การทำสุหนัตสำหรับคริสเตียนควรหรือไม่ Circumcision for Christian?



น่าดีใจที่ตอนนี้ขอแจ้งให้ทราบว่า มีกลุ่มพูดคุยในเฟซบุ๊ค ชื่อว่า กลุ่ม Thai Debate ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมความเข้าใจ และตอบข้อซักถามเกี่ยวกับความรู้ทางจริยศาสตร์ และความเชื่อตามแบบคริสเตียน หากท่านสนใจสามารถติดตามได้ในกลุ่ม Thai Debate ขอเชิญชวนท่านสมัครเข้าเป็นสมาชิกของกลุ่มเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และเสริมสร้างพระกายนะครับ

ในตอนนี้ขอนำเสนอหัวข้อกระทู้ ที่ถกกัน คือเรื่อง การทำสุหนัต ลองติดตามอ่านดูนะครับ


ผู้นำเสนอ กระทู้: คุณ Krissana Chimpinit
ขอถามความคิดเห็นหน่อยค่ะ คริสเตียนกับการทำสุหนัตเพื่อถือรักษาบัญญัติให้ครบ??
ต้องทำหรือเพราะอะไร

Top of Form
·          
Krissana Chimpinit เมื่อเรามาเชื่อพระเจ้าของอิสราเอล เราต้องทำตามสิ่งที่อิสราเอลถือปฏิบัติ(ถือบัญญัติและสิ่งสารพัดที่พระเจ้าให้อิสราเอล)ใช่หรือไม่ เหมือนเข้าความเชื่อไหนก็ต้องประพฤติตามความเชื่อนั้นๆ ????




Chanwit Chonsuwanwat การเชื่อในพระเยซูคริสต์ เท่ากับเราได้เข้าสุหนัน "ฝ่ายวิญญาณ" แล้วครับ

    •  กาลาเทีย 5:6 เพราะว่าในพระเยซูคริสต์นั้น การเข้าสุหนัตหรือไม่เข้าสุหนัต ก็หาเกิดประโยชน์อันใดไม่ แต่ความเชื่อต่างหากซึ่งกระทำกิจด้วยความรัก

Krissana Chimpinit แล้วที่มีผู้รู้อ้างข้อพระคัมภีร์มากมาย(ซึ่งก็จำไม่ได้ว่าข้อไหนบ้าง) ว่ายังคงต้องเข้าเนี้ย ตกลงมันยังไง.....ขอช่วยบอกหน่อยเถอะค่ะเพราะมันดูขัดแย้งกันคนละด้านเลย
Chanwit Chonsuwanwat คือเวลาเราอ้างข้อพระคัมภีร์ สิ่งสำคัญที่สุดที่ต้องตระหนักเสมอ คือ

1. พระคัมภีร์ทุกข้อ ทุกตอน ทั้ง OT และ NT ได้รับการดลใจจากพระวิญญาณบริสุทธิ์

2. พระคัมภีร์ใหม่ (NT) มีสิทธิอำนาจเท่ากับพระคัมภีร์เดิม (OT)

3. พระคัมภีร์ใหม่ทำให้พระคัมภีร์เดิมสำเร็จ นี่คือสาเหตุที่เราไม่ต้องถวายเครื่องบูชา ไม่ต้องห่วงว่ากินอาหารบางประเภทแล้วจะ "มลทิน" (คำว่ามลทินในพระคัมภีรืเดิม หมายถึง "มลทินตามระเบียบพิธี" ไม่ได้หมายความว่าอาหารมันสกปรก เนื้อหมู ถ้าเลี้ยงดีๆ มันก็สะอาด)

4. พระเยซูคริสต์เป็นผู้ทำให้ "ธรรมบัญญัติ" ในพระคัมภีรืเดิมสำเร็จตามน้ำพระทัยของพระบิดา พระยาห์เวห์

