เรียกอย่างไรดีสมาชิก หรือพี่น้อง Members of brothers



 
My members or my brothers in the church" เรียก "สมาชิกของฉัน หรือพี่น้องในคริสตจักรของฉันดี"

ตอนนี้ผมพยายามจะเปลี่ยนความเคยชินคำพูดติดปากกว่าห้าสิบปีที่ชอบเรียกคนที่มาเชื่อพระเจ้าที่อยู่ร่วมกัน ทำงานรับใช้ด้วยกัน จากคำว่า "สมาชิก" มาเป็น "พี่น้องในพระคริสต์" หรือ "พี่น้องในคริสตจักร"

แค่การจะเปลี่ยนคำพูดแค่นี้ผมยังสับสน และต้องใช้เวลาปรับตัว เพราะผมพูดคำนี้มากว่า ห้าสิบปี พอถึงเวลาเปลี่ยนมันรู้สึกกระเดียม และมันช่างเป็นการเปลี่ยนแปลงที่น่าลำบากเสียจริง  ชอบเพลอพูดไปเหมือนเดิมอยู่เรื่อย


เนื่องจากผมไม่มีจุดประสงค์ให้ใครมาเป็นสมาชิกคริสตจักร เพื่อจะให้เขารับคำสอนและอยู่กับ หรือร่วมกิจกรรมกับผมไปนานแสนนาน ตลอดไปจนตายจากกัน  ผมคิดว่า การสร้างคนให้เป็นสมาชิก มันไม่ใช่จุดจบของการเป็นคริสเตียน

ก่อนนั้นผมเคยคิดเหมือนกัน  คิดว่าจะอยู่ที่คริสตจักรแห่งหนึ่งไปเรื่อยๆ จนแก่  แต่เมื่อได้พบกับความจริงแล้ว ก็ไม่อยากจะอยู่ที่เดิมไปตลอด  เพราะได้เรียนรู้แล้วว่า เป้าหมายของการเป็นคริสเตียนผู้เชื่อพระเจ้า ไม่ได้ไปสุดทางแค่การเป็นสมาชิก หรือเป็นลูกแกะของอาจารย์ดังคนไหนไปตลอดชาติ 

เป้าหมายการตั้งคริสตจักรที่ปกครองตนเองได้ อาจเป็นนิมิตของของผู้ประกาศปลูกสร้างคริสตจักร หรือนักศึกษาพระคัมภีร์ที่มีใจร้อนรนเรื่องนี้ แท้จริงเป็นความเร้าร้อนที่ดี แต่เนื่องจากวัฒนธรรม และแนวคิดนี้มันแอบเข้ามาสิงในใจคน ตั้งนานแล้ว และมันถ่ายทอดกันไปจากรุ่นสู่รุ่นโดยอัตโนมัติ เป็นสิบปี ร้อยปี จนกลายเป็นความเคยชินที่ยอมรับได้

นักศึกษาพระคริสตธรรมบางส่วนคิดว่า   สิ่งสุดยอดของผู้สำเร็จการศึกษาพระคริสต์ธรรม คือการออกไปหาประสบการณ์รับใช้กับคริสตจักรอื่นก่อน พอรู้สึกว่าเริ่มปีกกล้าขาแข็งบ้างก็จะพยายามออกไปประกาศและปลูกสร้างคริสตจักรให้ได้ด้วยตนเอง   ถ้าหากคริสตจักรที่เขาปลูกสร้างกลายเป็นคริสตจักรใหญ่ยิ่งเป็นความฝันอันสูงสุด

ถ้าหากใครทำแบบนี้ได้ เขาจะรู้สึกว่า เขามีความสามารถ และเป็นที่ยอมรับของคนในแวดวงศาสนา ยิ่งทำอาคารโบสถ์ให้ใหญ่โต หรือได้เป็นศิษยาภิบาลอยู่โบสถ์ใหญ่  มีฐานะทางการเงินมั่นคง  เป็นคนมีฐานะร่ำรวย  ผู้นำความเชื่อคนนั้นก็ยจะยิ่งมีหน้ามีตามาก สุขสบายไปหนึ่งชาติ  หากใครมีลูกๆ เขาก็จะส่งต่อตำแหน่งให้กับลูกๆ ของเขา แทนที่จะให้ใครสักคนที่เป็นรอง หรือเป็นผู้ช่วยเขาคิดปลูกสร้าง ช่วยกันสอนสมาชิกมาเป็นสิบปี  แต่พวกนี้ไม่ได้แอ๊ม เพราะไม่ใช่ลูกของเขา   แท้จริงโบสถ์และจำนวนสมาชิกกลายเป็นสมบัติส่วนบุคคล แต่เอาพระเจ้ามาอ้างเท่าันั้น

