Merry Christmas forever: สุขสันต์.............. วันคริสตมาสอย่างไรให้สุขนานๆ

Dec 18, 2010


ผมได้รับเกียรติถูกเชิญให้ไปเทศนาในงานวันคริสตมาสให้แก่คริสตจักรเล็กๆ ที่เป็นคริสตจักรที่มีเป้าหมายสำหรับการพัฒนาเด็กและเยาวชนแห่งหนึ่ง ในวันนี้มีคนมาประมาณ 70 คน ส่วนมากเป็นเด็กๆ ทั้งนั้น ผู้เชิญมอบหมายหัวข้อการเทศนาคือ สันติสุขแห่งการให้

มันเป็นโจทย์หัวข้อเทศนาที่ ใครที่เป็นนักการศาสนาได้รับหัวข้อนี้ ก็คงยิ้มหวานเพราะว่า มันไม่ยากเลย เท่าที่ผมสังเกต ผมมีประสบการณ์ในการอยู่ในศาสนาคริสต์มานานตั้งแต่เกิด ตอนนี้ก็เกือบร้อยปีเหลืออีกไม่มาก ประมาณ ครึ่งหนึ่ง ผมได้เรียนรู้ว่า การเทศนาหัวข้อวันคริสตมาสของนักการศาสนาทั่วไปเขาทำกันแบบไหน ส่วนใหญ่จะเทศนาเพื่อส่งเสริมความเข้าใจเกี่ยวเรื่องราวตำนานของวันคริสต์มาส  การกำเนิดของพระเยซูผู้จากหญิงพรหมจารี  ซานต้า ต้นสน และกวางเรนเดียร์ และหลายคนก็คงเทศนา เกี่ยวกับสิ่งต่อไปนี้

ก. นักปราชญ์สามคนจากดินแดนตะวันออกคือใครกันแน่
ข. มารีย์แม่ผู้เสียสละ/หญิงผู้กล้าบอกว่า ขอให้เป็นไปตามพระประสงค์
ค. โยเซฝชายผู้มีความเชื่อ ยอมรับหญิงคู่หมั่นที่ยังไม่แต่งก็ท้องก่อนแต่งแล้ว
ง. ของขวัญ 3 อย่างของพวกนักปราชญ์
จ. คนเลี้ยงแกะผู้เล็กน้อยที่พระเจ้าระลึกถึง
ฉ. รางหญ้าสถานที่อันต่ำต้อยที่พระเจ้าเลือกเป็นที่ประสูติเพื่อนำคนต่ำต้อยสู่ความรอด
ช. การข่มเหงของเฮโรด กษัตริย์ที่เป็นตัวแทนของซาตานในการทำลายพระเยซู
ซ. จากสวรรค์สู่โรงวัว
ญ. ผู้สื่อสารของพระเจ้า ทูตสวรรค์ร้องเพลงที่ทุ่งนาในตอนกลางคืน

ฎ.  ฯลฯ

ผมขออนุญาตทบทวนประสบการณ์เกี่ยวกับหัวข้อเทศนาวันคริสต์มาสที่ผมเคยประสพตั้งแต่เด็ก ให้พี่น้องที่เชื่อพระเจ้าที่กำลังจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ในพระคริสต์ให้ทราบ เพื่อเป็นการสะท้อนความคิดบางอย่างที่อาจจะแปลกใหม่ สำหรับใครบางคนที่ไม่เคยทำเลย ทั้งๆ ที่ก็รับใช้พระเจ้ามาหลายปี บางคนเบื่อการรับใช้แล้วก็อาจเป็นได้ แต่ผมขอหนุนใจท่านว่า อย่าเพิ่งท้อใจครับ การติดตามพระเยซูเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมาก

ผมตื่นเต้นทุกครั้งที่ออกไปยืนเทศนาสั่งสอนคนที่มาร่วมนมัสการพระเจ้าทุกครั้ง ท่านคงอยากทราบละซิทำไมผมต้องมีเรื่องตื่นเต้นตลอด ทั้งๆ ที่การเทศนาเป็นสิ่งที่ใครๆ ก็บอกว่าธรรมดา และบางคนก็เบื่อที่จะฟังเทศนาตำนานวันคริสต์มาสแล้ว เพราะฟังมาทุกปี จนสามารถเล่าได้อย่างละเอียด

พี่น้องครับจะไม่ให้ผมตื่นเต้นกับการเทศนาได้อย่างไร เดี๋ยวผมจะโพสวีดีโอคลิปวันคริสต์มาสให้ท่านดู 2 คลิป   แต่ก่อนที่จะโพสผมขอเกริ่นหน่อย กิจกรรมวันคริสต์มาสที่ใครๆ มักจะทำกันมีอยู่ประมาณนี้ คือ