ส่วนการเข้าสุหนัด ในพระคัมภีร์เดิม หมายถึงการเข้าส่วนในพันธสัญญาของพระเจ้า เป็นส่วนหนึ่งของชนชาติอิสราเอล ปัจจุบันเมื่อเราเชื่อในพระเยซูคริสต์ เราอยู่ในพันธสัญญาใหม่ เราเป็น "ชนชาติอิสราเอลฝ่ายวิญญาณ" เรา "เข้าสุหนัตฝ่ายวิญญาณ" โดยพระโลหิตของพระเยซูคริสต์แล้ว จึงไม่ต้องไปเข้าสุหนัตฝ่ายกายภาพอีก
Chanwit Chonsuwanwat โรม 2

25 ถ้าท่านประ‍พฤติตามธรรมบัญ‍ญัติ พิธีเข้าสุหนัต ก็เป็นประ‍โยชน์จริง แต่ถ้าท่านละเมิดธรรมบัญ‍ญัติ การที่ท่านเข้าสุหนัตนั้นก็เหมือนกับว่าไม่‌ได้เข้าเลย

26 เพราะฉะนั้นถ้าคนที่ไม่‌ได้เข้าสุหนัตยังประ‍พฤติตามธรรมบัญ‍ญัติแล้ว การที่เขาไม่‌ได้เข้าสุหนัตนั้น จะถือว่าเขาได้‌เข้าแล้วไม่‌ใช่หรือ?

27 และพวกที่ไม่เข้าสุหนัตทางร่าง‌กาย แต่ประ‍พฤติตามธรรมบัญ‍ญัติ เขาจะพิ‍พาก‍ษาท่านผู้มีประ‍มวลธรรมบัญ‍ญัติและได้เข้าสุหนัตแล้ว แต่ยังละเมิดธรรมบัญ‍ญัตินั้น

28 เพราะ‌ว่ายิวแท้ ไม่ใช่คนเป็นยิวแต่ภาย‌นอกเท่านั้น และการเข้าสุหนัตแท้ก็ไม่‌ใช่การเข้าสุหนัตซึ่งปรา‍กฏที่เนื้อ‌หนังเท่านั้น

29 คนเป็นยิวแท้ คือคนที่เป็นยิวภาย‌ใน และการเข้าสุหนัตแท้นั้นเป็นเรื่องของจิต‌ใจ ***ตามพระ‌วิญ‍ญาณไม่ใช่ตามตัวบทบัญ‍ญัติ*** คนอย่างนั้นไม่ได้รับการยก‌ย่องจากมนุษย์ แต่ได้รับจากพระ‌เจ้า

Chanwit Chonsuwanwat กาลาเทีย 3

10 เพราะว่าคนทั้ง‌หลายซึ่งพึ่งการประ‍พฤติตามธรรมบัญ‍ญัติ ก็ถูกสาปแช่ง เพราะพระคัม‍ภีร์เขียนไว้ว่าทุก‌คนที่ไม่ได้ประพฤติตามข้อ‌ความทุกข้อที่เขียนไว้ในหนัง‍สือธรรมบัญ‍ญัติก็ถูกสาปแช่ง

11 เป็นที่แน่ชัดว่า ไม่มีใครถูกชำระให้ชอบ‌ธรรมในสายพระ‌เนตรของพระ‌เจ้าด้วยธรรม‌บัญ‍ญัติได้เลย เพราะว่า คนชอบ‌ธรรมจะมีชีวิตอยู่โดยความเชื่อ

12 แต่ธรรมบัญ‍ญัติไม่ได้อาศัยความเชื่อ เพราะผู้ที่ประพฤติตาม ธรรมบัญ‍ญัติ ก็จะมีชีวิตอยู่โดยธรรมบัญ‍ญัตินั้น

13 พระ‌คริสต์ทรงไถ่เราให้พ้นการสาปแช่งแห่งธรรมบัญ‍ญัติ โดยการทรงถูกสาปแช่งเพื่อเรา (เพราะพระคัม‍ภีร์เขียนไว้ว่า ทุกคนที่ถูกแขวนไว้บนต้น‌ไม้ต้องถูกสาปแช่ง”)

