*คำพยานที่ผู้ได้รับการปลดปล่อยส่งมาให้
คำพยาน_เพิ่งได้ฤกษ์ส่งต้นฉบับ
ข้าพเจ้า เป็นคนหนึ่งที่ผ่านไปมาบนโลกอินเตอร์เน็ต และแล้ววันหนึ่งก็มาพบปะกับเว็บไซต์ที่มีนามบ่งบอกตัวเองอย่างชัดเจน ความอยากรู้อยากเห็นทำให้ติดตามอ่านได้นานสักระยะ บวกกับอีกหลายบทความที่เหมือนเสียดแทงเข้ากระดูกดำเพราะมันตรงกับความเป็น จริงที่ตัวเองประสบอยู่
การเดินทางเพื่อพบทีมงานที่เชียงรายเป็นสิ่งที่น่าประหวั่นอยู่ในใจไม่ใช่ น้อย แต่ส่วนหนึ่งของใจก็เหมือนมีความกล้าเต็มล้นออกมา พอเดินทางมาถึงสถานที่ปลดปล่อยที่เชียงราย ทีมงานให้เราเริ่มต้นกันที่บทเรียนสำหรับการรู้จักเรื่องราวบางส่วนของทาส และการปลด ปล่อยทาส เป็นบทเรียนปูพื้นฐานเบื้องต้นให้เรียนรู้เกี่ยวกับสาเหตุและเบื้องลึกของ ความบาปในชีวิตมนุษย์ เป็นบทเรียนสั้นๆ ที่ใช้เวลาไม่นานนัก แต่ว่าหากว่ามีผลกระทบและมีอิทธิพลต่อการดำเนินชีวิตอย่างมากมาย
เมื่อ ถึงเวลาของการอธิษฐานที่ทางทีมงานเรียกกันว่า “การปลดปล่อย “ แม้นว่าจะเป็นประสบการณฺ์ตรงเกิดขึ้นกับตนเอง แต่สิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นก็ไม่สามารถอธิบายได้ด้วยคำบอกเล่า เมื่อการอธิษฐานปลดปล่อยผ่านพ้นไป บอกได้เพียงว่าสิ่งที่มองไม่เห็นได้ด้วยตา พิสูจน์ไม่ได้ทางวิทยาศาสตร์ยังมีอยู่จริงบนโลกกลมๆใบนี้ บางสิ่งที่มีอิทธิพลต่อชีวิต ความคิด ความรู้สึกของคนเรา สิ่งที่จับต้องไม่ได้ แต่ทำอะไรได้มากมายเกินจะคาดคิด และพวกมันวนเวียนอยู่รอบตัวเรา และแฝงตัวอยู่กับเราซึ่งเราเองไม่สามารถรู้ได้
หลังจากผ่านพ้นจากการอธิษฐาน “ ความโล่ง เบา ” ของจิตใจ และ ร่างกายก็เกิดขึ้น บางสิ่งที่ถูกเปิดเผยออกมา มันน่าตกใจเกินกว่าจะยอมรับ และก็ยากที่จะทำใจให้เชื่อ เวลาผ่านมาได้พักใหญ่เมื่อเรานึกใคร่ครวญตอนนี้ยังเหมือนราวกับว่าเราเองฝัน ไป แต่ว่าสิ่งเหล่านี้มันเกิดขึ้นจริง ทุกสิ่งที่พูดและเปิดเผยมันออกมาจากปากของข้าพเจ้าเองทั้งสิ้นแม้บางอย่าง ตัวข้าพเจ้าเองยังไม่เคยรับรู้มาก่อน และไม่เคยแม้แต่นึกถึง
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นข้าพเจ้าซาบซึ้งและขอบคุณต่อผู้ที่กำหนดหนทางนี้ไว้ ให้ ผู้ที่มีสายตาแห่งความเมตตาและความรักมอบให้มนุษย์ตัวเล็กๆคนหนึ่ง
ขอบ คุณกับการจัดเตรียม เพราะแม้นหากไม่มีท่านผู้นี้แล้วไซร้ ข้าพเจ้าก็คงยังต้องอยู่กับความมืดของชีวิตที่มีแต่ความเจ็บป่วย ป่วยทั้งด้านร่างกาย และ อาการป่วยที่อยู่ลึกในจิตใจที่แม้แต่ตัวข้าพเจ้าเองยังไม่เคยตระหนัก
ขอบคุณท่านผู้นี้ที่นำพาและมอบความสว่างให้ชีวิต ขอบคุณสำหรับความรักยิ่งใหญ่ ขอบคุณ “พระเยซู พระเจ้าของลูก “
[บทความคำพยานจากคุณ แอน กทม มิ.ย.ค.ศ. 2011 ]