ก. ร้องเพลงวันคริสต์มาส
ข. การแสดงของเด็กเล็ก ชั้นอนุบาล
ค. รีวิวเต้นประกอบเพลงวันคริสต์มาส
ง. ตอบคำถามเกี่ยวกับวันคริสต์มาส
จ. แจกของขวัญและจับสลากรางวัลพิเศษ รางวัลใหญ่
ฉ. แลกเปลี่ยนของขวัญวันคริสต์มาส
ช. ละครเกี่ยวกับเรื่องราววันคริสต์มาส
ซ. กินอาหารพิเศษ และรายการอาหารว่างชั้นดี โบสถ์ไหนรวยก็มีไม่อั้น กินกันสนั่นท้องทั้งคืน
    เด็กบางคนกลับไปนอนที่บ้านอาจร้องไห้กวนแม่ทั้งคืนเพราะกินขนมมากเกินไป
ญ. ท่องข้อพระคัมภีร์แข่งขันกันในวันคริสต์มาส
ฎ. การแสดงของคณะสตรี และบุรุธ
ฏ. การออกไปร้องเพลงอวยพรตามบ้านผู้หลักผู้ใหญ่ของท้องถิ่น หรือในเขตบริการของคริสต์จักร
ฐ. การออกไปแจกไปปลิวประกาศข่าวประเสริฐเรื่องความรอดของพระเยซูคริสต์
ฑ. เผาข้าวหลาม ปิ้งหมู่ เนื้อ หมูกะทะ และปาร์ตี้ของเด็ก

สำหรับคริสตวย หรือที่ผมชอบตำหนิว่าเป็นพวกผู้เชื่ออ่อนแอ หรือคริสเตียนเบบี้ มักจะทำเพิ่มจากรายการข้างบน คือ (คลิกลิงค์นี้เพื่ออ่านดูพฤติกรรมคริสเตียนเบบี้)

ก. ชวนเพื่อนๆ มากินเหล้า กินเบียร์ที่บ้าน
ข. ชวนแฟน มานั่งกินเหล้า แล้วไปเที่ยวข้างนอกด้วยกัน
ค. เอาเครื่องเสียงมาเปิดให้ดังๆ ตั้งต้นคริสต์มาส ประดับไฟที่บ้าน แล้วนั่งก๊งเหล้าใต้ต้นคริสต์มาส
ง. ห่อของขวัญแจกให้เฉพาะหมู่ญาติมิตรของตนเอง  หรือคนที่รักเป็นพิเศษ แต่ไม่คิดถึงผู้เล็กน้อย คนรับใช้พระเจ้าที่ทำงานในแผนกต่างๆ ในคริสต์จักรที่ไม่ได้รับเงินค่าตอบแทน  คนเหล่านี้ถูกลืมปีแล้วปีเล่า
จ. ส่งของขวัญไปประจบเจ้านายในวันคริสต์มาส  เพื่อเป็นการเพิ่มความนิยมในตัวเองมาขึ้น
ฉ. ซื้อของให้กับตนเองแต่เพียงผุ้เดียวโดยไม่สนใจ ศิษยาภิบาลที่ทำงานมาทั้งปี ไม่มีโบนัสใดๆ เลย แถบยังไม่พอต้องยอมใส่รองเท่าคู่เก่าๆ  เสื้อผ้่าสีหมองๆ ก็ไม่มีคนดูแล  คริสต์มาสทั้งทีต้องทนใส่เสื้อผ้าชุดเก่าๆ ที่ใช้มาหลายปีอยู่ได้


ช. ฯลฯ


พี่น้องคงเห็นรายการที่ผมนำเสนอย่อๆ นี้  ท่านคงประหลาดใจว่า ทำไมผมช่างทำรายการได้เป็นหางว่าวซะจริงๆ  ในบทความของผมส่วนใหญ่  ถ้าไม่ได้ใส่ชื่อเจ้าของ หรือลิงค์ไว้แสดงว่า เป็นบทความที่ผมสละเวลาเขียนขึ้นมาเองทั้งนั้น พูดถูกบ้างผิดบ้าง พิมพ์ผิดบ้างถูกบ้าง ซึ่งก็เป็นธรรมดาของมนุษย์  ผมนั่งหลังขดหลังแข็งเพื่ออะไรหรือ ในปีนี้ผมเขียนบทความเป็นร้อย บทความของผมหลายๆ อันเสียดแทง และทิ่มแทงใจหลายๆ คน ผมรู้ว่าการทิ่มด้วยตัวหนังสือของผมมันเจ็บสำหรับใครหลายๆ คน บางคนรับไม่ได้  "การเปลียนแปลงคือความเจ็บปวด" มีคนพูดบอกว่า "คนไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง คนไม่ชอบการเสี่ยง"  แต่ปีใหม่นี่ขอให้เราได้รับสิ่งใหม่ๆ เพื่อจะเปลี่ยนสิ่งเก่าใด้ดีขึ้น เพื่อเข้าสู่ฤดูกาลใหม่