14 เพื่อพรของอับ‍รา‍ฮัมจะได้มาถึงบรร‍ดาคนต่างชาติ ที่อยู่ในพระ‌เยซู‌คริสต์ เพื่อเราจะได้รับพระ‌วิญ‍ญาณตามพระ‌สัญ‍ญาโดยความเชื่อ
Rice Mu ผมได้พบฝรั่งมิชชันนารีคนหนึ่ง เขาบอกผมว่า การทำสุหนัตในประเทศของเขา เป็นเรื่องขออนามัยทางร่างกายที่สำคัญ เขาบอกว่า ใครจะคริสต์ ไม่เป็นคริสต์ ก็จะได้รับการทำสุหนัต ตั้งแต่แรกเกิดอยู่แล้วครับ

ผมก็คิดอยากทำเหมือนกัน แต่ไม่รู้จะไปทำที่ไหน
Chanwit Chonsuwanwat มันเป็นเรื่องของอนามัยตรงใหนอ่ะครับอาจารย์ อยากรู้เหมือนกันคับ

Krissana Chimpinit นั้นก็เข้าใจได้ค่ะ แต่สำหรับบางคนมันเป็นเรื่องความเชื่อว่า "ถ้าทำจะได้เข้าส่วนในพระสัญญา"ของพระเจ้าล่ะคะ

Chanwit Chonsuwanwat แบบนั้นมันเป็นความเข้าใจผิดอ่ะครับ
Rice Mu พระคัมภีร์เขียนไหว้หลายตอนครับ เรื่องนี้

ประมาณว่า...
ถึงแม้คนที่เข้าสุหนัตแล้วก็มิได้ประพฤติตามธรรมบัญญัติ แต่เขาปรารถนาที่จะให้ท่านเข้าสุหนัต เพื่อเขาจะได้เอาเนื้อหนังของท่านไปอวด

Romans 2:25

25.ถ้าท่านประพฤติตามธรรมบัญญัติ พิธีเข้าสุหนัต(พิธีตัดหนังปลายองคชาติ โดยพิธีนี้ผู้ชายเข้าศาสนายิว) ก็เป็นประโยชน์จริง แต่ถ้าท่านละเมิดธรรมบัญญัติ การที่ท่านเข้าสุหนัตนั้นก็เหมือนกับว่าไม่ได้เข้าเลย

26.เหตุฉะนั้นถ้าผู้ที่ไม่ได้เข้าสุหนัตยังประพฤติตามธรรมบัญญัติแล้ว การที่เขาไม่ได้เข้าสุหนัตนั้น จะถือเหมือนกับว่าเขาได้เข้าสุหนัตแล้วไม่ใช่หรือ

27.และคนทั้งหลายที่ไม่เข้าสุหนัต แต่ประพฤติตามธรรมบัญญัติ เขาจะปรับโทษท่านผู้มีประมวลธรรมบัญญัติ และได้เข้าสุหนัตแล้ว แต่ยังละเมิดธรรมบัญญัตินั้น

28.เพราะว่ายิวแท้ มิใช่คนที่เป็นยิวแต่ภายนอกเท่านั้นและการเข้าสุหนัตแท้ก็ไม่ใช่การเข้าสุหนัตซึ่งปรากฏที่เนื้อหนังเท่านั้น

29.คนที่เป็นยิวแท้คือคนที่เป็นยิวภายในและการเข้าสุหนัตแท้นั้นเป็นเรื่องของจิตใจ ตามพระวิญญาณมิใช่ตามตัวบทบัญญัติ คนอย่างนั้นพระเจ้าสรรเสริญ มนุษย์ไม่สรรเสริญ

คนที่เป็นยิวแท้

คือคนที่ "เป็นยิวภายใน"

และการเข้าสุหนัตแท้ นั้นเป็นเรื่องของจิตใจ ตามพระวิญญาณมิใช่ตามตัวบทบัญญัติ
Krissana Chimpinit แหม..แต่เวลาเขายกข้อพระคัมภีร์มาเนี้ยมันก็น่าเชื่อไปหมด ชักงงแล้วค่ะไหนว่าพระคัมภีร์สอดคล้องกัน หรือว่าเราตีความกันคนละมุม?!?

