อาดัมมาร่วมการสัมมนา สู่เสรีภาพในครั้งต่อมา เขารู้สึกหิวกระหายหาพระเจ้าและต้องการการปลดปล่อยจากโซ่ตรวนทุกอย่างของซาตาน ผมยังคงยืนยันตรงนี้อีกครั้งว่า เราควรจะให้คนที่ต้องการรับการปลดปล่อยเข้ารับการอบรมหลักสูตร “สู่เสรีภาพ” ก่อนที่จะรับการปลดปล่อย ในการสัมมนาสู่เสรีภาพจะเป็นการอธิบายว่ามี วิธีการ 2 วิธีที่ซาตานสามารถจู่โจมชีวิตของเรา
ประการที่ 1 โดยไม่ใช้สิทธิอันชอบธรรมแต่ใช้วิธีการหลอกลวง
ซาตานไม่มีอำนาจอันชอบธรรมในการจู่โจมเรา เราเพียงแต่ใช้พระคำของพระเจ้า และสั่งซาตาน หรือวิญญาณชั่วให้ถอยห่างไปจากเรา
ประการที่ 2 คือ โดยสิทธิอันชอบธรรม เมื่อเราได้ “เชื้อเชิญ”
ซาตานให้เข้ามาสู่ชีวิตของเรา เราอาจไม่ทันรู้ตัวว่าเราได้ไปทำใบสัญญากับซาตาน และได้เชิญให้มันมีสิทธิเหมือนกับผู้เช่าที่จะเข้าสู่ในชีวิตของเรา ถ้าเราพยายามที่จะไล่มัน
ซาตานตอบโต้เหมือนกับว่ามันรู้กฎหมาย และเอาสัญญานี้ยืนยันกับพระเจ้าว่ามันมีสิทธิอันชอบธรรมในการครอบครองชีวิตของเรา เหมือนกับว่ามันได้มีใบสัญญาเช่าบ้านที่ถูกต้องตามกฎหมาย
ใบสัญญานี้เราทำได้โดย 6 ประการ คือ
1. การจงใจหรือเจตนาทำบาป
2. การไม่ให้อภัย (แค้นฝังใจ)
3. การตัดสินคนอื่น ตัวเอง หรือ พระเจ้า
4. การได้รับอิทธิพลจากบรรพบุรุธ
5. รอยแผลทางอารมณ์หรือวิญญาณ
6. การรักเงิน
บทสรุปของบทเรียนในตอนนี้คือ การอธิษฐานเพื่อปิดทวารทั้ง 6 ประการนี้ เราเริ่มต้นด้วยการนำอธิษฐานให้อาดัม และคนอื่นๆ ที่เข้าร่วมการสัมมนาสู่เสรีภาพ ในการอธิษฐานสารภาพ และปฏิเสธตัดความสัมพันธ์ อาดัมเริ่มรู้สึกไม่ค่อยสบาย ยิ่งเราอธิษฐานอาดัมก็ยิ่งรู้สึกไม่สบายมากขึ้น เมื่อเรากล่าวคำอธิษฐานอันสุดท้ายสิ้นสุดลง อาดัมล้มลงและแสดงอาการเจ็บปวดอย่างมาก ซาตานรู้ว่าอะไรกำลังเกิดขึ้นกับมัน มันพยายามที่จะหยุดยั้งไม่ให้เราปิดทวารที่มันใช้เข้ามาทำร้ายอาดัม
ศิษยาภิบาล แบรี่ ซาร์ และผมตัดสินใจที่จะอธิษฐานเผื่ออาดัมต่อไปเป็นการส่วนตัวในห้องแยกต่างหาก อย่าลืมกฎข้อที่ 2 “อย่าอธิษฐานตามลำพัง” เราคิดว่ามันน่าจะเป็นการฉลาดถ้าหากเรามีมากกว่าสองคนด้วยซ้ำ