You have never seen any new thing if you have done the same thing.
คุณจะไม่สามารถเห็นสิ่งใหม่ๆ ถ้าคุณยังทำสิ่งเดิมๆ โดยไม่เปลี่ยนแปลง

ผมก็ต้องขอโทษด้วย  เนื่องในโอกาสวันคริสต์มาสและขึ้นปีใหม่  ผมขอให้ทุกคนที่เคยอ่านบทความของผมแล้วหากเกิดอาการเจ็บใจ สดุดกึก มีอาการฉุน บางคนไม่รู้ทำไง โทรไปด่าฝากกับเพื่อนของผม ผมก็ต้องขอโทษด้วย  ถ้าผมไม่เขียนใครจะกล้าเขียน  ผมเคยอ่านพบว่าหลายๆ คนเขาเขียนข้อความขึ้นในเว็บของเขาเลยว่า เว็บของเราไม่มีการตำหนิความเชื่อ หลักข้อเชื่อ และวิธีการปฎิบัติของคณะนิกายใดๆ เราเป็นมิตรกับทุกคณะ ทุกวันนี้เรามีใครบ้างที่สะท้อนความคิดแบบผ่าซากแบบนี้ ยิ่งถ้าท่านเป็นนักเทศน์ใหญ่ อาจารย์ดัง ใครจะกล้าเตือนท่าน  ลูกน้องใต้ท่านมันไม่กล้าหรอก มันดีแต่สอพลอเท่านั่นแหละ แต่ผมไม่มีผลประโยชน์ใดๆ ผมจึงกล้าทำ กล้าพูด กล้าเขียน และผมกล้ารับผิดชอบด้วย ผมอาจจะเป็นนาธัน ที่หาญกล้าไปเตือนดาวิด ก็เป็นได้

สำหรับบทความในเว็บนี้  ไม่อยากจะบอกว่าเป็นการเสียดสี แต่ผมต้องการนำเสนอความคิดแบบใหม่ในการรับใช้พระเจ้าตามแนวทางที่ผมถนัด คือการเทศนาด้วยฤทธิเดช ด้วยหมายสำคัญการอัศจรรย์ การวางมือรักษาโรค กระตุ้นให้ผู้รับใช้พระเจ้า และสร้างความตระหนักแก่คริสต์จักรของพระเจ้าเพื่อนำเอาของประทานฝ่ายวิญญาณจิตตามหนังสือ 1 โครินธ์ บทที่ 12 และ เอเฟซัสบทที่ 4 ข้อ 11 มาสู่คริสต์จักร  เพื่อเผยแพร่และยืนยันถึงการรับรองของพระเยซคริสต์ในการเทศนาทุกครั้ง  ถ้าผู้เชื่อแท้กลับใจใหม่ และเริ่มฝึกปฎิบัติ พยายามเรียนรู้  คริสตจักรของพระคริสต์จะมีสง่าราศี  มีฤทธิ์เดช จะออกจากการผูกมัดของวิญญาณศาสนา และพิธีกรรม เพื่อขยายอาณาจักรแห่งสันติสุขของพระเจ้า

พี่น้องบางคนอาจจะไม่ทราบว่า วิญญาณศาสนามีจริง หรือวิญญาณพิธีกรรมมีจริง  ผมเคยอ่านหนังสือของอาจารย์ท่านหนึ่งชื่อว่า ดร. บิล แฮมมอน บิชอป Christian International Ministries Networks และผู้เขียนหนังสืออัครฑูต ท่านลองไปอ่านดูเถอะแล้ว อาจจะทำให้ท่านเข้าใจศาสนาคริสต์มากขึ้น
คลิกที่นี้เพื่ออ่านเรื่องย่อของหนังสือ

พี่น้องครับ ผมเคยเอ่ยถึงบ่อยครั้งแล้วว่า  คริสต์จักรคือคำตอบของคนที่ต้องการพระเจ้าหรือไม่  คนป่วยเขาไม่หายเขาไปหาหมอ แล้วไม่หาย เขาไปหาใคร  คนดวงซวยไม่รู้ไปหาใคร เขาไปหาคนทรงเจ้า คนป่วยรักษาไม่หาย เขาไปหาใคร เขาไปหาหมอผี  ปัดรังคราญ  คนกระดูกแตก เขาไปหาหมอเป่า แล้วนักการศาสนาชาวพระคริสต์ทำอะไรได้บ้าง ช่วยเขาได้ไหม  กล้าประกาศตัวไหมว่า ใครไม่หายให้มาหาที่โบสถ์ ให้มารับการอธิษฐานเผื่อ  นักการของเราได้รับการถ่ายทอดมาไม่ครบใช่หรือไม่ เรารู้แต่วิธีการสอนคนให้เป็นคนดีเท่านั้นหรือ เรายังขาดวิธีการสร้างคนให้เป็นสาวก ที่ประกอบไปด้วยฤทธิ์เดชและของประทานการอัศจรรย์ของพระเจ้า

