ข้อแนะนำในการฟื้นฟูจิตวิญญาณส่วนตัว
ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงสร้างใจสะอาดภายในข้าพระองค์
และฟื้นน้ำใจที่หนักแน่นขึ้นใหม่ภายในข้าพระองค์
ขออย่าทรงเหวี่ยงข้าพระองค์ไปเสียจากเบื้อง พระพักตร์พระองค์
และขออย่าทรงนำวิญญาณบริสุทธิ์ของพระองค์ ไปจากข้าพระองค์
ขอทรงคืนความชื่นบานในความรอดแก่ข้าพระองค์
และชูข้าพระองค์ไว้ด้วยเต็มพระทัย
และฟื้นน้ำใจที่หนักแน่นขึ้นใหม่ภายในข้าพระองค์
ขออย่าทรงเหวี่ยงข้าพระองค์ไปเสียจากเบื้อง พระพักตร์พระองค์
และขออย่าทรงนำวิญญาณบริสุทธิ์ของพระองค์ ไปจากข้าพระองค์
ขอทรงคืนความชื่นบานในความรอดแก่ข้าพระองค์
และชูข้าพระองค์ไว้ด้วยเต็มพระทัย
พระธรรม สดุดี 51 ข้อ 10-12
พี่น้องที่รักในพระคริสต์
การฟื้นฟูระดับชาติ หรือระดับโลก ล้วนเริ่มต้นจากการฟื้นฟูส่วนตัวของแต่ละบุคคล
ลองคิดดูว่าหากมี ใครสักคนหนึ่งยืนขึ้นแล้วเอาชอล์คมาขีดเป็นวงกลมรอบๆ บริเวณที่เท้าของเขายืนอยู่ และอธิษฐานว่า “พระเจ้าขอพระองค์ทรงส่งการฟื้นฟูลงมาสู่วงกลมนี้” เมื่อแต่ละคนมีการฟื้นฟู พื้นที่ก็จะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นการฟื้นฟูระดับใหญ่
คุณต้องการให้การฟื้นฟูเกิดขึ้นในประเทศของคุณหรือเปล่า การวาดวงกลมรอบๆ บริเวณที่คุณยืนอยู่ คือการเริ่มต้นการฟื้นฟูอย่างแท้จริง จงเริ่มจากวงกลมที่เรายืนอยู่เถิด
คุณอยากจะพบกับการก้าวกระโดดทางด้านจิตวิญญาณหรือเปล่า บางครั้งคุณรู้สึกแห้งแล้งทางวิญญาณไหม ถ้าหากคุณรู้สึกแบบนี้ คุณจำเป็นต้องรับการฟื้นฟูส่วนบุคคล ไม่มีสิ่งใดทำให้เรารู้สึกกระปี้กระเปร่าดีไปกว่า การมีประสบการณ์สดใหม่ฝ่ายวิญญาณ พระธรรมตอนหนึ่งได้กล่าวว่า
“เหตุฉะนั้นท่านทั้งหลายจงหันกลับและตั้งใจใหม่ เพื่อพระเจ้าจะทรงลบล้างความผิดบาปของท่านเสีย เพื่อวาระพักผ่อนหย่อนใจจะได้มาจากพระพักตร์พระเจ้า”
[พระธรรมกิจการ บทที่ 3 ข้อ 19]
ผมขอนำเสนอ แนวทางที่อาจช่วยให้เกิดการฟื้นฟู และความสดใหม่ฝ่ายวิญญาณต่อหัวใจของคุณได้ดังนี้
1. จงรักพระเจ้าด้วยสุดใจ สุดกำลัง สุดความคิด (ฉธบ. 6.5)
2. อธิษฐานขอพระวิญญาณบริสุทธิ์ ทรงเปิดเผยถึงความบาปที่คุณยังไม่ได้สารภาพ และกลับใจใหม่ในชีวิตของคุณ
3. แสวงหาการยกโทษ จากทุกคนที่คุณเคยผิดใจด้วย และจงยกโทษแก่ทุกคน ที่เคยทำร้ายคุณ จงไปคืนดีจงถ่อมใจ และคืนดีกับทุกคน เมื่อพระเจ้านำคุณให้คืนดี
