วิธีประกาศที่ได้ผลดีที่พระเยซูสั่งให้ทำ How Jesus proclaims His goodnews

พระเยซูคริสต์ ทรงเรียกสาวกสิบสองคนมาพร้อมกัน แล้วทรงให้พวกเขามีฤทธิ์เดชและสิทธิอำนาจเหนือผีทั้งหลาย และรักษาโรคต่างๆให้หายได้ แล้วพระองค์ทรงใช้เขาทั้งหลายไปประกาศแผ่นดินของพระเจ้าและรักษาคนป่วยให้หาย

[พระธรรมลูกา บทที่ 9 ข้อ 1-2]

พระเยซูสั่งสอนสาวกต่อไปอีกว่า "ถ้าจะเข้าไปในบ้านใดจงพูดก่อนว่า 'ขอให้บ้านนี้มีสันติสุข' ถ้ามีคนรักสันติอยู่ที่นั่น สันติสุขของพวกท่านจะอยู่กับเขา ถ้าไม่มี สันติสุขของท่านจะกลับคืนมาอยู่กับพวกท่าน จงอาศัยอยู่ในบ้านเดียวกันนั้นตลอด กินและดื่มของที่พวกเขาจัดให้นั้น เพราะว่าคนที่ทำงานสมควรจะได้รับค่าจ้างของตน  อย่าย้ายจากบ้านนี้ไปบ้านโน้น เมื่อพวกท่านเข้าไปในเมืองไหนและมีคนต้อนรับท่าน จงรับประทานสิ่งที่เขาจัดให้"
"และจงรักษาคนป่วยในเมืองนั้นให้หาย และแจ้งกับเขาว่า
'แผ่นดินของพระเจ้ามาใกล้พวกท่านแล้ว' "


[พระธรรมลูกา บทที่ 10 ข้อ 5-9]



วันนี้ขอหนุนใจคนของพระเจ้า ผู้เชื่อพระเยซูเจ้าทุกคนว่า เมื่อท่านกล้าที่จะก้าวออกไปประกาศข่าวประเสริฐเรื่องแผ่นดินของพระเจ้า  ขอให้ท่านสำแดงพระเดชานุภาพของพระเจ้า อยากให้ท่านทำเหมือนข้อพระธรรมที่ผมยกมาข้างบน  ตอนแรกๆ ท่านอาจจะมีเงินมินา (เห็นฤทธิ์เดชของพระเจ้าผ่านตัวท่าน) ไม่มากนัก  แต่ถ้าท่านทำตัวเหมือนทาสที่สัตย์ซื่อ ผมเชื่อว่าพระเยซูจะเพิ่มพูนมินาแก่ท่านอย่างแน่นอน

ผมมีตัวอย่างมือคู่หนึ่ง ของสาวน้อยคนหนึ่งที่ตอนนี้เธอได้รับเชื่อพระเยซูแล้ว แต่ยังไม่ได้ไปโบสถ์เพราะครอบครัวของเธอคงไม่อยากให้ใครออกไปจากวัฒนธรรมเก่าๆ ที่พวกเขาได้รับมาตั้งแต่สมัยโบราณไม่กี่ร้อยปีที่ผ่านมา เพราะพวกเขาอาจเชื่อว่า ความเชื่อเก่าๆ ของพวกเขาดีที่สุดแล้ว และไม่ต้องการอะไรใหม่ พวกเขาชอบกราบไหว้รูปปั้นพระที่ถูกสร้างด้วยมือมนุษย์  มากกว่าแสวงหาพระเจ้าที่สร้างมนุษย์ ขอบคุณพระเจ้า น้องสาวคนนี้เขาเป็นคนรุ่นใหม่ เมื่อเขาได้ฟังคำพยานเรื่องพระเยซูคริสต์ช่วยได้  เขาเปิดใจต้อนรับพระเยซูคริสต์มาได้ประมาณครึ่งปีแล้ว เขาได้พบกับสันติสุขแห่งชีวิตที่แท้จริงแล้ว

