เมื่ออาจารย์ขับผีไม่ออก น่าอาย?(3) How to cast out demons

Who likes to hide in the dark, dark corner belongs to The Dark

ผมเขียนเล่าเรื่องเกี่ยวกับการขับวิญญาณมาเป็นตอนที่สามแล้ว ในบทนี้คือ การปูพื้นฐานความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดการกับวิญญาณอื่น ต่อจากตอนที่แล้ว ขอเชิญแฟนๆ ติดตามต่อในข้อต่อไปได้ดังนี้ครับ

ซ. เป้าหมายของวิญญาณอื่นที่ไม่ใช่มาจากพระเจ้าทุกชนิด คือ การลัก ฆ่า ทำลาย วิิญญาณเหล่านี้ มันมีอิทธิฤทธิ์พอตัวของมันอยู่ มันมีความสามารถในการเข้าดลใจคนที่อ่อนแอทางความประพฤติ คนที่เป็นผู้เชื่อพระเจ้า แม้จะติดสนิทกับพระเจ้ามากเพียงใด รักพระเจ้ามากขนาดไหน ก็ถูกวิญญาณดลใจได้ จากหนังสือพระคัมภีร์อันศักดิ์สิทธิ ...



ในยอห์น 13.2 ได้กล่าวว่า "มารได้เข้าดลใจยูดาส " เพื่อให้อายัดพระเยซูให้แก่พวกธรรมาจารย์ ใครที่บอกว่ามารดลใจไม่ได้ กำลังหลอกคริสเตียนว่า การแค่มีตรายี่ห้อคริสเตียนมาปะหน้าผากจะทำให้สามารถมีชีวิตปลอดภัยจากการจู่โจมของมารได้ นั่นคือความเข้าใจที่ผิดพลาดอย่างมหาศาล ซาตานหัวเราะชอบใจมากๆ เมื่อมันรู้ว่าคริสตจักรไหนไม่สอนเรื่องการต่อสู้ในสงครามฝ่ายวิญญาณ เพราะผู้นำไม่ตระหนักว่า คริสเตียนต้องต่อสู้กับวิญญาณอื่น ชนิดวันต่อวันเลยทีเดียว นั่นจึงเป็นเหตุให้สงสัยว่าทำไม โบสถ์คริสต์หลายแห่งจึงมีคนเจ็บป่วยกันบ่อย ด้วยสารพัดโรค บางแห่งป่วยกันเกือบ 50 เปอร์เซนต์ เหมือนๆ กับชาวโลกที่ไม่รู้จักพระเยซู เพราะชาวโลกเขาต้องเจ็บป่วยกันตามฤดูกาล และพออายุสูงขึ้น ชาวโลกต้องป่วยสารพัดโรค

เป้าหมายที่สำคัญของมาร คือการทำลายคนของพระเจ้า ด้วยการใส่ความ ใส่ร้ายป้ายสี ดิสเครดิสผู้รับใช้ที่แท้จริงของพระเจ้า คือทำให้เสียชื่อเสียง ทำให้ไม่น่าเชื่อถือ เพื่อทำจะได้ทำลายการงานของพระเจ้า

ฌ. คริสเตียนมีสิทธิอำนาจในพระนามพระเยซูเจ้ามากกว่าวิญญาณผีอื่นๆ ก็จริงอยู่ แต่เราไม่ควรเที่ยวไปใช้สิทธอำนาจอย่างไร้สติ หรือไม่ใช่ปัญญา ไม่ควรทำอะไรที่่เป็นการแสดง หรือทดสอบอำนาจ

มีลูกศิษย์ของผมคนหนึ่ง ก่อนที่เขาจะรู้จักผมเขารู้สึกตัวว่าตัวเองเป็นผู้เชื่อที่เข้มแข็ง และอยากจะออกประกาศข่าวประเสริฐ ไปต่อสู้กับวิญญาณร้าย เขาได้ไปที่สุสานและไปอธิษฐานผูกมัดวิญญาณในสุสาน หลังจากที่เขากลับมาบ้าน เขาไม่สามารถนอนหลับได้ในตอนกลางคืนเป็นเวลานานเป็นเดือน เืนื่องจากผีที่เขาไปผูกมัดมันโกรธแค้นส่งพวกมันหลายตัวที่มัดไม่หมดมารบกวน นี่ยังดีที่คนนี้ไม่ได้ถูกวิญญาณรบกวนจนได้รับความลำบากมากไปกว่าการโดนผีหลอก