ผมเคยสอนลูกศิษย์ของผมเสมอว่า ต้องเพียรใช้ของประทาน ให้มุ่งมั่นพัฒนาความเชื่อ ทุกคนต้องมีวินัยฝ่ายวิญญาณ  เราทุกคนประกอบไปด้วยพระวิญญาณของพระเจ้า และเมื่อพระเจ้าอยู่กับเรา เราต้องชนะผีและความเจ็บป่วยแน่นอน และเมื่อเราทำได้ พระนามพระเยซูคริสต์จะได้รับการยกชูขึ้นในทุกทีที่เราไป ผมขอย้ำคำว่า ทุกที ทุกเวลา ไม่ใช่บางที บางเวลา ตามอารมณ์และทรงผม ไม่เกี่ยวกับการแต่งกายด้วย

พี่น้องที่ติดตามอ่านบล็อคนี้คงพอจำได้เมื่ออาทิตย์ก่อนผมได้นำเสนอเรื่องของมารีย์  ที่มารับการปลดปล่อย  ทีมของเราได้ขับวิญญาณร้ายออกจากเธอถึง 57 ตัว มีวิญญาณตัวหนึ่งที่มันรายงานต่อผมว่า มันเป็นวิญญาณแห่งความมืด หน้าที่ของมันคือ ป้องกันไม่ให้คนมาถึงแสงสว่างของพระคริสต์ อีกตัวหนึ่งมันชื่อว่า "พิธีกรรม" ที่มารีย์ มีวิญญาณแอบแผงมากอย่างนี้ก็เพราะที่บ้าน   แม่ของมารีย์เป็นนักสะสมวิญญาณและรูปเคารพ เป็นผู้ที่นับถือศาสนาที่ยอมให้คนนับถือสิ่งอื่นไปด้วยคือนับถือวิญญาณนานาชาติ

วิญญาณ 57 ตัวที่ถูกขับออกจากคนๆ เดียว นับเป็นสถิติที่ผมไม่คาดคิดว่าจะมีมากขนาดนี้ และบางคนอาจจะคิดไปว่าผมโม้ เพี้ยนหรืออะไรต่างๆ ผมขอยืนยันอย่างเดียวว่า สิ่งที่ผมเขียนในเว็บบล็อคนี้ไม่ได้เป็นเรื่องโง่ๆ ทำให้ใครเสียเวลาอ่านหรอกครับ  คนที่อยากเสียเวลาอ่านหลายคนเขาไม่รู้ตัวครับ คริสเตียนและนักเทศน์เป็นล้านๆ คนเสียเวลาในชีวิตประจำวันไปกับการอ่านเรื่องเหลวไหล ไร้สาระที่ชาวโลก มนุษย์ธรรมดาเขานิยมอ่านกัน คือหนังสือพิมพ์ข่าวประจำวัน ทั้งไทยรัฐ เดลี่นิวส์ มติชน วารสารอะไรต่างๆ ที่ไม่ได้ส่งเสริมความสว่างแห่งวิญญาณจิต แต่ส่งเสริมปัญญา ความรู้และเรื่องพื้นๆ ของชาวบ้านเท่านั้น บางคนรับหนังสือพิมพ์เป็นประจำ ติดมากอ่านได้อ่านดี  อ่านมันได้ทุกวัน อ่านแม้กระทั้งตอนนั่งในส้วม วันไหนไม่ได้อ่านจะรู้สึกหงุดหงิด ถ้าใครเป็นอย่างนี้แสดงว่า คุณได้เอาจิตใจไปผูกไว้กัีบสิ่งเหล่านั้นแล้ว

มาถึงตรงนี้ผมขอเสนอข้อคิดว่า  เรื่องที่อยู่ในหนังสือพิมพ์ประจำวันน่ะ  หยุดคิดหน่อยได้ไหม มันเป็นแค่เรื่องไร้สาระ ของคนไม่มีอะไรทำหรือมีเวลาว่างมากเกินไปหรือปล่า เป็นการอ่านเพื่อฆ่าเวลา หรือแก้เหงาเท่านั้น ท่านมีเวลามากเกินไปหรือเปล่าที่เอาเวลาไปฆ่าทิ้งแบบนั้น  น่าเสียดายนะ  ทำบทเรียนคริสเตียนดีๆ มาแจกกันบทเว็บนี้ไม่ดีกว่าหรือ  ทำไมคนจึงสนใจอ่านหนังสือพิมพ์กัันมากนัก  คนต้องเสียเงินซื้อมาทำไม  ถ้าผ่านไปสามวัน  มีคนซื้ออ่านไหม  ในเมื่อเรารู้ว่าสิ่งที่มีคุณค่าเพียงสองวัน หรือหนึ่งวัน พอวันที่สามไม่มีคนฉลาดยอมเสียเงินซื้ออ่าน หรือเสียเวลาอ่านเพราะมันล้าสมัยอย่างรวดเร็ว  แล้วเราจะไปเสียเวลาอ่านมันให้เสริมสร้างความมืดแก่ดวงวิญญาณของเราทำไม  น่าคิดหรือเปล่าล่ะ

