การเตรียมตัวสำหรับความเจ็บปวด

พร้อมเสมอสำหรับสิ่งเลวร้าย!
 "จงหวังในสิ่งที่ดีที่สุด
 
แต่จงเตรียมรับมือกับสิ่งที่เลวร้ายที่สุด!" (Hope for the best, but prepare for the worst.)
 
ใช่ครับ โดยปกติใคร ๆ ก็หวังจะประสบพบกับ "สิ่งที่ดีที่สุด!"
 
มีแต่คนสติไม่ดีล่ะกระมังที่อยากเจอแต่เรื่องร้าย ๆ
คนปกติเขาต้องการจะพบกับสิ่งที่ก่อเกิดความสุข
ไม่ใช่สิ่งที่ต้องตรอมตรมอยู่กับความทุกข์
แต่ความจริงอันโหดร้ายของชีวิตก็คือ "สิ่งดีที่สุด"
ที่คาดหวังจะได้พบกลับไม่เจอะเจอ   แต่ "สิ่งเลวร้ายเป็นที่สุด"
กลับมาแวะเยือน โดยไม่ได้รับเชิญ!
 
ผลก็คือ เราช็อค! เพราะไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้ก่อน!
 
ฉะนั้น จะเป็นการดีและปลอดภัยสำหรับคุณที่จะเตรียมตัวสำหรับ
"สิ่งที่ไม่คาดฝัน" หรือ "ไม่คาดหวัง"
ที่อาจเกิดขึ้นกับคุณหรือคนที่คุณรัก!
 
ก็เหมือนกับการแต่งงาน ที่ก่อนเข้าสู่พิธีสมรส
คู่บ่าวสาวควรได้เข้ารับการอบรมในหลักสูตร "การให้คำปรึกษาก่อนแต่งงาน"เสียก่อน !
 
ทำไมน่ะหรือ?
 
ก็เพราะว่า คนที่กำลังอยู่ในอารมณ์
และบรรยากาศแห่งความรักมักจะไม่ได้เตรียมพร้อมที่จะเผชิญกับสิ่งที่เรียกว่า
"เซอร์ไพร๊ส!" (Surprise!)  และบางครั้งหลังจากแต่งงานไปแล้วไม่นาน
คู่บ่าวสาวบางคนก็อาจช็อคแบบล้มทั้งยืนก็ได้
เมื่อพบความจริงเกี่ยวกับคู่สมรสของตน อาทิ
 
...บางคู่แต่งงานกันไปไม่นานในขณะที่เพิ่งตั้งครรภ์ หรือเพิ่งคลอดลูก
ก็พบความจริงว่า คู่สมรสของตนไปเริงร่า    บ้ากามกับบุคคลที่ 3
อย่างสุขสันต์ ต่อเนื่องยาวนาน!
 
อย่างนี้จะช็อคหรือไม่?
 
...บางคู่แต่งงานกันไปไม่นาน หลังจากคลอดบุตรหรือธิดา ก็พบว่า
คู่สมรสของตนไปก่อหนี้สินเอาไว้รุงรังจำนวนมาก
เพราะติดการพนันอย่างถอนตัวไม่ขึ้น พอไปเครียร์ปัญหาและไปค้ำประกัน
ก็พบว่าหนี้สินกลับเพิ่มทวีขึ้นอีกอย่างมหาศาล จนบ้านช่องถูกยึด
 
หากเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นกับคุณมันจะทำให้คุณช็อคหรือไม่ครับ?
 
...บางคู่แต่งงานกันไปหลายปี มีลูกมีเต้าด้วยกันก็หลายคน
แต่วันดีคืนดีพ่อเจ้าประคุณสามีก็มาบอกภรรยาว่า
เขาไม่อยากเป็นผู้ชายแล้วนะ จากนี้เป็นต้นไป เขาขอเป็นผู้หญิงด้วยคน!
จากนั้นก็เขียนคิ้ว ทาเล็บ ทาปาก ใส่ชุดชั้นใน และกระโปรงผู้หญิง
หน้าตาเฉยเลย!
 