มีคนอีกคนหนึ่งที่ผมพูดคุยด้วยเมื่อสองสามวันก่อน เขาอยู่ศรีสะเกษ เล่าให้ฟังว่า ชีวิตเขาตอนนี้ลำบากมาก ต้องดูแลตนเองและลูกน้อยอีกสองคน เพราะสามีหนีไปไหนไม่รู้ ก่อนนั้นเขารักกันมาก เมื่อมาเชื่อพระเยซู ได้รับคำสอนเรื่องฤทธิ์เดชของผู้เชื่อ แต่อาจจะยังเรียนไม่จบ เขาก็ได้รับของประทานในการเผยพระวจนะได้ และรู้สึกมีความร้อนรนเรื่องการประกาศ เขาได้ไปที่ศาสนสถานหลายแห่งเพื่อไปกล่าวผูกมัดวิญญาณ ต่อมาเมื่อเขากลับมาบ้าน ปรากฎว่าเขาถูกวิญญาณตามรังครวญ สามีก็ถูกของต้องเลิกรา ห่างเหินกันไปสองปีกว่าตอนนี้ยังไม่กลับมา ตอนนี้ได้ัรับความลำบากอย่างสาหัส นี่คืออุทาหรณ์ที่น่าจะใช้ได้ กับใครๆ บางคนที่กำลังกระตือรือร้นกับการใช้ฤทธิ์เดช แต่ยังไม่มีอาจารย์คอยสอน คอยดูแล และคิดว่าตัวเองเก่งแล้ว

มีอีกเรื่องหนึ่งที่อยากจะเล่า อยากจะแบ่งปันให้เป็นข้อคิดไว้ เมื่อผมไปร่วมนมัสการตามที่ต่างๆ ผมมักจะได้ยินผู้นำนมัสการวัยรุ่น มักจะพูดว่า

"ให้เรากระโดดเหยียบหัวซาตานให้มันหนีไป หรือให้เรากระทืบหัวซาตานให้มันหนีไป"
พี่น้องครับคำพูดดูหมิ่นซาตาน คำพูดชวนให้คนกระทืบหัวซาตาน เราไม่ควรนำมาสอนให้คนหมู่มากกระทำ เพราะซาตานมันก็มีฤทธิอำนาจพอตัว เพราะมันก็คือทูตสวรรค์ระดับสูงของพระเจ้าองค์หนึ่งที่ถูกขับไล่ลงมาครองพื้นที่บนโลกเท่านั้น

ในพระธรรมยูดาได้ กล่าวไว้อย่างน่าคิดว่า

"แม้กระนั้นเขาเหล่านั้นก็ยังเพ้อฝันกระทำให้ตัวเป็นมลทิน และประมาทอำนาจของผู้ใหญ่ และพูดจาก้าวร้าวศักดิ์สิริเทพ ฝ่ายอัครเทวทูตาธิบดีมีคาเอล ครั้งเมื่อท่านโต้เถียงกับมารเรื่องศพของโมเสส ท่านเองก็ยังไม่บังอาจกล่าวก้าวร้าวต่อมารเลย เป็นแต่เพียงกล่าวว่า

“ให้องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงขนาบเจ้าเถิด”

แต่ว่าคนเหล่านี้พูดก้าวร้าวสิ่งที่เขาเองไม่เข้าใจ และการซึ่งเขารู้สึกตามสัญชาตญาณ เหมือนสัตว์เดียรัจฉานที่ไม่มีความคิด เขาก็ต้องถึงหายนะด้วยการนั้น"

ญ. ซาตานจะครอบครองในสิ่งที่มันมีสิทธิ์ การครอบครองของซาตานจะอยู่ในขอบเขตอำนาจที่มันได้รับอนุญาตจากอำนาจที่สูงกว่ามัน

อาจารย์ชาวคริสต์หลายสอนแบบตลกๆ และน่าขบขันว่า คริสเตียนไม่มีผี โอ้... ช่างเป็นความคิดที่ไร้สติสิ้นดี
บางคนสอนว่า เราไม่ควรไม่ยุ่งเกี่ยวกับการขับผี ให้ต่างคนต่างอยู่ การที่เราไม่ยุ่งกับผี คิดว่าผีมันจะไม่ยุ่งกับเรานั่นเป็นคำสอนที่สอนเพียงครึ่งเดียว ไม่สอนให้หมดเหมือนกับโปรโมชั่นการขายซิมของบริษัทบริการเครือข่ายโทรศัพท์ เพราะเมื่อเราเพลอใช้นอกข้อกำหนดเงื่อนไขที่เราไม่ทันระวัง หลายคนตกเป็นเหยื่อมาแล้วหลายครั้ง