ในช่วงสองสัปดาห์ก่อนมือของน้องเขา  เกิดมีสีดำขึ้นตามปลายนิ้วและบริเวณหลังมือ และลุกลามจากปลายนิ้วเข้ามาที่หลังมือ ที่มือทั้งสองข้าง  มีอาการหนักตรงมือซ้าย ผมได้พบกับเธอ และได้อธิษฐานเผื่อมือนี้ ก่อนที่ผมจะอธิษฐานผมได้ขอถ่ายภาพด้วยกล้องมือถือของผมก่อน เพื่อเป็นหลักฐานและประจักษ์พยานว่า พระเยซูสามารถช่วยได้จริง และสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ผมทำมาตลอดเพื่อยืนยัน กับใครก็ตามที่ไม่อยากจะเชื่อว่าพระเยซูมีจริง หรือเชื่อว่าพระเยซูมีแต่ไม่ทำการอัศจรรย์แล้ว  หรือเชื่อว่าพระเยซูดี แต่เข้าใจผิดว่าตัวเองไม่มีของประทาน  แท้จริงสิ่งเหล่านี้มันจะเกิดขึ้นถ้าเรา "เพียรรับใช้ และเชื่อฟัง"

หลังจากนั้นสามวันผิวหนังที่มือของเธอเริ่มลอก และมีจุดขาวเกิดขึ้นอย่างอัศจรรย์ โดยเธอไม่ได้ใส่ยาหรือกินยาอะไรเลย ผมจึงถ่ายภาพไว้เป็นครั้งที่สอง และเรื่องนี้คงยังไม่จบ ผมจะนำภาพมือที่มีผิวหนังใหม่เอี่ยมมาให้ท่านชมอีกครั้งหลังจากที่ผิวหนังดำๆ ลอกออกไปหมดแล้ว

ฮาเลลูยา สรรเสริญพระนามของพระเยซูเจ้า พระนามนี้มีฤทธา สามารถช่วยได้จริงๆ

ภาพแสดงมือที่มีผิวสีดำ ไม่ทราบว่าเป็นโรคอะไร ไม่ได้แพ้อะไรแต่เกิดดำขึ้นมา



 รูปมือคู่เดียวกัน ถ่ายภาพหลังการอธิษฐานสามอาทิตย์
หายสนิท และขาวใสเหมือนเดิม
ภาพที่ 2-3 ขอช่วยสังเกตผิวหนังตรงกลางนิ้วชี้ข้างซ้าย นิ้วกลาง และนิ้วนางข้อบนสุด มีหนังใหม่เกิดขึ้นภาพทั้งสองถ่ายห่างกัน ประมาณ หกวัน (อย่าดูที่ความสว่างของภาพ แต่ให้ดูรอยผิวหนังใหม่ที่ผุดขึ้นมา) มือขวาของเธอหยุดดำ และมีการลอกของผิวหนังเกิดขึ้น ภาพทั้งสองภาพคือรูปมือของคนๆ เดียวกัน ผมขอยืนยันหากมีใครอยากพิสูจน์ว่ามีจริง จะไปพบเจ้าของมือนี้กับผมก็ได้

ในช่วงที่บรรยากาศงานรวมพลชาวคริสต์ที่เรียกว่า คองเกรส 7.5 ฝุ่นยังจากไม่หาย มีกระแสรณรงค์ให้คริสเตียนช่วยกันประกาศข่าวประเสริฐว่า ให้ผู้เชื่อหนึ่งคนนำสองคนมาเชื่อ  ผมขอนำเสนอวิธีการดั่งเดิมที่พระเยซูสอนครับ คือออกไปประกาศด้วยการอธิษฐานวางมือคนป่วย และขับวิญญาณจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดเพราะเป็นวิธีที่ไม่ต้องใช้เงินมาก ไม่ต้องแจกของ ไม่ต้องทำอะไรมาก อธิษฐานรักษาโรค ปัดเป่าทุกข์ภัยให้กับชาวบ้าน โดยไม่ต้องคาดหวังว่าพวกเขาจะมาเข้าศาสนาคริสต์หรือไม่ พวกเขาจะเห็นว่า พระเยซูยิ่งใหญ่จริงๆ เมื่อการอัศจรรย์เกิดขึ้นหลังจากที่ผู้เชื่ออธิษฐานวางมือแล้วหายจริงๆ ครับ

