เชิญอ่านหนังสือ "การรักษาโรค และปลดปล่อยด้วยคำอธิษฐาน" โดย บรู๊ซ ทอมสัน
หนังสือที่เป็นเหมือนคู่มือที่บอกแนวทางการต่อสู้กับวิญญาณร้าย และการอธิษฐานปลดปล่อยเบื้องต้น อย่างง่ายๆ ที่สามารถนำไปปฎิบัติได้ เหมาะสำหรับ คริสเตียนที่เติบโตแล้วในความเชื่อ ผู้ต้องการเกิดผลที่มากกว่า สิ่งที่บอกไว้ในหนังสือกาลาเทีย บทที่ 5 คือผลแห่งความเป็นคนดี มีเมตตา หรือมีนิสัยที่ดี สิ่งเหล่านั้นความจริงคือสิ่งที่เป็นผลทางด้านอุปนิสัยที่ดีที่เกิดขึ้นเฉพาะตัว เฉพาะคน ทำให้คนเข้าสู่ชีวิตสันติสุข
แต่ผลที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น คือ ผลที่นำคนที่ตกอยู่ในการครอบงำ และอิทธิพลของวิญญาณร้าย หนังสือเล่มนี้เขียนจากประสบการณ์จริง ของนักอธิษฐานปลดปล่อย ท่านหนึ่งที่ผมได้รู้จักกับท่านเมื่อหลายปีก่อน
ก่อนที่ผมจะเป็นคริสเตียนที่เกิดผล คือการเกิดผลด้านการนำ หรือช่วยคนให้หลุดพ้นจากอำนาจวิญญาณร้าย ผมเป็นคริสเตียนที่เรียนพระคัมภีร์เป็นสิบๆ ปี มีใบปริญญาณหลายใบ ทั้งทางโลก และทางธรรม ผมเรียนจบทางชีวิต ประทีปของไทยชั้นที่สิบห้า และชั้นขยายจนได้เข็ม จบ Master of Divinity (M.div) เรียนมากจนเกือบจะกลายเป็นฟาริสี ผมสามารถจะไปเถียงใครๆ เรื่องพระคัมภีร์ จนพวกรู้บ้างไม่รู้บ้าง หรือพวกรู้แต่ไม่ลึกต้องอาย เพราะผมรู้ลึก และรู้รอบ เพราะสามารถอ่านทั้งตำราไทยและต่างประเทศ
แต่น่าเสียดายครับ กลายเป็นว่า ผมรู้เพียงด้านเดียวของพระกิตติคุณของพระเยซูเจ้า ก่อนนั้นผมเข้าใจว่า การเป็นคริสเตียนคือการเลียนแบบวิถีชีวิตและคำสอนของพระเยซู ทำตัวให้อยู่ในศาสนา ติดตามผู้นำ ถวายเงินเยอะๆ รับใช้ในภาระกิจเล็กๆ น้อยๆ ในโบสถ์ก็พอแล้ว แต่เมื่อผมได้เข้าสู่ฤทธิ์อำนาจของพระเจ้า ทำให้ผมได้ทราบว่า แค่เก่งพระคัมภีร์ แค่เป็นคนมีอุปนิสัยที่ดี เป็นสมาชิกที่ดีที่ไปนั่งในโบสถ์ให้อาจารย์สอนทุกอาทิตย์นั้นอาจจะไม่เพียงพอ เพราะการทำอย่างนั้นมันเกิดผลแค่เฉพาะตัว รอดคนเดียว ไม่สามารถส่งต่อพระกิตติคุณ ไม่สามารถนำคนมารอดได้คราวละมากๆ และน่าจะเป็นสิ่งน่าอายด้วยซ้ำ ถ้าชีวิตผู้เชื่อในพระคริสต์เป็นแค่คนนั่งฟังเทศน์เพื่อจะกลายเป็นอาจารย์สอนความรู้ทางศาสนาเท่านั้น เพราะผมเพิ่งได้รับทราบมาไม่นานนี้ หลังจากถูกปิดหูปิดตามานาน เข้าใจไปว่า พระเยซูคริสต์มาสอนแค่ด้านเดียวของพระกิตติคุณ คือคำสอนความรู้เรื่องพระเจ้า
ก่อนนั้นผมเข้าใจว่า การเป็นคริสเตียนที่ การเป็นคนดี มีอุปนิสัยดี เอื้อเฟื้อ และรักคนอื่น เข้าโบสถ์ แต่แท้่จริงการเลียนแบบพระคริสต์ ไม่ใช่เลียนแบบแค่ ด้านอุปนิสัย หรือความรู้ทางศาสนาเท่านั้น แต่ต้องเรียนรู้ และเลียนแบบให้ครบทั้งสามด้าน เราจึงจะสามารถเป็นคริสเตียนที่เกิดผลมาก
สิ่งที่พระเยซูได้ทำสามอย่างในเวลาเดียวกัน ทุกๆ ครั้งคือ
1. การประกาศเรื่องแผ่นดินของพระเจ้า (Teaching)
2. การรักษาคนเจ็บป่วยทุกข์ทรมานด้วยโรคภัย (Healing)
3. การขับผี (Casting Out Demons)
(มาระโก 1.28-45)
ผมได้มีโอกาสได้เรียนพระคริสตธรรมจบจากสถาบันที่มีชื่อเสียงอันดับหนึ่งของประเทศ เป็นที่รับรองจากองค์กรทั้งในประเทศและเอเชียแปซิฟิค สามารถเอาไปปริญญาไปศึกษาต่อ ระดับ Ph.d ได้ แต่ผมได้ตระหนักว่า การเรียนการสอนนั้นได้เรียนรู้เน้นหนักเพียงแค่ด้านเดียว คือ การสอน ความรู้ของคริสตศาสนา พิธีกรรมในศาสนา (ศาสนพิธี) ประวัติและการอธิบายพระคัมภีร์เล่มย่อยต่างๆ ส่วนด้านที่สอง และด้านที่สาม ผมเพิ่งมาพบเมื่อเพียงไม่กี่ปีมานี้ เมื่อผมได้มีโอกาสได้รู้จักผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ ผมจึงพยายามแปลมาแบ่งปัน และขายในราคาที่ไม่แพงเลย เพื่อเผยแพร่ความรู้เรื่องนี้ให้ขยายไป มากๆ
ใครสนใจหนังสือเล่มเล็กๆ ที่เล่าเรื่อง และแนะนำวิธีการเบื้องต้นสำหรับการปลดปล่อย เชิญหาซื้อได้ตามร้านหนังสือคริสเตียนทั่วไป
หรือติดต่อสั่งซื้อโดยตรง ที่
0890016767 หรือสั่งซื้อทางอีเมล์ ที่ cli.org@gmail.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
You may post your comments here.
หากท่านมีข้อคิดเห็นเพิ่มเติมหรือเสนอแนะเชิญออกความเห็นได้
(กรุณาใช้ข้อความสุภาพ และสร้างสรรค์)