Chanwit Chonsuwanwat เอาง่ายๆ ถ้า OT กับ NT ดูแล้วเหมือนจะขัดแย้งกัน ให้ยึด NT ใว้ก่อน

Chanwit Chonsuwanwat เพราะจุดประสงค์ต่างๆ ของบทบัญญัติใน OT (ตามประมวลอักษร) นั้นมาสำเร็จได้ที่ NT (ตามพระวิญญาณ) ครับ

Isaac Khoo หลักการในการตีความพระคัมภีร์ง่ายๆที่ผมอยากเสนอให้เราคิดด้วยกันนะครับ 1. พระคัมภีร์รับการดลใจจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ โดยธรรมชาติจึงไม่มีการขัดกัน 2. ถ้าเราอ่านแล้วดูเหมือนว่า พระคัมภีร์มีความขัดกัน สาเหตุเกิดจากตัวเรา ไม่ได้เกิดจากพระคัมภีร์
Padunkiaet Vejvechaneyom มีกฎข้อบังคับหรือบัญญัติหรือคำสั่งให้ยึดถือปฏิบัติหลายอย่างที่พระเจ้ามอบให้ชาวยิวผ่านทางโมเสสนั้นที่ไม่จำเป็นต้องยึดถือปฏิบัติอีกต่อไปสำหรับคริสเตียน ข้อบังคับเหล่านั้นส่วนมากเกี่ยวข้องกับระบบของเลวีที่ใช้ในการนมัสการพระเจ้าซึ่งปรากฏในพันธสัญญาเดิม จุดประสงค์คือต้องการแยกชนชาติอิสราเอลออกมาจากชาติต่างๆ เป็นกฎข้อบังคับสำหรับชาติอิสราเอล พระเจ้าไม่ได้ทรงมีพระประสงค์จะใช้กฎข้อบังคับหลายอย่างเหล่านั้นกับชนชาติอื่นๆ เช่น การทำ circumcision (การขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศชาย = การทำสุหนัต) การถวายสัตว์บูชา เรื่องอาหารที่เป็นมลทิน เรื่องการแต่งกายในการถวายสัตว์บูชา

ทำนองเดียวกันกฎหมายและบทลงโทษหลายๆอย่างก็เป็นเอกสิทธิ์สำหรับชาวยิวหรือชาติอิสราเอลในยุคพันธสัญญาเดิมเท่านั้น เช่น ใครกราบไหว้นมัสการพระอื่น การใช้เวทมนตร์คาถา การที่ลูกๆไม่เชื่อฟังพ่อแม่หรือกฎหมายอยู่บ่อยๆตลอดเวลา การผิดประเวณี พวกHomosexual บทลงโทษของประการเหล่านี้ คือ การถูกประหารชีวิต ซึ่งถ้ามา applied กับคริสเตียนคงไม่เหมาะสมซึ่งเป็นตัวอย่างที่เห็นได้ชัด

แต่ก็มีกฎข้อบังคับหรือบัญญัติหรือคำสั่งให้ยึดถือปฏิบัติหลายอย่างที่เกี่ยวกับหลักศีลธรรมที่ยังเป็นสิ่งที่ต้องยึดถือ อันที่จริงเราหาหลักเหล่านี้ได้จากพันธสัญญาใหม่ และหลายๆอย่างของพันธสัญญาใหม่มีความกว้างขวางและลึกซึ้งกว่ามาก เพราะเราเดินตามพระวิญญาณ ไม่ใช่ตัวอักษร เราไม่ฆ่าใครแต่ด่าหรือแช่งเขาก็เท่ากับฆ่าเขาแล้ว เราไม่ผิดประเวณีแต่มองผู้หญิงด้วยใจกระหายแม้ไม่ได้ทำอย่างใจคิดก็เหมือนได้ทำแล้ว ดังนี้เป็นต้น พันธสัญญาใหม่ถูกเขียนเพื่อเราคริสเตียนโดยเฉพาะ การหาคำตอบว่าเราจะปฎิบัติตัวของเรายังไงดีก็ควรเริ่มต้นหาในพันธสัญญาใหม่ก่อนนะครับ
Isaac Khoo การขัดกันในตัวเรา คือ 2.1 ความรู้เรายังน้อยเกินไป หรือเราไม่ได้รับการเปิดเผยเรื่องดังกล่าวอย่างชัดเจน 2.2 การก้าวไปสู่พันธสัญญาใหม่ ทำให้พันธสัญญาเดิมต้องเข้าไปสู่การเติมเต็มโดยพระคุณของพระคริสต์ 2.3 ความลึกซึ้งของภาษาดั้งเดิมที่เราอาจไม่เข้าใจมากพอ 2.4 เราอาจทำบาป และบาปขวางการทำงานของพระวิญญาณบริสุทธิ์ 2.5 ความรู้ดั้งเดิมทำให้เราไม่สามารถเติมของใหม่เข้าไปได้ ฯลฯ

