บรรยากาศการหาเสียงของผู้นำคริสเตียน

ผมขออนุญาตบันทึกบทความที่เขาส่งผ่านมาเพื่อเอาไว้เป็นข้อคิดและเป็นประวัติศาสตร์
ของการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหาร คณะหนึ่งของคริสตจักรไทย
9 ต.ค.2010

ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงสถิตย์อยู่กับทุกท่าน

ผมมีความคับข้องใจ ไม่สบายใจ เกิดการไม่เห็นด้วย ไม่นิยมชมชอบ มีความรังเกียจ และรู้สึกขยะแขยงสะอิดสะเอียน (Disgusted) ต่อสิ่งที่ได้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่สำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาที่ผ่านมาใกล้การเลือกตั้งประธานคณะฯ ไม่ใช่การเลือกตั้ง สส. หรือ สว. อย่างที่เราคุ้นเคยกัน แต่เป็นการเลือกตั้งผู้ที่จะต้องเสียสละเข้าไปทำงานสำคัญทางด้านศาสนา คือการเข้าไปเป็นผู้บริหาร หรือเจ้าหน้าที่ของคณะคริสตจักรสภาไทยในประเทศไทย

ในอดีตผมยังจำได้ เมื่อผู้ใหญ่หลายท่านต้องเข้าไปทำงานในตำแหน่งเจ้าหน้าที่ในองค์กรบริหารคณะฯ ต้องถูกขอร้องให้รับตำแหน่ง ตัวอย่างเช่น ท่าน อจ.หมวก ได้ถูกขอร้องให้รับตำแหน่งประธานคณะคริสตจักรในประเทศไทย ทั้งๆที่ต้องทำงานเป็นอจ.ใหญ่ โรงเรียนปรินส์ ท่านก็ไม่ได้เห็นแก่ตำแหน่งสูงอะไร ท่านไม่ต้องการหรืออยากจะเป็นเจ้าหน้าที่บริหารคณะฯ ซึ่งไม่มีเงินเดือนอีกตำแหน่งหรือค่าตำแหน่งให้ มีแต่ค่าเดินทางโดยรถยนตร์หรือรถไฟให้เท่านั้น และผู้ใหญ่ท่านอื่นๆ อีกหลายท่านที่ได้เสียสละให้แก่งานของพระผู้เป็นเจ้ามาในอดีต

ปัจจุบันความอยากใคร่เข้ามารับใช้ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีน่าชมเชย น่ายกย่อง และสรรเสริญ แต่ที่เป็นปัญหาตามที่ผมได้แสดงความรู้สึกออกมาดังกล่าวข้างต้นนั้น เป็นเรื่องของการเข้าสู่ตำแหน่งในแง่ กระบวนการ วิธีการ และพฤติกรรมการหาเสียง
ผมใคร่จะขอชี้แจงเป็นข้อๆดังต่อไปนี้
1. เนื่องจากว่าธรรมนูญแห่งคณะคริสตจักรสภาไทยฯไม่ได้มีการระบุไว้อย่างชัดเจน ถึงการกระทำอันใดที่ผิด หรือห้ามไว้ เพราะรู้และเป็นที่ยอมรับกัน ร่วมเป็นอันหนื่งอันเดียวกัน และภายใน ศาสนจักรก็ไม่ควรกระทำ แต่ผมเชื่อว่าคณะกรรมการสรรหาก็น่าที่จะวางหลักเกณฑ์การเลือกตั้งได้ อะไรเป็นสิ่งที่ทำไม่ได้ ไม่ถูกต้อง จะต้องหมดสิทธ์การลงสมัครเลือกตั้งเป็นผู้รับใช้
การสัญญาว่าจะให้ การให้เงินหรือสิ่งของแม้จะอ้างว่าเป็นการถวายก็ตาม การเลี้ยง ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ได้เกิดขึ้นอย่างรุนแรงในช่วงเวลาภายในสองปีที่ผ่านมาก็เพื่อการเข้าสู่ตำแหน่ง
ผมเคยลงสมัครรับเลือกตั้งสส. ทราบดีถึงความผิดที่เกิดจากการกระทำดังกล่าวข้างต้น บ้านเมืองมีกฏเกณฑ์ มีบทลงโทษ แม้แต่แค่เพียงสัญญาว่าจะให้เท่านั้นก็ผิด แต่สิ่งที่ผู้จะเข้าสู่ตำแหน่งของคณะคริสตจักรสภาไทยฯได้มีการกระทำอย่างครึกโครม เช่นจัดเลี้ยง ณ สถานที่ที่ดีที่สุดซึ่งอาจจะคิดว่าซื้อเสียงได้ และหรือคิดว่าผู้รับเลี้ยงอาจไม่มีโอกาสที่จะเข้าไปในสถานที่นั้นๆ
ได้ด้วยกำลังของตนเอง หรือคิดว่าการให้ปัจจัยต่างๆสามารถจะได้รับคะแนนเสียง ผมคิดว่าท่านที่คิดและทำเช่นนั้นกำลังดูถูกคริสตชนด้วยกันเอง และท่านกำลังคิดผิดถ้าผู้เข้าสู่ตำแหน่งเห็นว่าเมื่อไม่ได้มีการเขียนไว้ หรือข้อห้ามใดๆ ระบุไว้ ก็สามารถกระทำได้แล้ว ซี่งเป็นการคิดที่ผิด เพราะแม้จะรอดจากความผิดที่มนุษย์ไม่ได้ระบุเขียนไว้ แต่กฏเกณฑ์แห่งสวรรค์ ซึ่ง(น่าจะ) ผิดต่อบทบัญญัติในพระคัมภีร์หลายๆ ข้อในหลายๆ พฤติกรรม แม้แต่เพียงคิดเท่านั้นพระเยซูคริสต์ก็ได้บอกให้เรารู้ว่าก็เป็นความผิดแล้ว