สิ่งที่เราไม่เพียงแต่อ่านอย่างเดียว แต่ต้องภาวนา ท่องจำให้ได้ คือถ้อยคำของพระเจ้าในหนังสือพระคริสต์ธรรมคัมภีร์ไม่ใช่หรือ  หากท่านอ่านพระคัมภีร์ไม่เข้าใจ ท่านก็ต้องซื้อพระคัมภีร์ที่เป็นฉบับอธิบาย ท่านจะได้เข้าใจพระเจ้ามากขึ้น ถ้อยคำของพระเจ้าเป็นสิ่งที่ทำให้ชีวิตของท่านเกิดสันติสุข มีฤทธิ์อำนาจในการดำเนินชีวิตคริสเตียน  สามารถต่อสู้กับกิเลศ ตัณหา และสงบสติอารมณ์ของท่านไม่ใช่หรือ

หลายคนไม่มีพระคัมภีร์ดีๆ อ่านเลย  ลองมองไปรอบๆ ตัวคุณซิ คนไหนมีพระคัมภีร์ดีๆ อ่านบ้าง  หลายคนไม่มีพระคัมภีร์ดีๆ ราคาเป็นพันบาทอ่านเลย เพราะเขาบอกว่ามันราคาแพง  แล้วทำไม  Nokia BB Samsung Iphone ราคาหลายพัน บางอันราคาเครื่องละเกินหมื่นบาทยังบอกว่าถูก และซื้อได้ซื้อดี แถบเปลี่ยนบ่อยอีกต่างหาก  นี่หรืออ้างว่า "รักพระเจ้า"  ดีแต่พูดละไม่ว่า

เกริ่นมาซะยาวเชียว ผมชอบเขียนบทความยาวๆ อย่างนี้แหละ เพราะคนชอบอ่านเขาโทรมาบอกว่า สะใจดี  ได้ความคิดแปลกๆ ใหม่ ได้การทบทวน ได้หยุดคิด  ผมก็ขอบคุณที่ให้กำลังใจ และขอบพระคุณพระเจ้าที่โปรดประทานถ้วยคำเป็นแสนๆ คำในการเขียนถ่ายทอดประสบการณ์แห่งความจริง

ในการเทศนาในห้วข้อที่เขากำหนดให้มา  ผมต้องเทศนาตามหัวข้อที่ผมเขียนไว้ข้างบน แต่เนื้อหาจะไม่เน้นไปที่ตำนานอันบรรเจิด ความเหนือธรรมชาติของเหตุการณ์ มีสิ่งประหลาดอัศจรรย์เกิดขึ้นมากมาย ในคืนวันคริสต์มาส แต่เรื่องแบบนี้เหมาะสมกับเด็กอนุบาลมากกว่า นักเทศน์เทศนาตำนานแสนสนุก  ฟังไปเพลินๆ  แต่คนฟังไม่กลับใจ  ไม่มีใครกลับใจเชื่อพระเจ้า การเทศนาแนวนี้  ผมฟังมาหลายรอบแล้ว ผมเห็นนักเทศน์รุ่นก่อนๆ และรุ่นปัจจุบันหลายๆ คน เทศนาแนวนี้แล้ว  ผมไม่อยากทำตามนะครับ

การเทศนาแนวเล่านิทานมีคนทำมาเป็นพันปีแล้ว และผมไม่อยากจะเพิ่มจำนวนให้มากขึ้นอีกคนด้วยการทำตามแบบศาสนสากลนิยมแบบนั้น  ถ้าคนเทศนาพูดเรื่องการอัศจรรย์ ของพระเยซูต่างๆ นานา แต่คนพูดไม่หัดทำการอัศจรรย์ในพระนามพระเยซู  มันต่างจากตำนานประสูติของศาสดาในศาสนาอื่นๆ ตรงไหน พวกศาสดา หรือผู้นำศาสนาเหล่านั้นก็มีแต่เรื่องอัศจรรย์ พันลึกทั้งนั้นเหมือนๆ กัน  สุดแต่ว่าใครจะเป็นคนเขียนประวัติให้มันมหัศจรรย์พันลึกอย่างไรก็ว่าไป  แต่ใครจะจริงหรือเท็จมันพิสูจน์กันได้ตรงนี้ไง คือการเทศนาด้วยการอัศจรรย์ตามแบบที่พระเยซูคริสต์ และสาวกทำในยุคคริสตจักรเริ่มแรก  พระเยซูต้องการให้เราประกาศพระกิตติคุณด้วยฤทธิ์เดชและหมายสำคัญจะเกิดขึ้น ( 1 โครินธ์ 2.4-5)

