถึงแม้ภาระ และพันธกิจที่ทำตามพระบัญญชาจะยาก และน่าเหนื่อยแต่พระเยซูบอกว่า... “จงเอาแอกของเราแบกไว้ แล้วเรียนจากเรา เพราะว่าเราสุภาพและใจอ่อนน้อม เราจะให้ท่านทั้งหลายหายเหนื่อยเป็นสุข และจิตใจท่านทั้งหลายจะได้พัก” ข้าพเจ้าขอปิดการเทศนาในวันนี้ด้วย พระธรรมตอนหนึ่งซึ่งได้กล่าวว่า (วิวรณ์ ๒๒:๑๗ ) พระวิญญาณและเจ้าสาวตรัสว่า “เชิญมาเถิด และให้ผู้ที่ได้ยินคำกล่าวว่า “ เชิญมาเถิด” และให้ผู้ที่กระหายเข้ามา ผู้ใดมีใจปรารถนา ก็ให้ผู้นั้นมารับน้ำแห่งชีวิต โดยไม่ต้องเสียอะไรเลย”
Amen

1 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ3/26/2554

    ผมจะได้รับปลดปล่อยได้ที่ใหนครับติดต่อใครได้บ้างผมมีลูกเเกะอยู่ประมาณ20คนช่วยเเนะนำผมด้วยครับLovegod2524@hotmail.com

    ตอบลบ

You may post your comments here.
หากท่านมีข้อคิดเห็นเพิ่มเติมหรือเสนอแนะเชิญออกความเห็นได้
(กรุณาใช้ข้อความสุภาพ และสร้างสรรค์)