2. ผมได้มีโอกาสเดินทางร่วมกับคณะผู้บริหารของโรงพยาบาลต่างๆภายใต้มูลนิธิแห่ง คณะคริสตจักรสภาไทยในประเทศไทย และคณะกรรมการพันธกิจการแพทย์ ไปดูงานโรงพยาบาล เห็นผู้รับใช้และการรับใช้ผู้อื่นจริงๆ ที่ไม่ได้แสวงหาอะไร ไม่มีเงินเดือน(สูงๆ) ไม่ได้คิดแต่เอาประโยชน์ แสวงหาความสุขความสบาย ความมีหน้ามีตา หรือความฟุ่มเฟือย แต่สิ่งที่ได้พบเห็น
หลายท่านอาจเห็นเช่นเดียวกับผมหรือมากกว่า มีการขึ้นเงินเดือนกันเองอย่างมโหฬาร รถประจำตำแหน่งเปลี่ยนใหม่แพงๆ ดีๆ เปลี่ยนมือถือกันอย่างตามรุ่นใหม่ๆ (BB) นั่งรถทัวร์ไม่ได้แล้ว
ต้องนั่งเครื่องบิน และชั้นธุรกิจด้วยทั้งในและต่างประเทศ ปลีกตัวเองคนเดียวไปกินไปสุขใน Executive Lounge ปล่อยให้ผู้รับใช้คนอื่นๆ (ผอ. โรงพยาบาล) อยู่ข้างนอกหิว และอาจจะกล่าวได้ว่าวันหนึ่งๆนั้น
ไม่ต้องจ่ายเงินตนเองสักบาทเดียว มีที่พักดีๆอาหารการกินพร้อมเพียง สิ่งต่างๆเหล่านี้ภายใต้สภาฯเราไม่มีขอบเขตกำหนดเอาไว้ แม้ไม่ได้กำหนดไว้แต่อยู่ที่จิตสำนึกแห่งการรับใช้ การแสวงสุข กอบโกย หาหลักประกอบอาชีพ ซึ่งงานรับใช้ภายใต้สภาฯไม่ใช่เป็นงานอาชีพที่ต้องเป็นตลอด ถ้าท่านต้องการแสวงหา ท่านก็ไม่ต่างจากนักการเมืองที่ท่านเห็นอยู่ทุกวัน และท่านได้ว่าให้เขา เทศนาด่าว่าเขา แล้วจะต่างจากท่านที่เป็น "นักคริสตการเมือง" ในคณะคริสตจักรสภาไทย ได้อย่างไร ผมไม่เถียงว่าทุกองค์กรมีกระบวานการทางการเมืองทุกแห่ง แต่ไม่ใช่เชก เช่นที่ท่านทั้งหลายกำลังประพฤติปฏิบัติอยู่เช่นนี้