Isaac Khoo ในกรณีของการสุหนัต เป็นการทำพันธสัญญานิรันดร์ระหว่างพระเจ้ากับอับราฮัม และพงศ์พันธุ์ โดยเล็งถึงความบริสุทธิ์ ความเชื่อ และการเป็นคนของพระเจ้า ชนชาติที่แตกต่างกับชนชาติอื่นที่ศรัทธาในพระเจ้าหลายองค์ อย่างไรก็ตาม พระคริสต์ได้สิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน แล้ว ดังนั้น พระคุณ และเสรีภาพจึงเป็นสิ่งที่เราได้รับการจากการเป็นขึ้นจากความตาย Concept เรื่องสุหนัตที่เน้นเรื่องการเป็นชนชาติของพระเจ้าจึงมีส่วนในแผ่นดินสวรรค์จึงจบลงด้วย

Isaac Khoo ตามปกติ นักการศาสนาในเวลานั้นเชื่อว่า การเป็นชนชาติของพระเจ้าได้มาจากการทำสุหนัตที่ร่างกาย และการเป็นชนชาติทำให้มีส่วนในความรอดโดยอัตโนมัติเพราะการถือบัญญัติ ดังนั้น เมื่อพระเยซูคริสต์ทรงเป็นขึ้นจากตาย ความรอดจึงไม่ได้มาจากการสุหนัตอีกต่อไป

Isaac Khoo การศึกษาเรื่องนี้ ผมขอแนะนำให้อ่าน กาลาเทีย และโรม เพื่อพิจารณาเรื่องพระคุณที่มาแทนการสุหนัต เทียบกับปฐมกาล 12-17 ครับ ส่วนเรื่องความหมายการทำสุหนัต หรือ Berit ในภาษาอีบรู ว่างๆจะเขียนให้นะครับ
Krissana Chimpinit ค่ะเห็นด้วย ขอการทรงนำจากพระวิญญาณให้เรารู้ถึงความล่้ำลึกของพระองค์ อันนี้หล่ะค่ะ บอกพระวิญญาณนำกันหมด

ที่ถามแบบนี้เพราะอยากรู้ว่าอะไรจริงและใช่ เพราะพอบอกแบบนี้ก็ให้ไปอ่านพระคัมภีร์แล้วขอการสำแดงจากพระเจ้า. หรือว่าพระวิญญาณสำแดงกับเขาแต่กับเรายังไม่ถึงเวลาให้เข้าใจความล้ำลึกอย่างเขานะ (ถ้าเป็นอย่างนั้นก็จบใบ้กิน ^^)
Isaac Khoo ผมหนุนใจไม่ค่อยเก่งนะครับ แต่อยากบอกว่า คำถามบางอย่างถึงมันจะดุยากๆ และมีหลายคนพูด เสนอในสิ่งที่ต่างออกไป แต่ขอให้ตั้งมั่นในการอ่านพระคัมภีรื และอธิษฐานขอสติปัญญาจากพระเจ้านะครับ การถามจากศิษยาภิบาลของท่าน และการอ่านเพิ่มเติม หรือการให้พระเจ้าทรงนำ เป็นเรื่องพื้นฐานที่ทุกคนยังต้องทำ พระเจ้าทำงานผ่านศิษยาภิบาลของท่านเสมอครับ ถามเขาได้ จะเป็นประโยชน์มาก ผมหนุนใจให้รักพระคำพระเจ้า และตั้งมั่นในความเชื่อนะครับ พระเจ้าอวยพรครับผม ^^\