หากพ่อแม่เจองูุมุดเข้ามาทำรังอยู่ใต้ถุนบ้าน มีลูกคนหนึ่งเห็นแล้วมาบอกว่า
"พ่อครับๆ ผมรู้สึกว่างูกำลังมาอยู่ในบ้านเรานะ ผมเห็นมันเลื่อยเข้า เลื่อยออกจากใต้ถุนบ้านของเรา"

พ่อตอบว่า "อย่าไปยุ่งกะมันนะลูำก งูมันไม่ทำอันตรายเรานะ เพราะถ้าเราไม่ยุ่งกับมัน มันก็จะไม่ทำอันตรายเราได้นะ เพราะว่าบ้านเราปลูกหว่านกันงูไว้แล้ว"

เรื่องเปรียบเทียบนี้ ผมต้องการสื่อว่า "ซาตานมันคืองูพิษ มันไม่เพียงเป็นอันตรายต่อชีวิต และความสวัสดิภาพของคนในบ้านเท่านั้น แต่มันเป็นศัตรูของคริสเตียนที่เป็นผู้เชื่อแท้ทุกคน คริสเตียนที่หย่อนยาน คริสเตียนหลงบาป เสพบาป มันครอบครองไว้อยู่แล้ว มันไม่ต้องไปทำอะไร

การที่มีคนสอนว่า ให้คริสเตียนปฎิบัติตัว "ต่างคน ต่างอยู่กับผี วิญญาณร้าย" ผมคิดว่าคนที่พูด ยังอาจขาดความเข้าใจเกี่ยวกับ ความรู้เกี่ยวกับวิญญาณร้าย ซี่งรวมไปถึง เป้าหมาย จุดประสงค์ และยุทธิวิธีของซาตานในการชักจูงคนให้ออกห่าง หลงทางจากพระเจ้าให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ และหลอกให้ผู้นำด้านความเชื่อ นักการศาสนาทั่วไปเข้าใจว่า ซาตานไม่สามารถแตะต้องทำร้ายคริสเตียน บางคนยังเข้าใจผิดๆ ไปว่า ตัวอาคารโบสถ์คือสถานที่ศักดิ์สิทธิที่ซาตานไม่สามารถเข้าไปสิงสู่คน หรือทำกิจกรรมอะไรในตัวโบสถ์ได้ ความคิดความเชื่อนี้ ต้องได้รับการแก้ไข ถ้าหากเราลองพิจารณาดูให้ดี พระเยซูมักจะไปรักษาโรค และขับผีในธรรมศาลา ของยิวด้วย แล้วผมตั้งข้อสังเกตว่า ศาสนายูดาย กับคริสเตียนก็มีพระเจ้าองค์เดียวกัน นั่นแหละ เมื่อวิญญาณร้ายมันสามารถเข้าไปสิงคน หรือทำให้ลูกนายธรรมศาลาป่วยได้ มันก็สามารถทำงานในคริสตจักรได้

กิจกรรมที่ซาตานชอบทำในศาลาธรรมของชาวคริสต์ ก็คือ การสร้างกำแพงของกลุ่ม พรรค พวก เพื่อป้องกันไม่ให้คริสเตียนสามัคคีกันในการทำสงครามฝ่ายวิญญาณ เพราะเมื่อใดที่คริสเตียนมารวมตัวกันประกาศข่าวประเสริฐ รวมตัวกันอธิษฐานขอการฟื้นฟู ซาตานมันจะเจ็บปวดและอ่อนกำลังลงอย่างมาก,
ซาตานเป็นต้นเหตุแห่งการแตกแยก ความเกลียดชัง การแย่งชิงความเป็นใหญ่ การหวาดระแวง การแยกตัวอยู่ตามลำพัง

ซาตานส่งเสริมการปฎิบัติพระเจ้าเหมือนเป็นพิธีกรรมไหว้รูปเคารพ เพราะการใช้พิธีกรรมและ วัฒนธรรมในการนมัสการพระเจ้าไม่สามารถตอบโจทย์แห่งความต้องการทางจิตใจของผู้เชื่อได้ คริสตจักรที่ปฎิบัติพระเจ้าด้วยพิธีกรรม วาระการประชุม กำหนดการที่มีกรอบเวลา การนมัสการตามโพล์ ตามโฉนดของเจ้าอาวาส ด้วยการเทศนาที่ถูกบีบด้วยกำหนดเวลา จะเป็นตัวช่วยในการดับพระวิญญาณได้อย่างชงัด

