ขับวิญญาณอ้างตัวเป็นเทพ มารีอาย์ Driving out error spirits




คำพยาน ประสบการณ์ การออกไปปลดปล่อยคนออกจากอาการป่วยและวิญญาณรบกวนของทีัม ปลดปล่อย www.idmt.org 

เช้าวันจันทร์ที่ 22 เดือน สิงหาคม 2011

เช้านี้ข้าพเจ้าและสามีได้รับมอบหมายจากอาจารย์ไรท์  (ผู้สอนเราสองคนให้รู้จักวิชาขับผีตามแบบผู้เชื่อของพระเยซู) ให้ข้าพเจ้ากับสามีได้ไปเยี่ยมบ้านคริสเตียนท่านหนึ่ง เพื่อจะได้อธิษฐานอวยพรและอธิษฐานเผื่อแม่บ้านของเขา เพราะได้รับทราบจากคุณนายเจ้าของบ้านว่าแม่บ้านของเขามักจะบอกว่าตัวเองเห็นวิญญาณ  และเธอมักจะมีอาการเจ็บป่วยแปลก ๆ ที่ไหล่ข้างหนึ่ง ยึดเยื้อเป็นเวลานานแล้ว

ข้าพเจ้าได้พบปะพูดคุยกับแม่บ้านคนนั้นเป็นการส่วนตัว ก่อนที่เราจะอธิษฐานปลดปล่อย  ข้าพเจ้าได้บอกเล่าว่าพระเยซูเป็นพระเจ้าที่ยิ่งใหญ่  พระองค์สามารถให้อภัยความบาปของเราได้ และพระเยซูสามารถรักษาโรคของผู้ศรัทธาให้หายได้ ข้าพเจ้าลองถามแม่บ้านท่านนี้ว่า
 
"ถ้าเราอธิษฐานเผื่อแล้วหายให้นับถือพระเยซูคริสต์ตลอดไปได้ไหม"

แต่แม่บ้านคนนี้บอกว่าไม่ได้ เพราะว่าเธอเชื่อพระแม่มารีอาย์ แม่บ้านคนนี้เกิดมาเป็นเด็กกำพร้า เธอจึงไม่มีใครดูแลและเป็นที่พึ่งทางใจ  มีแต่พระแม่มารีอาย์ เธอเซ่นไหว้ทุกเช้าเย็นและมอบเครื่องบูชาถวายด้วยเทียนกับน้ำ เธอบอกว่าพระแม่ที่เธอนับถือนี้ศักดิ์สิทธิ์   เธอเคยขออะไรก็ได้หลายอย่างแล้วด้วย ดังนั้นเธอจะเชื่อแต่มารีอาย์เพียงองค์เดียว ไม่เอาพระเยซูหรือพระอื่นแล้ว

ช่วงที่สามีของเธอแอบไปมีเมียน้อย..
แม่บ้านคนนี้จับผิดสามีเรื่องการไปมีชู้ได้  โดยการที่ให้สามีดื่มน้ำที่ได้ผ่านการเซ่นไหว้นั้น ก่อนให้สามีดื่มน้ำเธออธิษฐานว่า  "ถ้าสามีแอบมีชู้ให้เกิดอะไรสักอย่างขึ้น" เมื่อสามีดื่มน้ำนั้นไปแล้ว  ก็เกิดอาการไม่รู้ตัว  ทรงตัวไม่อยู่เซล้มลงและไปนั่งทับใส่ตะปู สามีก็เลยยอมสารภาพบอกความจริงว่าเขาไปมีชู้กับผู้หญิงคนอื่น  เมื่อเธอทราบถึงความศักดิ์สิทธิแล้วเธอจึงต้องนับถือเซ่นไหว้มารีอาย์ต่อไป  แต่ข้าพเจ้าไม่เชื่อว่าจะมีพระหรือเทพใดๆ ที่เป็นพระเจ้าเที่ยงแท้และยิ่งใหญ่กว่าพระเยซู ข้าพเจ้าจึงหยอดคำถามไปว่า

“แล้วทำไมเขาไม่ให้พี่หายจากความเจ็บป่วยล่ะ ทำไมเจ้าแม่ที่พี่นับถืออยู่ไม่ให้พี่มีสันติสุขในครอบครัวซะทีล่ะ”

ข้าพเจ้าจึงกล่าวเป็นพยานถึงประสบการณ์การรักษาโรคต่าง ๆ ที่ทีมของเราเคยทำผ่านมาให้เธอฟัง รวมทั้งเจ้าของบ้านนี้ก็เป็นพยานเรื่องหายป่วยโรคเก๊า และโรควิญญาณหลอน รบกวนในตอนกลางคืน และลูกสาวหายป่วยโรคไมเกรนแล้วด้วยโดยการอธิษฐานนี้ ผู้หญิงคนนี้  จึงนั่งคิดใคร่ครวญสักครู่ จึงยอมให้เราอธิษฐานขอให้พระเยซูรักษา โดยให้อธิษฐานเผื่อไหล่เขาให้หาย ตามที่เราปฏิบัติมาค่ะ