Isaac Khoo แต่ถ้าเข้ามาคุยกันที่นี่ แอตมิน และเพื่อนๆร่วมบอร์ดทุกท่านยินดีต้อนรับครับผม
Krissana Chimpinit กำลังสับสนค่ะ เพราะมีหลายคนไปทำกันแล้ว
ไม่ได้ไปดูหมิ่นความเชื่อนั้นนะคะ แต่กลับเหมือนเราไม่รู้จักพระเจ้าเลย คงโทษใครไม่ได้เท่ากับตัวเราเอง - -' ขอพระเจ้าช่วยลูกด้วย
Chanwit Chonsuwanwat Krissana Chimpinit พระวิญญาณตรัสบอกคุณโดยตรงหรือไม่ว่า "ต้องเข้าสุหนัต"

(หวังว่าคงจะตอบว่า "ไม่" นะครับ ถ้าบอกว่า "ใช่" ขึ้นมาละก็ สงสัยเราคงเชื่อพระเจ้าคนละองค์)

แต่ เอ๊ะ คุณเป็นผู้หญิงนี่ ผู้หญิงมีเข้าสุหนัตด้วยหรือ ผมไม่มีความรู้เรื่องเข้าสุหนัตเท่าไหร่นะครับ
Chanwit Chonsuwanwat Krissana Chimpinit "ค่ะเห็นด้วย ขอการทรงนำจากพระวิญญาณให้เรารู้ถึงความล่้ำลึกของพระองค์ อันนี้หล่ะค่ะ บอกพระวิญญาณนำกันหมด

ที่ถามแบบนี้เพราะอยากรู้ว่าอะไรจริงและใช่ เพราะพอบอกแบบนี้ก็ให้ไปอ่านพระคัมภีร์แล้วขอการสำแดงจากพระเจ้า. หรือว่าพระวิญญาณสำแดงกับเขาแต่กับเรายังไม่ถึงเวลาให้เข้าใจความล้ำลึกอย่างเขานะ (ถ้าเป็นอย่างนั้นก็จบใบ้กิน ^^)"

หนุนใจว่าทุกครั้งเมื่อเราอ่านพระคัมภีร์ ให้เราอธิษฐานขอพระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงประทานสติปัญญา ความเข้าใจในพระคำตอนนั้นให้เราเอาไปประยุกต์ใช้ในชีวิตครับ

พระวิญญาณทรงสอนพระวจนะของพระองค์ได้หลายๆ วิธีครับ บางทีเราอ่านพระคำตอนนั้น เราอาจไม่เข้าใจ ยังไงก็นึกไม่ออก แต่พระองค์อาจให้เราเจอเหตุการณ์ หรือปัญหาบางอย่าง ซึ่งเม่อเราผ่านแล้ว ก็จะเข้าใจพระคำตอนนั้นทันที