คริสตจักรต่างๆ ลงทุนเป็นหมื่นๆ เพื่อจะประกาศข่าวประเสริฐ เพื่อนำคนมาเชื่อพระเจ้าในโอกาสพิเศษวันคริสต์มาส หลายคริสต์จักรลงทุนตั้งเวที  จ้างเครื่องไฟ  ลงทุนซ้อมการแสดงสารพัด จ้างคนทำอาหารพิเศษ คริสต์จักรรวยๆ ลงทุนจ้างดารามีค่าตัวมาเป็นตัวชูโรง  ทั้งๆ ที่ดาราบางคนก็ไม่ได้กลับใจหรือมีชีวิตที่อัศจรรย์มากกว่าผู้เชื่อธรรมดาคนอื่นๆ  คริสต์จักรลงทุนซื้อของ และห่อของขวัญพิเศษ ลงทุนลงแรง ถวายทรัพย์  ร่วมใจกันเพื่อการประกาศใหญ่วันคริสต์มาส หวังเพียงให้นักเทศน์ เทศนาถ้วยคำพระกิตติคุณของพระเจ้าที่ประกอบด้วยเดชานุภาพที่จะนำคนมาถึงความรอด ให้คนยอมรับข่าวประเสริฐของพระเยซูเจ้า

แต่น่าเสียดาย หลายๆ ครั้ง นักเทศน์ดังดันไปเทศนาเล่าตำนานคริสต์มาส  เล่าเรื่องคนเลี้ยงแกะ  เล่าเรื่อง ซานตาคลอส  เล่าตำนานต้นสน  เล่าตำนานกวางเรนเดียร์ ตำนานโรงวัวของยิว  ตำนานเครื่องประดับบนต้นคริสต์มาส แถบสอดแทรกเรื่องตลก ให้คนหัวเราะก๊าก   พอถึงตอนเรียกคนให้กลับใจ ดันไม่มีใครยอมกลับใจเลย  ถ้าดีหน่อยก็ได้สองสามคน  หรือสิบคน ลงทุนเป็นหมื่นๆ นักเทศน์  ไม่ปล่อยทีเด็ด  ไม่สามารถเก็บเกี่ยวดวงวิญญาณเลย  มันน่าเสียดายโอกาสไหมล่ะ นั่นเป็นเพราะอะไรหรือ ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น เป็นคำถามที่คนที่มีสำนึกที่จะรับใช้พระเจ้าให้เกิดผล ต้องนำไปคิดเป็นการบ้านต่อไป

ผมเข้าใจดีถึงข้อจำกัด และขีึดจำกัดของคน  ผมก็เคยเป็นแบบนั้น  มางานคริสต์มาสแล้วคนกลับใจ  เป็นเรื่องอะไรที่หนักหนาสำหรับนักเทศน์บางคนที่ต้องการเกิดผล  บางแห่งลงทุนติดต่อนักเทศน์ดังเป็นปี  ยอมจ่ายค่าตัวสูงๆ ผมขอเอาใจช่วยท่านในเทศนาในเทศกาลนี้ ขอให้ท่านเทศนาด้วยวิญญาณแห่งความเชื่อของท่าน ขอพระเจ้าให้ถ้อยคำแก่ท่านในการเทศนาให้คนกลับใจให้ได้มากๆ  เทศนาประกอบการแสดงพระเดชานุภาพในพระนามพระเยซู  เรียกคนป่วยออกมาวางมือให้เขาหายคาตาไปเลย 

แต่ผมก็ต้องขออภัยที่ข้อเขียนของผมหลายๆ ครั้งมันทำให้คนที่กำลังพัฒนากับพระเจ้าท้อใจ ที่ตัวเองไม่เอาไหนในการประกาศข่าวประเสริฐ แต่สิ่งเหล่านี้มันสามารถปรับปรุงได้  ถ้าเราเลิกพึงพาความรู้และสติปัญญาของมนุษย์ บางทีต้องถึงขั้นฟอร์แมทฮาร์ดดิส สมอง และแนวคิดของท่านเลย เพราะที่เรียนกับอาจารย์พระคัมภีร์จากสถาบันดัง ๆ มา ณ มันบ่มีไกด์จริงๆ  คือได้แต่ความรู้เป็นส่วนใหญ่ 

