ความฉลาดของคนในโลกนี้

"คนของความสว่างจงฉลาดกว่าโลกนี้"

ระบบเศรษฐกิจในโลกเราทุกวันนี้ กำหนดให้ธุรกิจต้องแข่งขันกันเมื่อก่อนพูดกันว่า
"ปลาใหญ่กินปลาเล็ก" แต่เดี๋ยวนี้กลายเป็น "ปลาเร็วกินปลาช้า"และกำลังจะกลายเป็น
"ปลาฉลาดกินปลาโง่" ซึ่งเครื่องมือทางธุรกิจอย่างหนึ่ง คือ marketing หรือ
"การตลาด" ปัจจุบันมีวิวัฒนาการเร็วกว่าอดีตอย่างมาก และมากอย่างไม่น่าเชื่อ


เมื่อก่อนด้วยการผูกขาดทางการค้าและการเป็นธุรกิจรายแรกๆ เราใช้ผงซักฟอกใครๆก็เรียก
"แฟ้บ" เราใช้ผ้าอ้อมเด็ก ใครๆก็เรียกหา "แพมเพอร์ส" ก็ว่าประสบความสำเร็จดีแล้ว
อีกทั้งการใช้วิธีการ ลด แลก แจก แถม
ที่ห้างโมเดิร์นเทรดทำโปรโมชั่นของใช้บางประเภท
เพื่อดึงดูดลูกค้าให้ไปจับจ่ายสินค้าและบริการอย่างอื่นพ่วงไปด้วย แต่ปัจจุบันนี้
marketing เข้ามามีบทบาทมากยิ่งขึ้น ละเอียดอ่อน ซับซ้อน และทรงประสิทธิภาพอย่างสูง
ว่ากันว่า ในปัจจุบันนี้นอกจาก marketing
จะเป็นตัวดึงดูดความสนใจและแปรเปลี่ยนพฤติกรรมของคนในสังคมแล้ว
ยังสามารถเป็นตัวกำหนดการตัดสินใจและรูปแบบการใช้ชีวิตอย่างน่าทึ่ง
เราจะเห็นโฆษณาทางโทรทัศน์ประเภทที่ทำให้เสียความมั่นใจในตัวเอง (self
esteem) เช่น บอกว่าผิวเรายังไม่ขาวพอ หน้าเรายังไม่ใสพอ
รักแร้เรายังไม่ขาวเนียนพอ
รูปร่างผิวพรรณยังไม่ดีพอต้องดื่มต้องทา...และอีกมากมายที่บอกว่า "เรายังไม่ดีพอ"
โดยละลายพฤติกรรมให้เกิดการยอมรับและให้เชื่อว่าสังคมต้องการแบบนั้นและเราก็ต้องเสียเงิน


นอกจากนี้ยังพบการตลาดประเภทกำหนดเวลา เช่น one day หรือ one price
ซึ่งเป็นการกระชับการตัดสินใจของเราให้สั้นลงและแคบลง เช่น
"ราคานี้วันเดียวเท่านั้น" "วันนี้วันสุดท้าย" และเราก็ต้องจ่าย
การตลาดประเภทขายฝันขายความสุขยอมให้เรา "ผ่อนจ่ายซื้อความสุข"
อย่างแพ็คเกจท่องเที่ยวราคาหลายแสนบาท ซึ่งใช้ "หลักจิตวิทยากดดัน" มี presentation
อย่างมืออาชีพ
และคิดละเอียดไปจนถึงขั้นว่าจะให้ลูกค้านั่งเก้าอี้ตัวไหนพนักงานขายนั่งตรงไหนในการปิดการขาย


นอกจากนี้ยังมีการตลาดที่เล่นกับความรู้สึกพื้นฐานของคน คือ ความกลัว
ในธุรกิจประเภทประกันชีวิตซึ่งแทรกซึมไปในหลายธุรกิจ
ซึ่งในปัจจุบันยิ่งมีเทคโนโลยีเข้ามาผสมผสานด้วยแล้วยิ่งน่าสนใจ เช่น
บริษัทผลิตสินค้าแห่งหนึ่ง
ใช้เกมส์ออนไลน์ในการสอดแทรกและเชื่อมโยงพฤติกรรมของผู้เล่น
ซึ่งส่งผลทางจิตวิทยาในการเลือกตัดสินใจในการที่จะซื้อสินค้าและบริการของบริษัทตน


ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ไม่ได้หมายความว่าให้เราต่อต้านการทำการตลาด
เพราะธุรกิจในสังคมทุนนิยมยังคงดำเนินไปตามธรรมชาติของมัน
แต่สิ่งที่ต้องให้ความสำคัญคือการเลือกตัดสินใจโดยการใช้สติ และ ปัญญา
โดยไม่ตกเป็นเหยื่อของ marketing แต่ต้องรู้ทัน เข้าใจวิธีคิด
และตอบสนองมันอย่างเกิดประโยชน์สูงสุด


ใน พระคัมภีร์ Bible กล่าวไว้ใน พระธรรมลูกา บทที่16ข้อ1-8 (Luke16:1-8)
เรื่อง "คำอุปมาเรื่องผู้ดูแลเจ้าเล่ห์" ได้ให้เราตระหนักรู้ เท่าทันโลก
โดยมีเนื้อหาน่าสนใจที่เน้นให้เรารู้ว่า "คนของความสว่างจงฉลาดกว่าโลกนี้"
ซึ่งมีประโยชน์อย่างมากในโลกธุรกิจกับการดำเนินชีวิตในยุคปัจจุบัน ที่ว่ากันว่า
"marketing ทำได้ทุกอย่าง"


ขอพระเจ้าอวยพรครับ

สมเกียรติ ชิเนนทโรภาส

(คริสตจักรบ้านคานาอัน)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

You may post your comments here.
หากท่านมีข้อคิดเห็นเพิ่มเติมหรือเสนอแนะเชิญออกความเห็นได้
(กรุณาใช้ข้อความสุภาพ และสร้างสรรค์)