หรือบางครั้งพระองค์อาจจะให้เราเข้าใจผ่านการสอน คำเทศนาในคริสตจักร หรือจากากรที่คนอื่นๆ อธิบายให้ฟังก็ได้ครับ
Chanwit Chonsuwanwat แต่หลักการที่ผมกับท่าน อ. Isaac Khoo ให้ใว้นั้น เป็นพื้นฐานการอ่านและตีความพระคัมภีรืที่ถูกต้องครับ ทุกๆ คริสตจักรที่ยึดมั่นในพระวจนะพระเจ้า และโรงเรียนพระคริสต์ธรรมทุกแห่ง ต่างสอนแบบนี้เหมือนกันทั้งหมดครับ
ดา แซ่เฮ้ง แปลกดีนะ ที่ผู้ญ. มาถามเรื่องเข้าสุหนัต
แต่เคยรู้มาว่า แถวตะวันออกกลาง เขาจับผู้หญิง. เข้าสุหนัตด้วย
Chanwit Chonsuwanwat เคยได้ยินมาบ้างเหมือนกันน่ะ
Isaac Khoo ถ้าสุหนัตเพื่อความสะอาด และสุขภาพอนามัย ทำได้ครับ รู้สึกว่า อ.Rice Mu โพสท์ไว้ข้างบนแล้วครับ หรือใครที่เคยทำไปในช่วงเด็กเพราะเป็นมุสลิมที่กลับใจมาเชื่อพระเจ้า หรือทำเพราะเหตุผลอื่นๆ ผมว่าไม่น่ามีปัญหาอะไร ถ้าเราเข้าใจว่า การทำสุหนัตไม่เกี่ยวกับความรอด ถ้าอธิบายไปในทางที่ว่า ทำเพราะเห็นแก่พันธสัญญาเดิม อันนี้ก็คงต้องขอความกระจ่างว่าทำไม แต่ถ้าทำเพราะเห็นว่า การทำสุหนัตเพื่อความรอด เพื่อการเป็นพลเมืองของพระเจ้า เพื่อจะถูกนับว่าเป็นประชากรของพระองค์ อันนี้ขัดแย้งกับคำสอนในกาลาเทียแน่นอนครับ
ดา แซ่เฮ้ง คือแบบว่า ญ มิได้สมัครใจเต็มใจทำอ่ะ   แบบถูกบังคับ
Adisorn Sae-Ia คุณ Krissana Chimpinit ครับ ระวัง ! สิ่งที่คุณได้ยินอาจเป็นคำสอนเท็จครับ

กท.5:2-4 บอกว่า "นี่แน่ะ ข้าพเจ้าเปาโล ขอบอกท่านว่า ถ้าท่านรับพิธีเข้าสุหนัต พระคริสต์จะทรงทำประโยชน์อะไรให้แก่ท่านไม่ได้เลย ข้าพเจ้าเป็นพยานให้ทุกคนที่รับพิธีเข้าสุหนัตทราบอีกว่า เขาถูกผูกมัดให้ประพฤติตามธรรมบัญญัติทั้งสิ้น ท่านที่ปรารถนาจะเป็นคนชอบธรรมโดยธรรมบัญญัติ ก็ขาดจากพระคริสต์ และหล่นพ้นจากพระคุณไปเสียแล้ว"

ถ้าเชื่อว่า ต้องเข้าสุหนัตจึงจะรอด สิ่งนี้เป็นคำสอนเท็จครับ เพราะความรอด = พระคุณ + ความเชื่อ (อฟ.2:8-9)
อฟ.2:8-9 บอกว่า "ด้วยว่าซึ่งท่านทั้งหลายรอดนั้นก็รอดโดยพระคุณเพราะความเชื่อ และมิใช่โดยตัวท่านทั้งหลายกระทำเอง แต่พระเจ้าทรงประทานให้ ความรอดนั้นจะเนื่องด้วยการกระทำก็หามิได้ เพื่อมิให้คนหนึ่งคนใดอวดได้"

ใน กท.5:2-4 อ.เปาโลพูดชัดเจนว่า

1. ถ้ารับพิธีเข้าสุหนัต (เพื่อความรอด)การตายของพระเยซูที่ไม้กางเขนจะไม่
มีประโยชน์ต่อคน ๆ นั้น (กท.5:2)
2. ถ้าจะเป็นคนชอบธรรมโดยการเข้าสุหนัต ก็จะต้องรักษาธรรมบัญญัติทั้ง
หมด ซึ่งไม่มีใครทำได้ เพราะถ้าผิดข้อเดียวก็เท่ากับผิดทั้งหมด
(กท.3:10; ยก.2:10)

กท.3:10 บอกว่า "เพราะว่าคนทั้งหลายซึ่งพึ่งการประพฤติตามธรรมบัญญัติ ก็ถูกแช่งสาป เพราะพระคัมภีร์เขียนไว้ว่า ทุกคนที่มิได้ประพฤติตามข้อความทุกข้อ ที่เขียนไว้ในหนังสือธรรมบัญญัติก็ถูกแช่งสาป"
ยก.2:10 บอกว่า "เพราะว่าผู้ใดรักษาธรรมบัญญัติได้ทั้งหมด แต่ผิดอยู่ข้อเดียว ผู้นั้นก็เป็นผู้ผิดธรรมบัญญัติทั้งหมด"

