ลุงมี สุทธศิลป์ เกษตรกรดีเด่น ระดับจังหวัดพะเยา
เกษตรกรดีเด่นรางวัลรองชนะเลิศ การเลี้ยงโคเนื้อระดับประเทศ
เกษตรกรดีเด่นรางวัลรองชนะเลิศ การเลี้ยงโคเนื้อระดับประเทศ
ได้รับเชื่อแล้วเมื่อ 23 เมษายน ค.ศ. 2011
คริสเตียนหลายคนคงกระวนกระวายใจมาก เมื่อได้ยินผู้นำพูดในตอนเริ่มต้นปีใหม่ของทุกๆ ปี ผู้นำใน คริสตจักร หรือศิษยาภิบาลจะบอกตอนต้นปีเสมอว่า...
"ปีใหม่นี้ให้พวกเราออกไปประกาศนำคนมารอดในพระเจ้า อย่างน้อย 1 คน นำหนึ่งคนในเวลา 1 ปี ให้ได้"
แต่เมื่อเวลาผ่านไปปีแล้วปีเล่า พวกคริสเตียนที่ไปโบสถ์ทุกๆ วันอาทิตย์ยังไม่สามารถ นำใครมารอดได้สักที บางคนก็นำมาบ้างแต่มันนานมากแล้ว ไม่ค่อยเกิดผล เป็นเพราะอะไรเราจึงเกิดผลยากนัก บทความนี้อาจให้แนวคิด หรือคำตอบบางอย่างที่ช่วยให้บางคนตระหนักได้ว่า อะไรที่ช่วยให้เราเกิดผล นำคนมารอดได้ง่ายๆ
ผมเองเคยเป็นคริสเตียนที่ไม่เคยนำใครมารอดจากบาป หรือหายป่วยหายใข้ในพระนามพระเยซูคริสต์เป็นเวลาเกือบทั้งชีวิต มันนานเท่าๆ กับเวลาที่พวกอิสราเอลเดินในแถบทะเลทรายอาราเบียเลยทีเดียว
ในช่วงเวลาแห่งการไร้ผลที่ผมได้ประสบนั้น ผมทำหลายอย่างในการที่จะนำใครสักคนให้มารู้จักกับพระเยซูคริสต์ ผมแจกของขวัญวันคริสต์มาสแก่เพื่อนๆ หรือคนที่เราคาดว่าน่าจะรู้จักพระเยซู ผมชวนเขามาโบสถ์ในวันคริสต์มาส ซื้อของขวัญดีๆ แจกเพื่อนๆ และคนที่เราตั้งใจจะประกาศเรื่องพระเยซูให้ ผมอุตส่าห์สำแดงความรัก ความใจดีแก่พวกเขาเสมอ บางครั้งก็ทำอาหารเลิศรสเลี้ยงเขา
แต่อย่างไรก็ตาม เพื่อนของผมยังไม่มีใครเปิดใจต้อนรับพระเยซูเลยสักคน เพราะตอนนั้นผมยังกินและดื่มเหมือนพวกเขา ผมด่าเจ้านายลับหลังเหมือนพวกเขา เวลาเขาจ้อเรื่องลามกผมก็ยังหัวเราะไปกับเขา ไม่รู้สึกว่ามันผิดปกติอะไรเลย คิดว่าเป็นเรื่องโจ๊ก บางทีผมยังซื้อหนังสือโจ๊กตลกที่มีเรื่องสองง่าม สามแง่มาอ่านอีกต่างหาก ผมชอบทำอะไรตามใจฉัน ผมปฏิบัติพระเจ้าตามความคิดเห็นส่วนตัว ผมไม่ได้รู้สึกว่าต้องที่ดีจากแบบอย่างในพระคัมภีร์ แต่ผมกับทำตามอย่างวัฒนธรรมทางศาสนาที่ผมได้รับอิทธิพลมา