การเชื่อพระเยซูไม่ต้องเปลืองขนมหวาน ไม่เปลืองน้ำแดง  ไม่ต้องคอยเอาอกเอาใจ ไม่ต้องทำตัวให้มันผิดธรรมชาติ  เพราะพระเยซูจะอยู่กับผู้เชื่อทุกคนที่เต็มใจ เปิดใจเชิญให้พระองค์มาปกครองดูแลจิตใจ  ทุกคนที่ต้อนรับพระองค์ แม้ว่าเราจะไม่เห็นพระเยซูด้วยตาเปล่า แต่หลายๆ คนก็พบกับพระเยซูในนิมิต ความฝัน และผ่านการอัศจรรย์ต่างๆ ในชีวิต  เมื่อพระเยซูเป็นพระที่ไม่ต้องพก ไม่ต้องห้อยหรือแขวน  หรือตั้งไว้ในที่ๆ จำกัด พระเยซูจึงไม่ถูกจำกัดด้วยวัตถุ สิ่งของ หรือสถานที่  พระเยซูเป็นพระเจ้าใจดี  พระองค์ปกป้องคุ้มครองสรรพสิ่งในโลก ทั้งคนที่ต้อนรับและไม่ต้อนรับพระองค์  หากเขาอยู่ในศีลในธรรม  ซาตานวิญญาณร้ายก็ทำอะไรคนดีไม่ได้ 

หลายคนที่มารู้จักพระเยซู แม้เราไม่ได้เห็นพระองค์ด้วยตาของเรา แต่หลายๆ คนก็รักพระเยซูคริสต์ บางคนยอมทิ้งสิ่งที่ตนรัก  สิ่งที่ตนหวงแหนเพื่อจะได้เป็นลูกพระเยซู  คนใดๆ ที่เห็นคุณค่าของพระเยซู พระองค์ก็ยิ่งอวยพรให้เจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้นๆ  แม้ว่าบางคนพ่อแม่ ครอบครัวจะเกลียดพระเยซู อย่างไม่มีสาเหตุ  แต่คนใดก็ตามที่รักพระเยซู เชื่อพระเยซูจริงๆ ไม่นานเกินรอ คนในครอบครัวของเขาก็ทยอยกันเข้ามาเชื่อพระเยซู  เพราะใครที่เชื่อพระเยซูจะมีสุขภาพดี ทั้งร่างกาย จิตใจ และวิญญาณ

เราไม่ต้องรอพบพระเยซูเจ้าจนกว่าเราจะตาย เราสามารถพบกับพระเยซูเจ้าทุกๆ วันในชีวิตของเรา เมื่อเราอธิษฐานขอการปกป้องคุ้มครองจากพระเยซู เราก็จะแคล้วคลาดปลอดภัย  หากมีเหตุร้ายใดๆ เกิดขึ้นกับเรา แทนที่เราจะสูญเสีย หรือเสียหาย  แต่กลับเป็นพระพรเพิ่มขึ้นในชีวิต  เพราะพระเยซูจะอนุญาตให้เกิดเหตุไม่ดี ไม่คาดฝันเกิดขึ้นกับชีวิตของเราบ้าง  เพื่อทดลองใจดูว่าคนที่ติดตามพระองค์มีจิตใจเป็นยังไง เข้มแข็งและมีรักแท้ในพระเจ้าหรือเปล่า หรือรักพระองค์แบบหวังผลประโยชน์เหมือนกับมนุษย์โลกที่บาปหนาทั่วไปทำกัน

แม้ว่าการมาเชื่อพระเยซูแล้วจะประสบเหตุร้าย เหตุการณ์ไม่ดีใดๆ แต่ในที่สุดจะกลายเป็นสิ่งดี เป็นโชค เป็นพรต่อชีวิตและคนในครอบครัวของเรา  ใครที่เต็มใจเชื่อพระเยซู จะดีขึ้นทางเดียว อยู่ดีมีสุข

พระเยซูคริสต์ไม่ใช่ศาสนาคริสต์  ศาสนาและนักการศาสนาบางส่วนชอบสอน เทศนาให้ทำดีแต่ตัวของพวกเขายังทำดีไม่ได้  พวกเขายังไม่รักกันจริง  พวกเขาหลายคนยังสัมพันธ์กันด้วยผลประโยชน์แอบแฝง พวกเขาบางคนยังแกล้งทำตัวให้มีความสุขต่อหน้าผู้เชื่อด้วยซ้ำ แต่จริงๆ พวกเขาขมขืนฝืนทน ยังไม่หลุดกิเลส  แล้วจะให้คนที่นับถือศาสนาเป็นคนดีได้อย่างไร  ดังนั้นในทัศนะของผมศาสนาไม่ได้ช่วยอะไรมากไปกว่าการเข้าไปอยู่เพื่อให้คนมีที่พึ่งทางใจ  ให้ความหวังลมๆ แล้งๆ และรับคำสอนแนวทางประพฤติตัวให้เป็นมนุษย์ที่ดี การเถียงกันว่าศาสนาไหนดีกว่ากัน จึงอาจสร้างแตกต่าง แตกแยกกันทางศาสนาเพิ่มขึ้น