3. ถ้าจะเป็นคนชอบธรรมโดยการทำตามธรรมบัญญัติ ก็ขาดจากพระคริสต์ &
หล่นพ้นพระคุณ (กท.5:4) ซึ่งแน่นอน ถ้าไม่่มีพระคุณ ก็ไม่รอดแน่นอนครับ

(พระคุณ = การได้รับเปล่า ๆ โดยไม่สมควร ดังนั้น ถ้าเราพยายามทำด้วยตนเอง เพื่่อให้ได้รับความรอด ก็จะไม่รอดในที่สุดครับ)

ถ้าสิ่งที่คุณได้รับเป็นคำสอนเพื่อความรอด ก็จะเป็นสิ่งที่ อ.เปาโล ต่อต้าน
เพราะคือ ข่าวประเสริฐอื่น (กท.1:6-9 ซึ่งผู้สอนจะถูกสาปแช่ง & ผู้ที่เชื่อจะ
ไม่รอดครับ)

กท.1:6-9 บอกว่า "ข้าพเจ้ารู้สึกประหลาดใจ ที่พวกท่านพากันละทิ้งพระองค์ไปอย่างรวดเร็ว พระองค์ทรงเรียกท่านมาโดยพระคุณของพระคริสต์ แต่ท่านกลับหันไปหาข่าวประเสริฐอื่นเสีย ความจริงข่าวประเสริฐอื่นไม่มี แต่ว่ามีบางคนที่ทำให้ท่านยุ่งยาก และปรารถนาที่จะบิดเบือนข่าวประเสริฐของพระคริสต์ แม้แต่เราเองหรือทูตสวรรค์ ถ้าประกาศข่าวประเสริฐอื่นแก่ท่าน ซึ่งขัดกับข่าวประเสริฐที่เราได้ประกาศแก่ท่านไปแล้วนั้น ก็จะต้องถูกแช่งสาป ตามที่เราได้พูดไว้ก่อนแล้ว บัดนี้ข้าพเจ้าพูดอีกว่า ถ้าผู้ใดประกาศข่าวประเสริฐอื่นแก่ท่านที่ขัดกับข่าวประเสริฐซึ่งท่านได้รับไว้แล้ว ผู้นั้นจะต้องถูกแช่งสาป"

นี่เป็นสาุเหตุที่ อ.เปาโล ไม่ยอมให้ทิตัสเข้าสุหนัต เพื่อเหตุผลนี้ (กท.2:3)
กท.2:3 บอกว่า "แต่ถึงแม้ทิตัสซึ่งอยู่กับข้าพเจ้าจะเป็นคนกรีกเขาก็ไม่ได้ถูกบังคับให้เข้าสุหนัต"

แต่ถ้าเขาสอนให้เข้าสุหนัต เพื่อเหตุผลอื่นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งครับ (ในกรณี นี้ไม่ถือว่าเป็นคำสอนเท็จ อาจเป็นแค่การตีความที่แตกต่างครับ) เช่น เพื่อพระพร หรือ เพื่อเข้าเป็นประชากรพระเจ้าอย่างสมบูรณ์ก็คงไม่จำเป็นครับ ไม่อย่างงั้น ทิตัสก็น่าจะเข้าสุหนัตเพื่อเหตุผลนี้

แต่ถ้าเขาสอนว่า เข้าสุหนัตเพื่อเห็นแก่คนอื่น เพื่อให้ประกาศง่ายขึ้น อันนี้ก็มีส่วนครับ (กจ.16:3)
กจ.16:3 บอกว่า "เปาโลจะใคร่พาทิโมธีไปด้วยกันจึงให้เ
Isaac Khoo ขอบคุณเฮียอดิศรสำหรับคำอธิบายครับ ^^\
Bottom of Form

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

You may post your comments here.
หากท่านมีข้อคิดเห็นเพิ่มเติมหรือเสนอแนะเชิญออกความเห็นได้
(กรุณาใช้ข้อความสุภาพ และสร้างสรรค์)