นี่คงเป็นสาเหตุอีกอย่างหนึ่งที่ผมพูดเรื่องพระเจ้าแล้วไม่มีใครสนใจ อีกอย่างเพื่อนผมไม่เอาพระเยซูเพราะพวกเขามีพระของเขาอยู่แล้ว บางคนมีพระเจ้ามากมายจนพวกเขาดูแลไม่ไหว ทั้งผีทั้งพระเจ้า พวกเขายังมีเครื่องรางและพิธีกรรมมากมายที่ต้องปฏิบัติ พวกเขาจึงเบื่อพระเจ้ามากๆ ชีวิตของผมเองก็ไม่ได้เปล่งแสงสว่างอะไร ชีวิตผมเป็นเพียงสีเทาๆ ทึบๆ ไม่ขาว ไม่ดำ พวกเขาคงสังเกตได้ว่า ชีวิตของผมก็ไม่ได้ดีไปกว่าพวกเขามากนัก พวกเขาก็เลยไม่ยอมรับเชื่อพระเยซู เพราะสีเสื้อของผมกับของเขามันคล้ายๆ กัน
บทความตอนนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อจะบอกอะไรบ้างอย่างที่ เป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้ผมนำคนมารอด รับสันติสุข และการเปลี่ยนแปลงชีวิตอย่างใหญ่หลวงได้อย่างไม่ยากเย็นอะไร บางครั้งไม่ถึงชั่วโมงด้วยซ้ำ การรับความรอดคือ การเปลี่ยนจากการไหว้รูปเคารพ และวิญญาณอื่น มานับถือพระเยซูคริสต์ ยอมรับว่าพระเยซูคือพระผู้ช่วยให้รอดที่แท้จริง พระเยซูคือพระเจ้าผู้เป็นอยู่ที่ไม่ได้สร้างด้วยมือมนุษย์ ไม่สถิตย์อยู่ในรูปปั้น หรือสิ่งใดๆ ที่มนุษย์ได้สร้างขึ้นเพื่อนมัสการหรือกราบไหว้บูชา เพราะพระองค์คือพระเจ้าแท้ที่ยังช่วยได้ และพระองค์ยังคงทำการอัศจรรย์ผ่านมือ และคำอธิษฐานของผู้เชื่อพระองค์ในทุกวันนี้
เมื่อวันเสาร์ที่ 23 เมษายน ค.ศ. 2011 พี่สาวของภรรยาผมที่ไปอาศัยอยู่ในประเทศญี่ปุ่น เพิ่งกลับมาเยี่ยมคุณแม่ที่ประเทศไทย พอดีเขามีลูกชายอยู่คนหนึ่งที่ไปแต่งงานกับสาวคนหนึ่งเธอ (ชื่อว่าน้องก้อย) ที่อยู่ในจังหวัดพะเยา คืออำเภอจุน (บ้านร่องแมดสันติสุข) พี่สาวแฟนผมได้ชวนผมไปเยี่ยมบ้านพ่อแม่ของน้องก้อย
เมื่อเราไปถึง เราได้พบกับลุงมี สุทธิศิลป์ คุณลุงได้ต้อนรับเราให้ขึ้นไปนั่งบนบ้าน เมื่อผมได้พบกับลุงมี ผมได้พบว่า ลุงมีเกิดอาการป่วยหลายอย่าง คือ เป็นโรคความดัน โรคเก๊า และมีอาการเท้าบวม ไม่สามารถลุกขึ้นเดินได้สะดวก หนักหลัง และไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ คือมีอาการป่วยว่างั้นเถอะ
ผมเห็นลุงมีเท้าบวมและมีอาการอย่างนี้จึงถามลุงมีว่า
"ลุงครับ ป่วยเป็นเก๊า และความดันนี่กินยาอะไรหรือครับ"
ลุงมีตอบว่า