ขอขอบคุณคุณแอน ที่กล้าเป็นพยานถึงความจริงที่ท่านได้รับการรรักษาเยียวยา ด้วยฤทธิ์เดชแห่งคำอธิษฐานในพระนามพระเยซูเจ้า ขอพระเจ้าอวยพรให้มีความสุข ความเจริญ สุขภาพดี สืบไป
Divine Straightening / Geistige Aufrichtung - Alexander Toskar (1)
ตอบลบเรื่องที่อาจารย์ทำได้ไม่แปลกครับ ไม่จำเป็นต้องเป็นคริสเตียนก็มีคนทำได้
http://www.youtube.com/watch?v=JtvWDY7F9e0
การให้การช่วยเหลือผู้คนไม่จำเป็นต้องไปแข่งกับใคร ที่ผมทำเว็บนี้แล้วถ่ายทอดเรื่องการหายโรคด้วยการอธิษฐาน ผมไม่ได้เป็นการอวดว่าผมเก่ง หากลองอ่านดูหลายๆ บทความจะทราบแน่ชัดว่า ผู้ที่ให้การรักษาคนอย่างแท้จริงคือ พระเยซูเจ้า
ตอบลบพระเยซูไม่ได้เพียงต้องการให้เราหายป่วยทางร่างกาย แต่พระเยซูเจ้าต้องการให้คนหายป่วยจากโรคบาป ได้รับสันติสุข และสิ่งที่ศาสนาอื่นให้ไม่ได้ คือความแน่ใจในการได้รับการหลุดพ้นบาป และมีการรับประกันว่าเมื่อชีวิตหลังความตายวิญญาณจะได้ไปอยู่ในเมืองแห่งความสุข ไม่ต้องกลับไปเกิดเป็นหมา เป็นแมว เป็นลิง อย่างที่บางศาสนาพยายามสอนคนให้เอาเงินไปให้ศาสนาด้วยการ เอาเิงินไปทำบุญเพื่อจะได้เกิดใหม่ให้ดีเท่าเดิม หรือดีกว่าเดิม
พระเยซูเจ้า กล่าวว่า ผู้ที่วางใจในพระองค์จะมีชีวิตนิรันดร์ และวิญญาณไม่ต้องถูกพิพากษาโทษ (หนังสือ ยอห์น บทที่ ๓ ข้อ ๑๖)
มีพระ หรือศาสดาองค์ใด สัญญา ไว้ในคัมภีร์ หรือในหนังสือ เล่มใด หรือตอนไหน ที่บอกว่า ถ้าเชื่อเขาแล้วจะไม่ต้องตกนรก
พระคัมภีร์ของคริสตชน เป็นชื่อหนังสือที่เชื่อถือได้ว่าเป็นการดลใจของพระเจ้าให้เขียนขึ้น มีชื่่อบท มีข้อ กำกับด้วยตัวเลขอย่งเป็นระบบ สามารถอ้างอิงได้อย่างชัดเจนตลอด และเนื้อหาแต่ละเล่มเหมือนกันทั่วโลก ของศาสนาอื่น แต่ละประเทศ เขียนของใคร ของมัน เนื้อหาไม่เหมือนกัน เวลายกมาอ้าง ก็สืบค้นต้นตอไม่ได้ชัดเจน ว่าเป็นใครสอนกันแน่ ศาสดา หรือผู้เก็บผลประโยชน์จากศาสนา
แท้จริงการรักษาโรคเป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับผู้เชื่อในพระนามพระเยซู ครับ แต่การที่เราจะหลุดพ้นจากบาป พ้นจากนิสัยบาป การเป็นทาสบาป สำคัญกว่าการหายโรค
ใครที่คิดว่าช่วยตัวเองได้ ก็เชิญตามสบาย ใครที่ได้ค้นพบความจริงว่า ไสยศาสตร์ การกราบไหว้ดวงวิญญาณ การไหว้ผี ศาสนา พิธีกรรมช่วยไม่ได้ ขอเชิญลองมาหาพระเยซูเจ้าดู แล้วท่านจะพบคำตอบ
ใครที่ต้องการให้พระเจ้าช่วย แต่ยังทำยะโส ไม่ถ่อมใจ บางคนพูดว่า
"ถ้าพระเยซูมีจริง ขอให้มาทำอย่างนั้น อย่างนี้"
ลองคิดดูว่า ถ้าคุณเป็นพระเจ้าเสียเอง แล้วมีคนมาท้าให้คุณทำโน้นทำนี่ คุณจะทำไหม
ถ้าพระเจ้าสามารถสร้างสรรพสิ่ง รวมทั้งตัวคนด้วย แล้วเราจะท้าทายพระเจ้าเพื่อให้พระองค์ทำโน้นทำนี่ให้คุณ คุณคิดว่า เป็นการกระทำของคนที่มีปัญญาอย่างนั้นหรือ