4. สำรวจแรงจูงใจของคุณในทุกๆ คำพูด และทุกๆ การกระทำ อธิษฐานทูลขอพระเจ้าที่จะสำรวจ และชำระหัวใจของคุณทุกๆ วัน
5. ทูลขอพระวิญญาณบริสุทธิ์ ปกป้องวิถีชีวิตไม่ให้ปล่อยตัวปล่อยใจไปตามกระแสโลก
6. สรรเสริญและขอบพระคุณพระเจ้าสม่ำเสมอ ทุกๆ วัน ในทุกๆ เรื่องในชีวิต ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร
7. ปฏิเสธที่จะเชื่อฟังธรรมชาติบาปในตัวของคุณ
“แต่ข้าพเจ้าขอบอกว่า จงดำเนินชีวิตตามพระวิญญาณ อย่าสนองความต้องการของเนื้อหนัง เพราะว่าความต้องการของเนื้อหนังต่อสู้พระวิญญาณ และพระวิญญาณก็ต่อสู้เนื้อหนัง เพราะทั้งสองฝ่ายเป็นศัตรูกัน ดังนั้นสิ่งที่ท่านทั้งหลายปรารถนาทำจึงกระทำไม่ได้”
[กาลาเทีย บทที่ 5 ข้อ 16-17)]
8. ยอมจำนนชีวิตต่อพระเยซูเจ้า ในฐานะพระผู้ช่วยให้รอด และพระเป็นเจ้า พัฒนาการพึ่งพาพระเจ้าด้วยการยอมจำนนอย่างสมบูรณ์และด้วยความถ่อมใจ
9. เรียนรู้จักพระลักษณะของพระเจ้า
10. หิวกระหายความชอบธรรม ( มัทธิว 5.6)
“บุคคลผู้ใดหิวกระหาย ความชอบธรรม ผู้นั้นเป็นสุข เพราะว่าพระเจ้าจะทรงให้อิ่มบริบูรณ์”
11. แบ่งเวลาไว้สำหรับการเจิรญเติบโตด้านจิตวิญญาณ และการแสวงหาการดลใจของพระวิญญาณบริสุทธิ์ด้วยความเชื่อ ตามพื้นฐานแห่งพระวจนะและพระสัญญาของพระเจ้า,
“และอย่าเมาเหล้าองุ่นซึ่งจะทำให้เสียคน แต่จงประกอบด้วยพระวิญญาณ”
[เอเฟซัส 5.18]
“และนี่คือความมั่นใจที่เรามีต่อพระองค์ คือถ้าเราทูลขอสิ่งใดที่เป็นพระประสงค์ของพระองค์ พระองค์ก็ทรงโปรดฟังเรา และถ้าเรารู้ว่า พระองค์ทรงโปรดฟังเรา เมื่อเราทูลขอสิ่งใดๆ เราก็รู้ว่าเราได้รับสิ่งที่เราทูลขอนั้นจากพระองค์”
[1 ยอห์น 5.14-15]
12. อ่าน, เรียน, ภาวนา และท่องจำข้อพระคัมภีร์ซึ่งเป็นพระวจนะศักดิสิทธิขงพระเจ้าทุกๆ วัน
13. อธิษฐานอย่างไม่อ่อนระอาใจ พระธรรมตอนหนึ่งได้กล่าวว่า
“จงอธิษฐานอย่างสม่ำเสมอ”
[1 เธสะโลนิกา 5.17]
14. อธิษฐานและถืออดระยะเวลา 24 ชั่วโมงโดยปราศจากการกินสารอาหารใดๆ 1 ครั้งในแต่ละสัปดาห์ อธิษฐานและใครครวญถึงคริสเตียนเป็นล้านๆ คนที่ได้ถืออดสี่สิบวันเพื่อการฟื้นฟูและการตื่นตัวทางด้านจิตวิญญาณตามประเทศต่างๆในส่วนต่างๆ ของโลก
15. แสวงหาช่องทางในการแบ่งปันชีวิตคริสเตียนเหมือนกับเป็นวิถีชีวิต
16. ตั้งใจแน่วแน่ที่จะดำเนินชีวิตอย่างบริสุทธิ์ ชีวิตที่พอพระทัยพระเจ้า ด้วยความเชื่อฟังและปฎิบัติตาม
17. ริเริ่ม หรือ เข้าร่วมการศึกษาพระคัมภีร์กับกลุ่มตามบ้านที่มีเป้าหมาย หรือเน้นด้านการฟื้นฟู และชีวิตที่บริสุทธิ์