เมื่อเราประกาศข่าวประเสริฐนำคนมาพบกับพระเยซูเจ้า พระที่เรามองไม่เห็น แต่มีฤทธิ์ช่วยเราให้หายป่วย และยังให้เรามีสันติสุขในชีวิตนี้ และเมื่อตายไปยังได้รอดจากนรกด้วย  เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว ใครเชื่อก็ได้รับการหายป่วย  รับสันติสุข ใครไม่เชื่อก็ต้องถูกพิพากษาอยู่แล้ว

คนที่วางใจในพระบุตร (พระเยซูเจ้า) จะไม่ถูกพิพากษา  ส่วนคนที่ไม่ได้วางใจก็ถูกพิพากษาอยู่แล้ว เพราะเขาไม่ได้วางใจในพระนามพระบุตรองค์เดียวของพระเจ้า
(พระธรรมยอห์น บทที่ 3:18 )


ชายคนนี้กินเหล้ามากเกินไป จนประสาทเสีย ชาวบ้านขนานนามเขาว่าเป็นผีบ้าประจำหมู่บ้าน
เมื่อเราอธิษฐานเผื่อเขา เขามีอาการดีขึ้นมาก พูดจารู้เรื่อง และอยากจะเชื่อพระเยซูจริงๆ

คำอธิษฐานในพระนามพระเยซูมีฤทธิ์อำนาจให้เกิดการหายโรค รักษาอาการป่วยทุกชนิด
และสามารถรักษาอาการทางจิต และอารมณ์ได้อย่างน่าอัศจรรย์
ถ้าใครเชื่อพระเยซูอย่างจริงใจ เขาจะไม่ผิดหวัง พระเยซูช่วยได้จริง ผมยืนยัน


ขอพระเจ้าเสริมกำลังพี่น้อง ผู้เชื่อแท้ทุกคน
ชาโลม ชาโลม แอนด์ อาเมน

Rice Mu. June 2011

ปล.

วันนี้ผมมีโอกาสอธิษฐานให้น้องสาวคนหนึ่ง เขาสายตาสั้น 1000 กว่า( หนึ่งพันกว่า)
หลังจากการอธิษฐาน เธอถอดแว่นตาออกและไม่ยอมใส่กลับเข้าไปอีกแล้ว เพราะว่าสายตาดีขึ้น อย่างอัศจรรย์ ผมได้ถ่ายคลิปสัมภาษณ์เธอไว้สั้นๆ 2-3 นาที

อดใจรอชมนะครับ และผมยังติดค้างคลิปคุยกะคุณแจงอยู่ แต่ผมเอาขึ้นยูทูปไม่ได้ เพราะเอาขึ้นไปแล้วมันตัดให้เหลือแค่ 40 กว่าวินาที เลยยังคาอยู่


4 ความคิดเห็น:

  1. หนุนใจผม และผู้รับใช้พระเจ้าจริงๆครับ อ.รีวัฒน์ ผมอยากจะได้มีโอกาสเห็นสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นทั่วประเทศไทยจริงๆครับ

    ตอบลบ
  2. ในพระนามพระเยซู เราเป็นผู้มีชัย อาเมน

    ตอบลบ
  3. ขอบคุณอาจารย์มากเลยค่ะสำหรับคำหนุนใจในเรื่องเหล่านี้ที่หนูได้รับ ขอบคุณพระเจ้าค่ะ

    ตอบลบ
  4. ไม่ระบุชื่อ11/22/2556

    YOUR WORLD UNFAILING YOUR PROMISS UNSHACKING ,ALL I NEED IS IN YOU .HOLLY ARE YOU GOD HOLLY S YOUR NAME ,WITH EVERYTHING I GOT MY HEART WILL SING HOW I LOVE YOU

    ตอบลบ

You may post your comments here.
หากท่านมีข้อคิดเห็นเพิ่มเติมหรือเสนอแนะเชิญออกความเห็นได้
(กรุณาใช้ข้อความสุภาพ และสร้างสรรค์)