ดังนั้นในการประชุมพิธีนมัสการพระเจ้าในศาสนสถานเหล่านี้ จึงไม่มีค่อยมีการหายโรค ไม่มีการสำแดงของวิญญาณใดๆ ไม่ว่าของพระหรือของผี คนที่มาร่วมก็อาจมาเพื่อขอพร เพื่อความสบายใจ หรือมาเพื่อให้เห็นหน้ากันเป็นสำคัญ คนป่วยมาโบสถ์อย่างไร ก็กลับไปเป็นในสภาพเหมือนเดิม ผู้คนที่มาก็ไม่ค่อยทักทายกัน ไม่ไว้ใจกัน ไม่อยากสนิทกัน กลัวอย่างนั้น กลัวอย่างนี้ คนฐานะดีหลายคนไม่อยากทำตัวสนิทกับใคร ปิดกั้นตัวเองอย่างเหนียวแน่น เพราะเคยโดนคนยืมเงินไม่กี่ร้อยบาทแล้วเขาไม่มีปัญญาใช้คืน จึงเกิดความเจ็บจำฝังใจ ไม่เปิดใจให้ใครอีกเลย ศาสนสถานแบบนี้ พวกที่ไม่เอาผี ไม่เอาพระอย่างจริงจัง ชอบที่จะมาพักร้อนที่นี้ เพราะสบาย ๆ ไม่มีนักเทศน์คนไหนกล้าแคะ กล้าเการอยแผลเก่าๆ ของใคร เพราะหากมีใครกล้าเทศนาแจกบาป เขาอาจตกงานอย่างไม่ทันตั้งตัวได้ทันที

แน่นอนทีเดียวคริสเตียนที่มีดำเนินชีวิตตามพระบัญญัติแห่งความรักของพระเยซูย่อมมีชีวิตที่ อยู่เหนือการแทรกแซงของวิญญาณร้ายแน่ๆ แต่มีสักกี่คนที่ได้ทำตัวให้อยู่ในขอบเขตแห่งความปลอดภัยของพระเจ้า
อย่่างบริสุทธิ์ผุดผ่อง จากประสบการณ์ของเรา เราพบว่าหลายคนมีชีวิตที่มีมุมมืด มีชีวิตที่ไม่ได้สะสาง มีบางด้านของชีวิตที่ไม่ยอมให้พระเจ้าครอบครอง เช่น บางคนเป็นผู้นำที่เข้มแข็งแต่มีความออน่แอเรื่องเพศ เขาจะใจอ่อนกับสาวๆ บางคนแอบมีความสัมพันธ์ที่เกินเลยทางใจกับสาวๆ หรือผู้ชาย บางคนนอกเหนือไปจากการที่เขามีภรรยา/สามี อยู่แล้ว แต่เขายังเก็บซ่อนความรู้สึกนี้ไว้ในมุมมืดของหัวใจ

บางคนแอบสะสมรูปภาพลามก หรือสิ่งต้องห้าม สิ่งพึงรังเกียจไว้ เขาอ้างว่าเอาไว้ดูแก้เหงา แก้เครียด ความจริงที่คริสเตียนจำนวนมากอาจคิดไม่ถึง ก็คือว่า ซาตานมันชอบมุมมืด มุมอับของชีวิตของใครก็ตามที่แอบมีมุมมืด และมันจะอาศัยช่องทางนั้นในการแทรกซึมเขามาทำลายชีวิตของเขา คนเหล่านี้เราพบว่า มีระดับจิตวิญญาณที่อ่อนแอ ไม่แข็งแรง มีความเชื่อระัดับที่ ขึ้นๆ ลงๆ ใช้งานไม่ได้ และไม่อุทิศตัวอย่างแท้จริง