ขอพระเจ้าอวยพระพรให้ท่านเกิดผล เพื่อช่วยกันทำให้พระมหาบัญชาของพระเยซูเจ้าสำเร็จมากขึ้นในแต่ละปี จนกว่าพระเยซูเจ้าจะเสด็จกลับมารับผู้เชื่อทุกคน
จาก อ.บิล ไบร์ท
(อดีต ผู้ก่อตั้งและประธานองค์กร แคมปัส ครูเสด)
Home
พี่น้องที่รักในพระคริสต์
การฟื้นฟูระดับชาติ หรือระดับโลก ล้วนเริ่มต้นจากการฟื้นฟูส่วนตัวของแต่ละบุคคล
ลองคิดดูว่าหากมี ใครสักคนหนึ่งยืนขึ้นแล้วเอาชอล์คมาขีดเป็นวงกลมรอบๆ บริเวณที่เท้าของเขายืนอยู่ และอธิษฐานว่า “พระเจ้าขอพระองค์ทรงส่งการฟื้นฟูลงมาสู่วงกลมนี้” เมื่อแต่ละคนมีการฟื้นฟู พื้นที่ก็จะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นการฟื้นฟูระดับใหญ่
คุณต้องการให้การฟื้นฟูเกิดขึ้นในประเทศของคุณหรือเปล่า การวาดวงกลมรอบๆ บริเวณที่คุณยืนอยู่ คือการเริ่มต้นการฟื้นฟูอย่างแท้จริง จงเริ่มจากวงกลมที่เรายืนอยู่เถิด
คุณอยากจะพบกับการก้าวกระโดดทางด้านจิตวิญญาณหรือเปล่า บางครั้งคุณรู้สึกแห้งแล้งทางวิญญาณไหม ถ้าหากคุณรู้สึกแบบนี้ คุณจำเป็นต้องรับการฟื้นฟูส่วนบุคคล ไม่มีสิ่งใดทำให้เรารู้สึกกระปี้กระเปร่าดีไปกว่า การมีประสบการณ์สดใหม่ฝ่ายวิญญาณ พระธรรมตอนหนึ่งได้กล่าวว่า
“เหตุฉะนั้นท่านทั้งหลายจงหันกลับและตั้งใจใหม่ เพื่อพระเจ้าจะทรงลบล้างความผิดบาปของท่านเสีย เพื่อวาระพักผ่อนหย่อนใจจะได้มาจากพระพักตร์พระเจ้า”
[พระธรรมกิจการ บทที่ 3 ข้อ 19]
ผมขอนำเสนอ แนวทางที่อาจช่วยให้เกิดการฟื้นฟู และความสดใหม่ฝ่ายวิญญาณต่อหัวใจของคุณได้ดังนี้
1. จงรักพระเจ้าด้วยสุดใจ สุดกำลัง สุดความคิด (ฉธบ. 6.5)
2. อธิษฐานขอพระวิญญาณบริสุทธิ์ ทรงเปิดเผยถึงความบาปที่คุณยังไม่ได้สารภาพ และกลับใจใหม่ในชีวิตของคุณ
3. แสวงหาการยกโทษ จากทุกคนที่คุณเคยผิดใจด้วย และจงยกโทษแก่ทุกคน ที่เคยทำร้ายคุณ จงไปคืนดีจงถ่อมใจ และคืนดีกับทุกคน เมื่อพระเจ้านำคุณให้คืนดี
4. สำรวจแรงจูงใจของคุณในทุกๆ คำพูด และทุกๆ การกระทำ อธิษฐานทูลขอพระเจ้าที่จะสำรวจ และชำระหัวใจของคุณทุกๆ วัน
5. ทูลขอพระวิญญาณบริสุทธิ์ ปกป้องวิถีชีวิตไม่ให้ปล่อยตัวปล่อยใจไปตามกระแสโลก
6. สรรเสริญและขอบพระคุณพระเจ้าสม่ำเสมอ ทุกๆ วัน ในทุกๆ เรื่องในชีวิต ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร
7. ปฏิเสธที่จะเชื่อฟังธรรมชาติบาปในตัวของคุณ