3. สืบเนื่องจากการเป็นผู้รับใช้ ผมไม่แน่ใจว่าท่านทั้งหลายที่เข้าสู่ตำแหน่ง ท่านจะเป็นผู้รับใช้หรือท่านจะเป็นผู้ใช้ (ผลาญ) ทรัพยากรทั้งเงิน และคน กันแน่ ท่านได้เอาทรัพยากรส่วนกลางที่บุคลากรที่ทำงานภายใต้คณะฯ หามาแม้ว่าท่านจะอ้างว่าได้ใช้ดอกผล แต่ก็เป็นดอกผลของต้นของเขา เขาทั้งหลายเป็นผู้ผลิตเบื้องต้น (Primary Producers) ที่สร้างความงดงาม ความเจริญให้แก่คณะ
ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกาศ ศาสนาจารย์ แพทย์ ครู พยาบาล คนทำความสะอาด คนงาน ภารโรง และอื่นๆ เขาอยู่กันอย่างไร เขามีสว้สดิการอย่างท่านผู้ที่จะเป็นผู้รับใช้หรือไม่ ท่านจะว่าอย่างไรถ้าเขาเหล่านั้นต้องรวมตัวกันอย่างเช่นคนเสื้อแดงที่เรียกร้องหาความเป็นธรรม เขาก็อยากมีเหมือนท่านที่กำลังแสวงหาอย่างรุนแรงเช่นกัน

ผม มีความปราถนาที่อยากจะเห็นความขาวสะอาด ใสสะอาด ของกระบวนการการเข้าสู่ตำแหน่ง ซึ่งจะเป็นที่น่า ยกย่องที่จะมีผู้นำของศาสนจักร ที่มีเอกลักษณ์ของความเป็นผู้รับใช้ ส่วนสิ่งต่างๆในอดีตพระผู้เป็นเจ้าได้ลบและให้อภัยแก่เราทุกคนแล้วที่ไม่ว่าจะได้กระทำอะไร อย่างไรมาก่อน ถ้าหากท่านผู้ใดที่เห็นว่าผมได้กล่าวร้ายต่อท่าน ผมยินดีจะพิสูจน์ข้อเท็จจริง
ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงสถิตย์อยู่กับท่านตลอดไป

ผป. อนุสรณ์

................................................................
อย่าเลือกคนที่หาเสียง
อย่าเลือกคนที่บอกว่า จะให้
อย่าเลือกคนที่ถือพวกพ้อง
อย่าเลือกคนที่คิดว่าคนอื่นไม่ดี
อย่าเลือกคนที่กำลังทำให้พระเจ้าเสียพระทัย
เรากำลังเลือกคนเพื่อให้พระเจ้าใช้

พระองค์ทรงดูว่าเราจะเลือกใครให้พระองค์ใช้
และพระองค์จะใช้เท่าที่เขาจะใช้ได้
เลือกแล้วไม่ต้องเสียใจ
เพราะเลือกอะไรก็จะได้อย่างนั้น
ขอให้พระเจ้าได้รับเกียรติสูงสุด
เราทุกคนคือคณะคริสตจักรสภาไทยต้องรับผิดชอบร่วมกัน
............................................................................

ขอกราบวิงวอนท่านผู้เป็นพ่อ แม่ พี่ น้อง เพือนๆๆ ผู้รับใช้พระเจ้า หยุดเถอะครับ กลับมายังบรรยากาศของความเป็นมิตรสหายในพระ เยซูคริสต์เจ้า บรรยากาศความเป็นพี่เป็นน้องกำลังหายไป บรรยากาศของผู้นำฝ่ายวิญญาณ กำลังหายไป หยุดและร่วมกันอธิษฐาน เผื่อซึ่งกันและกัน ขอการทรงนำจากพระเจ้า เพื่อเป็นบรรทัดฐานส่งต่อรุ่นต่อรุ่นด้วยความเชื่อศรัทธา
ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงช่วยเราและนำเราไปตามน้ำพระทัยของพระองค์ มิใช่ตามน้ำใจต้องการของเรา

ประธานชมรม
........................................................................
"...อย่ากล่าวโทษเขา และท่านทั้งหลายจะไม่ถูกกล่าวโทษ..." ลูกา 6:37-38, โรม 2:1
"เหตุไฉนท่านมองดูผงที่ในตาพี่น้องของท่าน แต่ไม้ทั้งท่อนที่อยู่ในตาของท่าน ท่านไม่รู้สึก"
ลูกา 6:41
อย่ากล่าวหากันไปมาเลยครับ "เพราะว่าทุกคนเป็นคนบาปและเสื่อมจากพระสิริของพระเจ้า"
โรม 3:23
ขอให้เลือกคนที่รักพระเจ้า มีความตั้งใจจะรับใช้พระเจ้า สร้างความเป็นเอกภาพในคริสตจักร
ทำให้คริสตจักรของพระเจ้าเจริญ ได้รับเกียรติและมีสง่าราศี

ประธรรมกรรมการชมรมฯ
............................................................................

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

You may post your comments here.
หากท่านมีข้อคิดเห็นเพิ่มเติมหรือเสนอแนะเชิญออกความเห็นได้
(กรุณาใช้ข้อความสุภาพ และสร้างสรรค์)