"ซื้อยาแก้โรคเก๊า และความดันมากินชุดละสามพันกว่าบาทที่เขาโฆษณาทางทีวี"
"เป็นยาเอนไซน์ แต่กินไปแล้วสองอาทิตย์รู้สึกว่าเท้าบวมเดินไม่ได้"
ผมจึงท้าทายลุงมีไปว่า
"ลุงครับ, ผมมียาดีนะ ลุงอยากลองหรือเปล่า ลุงซื้อยามากินแพงหลายพันแต่ไม่หาย กินมาสองอาทิตย์อาการยังไม่ดีขึ้น ผมอยากให้ลุงลองยานี้นะครับ ไม่ต้องเสียเงิน ผมคิดว่าใช้เวลาไม่มากต้องดีขึ้นอย่างแน่นอน ลุงอยากลองดูไหมครับ แต่ลุงต้องเสียสละบางอย่าง เพื่อแลกกับการมีสุขภาพดีนะ"
ลุงมี เหมือนรูแกวผม แกชิงพูดว่า "พระเยซูหรือเปล่า" ผมเคยได้ยินคนมาแจกใบปลิว แถวๆ หน้าบ้าน แต่ผมไม่เคยลบหลู่ท่านนะ" ถ้าอาจารย์ว่าดีผมก็จะลองดู
ผมจึงบอกกับลุงมีว่า
"ถ้าผมอธิษฐานให้ลุงหาย ขอให้ลุงติดตาม พระเยซูอย่างแท้จริง ด้วยสัจจะ และให้เลิกการกราบไหว้บูชาวิญญาณอื่น เพราะถ้าวิญญาณเหล่านี้มันดีจริง มันคงช่วยให้ลุงหายป่วยได้แล้ว ไม่ต้องทุกข์ทรมานอย่างนี้ เพราะลุงมีอายุแค่ห้าสิบแก่ๆ น่าจะมีสุขภาพที่ดีกว่านี้ ถ้ามีพระเยซูคริสต์เป็นพระเจ้า"
ทำไมผมต้องขอให้ลุงเลิกกราบไหว้วิญญาณ และรูปเคารพที่ลุงเก็บไว้ในบ้านอย่างมากมาย ก็เพราะว่า รูปเคารพเหล่านี้ แท้จริงมันไม่ได้ช่วยขับไล่วิญญาณใดๆ ออกไปจากบ้านลุงเลย แท้จริงมันคือตัวสื่อสาร เป็นเหมือนสื่อล่อให้วิญญาณเจ็บป่วยอื่นๆ เข้ามาอาศัยอยู่ในบ้าน ทำให้ลุงป่วยไม่หายสักที"
ผมเล่าต่อ
"ถ้าหากลุงไม่ยอมละทิ้งสิ่งเหล่านี้ การหายโรคของลุงจะมีแค่ชั่วคราวหลังจากที่ผมกลับบ้านไป ลุงจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม หรือแย่กว่าเดิม แต่ถ้าลุงรับเชื่อจริงๆ มีสัจจะ กราบไหว้พระเยซูและเลิกการบาปทั้งปวง และหยุดงานพักผ่อนอาทิตย์ละ 1 วันในวันอาทิตย์ ลุงจะหายดีตลอดไป"
ลุงมี ได้ฟังเงื่อนไขที่ผมนำเสนอ ลุงมีพิจารณาดูสักครู่ ลุงมีจึงตอบตกลงยอมรับการรักษาในพระนามพระเยซู
ผมจึงเรียกลูกชายของผมคือ ดุ๊กซึ่งมีของประทานแห่งการสังเกตวิญญาณ และการเผยพระวจนะ