เราจึงขอให้คุณ เบทตี้ กูลิมิส ผู้ซึ่งกำลังดำเนินการสัมมนาสู่เสรีภาพ กับพวกสตรี อยู่ชั้นบนให้ลงมาช่วยด้วยอีกคน ต่อมาคุณกรอเรีย อินแมนก็มาช่วยเราอีกแรง แล้วเราจะเริ่มอย่างไรดีล่ะ ในเมื่อการอธิษฐานปิดทั้ง 6 ทวารก็ทำไปหมดแล้ว เราจึงตกลงกันที่อธิษฐานปลดปล่อยที่ใช้ในการสัมมนาอีกครั้งเพื่อ “ทำความสะอาดขยะในชีวิตของอาดัมที่เขาอนุญาตให้มันเข้ามาให้หมด
มาถึงจุดนี้เรายังไม่ได้รับทราบลึกลงไปอีกว่า แท้จริงแล้วอาดัมเคยไปเกี่ยวข้องกับไสยศาสตร์ตั้งแต่อายุ แค่12 ปี เราเริ่มอธิษฐานการปลดปล่อยด้วย คำอธิษฐานขับวิญญาณแห่งความกลัว เราต่อสู้สงครามฝ่ายวิญญาณโดยใช้พระนามของพระเยซู อาดัมเริ่มอ้วก มีน้ำอ้วก น้ำลายไหลย้อยจากปาก การอธิษฐานต่อสู้ในครั้งนี้ใช้เวลาประมาณ 40 นาที ในที่สุดเราคิดว่าเราได้รับชัยชนะในการต่อสู้ครั้งนี้แล้ว
เมื่อเราจบการต่อสู้กับวิญญาณแห่งความกลัวในขั้นตอนแรก เราพักประมาณ 10 นาทีเพื่อพักเอาแรงก่อนที่เราจะดำเนินการต่อไปกับวิญญาณแห่งหมอดู เมื่อมาถึงจุดนี้เราได้เรียนรู้ถึงความสำคัญและฤทธิเดชแห่งพระคำของพระเจ้า คุณกรอเรีย แนะให้เราอ่านจากพระธรรมกิจการของอัครทูต บทที่ 16 ข้อ 16-18 ซึ่งมีข้อความดังนี้
เมื่อเรากำลังออกไปยังที่สำหรับอธิษฐาน มีทาสสาวคนหนึ่งที่มีผีหมอดูเข้า ได้มาพบกับเรา เขาทำการทายให้นายของเขาได้เงินเป็นอันมาก หญิงนั้นตามเปาโลกับพวกเราไป ร้องว่า
“คนเหล่านี้เป็นทาสของพระเจ้าสูงสุด มากล่าวประกาศทางรอดแก่ท่านทั้งหลาย”
เขาทำอย่างนั้นหลายวัน ฝ่ายเปาโลก็งุ่นง่านใจ หันหน้าสั่งผีนั้นว่า
“ในพระนามของพระเยซูคริสต์ เอ็งจงออกมาจากเขา” ผีนั้นก็ออกมาในเวลานั้น
ขณะที่เราอ่านถ้อยคำจากพระคำของพระเจ้า มาถึงตอนที่ว่า “ผีนั้นก็ออกมาในเวลานั้น” ในข้อที่ 18 อาดัมก็อ้วก ผมอ่านข้อความตอนนี้ซ้ำๆ อาดัมอ้วกหลายครั้ง ในที่สุดแล้วผมอ่านข้อความนี้ไปถึง 10 เที่ยว ในการอ่านแต่ละครั้งเราเห็นผลที่เกิดกับอาดัมอย่างชัดเจน
กฎข้อที่ 4 จงใช้พระวจนะของพระเจ้าเสมอ
เพราะว่าพระวจนะของพระเจ้านั้นไม่ตายและทรงพลานุภาพอยู่เสมอ คมยิ่งกว่าดาบสองคมใดๆ แทงทะลุกระทั่งจิตและวิญญาณ ตลอดข้อกระดูกและไขในกระดูก และสามารถวินิจฉัยความคิดและความมุ่งหมายในใจด้วย
[พระธรรมฮีบรู บทที่ 4:12]