การเทศนาวันนี้ ผมจึงไม่เป็นการเล่าเรื่องตำนานต้นสน หรือซานต้า ซานเต้อ อะไรๆ สักอย่าง  สำหรับผม  ลุงซานต้าคือเครื่องหมายการค้าของห้างสรรพสินค้ามากกว่าจะเป็นแบบอย่างของการให้ หรืออะไรๆ ที่ส่งเสริมความเชื่อคริสเตียนหรอก  ผมไม่เสียเวลากับลุงซานต้า ต้นสน และกวางป่าอะไรแม้แต่วินาทีเดียว  ผมเทศนาเรื่องของประทานของพระเจ้าที่ให้คนชาวโลกกลับใจมาหาพระเจ้า ผู้ที่ยอมตายเพื่อนำการคืนดีระหว่างมนุษย์กับพระเจ้าให้กลับมาหากัน  พี่น้องครับ คนจะไม่มีสันติสุข ถ้าหากเขาไม่คืนดีกับพระเจ้า ไม่คืนดีกับตนเอง ไม่คืนดีกับเพื่อนบ้านและแม้แต่คนในครอบครัว คนที่ยังเก็บความเกลียดไว้ในใจ  เป็นคริสเตียนแล้วก็จริง  แต่เที่ยวไปเกลียดใครต่อใคร  ถือว่าคนนั้นก็ไม่ดี คนนี้ก็ไม่ดี มีแต่ฉันคนเดียวที่ดี

ในวันคริสต์มาสผู้ที่ได้รับเชิญมาร่วมงานอาจได้กินอาหารเลิศรส ได้กินขนมอร่อยที่สุดในโลก และได้ฟังเพลงคริสต์มาสที่แสนไพเราะ ได้สนุกสนาน สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่ว่าไม่ดี  ดีมากครับ แต่สิ่งที่คนเราต้องการที่สุดไม่ใช่ความสุขเพียง 3-4 ชั่วโมงในการร่วมกิจกรรมวันคริสต์มาส การได้รับของขวัญก็ทำให้สุขใจได้บ้าง แต่วัตถุสิ่งของเหล่้านี้มันเสื่อมสลาย  ถ้าเป็นขนม อาหาร ก็กลายเป็นสิ่งเน่าสลายในไม่ช้า  ทำไมเราไม่นำเสนอสิ่งที่ก่อให้เกิดสันติสุขแท้ล่ะ  นั่นคือความสันติสุขแท้คงทนที่เกิดจากการได้คืนดีกับพระเจ้า การหายเจ็บป่วยจากความผิดปกติของร่างกาย  การได้หายแค้น หายเจ็บใจ การได้ต้อนรับพระเยซูคริสต์เป็นพระผู้ช่วยให้รอดไม่ใช่หรือ  ที่สร้างสันติสุขให้เกิดขึ้นกับคนอย่างถาวร ทั้งในปัจจุบันถึงนิรันดร์

เทศกาลคริสต์มาสนี้ ท่านได้คืนดีกับพระเจ้าหรือยัง  ท่านมีท่าทีอย่างไรกับคริสต์มาสปีนี้ ท่านบอกว่าท่านเป็นคริสเตียน แล้วอะไรอยู่ในมือถือของท่าน  คลิปโป๊มีไหม เมสเสสทายหวยมีไหม บอกดวงและโชคชะตามีไหม  ที่บ้านของท่านชำระหรือยัง ท่านได้ปัดกวาดที่ห้องนอนของท่านให้สะอาด ท่านแอบเก็บเอาสิ่งที่ปิดกั้นพระพร และเป็นคำแช่งสาปไว้หรือเปล่า ท่านมีหนังสือทายหวย หนังสือโป๊ ซีดีโป๊ หนังสือทำนายฝัน โหราจารย์  รูปเคารพที่มือมนุษย์สร้างขึ้นเพื่อเป็นพระเจ้า  และสิ่งของที่บำรุง บำเรอเนื้อหนังของท่านไว้หรือเปล่า

ตลอดปีที่ผ่านไปท่านมีเวลานั่้งอ่านพระคัมภีร์ไหม  ท่านอธิษฐานมากพอหรือยัง  ปีที่จะผ่านไปท่านท่องข้อพระธรรมได้กี่ข้อ หรือท่านดีแต่พูด ใส่หน้ากากคริสเตียน  แสร้งทำเป็นคนธรรมะธรรมโม แต่ในวิญญาณของท่านมีแต่การล่วงประเวณี  นินทา อิจฉา สร้างความแตกแยก สารพัดการอธรรม ปีนี้ท่านผิดใจกับใครมาบ้าง  ท่านให้อภัยคนเป็นหรือเปล่า ท่านยอมถ่อมใจลง ขอโทษคนอื่นก่อนทั้งๆ ที่ท่านไม่ผิดหรือเปล่า  ท่านให้เวลากับคนอื่นที่กำลังอ่อนล้ากับความเชื่อไหม


ถ้าท่านทำดีแล้วก็ขอพระเยซูคริสต์อวยพรให้ท่านจำเริญยิ่งขึ้่น หากท่านสำรวจตัวเองแล้ว ไม่ค่อยพอใจพฤติกรรมตนเอง ผมขอหนุนใจให้ท่าน  ทบทวน และปรับปรุงพฤติกรรมของตนเองให้เข้าสูู่พระพรเถอะ