มาช่วยอธิษฐาน เราได้รับรู้ว่าต้นเหตุแห่งปัญหาการเจ็บป่วยของลุงมี ไม่ใช่เชื้อโรคเป็นสาเหตุหลัก แต่มันเกิดจากสาเหตุอื่น เราต้องอธิษฐานถึงสองรอบ เราจึงได้รับชัยชนะในการปลดปล่อยลุงมี เราทำการอธิษฐานปลดปล่อยประมาณ 15 นาที เมื่อเราอธิษฐานเสร็จ เราขอให้ลุงมีลองลุกขึ้นยืน และเริ่มเดิน ลุงมีบอกว่า รู้สึกเบาและเดินสะดวกขึ้น เราจึงบันทึกภาพ และวีดีโอคลิปไว้ด้วย
หลังจากนี้ลุงมีได้พาพวกเราไปตกปลาที่บ่อปลาในสวนของลุงมี ซึ่งอยู่ห่างออกไปจากบ้านอีกประมาณ 5 กิโลเมตร ลุงมีก็ขึ้นรถยนต์ไปกับเรา เมื่อไปถึงสวนลุงมีเดินเหินไปมาได้สะดวก มีอาการดีขึ้นมาก
วันต่อมาเราได้รับทราบจากคุณก้อยลูกสาวของลุงมีที่โทรศัพท์ติดต่อกัน เธอแจ้งให้เราทราบว่าว่า ลุงมีสามารถขับขี่มอร์เตอร์ไซด์ได้แล้ว เพราะก่อนหน้านี้ลุงมีขี่รถไม่ได้มาหลายวันแล้ว เราขอบพระคุณพระเยซูเจ้า โดยนามของพระองค์เราอธิษฐานอวยพร ลุงมีก็หายดี
น่าเสียดายที่หมู่บ้านที่ลุงมีอยู่ หรือในบริเวณใกล้เคียง ไม่มีโบสถ์คริสเตียนใดๆ ตั้งอยู่เลย เราจะทำอย่างไรกับปัญหานี้ โบสถ์คริสต์ที่มีอยู่ทั่วไป หลายแห่งก็ไม่รู้จักฤทธิ์เดชของพระเจ้า บางแห่งรู้จักแต่ทำไม่เป็น และบางแห่งก็ไม่เชื่อในเรื่องฤทธิ์อำนาจในการวางมือรักษาคนป่วยอีกด้วย เป็นเรื่องที่คริสเตียนที่เติบโตแล้วต้องช่วยกันกระจายข่าวนี้บอกไปให้ทั่วว่า ผู้เชื่อในพระนามพระเยซูที่ได้รับการฝึกฝนแล้ว สามารถอธิษฐานวางมือคนให้หายจากโรคภัย ความป่วยใข้ และสามารถขับวิญญาณอื่นทุกชนิดได้ ไม่ว่าจะอยู่ระดับบิ๊ก ระดมเทพ ระดับพรหมอะไรก็ตาม เมื่อมันเจอคำอธิษฐานของทีมของเรา ต้องจอดทุกวิญญาณ
ข้อพระธรรมหนุนใจ
"ผู้ใดเชื่อและรับบัพติศมาแล้วผู้นั้นจะรอด แต่ผู้ใดไม่เชื่อจะต้องปรับโทษ มีคนเชื่อที่ไหนหมายสำคัญเหล่านี้จะบังเกิดขึ้นที่นั้น คือเขาจะขับผีออกโดยนามของเรา เขาจะพูดภาษาแปลกๆ เขาจะจับงูได้ ถ้าเขากินยาพิษอย่างใด จะไม่เป็นอันตรายแก่เขา และเขาจะวางมือบนคนไข้คนป่วย แล้วคนเหล่านั้นจะหายโรค”
พระธรรมมาระโก 16.16-18
ขอพระเจ้าอวยพระพรให้ท่านอิ่มใจด้วยสันติสุข และหายดีในพระนามพระเยซู
กลับไปหน้าแรกของเว็บ HOME
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
You may post your comments here.
หากท่านมีข้อคิดเห็นเพิ่มเติมหรือเสนอแนะเชิญออกความเห็นได้
(กรุณาใช้ข้อความสุภาพ และสร้างสรรค์)