แข่งกับเวลา

สังคมโลกของยุคปัจจุบันนี้ ที่เราเรียกกันว่า ยุคโลกาภิวัตร เป็นยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในด้านวัตถุนิยม อันเป็นสาเหตุที่ทำให้มนุษย์เราต้องวิ่งเพื่อให้ทันกับเหตุการณ์ วิ่งเพื่อให้ทันกับยุคสมัย วิ่งเพื่อให้ทันกับแฟชั่นของโลกนี้ เราเองก็มัวแต่ วิ่ง วิ่ง วิ่ง เพื่อที่จะแข่งขันกันโดยไม่มีโอกาสที่จะหยุดพักเพื่อพิจารณาดูว่า เรากำลังมุ่งไปในทิศทางใด หรือ ... มีเป้าหมายอะไรกันแน่กับชีวิตของเราที่อยู่ในโลกนี้ หรือจะมีอะไรเกิดขึ้นกับชีวิตของเราที่มีแต่การแข่งขันนี้ ร่างกายของเราอาจจะอ่อนแอลง ทำให้เจ็บป่วยได้ หรืออาจจะต้องเสียชีวิตไปในที่สุด เพราะว่าความตายฝ่ายร่างกายนั้นมนุษย์ไม่สามารถที่จะหลีกเลี่ยงได้

ตามที่พระคัมภีร์กล่าวไว้ ในพระธรรมโรม บทที่ 5 ข้อ 12 ว่า

"เหตุฉะนั้น เช่นเดียวกับที่บาปได้เข้ามาในโลกนี้ เพราะคน ๆ เดียว และความตายก็เกิดมาเพราะบาปนั้น และความตายก็ได้แผ่ไปถึงมวลมนุษย์ทุกคน เพราะมนุษย์ทุกคนทำบาป"

ท่านคงมีโอกาสไปงานศพของคนที่รู้จักกัน ซึ่งเขาอาจจะเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุอันน่าสยดสยอง หรืออาจด้วยสาเหตุอื่น ๆ หรือท่านอาจจะได้ข่าวว่าเพื่อนของท่านเป็นโรคมะเร็งร้ายแรงขณะที่อายุยังน้อย ในช่วงเวลานั้นท่านได้คิดถึงตัวของท่านเองหรือไม่ว่า "อาจเป็นเราบ้างก็ได้" และท่านคิดต่อไปอีกหรือไม่ว่าหลังจากที่ตายไปแล้วท่านจะมีอะไรอีกต่อไป หรือว่าหมดเรื่องเพียงแค่นั้น! แน่นอนความตายเป็นสิ่งที่มนุษย์ทุกคนไม่สามารถหลีกหนีให้พ้นไปได้ แต่มนุษย์ก็พยายามหาวิธีต่าง ๆ เพื่อจะวิ่งหนีให้พ้นจากความตายได้

พระคริสต์ธรรมคัมภีร์เป็นหลักคำสอนของคริสตชน กล่าวว่า

"...ค่าจ้างของความบาป คือความตาย ... เพราะว่าทุกคนทำบาปและเสื่อมจากพระสิริของพระเจ้า พระเจ้าทรงมองลงมาจากฟ้าสวรรค์ ดูลูกหลานของมนุษย์ว่าจะมีคนใดบ้างที่ฉลาด ที่เสาะแสวงหาพระเจ้า" (โรม 6:23, 3:23 ; สดุดี 14:2)

มนุษย์เรานั้นเมื่อสิ้นลมหายใจแล้ว ดวงวิญญาณก็จะออกจากร่างไปยังที่แห่งหนึ่ง ซึ่งพระเจ้าทรงจัดเตรียมไว้ เมื่อวาระสุดท้ายของโลกมาถึง พระเจ้าจะทรงเสด็จมาในฐานะผู้พิพากษาที่มีอำนาจเต็ม ดวงวิญญาณทุกดวงจะปรากฎต่อหน้าบัลลังค์ของพระเยซูคริสต์ และทุกคนต้องรับผลแห่งการทำบาป คือ บึงไฟนรก ที่นั่นเป็นที่แห่งการทนทุกข์ทรมานตลอดไปเป็นนิจนิรันดร์

ในขณะที่มนุษย์กำลังหมดหวังนั้น พระเจ้าทรงทอดพระเนตรดูมนุษย์ทุกคน เพราะพระองค์ไม่ปรารถนาที่จะเห็นมนุษย์สักคนเดียวต้องพบกับความพินาศดังที่พระคัมภีร์ได้กล่าวไว้ว่า