หากเกิดขึ้นกับคุณ คุณจะช็อคไหม?          ฯลฯ
 
ที่ผมยกมาพูดในที่นี้ ล้วนเป็นกรณีที่เกิดขึ้นเป็นจริงมาแล้วทั้งสิ้น
และมิหนำซ้ำบางกรณีเกิดขึ้นกับคู่ที่ไปเข้าหลักสูตรให้คำปรึกษาก่อนแต่งงานแล้วด้วย
เพียงแต่ว่า พวกเขาไม่ทำตามกติกาของหลักสูตร นั่นคือ
ไม่พูดความจริงทั้งหมดต่อกันก่อนแต่งงาน!
 
...หากทั้งคู่จริงใจที่จะพูดถึงจุดอ่อน หรือความอ่อนแอ
รวมทั้งข้อมูลเกี่ยวกับปัจจัยเสี่ยงที่อาจนำความเจ็บปวดของคู่สมรสออกมาตั้งแต่แรก
บางทีคู่สมรสที่มีความรักมากอาจจะมีเวลาเตรียมตัวเตรียมใจหรือเตรียมพร้อมที่จะรับสภาพเช่นนั้นไว้ล่วงหน้า
ทำให้สิ่งอันไม่พึงปรารถนานั้นไม่ส่งผลกระทบอะไรรุนแรงนัก
หรือคู่สมรสของเขาอาจทุ่มเทอุตสาหะช่วยเหลือจนแนวโน้มปัญหาหรือความเสี่ยงนั้นหมดไปก่อนหรือหลังจากแต่งงานแล้วก็เป็นได้!
 
...
ส่วนคนรักหรือคู่หมั้นที่ไม่ได้รักจริงหรือรักมากขนาดพอที่จะยอมแบกรับความเจ็บปวดที่อาจเกิดขึ้นเหล่านั้นก็อาจจะกล่าวคำอำลาจากไปตั้งแต่เนิ่น
ๆ โดยไม่ต้องทุกข์ทรมานอย่างยาวนานด้วยกันทั้งคู่ในภายหลัง!
 
ดังนั้น ไม่ว่าจะทำอะไร จะเป็นเรื่องความรักครอบครัว หรือเรื่องธุรกิจ
อาชีพการงาน  การลงทุนหรือการเรียนหรือในความสัมพันธ์กับผู้อื่น
คุณจงหวังในสิ่งที่ดีที่สุดไว้เสมอ
แต่อย่าลืมแก้ไขและอุดช่องโหว่ทุกช่องที่อาจนำปัญหามาสู่คุณอย่างเต็มกำลัง
พร้อมเตรียมป้องกันสิ่งเลวร้ายไม่คาดหวัง!
 
จากนั้นขอให้คุณยึดหลักประกันที่มั่นคงที่สุดในการเตรียมรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา
นั่นคือ "องค์พระเจ้า" ผู้ทรงฤทธิ์และทรงรัก เพราะว่า
ไม่มีผู้ใดหรือสิ่งใดในโลกหรือในจักรวาลนี้ที่จะมั่นคงแน่นอนยิ่งไปกว่าพระเจ้าผู้ทรงไม่เปลี่ยนแปลง
 
ดังนั้น หากว่าคุณรู้จักพระองค์ และติดสนิทอยู่กับพระองค์แล้ว
ไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรที่ "เซอร์ไพร๊ส" แบบเลวร้าย   สุด ๆ
สักปานใดก็ตาม
คุณก็จะยังคงยืนหยัดอยู่ได้อย่างสง่างามและมั่นคงจนถึงที่สุด!
 
"พระเยซูคริสต์ยังทรงเหมือนเดิมในเวลาวานนี้ และเวลาวันนี้
และต่อๆไปเป็นนิจกาล" (ฮบ.13:8)
 
Writer: ธงชัย ประดับชนานุรัตน์-

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

You may post your comments here.
หากท่านมีข้อคิดเห็นเพิ่มเติมหรือเสนอแนะเชิญออกความเห็นได้
(กรุณาใช้ข้อความสุภาพ และสร้างสรรค์)