ใกล้สิ้นปีแล้ว  ได้เวลากลับใจใหม่ ชำระมือถือให้หมดจด ชำระห้องนอน บ้านให้ปราศจากสิ่งอัปมงคล สิ่งที่ปิดกั้นพระพร  สารภาพและกลับใจใหม่  จงไปคืนดีกับคนที่ท่านเกลียด คนที่สร้างความเจ็บใจให้กับท่าน คนที่ด่าท่านว่าโง่เขลา  คนที่เคยละเมิดทางเพศกับท่าน จงยกโทษให้เขาเสีย แล้วจงนำเครื่องบูชาของท่านเข้ามาหาพระเยซูคริสต์ แล้วพระเจ้าที่เป็นพระวิญญาณจะมาอยู่กับท่าน เป็นพระผู้ช่วยให้รอด ให้ท่านมีสันติสุขอย่างแท้จริง เป็นสันติสุขที่ยืนนานและคงทน ท่านจะมีชีวิตที่ก้าวไปข้างหน้าด้วยพระพร ท่านจะเป็นคริสเตียนที่เกิดผล คือสามารถนำคนเป็นสิบๆ คนมาถึงความรอดและสันติสุขเหมือนกับท่าน

สำหรับท่านที่ต้องการกลับคืนดีกับพระเจ้า ขอให้ตั้งจริง ตั้งสัจจะอธิษฐานตามแบบนี้ดังๆ ด้วยความเชื่อ

***** ขอนมัสการพระบิดาแห่งฟ้าสวรรค์ ผู้เป็นพระเจ้าเที่ยงแท้สุงสุดแต่เพียงองค์เดียว  พระเจ้าผู้ทรงสร้างสรรพสิ่ง ในวันคริสต์มาสนี้ ลูกขอพระเจ้าอภัยในสิ่งที่เคยล่วงเกินพี่น้อง  ล่วงเกินพ่อแม่ พี่น้อง และคนรอบข้าง ลูกขอยกโทษให้คนเหล่านั้นที่ทำร้าย  หรือล่วงเกินลูกทุกๆ คน ลูกขอพระเจ้าทรงอวยพรเขาลูกขอมอบภาระแห่งการแก้แค้น  ความผิดบาปทั้งหลายไว้ใต้ไม้กางเขนของพระเยซูคริสต์  ขอเลือดบริสุทธิ์ของพระเยซู ชำระล้างจิตใจของลูกให้หลุดพ้นจากวิญญาณแห่งความเคียดแค้น ชิงชัง วิญญาณริษยา และวิญญาณสกปรก โสโครกทุกชนิดที่ต่อต้านพระเจ้า ลูกขอรับเอาสันติสุขของพระเจ้าทางพระวิญญาณบริสุทธิ์เดี๋ยวนี้ เราขอปฏิเสธและตัดสัมพันธ์กับวิญญาณชั่ว วิญญาณอื่นใด ที่เคยมีอิทธิพล หรือชักนำให้เราคิด พูด และทำในสิ่งที่ตรงข้ามกับพระประสงค์ของพระเจ้า จงถอยไปจากเราให้หมดและอย่ากลับมาอีกเลย ในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า เอเมน

ขอพระเจ้าอวยพระพร และขอให้สุขสันต์วันคริสต์มาส

จาก RW MU.
http://reewat.blogspot.com

ร้องเพลงวันคริสต์

กล้บไปหน้าแรก



ภายหลังจากเทศนาเราอธิษฐานเผื่อคนป่วย นำคนรับเชื่อหลายคน และเรายังพาพี่น้องที่มีวิญญาณรบกวนออกมา และพาไปห้องเฉพาะ เราเรียกวิญญาณร้ายที่แอบสิ่งสู่ในคน ให้มันออกไปและไม่กลับมาอีก เพื่อให้เขามีสันติสุขอย่างแท้จริง

2 ความคิดเห็น:

  1. สนใจเรียนรู้เกี่ยวกับการปลดปล่อย และเสริมสร้างความเชื่อ และแนวปฏิบัติ แลกเปลี่ยนเรียนรู้เกี่ยวกับการอธิษฐานวางมือ และการปลดปล่อย เข้าร่วมกลุ่มอภิปราย ได้ที่เฟซบุ๊ค นี่
    http://www.facebook.com/home.php?sk=group_174045155961603&ap=1

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ1/03/2554

    ขอบคุณพระเจ้า

    ตอบลบ

You may post your comments here.
หากท่านมีข้อคิดเห็นเพิ่มเติมหรือเสนอแนะเชิญออกความเห็นได้
(กรุณาใช้ข้อความสุภาพ และสร้างสรรค์)