"เพราะว่าพระเจ้าทรงรักโลก จนได้ทรงประทานพระบุตรองค์เดียวของพระองค์ เพื่อทุกคนที่วางใจในพระบุตรนั้นจะไม่พินาศ แต่มีชีวิตนิรันดร์ เพราะว่าพระเจ้าทรงให้พระบุตรเข้ามาในโลก มิใช่เพื่อพิพากษาลงโทษโลก แต่เพื่อช่วยกู้โลกให้รอดโดยพระบุตรนั้น ... แต่พระเจ้าทรงสำแดงความรักของพระองค์แก่เราทั้งหลาย คือ ขณะที่เรายังเป็นคนบาปอยู่นั้น พระคริสต์ได้ทรงสิ้นพระชนม์เพื่อเรา" (ยอห์น 3:16 ; โรม 5:8)

ผู้ใดก็ตามที่เชื่อฟัง และวางใจในพระเยซูคริสต์ ผู้นั้นจะได้รับการอภัยโทษจากความผิดบาป และพบกับสันติสุขที่แท้จริง และมีชื่อจดไว้ในสวรรค์ พระเยซูคริสต์เท่านั้นที่ทรงช่วยท่านได้

ท่านที่รัก ท่านเป็นอีกผู้หนึ่งไหม ที่รีบเร่ง แข่งขันกับวันเวลา ทำการหลายสิ่งหลายอย่างเพื่ออนาคตของตัวเอง เพื่อครอบครัว ในขณะที่ท่านกำลังสาละวนอยู่กับกิจการงานต่าง ๆ ในโลกนี้ ท่านไม่รู้ว่าความตายอาจมาถึงท่านในวินาทีใดวินาทีหนึ่งก็เป็นไปได้ หากว่าท่านกำลังกระวนกระวายใจ และกลัวที่พบกับมัน ขณะนี้ ยังไม่สายเกินไป ยังมีเวลาสำหรับท่าน ถ้าท่านจะยอมฟังเสียงเรียกขององค์พระเยซูคริสต์

ในวันนี้ พระเยซูคริสต์ ตรัสว่า

"นี่แน่ะเรายืนเคาะอยู่ที่ประตู ถ้าผู้ใดได้ยินเสียงของเรา และเปิดประตู เราจะเข้าไปหาผู้นั้น ... และจะรับประทานอาหารร่วมกับเขา" (วิวรณ์ 3:20)

จง อย่าให้ใจของท่านแข็งกระด้าง แต่จงยอมเชื่อฟังและวางใจในพระเจ้าแต่เพียงผู้เดียว เพราะว่า

"ในผู้อื่นความรอดไม่มีเลย ด้วยว่านามอื่นซึ่งให้เราทั้งหลายรอดได้ ไม่ทรงโปรดให้มีในท่ามกลางมนุษย์ทั่วใต้ฟ้า" (กิจการ 4:12)

ท่าน สามารถหลีกพ้นจากความตายฝ่ายจิตวิญญาณ ซึ่งมีสาเหตุจากความบาปได้ !

หากท่านปรารถนาจะเลิกวิ่งหนี และหยุดพักใคร่ครวญว่า ความบาปของท่านได้รับการอภัยแล้วหรือยัง ? เพื่อท่านจะได้ไม่ต้องหวาดกลัวต่อความตายฝ่ายร่างกาย และวิตกกังวลต่อการทนทุกข์ทรมานฝ่ายจิตวิญญาณในบึงไฟนรก เพื่อท่านจะมีความชื่นชมยินดีและมีสันติสุขในจิตใจ ซึ่งสามารถเป็นไปได้ โดยการหันหลังให้กับความบาป หันหน้าเข้าหาพระเจ้า แล้วสารภาพความผิดบาปต่อพระองค์ ไว้วางใจในองค์พระเยซูคริสต์ และรับพระองค์เข้ามาเป็นพระเจ้า ผู้ช่วยให้รอดพ้นบาปในชีวิตของท่านเดี๋ยวนี้

เดอะ ไบเบิล ลิค ไทยแลนด์


ถ้าหากท่านพร้อมที่จะอธิษฐานตามข้อความเหล่านี้ ข้าพเจ้ายินดีอธิษฐานร่วมกับท่านเดี๋ยวนี้

"องค์พระเยซูคริสต์เจ้า ข้าพเจ้าต้องการพระองค์ ข้าพเจ้าขอเปิดประตูใจของข้าพเจ้า ต้อนรับเอาพระองค์มาเป็นพระผู้ช่วยให้รอด และเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้า ข้าพเจ้ายอมรับกับพระองค์ว่าข้าพเจ้าเป็นคนบาป และขอสารภาพความผิดบาปทั้งสิ้นของข้าพเจ้า ขอบพระคุณพระองค์ที่ได้ทรงโปรดอภัยโทษบาปผิดให้ข้าพเจ้าแล้ว และได้โปรดประทานชีวิตนิรันดร์ให้แก่ข้าพเจ้า ขอได้โปรดครอบครองชีวิตของข้าพเจ้า และกระทำให้ชีวิตของข้าพเจ้าเป็นไปตามแนวทางของพระองค์เถิด อธิษฐานทูลขอในนามของพระเยซูคริสต์เจ้า อาเมน"