แม้ว่าซาตานจะสูญเสียสิทธิในการครอบครองแต่มันยังดื้อที่จะอยู่ต่อ การใช้พระคำของพระเจ้าเป็นเหมือนอาวุธในการต่อสู้จะทำให้ซาตานอ่อนแรงลง และไม่สามารถต่อต้านได้นานต่อไป
ในคืนนั้นเราอธิษฐานเป็นเวลาถึง 5 ชั่วโมง เราได้เรียนรู้และมีประสบการณ์หลายอย่าง เมื่อเราอธิษฐานมาถึง วิญญาณแห่งความเย่อหยิ่ง ใบหน้าของอาดัมแสดงอาการยะโสออกมา เมื่อเราอธิษฐานมาถึงวิญญาณแห่งการโกหก แขนและขาของอาดัมมีอาการบิดเบี้ยว เปรียบเหมือนกับการโกหกที่เป็นการพูดไม่ตรงตามความเป็นจริง คือการดัดแปลงถ้อยคำ เพราะเรารับรู้ว่าอาดัมนั้นเป็นนักพูด และชอบใช้คำในการทำให้คนอื่นไข่วเข่วอยู่เสมอ
กฎข้อที่ 5 กฎข้อนี้เป็นเพียงการเตือนให้ระวัง ในบทต่อๆ ไป เราจะได้พบกับวิญญาณแห่งการเยาะเย้ย ดื้อดึง และลักษณะที่แสดงออกของวิญญาณเหล่านี้
เป็นเวลาประมาณตี 1 ในเช้าวันอาทิตย์ พวกเรารู้สึกเหน็ดเหนื่อยในการต่อสู้สงครามฝ่ายวิญญาณเป็นเวลายาวนานถึง 5 ชั่วโมงรวด แม้ว่าเราได้ทำงานมาถึง 5 ชั่วโมงแต่พวกเราก็สามารถทำสงครามไปได้เพียงครึ่งเดียวของวิญญาณรากทั้ง 16 ราก
กฎข้อที่ 6 อย่าอธิษฐานปลดปล่อยถ้าหากคุณเหน็ดเหนื่อย ร่างกายไม่พร้อม
พวกเราตกลงที่จะหยุดการอธิษฐานเผื่ออาดัม แล้วเลื่อนไปทำในวันรุ่งขึ้นในตอนบ่าย (วันอาทิตย์) แต่ปรากฏว่าอาดัมไม่ได้มาที่คริสตจักรในเช้าวันต่อมา เราจำเป็นต้องเรียนรู้
ธรรมชาติของโลกแห่ง กายภาพ(ตามที่ตาเราเห็น) และโลกวิญญาณ เราต่อสู้ในโลกของวิญญาณแต่ซาตานตอบโต้ในโลกทางกายภาพ เราทราบว่าอาดัมนอนหลับไป 24 ชั่วโมงหลังจากการต่อสู้ฝ่ายวิญญาณ 5 ชั่วโมง
เมื่อเราพบกับอีกครั้งเพื่อดำเนินการต่อจากที่ทำทิ้งไว้เมื่อคราวก่อน คือตอนเย็นวันเสาร์ที่ผ่านไป ในครั้งนี้มีการต่อสู้ดิ้นรนมากกว่าเดิมและเราไม่สามารถทำอะไรที่ก้าวหน้ามากกว่าเดิมเลย มีการแสดงอาการของวิญญาณเหมือนกับคราวก่อน และเราก็ทำแบบเดิมที่เราได้ทำไปแล้วอีกครั้ง แต่ก็ไม่เห็นผลอะไร
ในไม่ช้าศิษยาภิบาล แบรี่ ซาร์ ตระหนักว่า พฤติกรรมของอาดัมในช่วงสัปดาห์ยังมีพฤติกรรมเหมือนเดิม ซึ่งเป็นการเปิดช่อง(ทวาร)ให้ซาตานเข้ามาทำงานได้เหมือนเดิมอีกครั้ง