ข้าพเจ้าขอให้เธอสำนึกความผิดบาป และยอมสารภาพความบาป และให้เธอให้อภัยกับคนที่เธอเคยเคียดแค้น ปรากฏว่าเธอมีรอยอดีตเยอะมาก เมื่อตอนที่เธอยังเด็ก มีผู้หญิงคนหนึ่งชอบทำร้ายตบตีเขาโดยไม่มีสาเหตุ แค่หมั่นไส้ก็ตี เจอกันที่ไหนก็ตบ สิ่งเหล่านี้ทำให้เธอแค้นฝังใจมาก แม้ว่าตอนนี้ผู้หญิงคนนั้นได้ตายไปแล้ว   เธอยังไม่ยอมให้อภัย เธอพูดว่าผู้หญิงคนนั้นไม่ได้มาขอโทษเขาและจะยกโทษให้ได้ยังไง  เธอเคยสาปแช่งผู้หญิงที่เคยรังแกเธอว่า

“ขอให้มันเกิดมาเป็นหมาทุกชาติ”

ส่วนสามีของเธอก็เคยข่มขืนเธอตั้งแต่เป็นสาวรุ่น โดยจงใจผูกมัดไว้เพื่อจะได้เอาเธอมาเป็นภรรยา ผู้หญิงคนนี้ก็จำใจแต่งงานด้วยเพราะไม่มีทางเลือก เพราะได้ตั้งท้องกับชายคนนี้แล้ว ตอนที่ท้องก็ยังโดนสามีซ้อมตบตีทุกวัน เธอจึงเกิดความแค้นมาจนทุกวันนี้ และก่อนหน้านี้เธอเคยไปทำงานในที่ต่าง ๆ ก็โดนคนอื่นรังแกมาตลอดทั้งชีวิต ข้าพเจ้าก็เลยบอกเธอว่าการที่เราจะหายโรคนั้นมีเงื่อนไขคือเราต้องให้อภัยกับคนที่เราโกรธแค้นนั้นก่อน พี่เขาก็ก้มหน้าลงทำสีหน้าเจื่อน บอกว่าให้อภัยไม่ได้หรอก

เพราะสิ่งเหล่านั้นมันฝังลึกอัดแน่นอยู่ในใจของเธอมานาน เธอบอกว่า

 "ถึงตายก็ไม่ลืม"

ข้าพเจ้าก็เลยยกเรื่องจากพระคัมภีร์ตอนหนึ่ง ที่ว่าเราต้องยกโทษให้คนอื่นก่อนแล้วพระเจ้าจะยกโทษให้เรา สุดท้ายก็ยอมยกโทษน้ำตาไหลพราก เพราะอยากหายป่วยและอยากมีสันติสุขด้วย

ต่อจากนี้ข้าพเจ้าจึงนำเธอสารภาพบาปและให้อภัยคนอื่น โดยอธิษฐานตามข้าพเจ้า แต่พอพูดมาถึงประโยชน์ที่ว่า

“ขอเชิญพระเยซูมาอยู่กับลูก”

แม่บ้านคนนี้มีอาการตกใจและร่างกายเกิดอาการกระตุก สั่นแรงมากจนขนลุกไปหมด เธอร้องไห้ออกมาแล้วบอกว่า ไม่เอาแล้ว เพราะว่ามียายแก่ใส่ชุดขาวมาข้างหลังน่ากลัวมาก จะมาห้ามไม่ให้เขาต้อนรับพระเยซู เธอบอกว่า สิ่งที่เธอเห็นนี้คือผู้หญิงที่เธอเคยฝันเห็นอยู่บ่อย ๆ และเธอรู้สึกกลัวมาก เธอเห็นภาพชัดเจนมากด้วยตาเปล่า ทั้งๆที่ยังตื่นอยู่ จนเธอไม่กล้าหลับตาอธิษฐานต่อไป

ข้าพเจ้าก็นึกถึงเรื่องเมื่อตอนค่ำเมื่อวานที่เราไปอธิษฐานที่บ้านอาจารย์ไรท์ ขณะที่เราอธิษฐานเรื่องเกี่ยวกับเจ้าของบ้านหลังนี้   สามีของข้าพเจ้าได้เห็นนิมิตเกี่ยวกับที่บ้านหลังนี้ว่า มียายแก่ใส่ชุดสีขาวเดินวนเวียนไปมาในบ้าน  และในนิมิตนั้นสามีหนูได้เห็นว่า ยังมีรูปเคารพหลงเหลือในบ้าน โดยถูกเก็บซ่อนไว้ในช่องเก็บของบนหัวเตียง  อยู่ในเครื่องประดับที่หัวเตียงในตู้ไม้ของเจ้าของบ้านด้วย  