จากประสบการณ์ด้านการปลดปล่อยและการเรียนรู้ของเรา เราพบกว่า มุมมืดเหล่านี้เป็นพื้นที่ฝ่ายวิญญาณที่ซาตานแอบเข้ามาหว่านเมล็ดแห่งความชั่วร้าย ความเจ็บป่วยลงในชีวิตของผู้เชื่อจำนวนมาก บางคนทำตัวเป็นคริสเตียนที่ขยันมาโบสถ์ ขยันรับใช้ บางคนเข้าร่วมกับคริสตจักรหลายปี มีผลงานมากมาย บางคนได้เลื่อนตำแหน่งจนกลายเป็นผู้มีอิทธิพลในการตัดสินใจของโบสถ์ แต่ ชีวิตของเขาขึ้นๆ ลงๆ ไม่โตเต็มที่ มีชีวิตที่ท้อแท้ ท้อถอยบ่อยๆ บางคนเจ็บป่วยบ่อย โดยไม่ทราบสาเหตุ บางคนมีปากไว้เพื่อทำลายมากกว่ามีปากไว้หนุนใจคน อาจเป็นได้ว่าพื้นที่มุมมืดเหล่านี้ อาจเป็นเหมือนกำแพงเมืองที่ผุ และมีช่องเล็กๆ ให้สุนัขหรือสัตว์ร้ายแอบเข้ามาในชีวิตได้

หลายคนที่เคยมีบ้านใหม่คงดีใจที่ได้อยู่ในบ้านใหม่ เพราะบ้านใหม่มักจะไม่ค่อยมีมด ไม่มีปลวก ไม่มีแมลงสาป ไม่มีตุ๊กแกเยอะๆ แต่หลังจากนั้นสองสามปีเริ่มมีแมลงสาปเข้ามา เริ่มมีมดเข้ามา บางคนร้ายกว่านี้คือมีหนูเข้ามาอยู่ในบ้าน สิ่งที่เราสังเกตได้นี้เกิดจากอะไรล่ะ ก็เกิดจากการที่คนอยู่อาศัยไม่หมั่นปัดกวาดบ้าน ไม่เก็บขยะให้ถูกต้อง ไมมีการเก็บสิ่งของ อาหารให้เรียบร้อย มีความสกปรก มีมุมอับของบ้านเกิดขึ้น แมลงร้ายต่างๆ จึงเข้ามาอาศัยอยู่ในบ้าน ไม่นานคนในบ้านก็เริ่มเจ็บป่วย โดยที่พวกเขาไม่รู้เลยว่า สาเหตุนั้นมันมาจากการที่พวกเขาเกียจคร้านหรือไม่มีระบบการจัดการบ้านที่ดีพอนั่นเอง

พันธกิจการปลดปล่อยมุ่งช่วยเหลือคนให้เขาได้รับรู้ว่า จุดอ่อน มุมมืดของชีวิตเขาคืออะไร และเมื่อเราจัดการมุมมืดนั่น ตัวมืดๆ ก็ไม่สามารถเข้ามาอาศัยอยู่ได้อีกต่อไป และนี่คือความเข้าใจที่สำคัญสำหรับคริสเตียนทุกคนที่จะระวังรักษาตัวให้พ้นจาก กับดัก และช่องทางที่มารใช้ในการจู่โจมชีวิตของเขา

เขียนมายืดยาว ผมยังไม่สามารถบอกประสบการณ์ในขับวิญญาณเสียที เนื่องจากเรื่องนี้มันยาว และต้องมีการปูพื้นฐานความเข้าใจมากมาย กว่าที่ผมจะมีความเข้าใจขนาดนี้ใช้เวลาหลายปี อ่านตำราภาษาต่างประเทศหลายเล่มก็ยังได้แค่นี้ และยังต้องผ่าฟันประสบการณ์กับวิญญาณร้ายมากมาย เอาไว้ตอนต่อไปผมจะเล่าวิธีการบางข้อที่สามารถบอกเล่าแก่สาธารณะชนได้เกี่ยวกับวิธีการขับวิญญาณและ ประสบการณ์การขับวิญญาณที่ผมได้เรียนรู้จากประสบการณ์ และได้รับทราบมาจากหลายๆ แหล่ง นะครับ

โปรดติดตามตอนต่อไป เป็นตอนที่ 4

HOME กลับไปหน้าแรก

อ่านการขับผีตอนที่ หนึ่ง คลิก

อ่านการขับวผีตอนที่สอง คลิก

อ่านการขับผีตอนที่ สาม คลิก

อ่านการขับผีตอนที่ สี่ คลิก

1 ความคิดเห็น:

  1. รออ่านตอนที่ 4 ค่ะเข้าไปคลิกไม่เห็นมีบทความ

    ตอบลบ

You may post your comments here.
หากท่านมีข้อคิดเห็นเพิ่มเติมหรือเสนอแนะเชิญออกความเห็นได้
(กรุณาใช้ข้อความสุภาพ และสร้างสรรค์)