อาดัมเคยบอกเราบางอย่างที่ดูเหมือนไม่มีความสำคัญอะไรมากต่อเรา แต่เป็นการเพียงพอสำหรับซาตานที่จะเรียกร้องเอาสิทธิอันชอบธรรมในการครอบครองเหนืออาดัมอีกครั้ง เมื่อศิษยาภิบาล
แบรี่ พูดคำนี้ออกมาปรากฏว่า วิญญาณในตัวอาดัมเริ่มสำแดงเดชอีกครั้ง โดยการเข้าควบคุมเสียงพูดของอาดัมทำให้อาดัมไม่สามารถพูดกับเราอีกต่อไป
เราถามอาดัมว่า “อยากจะสารภาพสำหรับการจงใจเจตนาทำบาปนี้ไหม” เนื่องจากอาดัมไม่สามารถพูดสารภาพได้เราจึงขอให้เขาผงกศรีษะส่งภาษาว่า เอาหรือไม่เอา ดูเหมือนว่าอาดัมอยากจะพูดว่า "เอา" แต่ซาตานพยายามควบคุมไม่ให้อาดัมผงกศรีษะได้ เราพบว่าอาดัมสามารถเคลื่อนไหวได้เฉพาะที่บริเวณตาเท่านั้น ดังนั้นเราจึงขอให้อาดัมกระพริบตา 2 ครั้งถ้าเขาต้องการสารภาพสำหรับความบาปที่จงใจกระทำ อาดัมกระพริบตาหนึ่งครั้ง มันดูเหมือนเป็นการจงใจและต้องใช้ความพยายามอย่างมากที่จะกระพริบตาสองครั้ง เพราะดูเหมือนอาดัมต้องต่อสู้ดิ้นรนอย่างมากที่จะบังคับตัวเองในการกระพริบตาครั้งที่สอง
ในที่สุดเราสามารถบรรลุความก้าวหน้าในการต่อสู้ เนื่องจากอาดัมพูดไม่ออก ผมจึงต้องอ่านคำอธิษฐานตัดสายสัมพันธ์คล้ายๆ กับว่าผมเป็นทนายความตัวแทนของอาดัมในการให้การในศาล เหมือนกับว่าผมเป็นทนายตัวแทนถามเขาว่าเขายินยอมที่จะเซนต์สัญญาตามที่ผมอ่านหรือไม่ การกระพริบตาหนึ่งครั้งสำหรับการพูดว่า “ไม่” และการกระพริบตาสองครั้งหมายความว่า “ตกลง”
ด้วยเงื่อนไขนี้อาดัมกระพริบตาสองครั้งเพื่อลงชื่อในใบสัญญาแห่งการสารภาพบาป อาดัมกระพริบตาครั้งที่หนึ่งและครั้งที่สอง...เราต้องรอเป็นเวลานานทีเดียวกว่าจะทำได้ เราสามารถมองเห็นความพยายามของอาดัมอย่างมากในการแสดงอาการนี้เพื่อจะบอกเราว่าตกลงตามนี้ ซาตานได้สูญเสียอำนาจของมันเนื่องจากผลของ กฎข้อที่ 1 อาดัมรู้สึกเหนื่อยหมดแรงในช่วงนี้มาก แต่พวกเราก็ได้เรียนรู้ประสบการณ์ว่าเราไม่ควรจะคิดว่า หรือโมเมว่าทวารทั้งหมดได้ถูกปิดไปแล้ว
กฎข้อที่ 7 อย่าเริ่มการปลดปล่อยถ้าหากทวารทั้งหมดยังไม่ถูกปิด ถ้าหากพบว่ามันจะมีบางทวารเปิดอยู่ให้ปิดเสียก่อน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
You may post your comments here.
หากท่านมีข้อคิดเห็นเพิ่มเติมหรือเสนอแนะเชิญออกความเห็นได้
(กรุณาใช้ข้อความสุภาพ และสร้างสรรค์)