ทั้งๆ ที่เรายังไม่เคยมาที่บ้านหลังนี้เลย  แต่สิ่งที่สามีหนูได้เห็นในนิมิตนั้นเมื่อเรามาที่บ้านหลังนี้ เราก็พบว่าเป็นจริงตามที่เห็นในนิมิตค่ะ ที่หัวเตียงนอนของเจ้าของบ้านเป็นตู้ไม้ และมีรูปสัตว์นำโชคอยู่ในจี้ห้อยคอที่เป็นหยกอยู่ 2 อัน เราก็เลยขอเอาไว้เพื่อจะนำไปให้อาจารย์ทำลายในภายหลัง

ก่อนที่เราจะอธิษฐานปลดปล่อย  ข้าพเจ้ากับสามีเลยช่วยกันอธิษฐานปกป้องและไม่ให้ผีหรือวิญญาณต่าง ๆ มายุ่งในขณะที่เราอธิษฐาน

จากนั้นข้าพเจ้าก็นำแม่บ้านคนนี้สารภาพผิดกลับใจมาหาพระเจ้า   ทั้งที่เขายังลืมตาอยู่ เขาก็ร้องไห้และตัวสั่นเทิ่มไปด้วย พอเสร็จก็เริ่มอธิษฐานในพระนามพระเยซูคริสต์ ผู้หญิงคนนี้ก็อาเจียนออกมาตลอด พอเราขับเรียกชื่อวิญญาณอะไรเธอก็จะอาเจียนออกมาเรื่อย ๆ เช่น วิญญาณรูปเคารพ เขาก็อาเจียนมา วิญญาณรูปเคารพก็ออกตอนที่อาเจียนออกมา วิญญาณโสโครกต่าง ๆ วิญญาณความกลัว ฯลฯ ข้าพเจ้าอธิษฐานขับดันไปเรื่อยๆ

จนผู้หญิงคนนี้ไม่มีอาการอาเจียนแล้ว ข้าพเจ้าก็เลยถามความรู้สึกว่าเป็นอย่างไรบ้าง เธอก็บอกว่า ตอนที่เขาอาเจียนอยู่   เขาได้เห็นเหมือนมีใครบางคนใส่ชุดคล้ายพระเยซูสวมชุดสีขาวสว่างจ้ามาก มายืนอยู่ข้างหน้า จากนั้นก็เห็นพระองค์ในชุดสีแดง สวมมงกุฎนั่งอยู่บนบัลลังค์ และเธอรู้สึกมีความสุขมาก รู้สึกว่าตัวเบาไปหมดเหมือนจะลอยได้

ผู้หญิงแม่บ้านคนนี้คงสงสัยจึงออกปากถามเราว่า  "ทำไมพระของเรานี่แรงจริง ๆ เลย" แล้วก็ยิ้มทั้งน้ำตา เราก็เลยยกมือขอบคุณพระเจ้าร่วมกัน

ความจริงคือว่า  เราสองคนเคยมีประสบการขับผีพร้อมกับทีมมาแล้วบ้างค่ะ  แต่ว่าส่วนมากก็จะมีอาจารย์หรือผู้รับใช้ท่านอื่นคอยช่วยเหลืออยู่ใกล้ ๆ แต่ครั้งนี้ไปกันแค่สองคนสามีภรรยา ก็ขอบคุณพระเจ้าที่ให้เรากล้าและเพิ่มความเชื่อแก่เรา ขอบคุณพระเยซูที่รับรองการอัศจรรย์ของพระองค์อยู่เสมอค่ะ เรื่องนี้

คำพยานจาก ผู้ร่วมทีมปลดปล่อย idmt.org

หมายเหตุ จากผู้ถ่ายทอด

โปรดใช้วิจารณญานในการอ่านเพราะการกล่าวอ้างถึงวิญญาณบางอย่าง  อาจกระทบกระเทือนความเชื่อของศาสนาอื่น เจ้าแม่ที่กล่าวถึงในเรื่องนี้  น่าจะไม่ได้เป็นพระเจ้าหรือเทพอะไรสักอย่าง และผมเข้าใจว่าเป็นวิญญาณสมุนของซาตานปลอมตัวมาอย่างแน่นอน เพราะศาสนาคริสต์มีพระบัญญัติสิบประการข้อที่กล่าวว่า "ให้นับถือพระเจ้าเพียงองค์เดียว" และ " อย่าสร้างสิ่งใดไว้นมัสการ ไม่ว่าจะเป็นรูปสิ่งใดๆ ก็ตาม รวมถึงการสร้างรูปของพระเจ้าด้วย "  ผู้เชื่อพระเยซูคริสต์รับรู้ตรงกันอย่างแน่นอนแล้วว่า  มีพระเจ้าเพียงองค์เดียวแต่มีสามพระภาค คือ พระบิดา พระบุตร และพระวิญญาณบริสุทธิ์เท่านั้น และทั้งสามเป็นตรีเอกานุภาพ พระนามพระเยซูคริสต์คือพระนามที่มีชัยเหนือนามทั้งปวง (ฟป 2)

Rice Mu. August 2011

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

You may post your comments here.
หากท่านมีข้อคิดเห็นเพิ่มเติมหรือเสนอแนะเชิญออกความเห็นได้
(กรุณาใช้ข้อความสุภาพ และสร้างสรรค์)