ถ้าท่านได้อธิษฐานเช่นนี้กับพระเจ้าอย่างจริงใจแล้ว พระเยซูคริสต์เจ้าทรงตรัสว่า ท่านได้รับการช่วยเหลือจากพระองค์แล้ว พระองค์ตรัสว่า

"คือว่าถ้าท่านจะรับด้วยปากของท่านว่า พระเยซูทรงเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้า และเชื่อในจิตใจว่า พระเจ้าได้ทรงชุบพระองค์ให้ขึ้นมาจากความตาย ท่านจะรอด" (โรม 10:9)

และ สิ่งเหล่านี้ได้บังเกิดแก่ท่านแล้ว ตามพระสัญญาจากพระวจนะของพระเจ้า

  • พระเยซูคริสต์ได้เข้ามาในชีวิตของท่านแล้ว

"นี่แน่ะ เรายืนเคาะอยู่ที่ประตู ถ้าผู้ใดได้ยินเสียงของเราและเปิดประตู เราจะเข้าไปหาผู้นั้นและจะรับประทานอาหารร่วมกับเขา และเขาจะรับประทานอาหารร่วมกับเรา" (วิวรณ์ 3:20)

"พระเจ้าทรงชอบพระทัยที่จะสำแดงให้ธรรมิกชนเหล่านั้นรู้ว่า ในหมู่คนต่างชาตินั้นอะไรเป็นความมั่งคั่งแห่งข้อล้ำลึกนี้ คือที่พระคริสต์ทรงสถิตในท่านอันเป็นที่หวังแห่งศักดิ์ศรี" (โคโลสี 1:27)

  • ความผิดบาปของท่านได้รับการอภัยแล้ว

"ในพระเยซูนั้น เราได้รับการไถ่บาปโดยพระโลหิตของพระองค์ คือได้รับการอภัยโทษบาป ของเราโดยพระกรุณาอันอุดมของพระองค์" (เอเฟซัส 1:7)

  • ท่านได้รับสิทธิให้เป็นพระบุตรของพระเจ้าแล้ว

"แต่ส่วนบรรดาผู้ที่ต้อนรับพระองค์ ผู้ที่เชื่อในพระนามของพระองค์ พระองค์ก็ทรงประทานสิทธิให้เป็นบุตรของพระเจ้า" (ยอห์น 1:12)

  • ท่านเป็นคนที่ถูกสร้างขึ้นใหม่แล้ว

"เหตุฉะนั้นถ้าผู้ใดอยู่ในพระคริสต์ ผู้นั้นก็เป็นคนที่ถูกสร้างใหม่แล้ว สิ่งสารพัดที่เก่าๆก็ล่วงไป นี่แน่ะกลายเป็นสิ่งใหม่ทั้งนั้น" (2โครินธ์ 5:17)

  • ท่านได้มีชีวิตนิรันดร์แล้ว

"เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ถ้าผู้ใดฟังคำของเราและวางใจในพระองค์ผู้ทรงใช้เรามา ผู้นั้นก็มีชีวิตนิรันดร์ และไม่ถูกพิพากษา แต่ได้ผ่านพ้นความตายไปสู่ชีวิตแล้ว" (ยอห์น 5:24)

  • ท่านกำลังเข้าสู่ชีวิตใหม่ที่ครบบริบูรณ์ตามแผนการของพระเจ้าแล้ว

"ขโมยนั้นย่อมมาเพื่อจะลักและฆ่าและทำลายเสีย เราได้มาเพื่อเขาทั้งหลายจะได้ชีวิต และจะได้อย่างครบบริบูรณ์" (ยอห์น 10:10)

  • ท่านได้รับสันติสุขจากพระเจ้าแล้ว

"เรามอบสันติสุขไว้ให้แก่ท่านทั้งหลาย สันติสุขของเราที่ให้แก่ท่านนั้น เราให้ท่านไม่เหมือนโลกให้ อย่าให้ใจของท่านวิตก และอย่ากลัวเลย" (ยอห์น 14:27)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

You may post your comments here.
หากท่านมีข้อคิดเห็นเพิ่มเติมหรือเสนอแนะเชิญออกความเห็นได้
(กรุณาใช้ข้อความสุภาพ และสร้างสรรค์)