“แต่ข้าพเจ้าขอบอกว่า จงดำเนินชีวิตตามพระวิญญาณ อย่าสนองความต้องการของเนื้อหนัง เพราะว่าความต้องการของเนื้อหนังต่อสู้พระวิญญาณ และพระวิญญาณก็ต่อสู้เนื้อหนัง เพราะทั้งสองฝ่ายเป็นศัตรูกัน ดังนั้นสิ่งที่ท่านทั้งหลายปรารถนาทำจึงกระทำไม่ได้”
[กาลาเทีย บทที่ 5 ข้อ 16-17)]
8. ยอมจำนนชีวิตต่อพระเยซูเจ้า ในฐานะพระผู้ช่วยให้รอด และพระเป็นเจ้า พัฒนาการพึ่งพาพระเจ้าด้วยการยอมจำนนอย่างสมบูรณ์และด้วยความถ่อมใจ
9. เรียนรู้จักพระลักษณะของพระเจ้า
10. หิวกระหายความชอบธรรม ( มัทธิว 5.6)
“บุคคลผู้ใดหิวกระหาย ความชอบธรรม ผู้นั้นเป็นสุข เพราะว่าพระเจ้าจะทรงให้อิ่มบริบูรณ์”
11. แบ่งเวลาไว้สำหรับการเจิรญเติบโตด้านจิตวิญญาณ และการแสวงหาการดลใจของพระวิญญาณบริสุทธิ์ด้วยความเชื่อ ตามพื้นฐานแห่งพระวจนะและพระสัญญาของพระเจ้า,
“และอย่าเมาเหล้าองุ่นซึ่งจะทำให้เสียคน แต่จงประกอบด้วยพระวิญญาณ”
[เอเฟซัส 5.18]
“และนี่คือความมั่นใจที่เรามีต่อพระองค์ คือถ้าเราทูลขอสิ่งใดที่เป็นพระประสงค์ของพระองค์ พระองค์ก็ทรงโปรดฟังเรา และถ้าเรารู้ว่า พระองค์ทรงโปรดฟังเรา เมื่อเราทูลขอสิ่งใดๆ เราก็รู้ว่าเราได้รับสิ่งที่เราทูลขอนั้นจากพระองค์”
[1 ยอห์น 5.14-15]
12. อ่าน, เรียน, ภาวนา และท่องจำข้อพระคัมภีร์ซึ่งเป็นพระวจนะศักดิสิทธิขงพระเจ้าทุกๆ วัน
13. อธิษฐานอย่างไม่อ่อนระอาใจ พระธรรมตอนหนึ่งได้กล่าวว่า
“จงอธิษฐานอย่างสม่ำเสมอ”
[1 เธสะโลนิกา 5.17]
14. อธิษฐานและถืออดระยะเวลา 24 ชั่วโมงโดยปราศจากการกินสารอาหารใดๆ 1 ครั้งในแต่ละสัปดาห์ อธิษฐานและใครครวญถึงคริสเตียนเป็นล้านๆ คนที่ได้ถืออดสี่สิบวันเพื่อการฟื้นฟูและการตื่นตัวทางด้านจิตวิญญาณตามประเทศต่างๆในส่วนต่างๆ ของโลก
15. แสวงหาช่องทางในการแบ่งปันชีวิตคริสเตียนเหมือนกับเป็นวิถีชีวิต
16. ตั้งใจแน่วแน่ที่จะดำเนินชีวิตอย่างบริสุทธิ์ ชีวิตที่พอพระทัยพระเจ้า ด้วยความเชื่อฟังและปฎิบัติตาม
17. ริเริ่ม หรือ เข้าร่วมการศึกษาพระคัมภีร์กับกลุ่มตามบ้านที่มีเป้าหมาย หรือเน้นด้านการฟื้นฟู และชีวิตที่บริสุทธิ์
ขอพระเจ้าอวยพระพรให้ท่านเกิดผล เพื่อช่วยกันทำให้พระมหาบัญชาของพระเยซูเจ้าสำเร็จมากขึ้นในแต่ละปี จนกว่าพระเยซูเจ้าจะเสด็จกลับมารับผู้เชื่อทุกคน
จาก อ.บิล ไบร์ท
(อดีต ผู้ก่อตั้งและประธานองค์กร แคมปัส ครูเสด)
Home
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
You may post your comments here.
หากท่านมีข้อคิดเห็นเพิ่มเติมหรือเสนอแนะเชิญออกความเห็นได้
(กรุณาใช้ข้อความสุภาพ และสร้างสรรค์)