เมื่อมีการนำคนมารู้จักพระเจ้าแล้วแทนที่ผู้นำความเชื่อจะสร้างคนให้เป็นสาวก สร้างให้เป็นนักประกาศปลูกสร้างคริสตจักรเพื่อนำคนมาถึงความรอดให้มากขึ้น  แต่ไม่ได้เป็นเช่นนั้น  มันผิดแผน  ผู้เชื่อที่น่าสงสารเหล่านั้นกลับถูกเรียกว่า ลูกแกะ (อ่อนแอ เลี้ยงตัวเองไม่ได้ป ต้องถูกสอน ถูกตอกเข้าแบบพิมพ์ให้เป็นแค่เพียง "ลูกแกะ" หรือสมาชิกไปนานแสนนาน

ผู้เชื่อบางคน(ส่วนใหญ่) ได้กลายเป็นลูกแกะตลอดชาติ  ต้องป้อนอาหารอ่อนๆ  สอนเรื่องเดิมๆ เรืื่องความเชื่อ  ความเชื่อ  การถวาย  นิยายฮีโร่  วันสำคัญทางศาสนา  ฯลฯ วนเวียนไปมาปีแล้วปีเล่า  ไปทั้งชาติ  ผู้เชื่อบางคนไม่ได้รับรู้ว่า ตัวเองคือใครในพระคริสต์  ไม่รู้จุดประสงค์ว่ามาเป็นคริสเตียนเพื่ออะไร รู้แต่เพียงว่า  เชื่อพระเจ้าแล้วรอดจากนรกเท่านั้น  และพอใจแค่นั้น  ก็มันสุดยอดแล้วไม่ใช่หรือ

เชื่อไหมว่า ในประเทศไทย ถ้าสังเกตให้ดี คริสตจักรทั่วไปไม่มีตำแหน่งสาวก ธรรมทูต (อัครสาวก) ผู้เผยพระวจนะ ครูอาจารย์ ผู้ประกาศข่าวประเสริฐ แต่มีตำแหน่งสำคัญ เพียงตำแหน่งเดียวซึ่งคริสเตียนรู้จักกันดี และมีอำนาจสูงสุดในคริสตจักรในกลุ่มสหกิจ   และักลุ่มวิญญาณเสรี (ไม่ขึ้นกับใคร ไม่เอาสังกัด ขออยู่อย่างสบายๆ ไม่ต้องมีใครมาตรวจสอบเรื่องการเงิน  ไม่ช่วยใคร  ไม่พึ่งใคร) แต่ในกลุ่มความเชื่อบางกลุ่ม ผู้มีอำนาจสูงสุดในการบริหาร คือคณะผู้ปกครอง กลุ่มนี้มีอายุความเชื่อยาวนานมาก  มีทรัพย์สมบัติที่ฝรั่งทิ้งไว้ให้เยอะมาก 

ผมเห็นนักการศาสนาบางสาย  แม้แต่บางคนเป็นคนที่ผมรู้จักดี  สอนดี  วาทะดี แต่ไม่เสมอต้นเสมอปลาย  คือก่อนที่เขาจะได้ตำแหน่งประธานคณะ  เขาส่งโน้น ส่งนี้ มีจดหมายหนุนใจไม่เคยขาด  แต่พอเขาได้เป็นเราไม่เคยเห็นเขาส่งอะไรมาเลย  เพราะสำเร็จสมประสงค์ หมดฤดูกาลหาเสียงเพื่อเข้าสู่ตำแหน่งแล้ว  อันนี้ก็น่าคิดนะว่าเขาทำได้ยังไง

แวะมาเรื่องลูกแกะต่อ

การเป็นลูกแกะ มันก็มีความสามารถจำกัด เพราะถูกจัดให้อยู่ในที่แออัด และอยู่ในกรงแคบๆ แถบถูกปั่นสมองให้จงรักภักดีต่อองค์กรอีก ผู้นำหรือผู้ปกครองจะไม่ยอมให้ "สมาชิก" ออกไปไหน  แม้จะเป็นการสัมมนาของที่เชิญคนของประเจ้าระดับโลกมาสอน ก็ยังห้ามไม่ให้ไปฟัง  เขาห้ามสมาชิกไม่ให้ไปฟังใครนอกกลุ่ม นอกลัทธิ

การที่แกะอ่อนถูกฉีดยาความเชื่อแบบนี้อย่างต่อเนื่อง ได้รับการสอนแบบเดียวตลอดหลายปีลูกแกะหลายตัวจึงได้รับความกลัว  กลัวอาจารย์ กลัวผู้ปกครอง ไม่กล้าทำอะไร  ไม่กล้าฟังใครสอน  เกิดความเชื่อฝังใจว่ากลุ่มของเราเป็นกลุ่มที่ดีที่สุดในประเทศไทย หรือในโลกก็ว่าไปโน้น   วิสัยทัศน์ของผู้เชื่อด้านการประกาศเผยแพร่ข่าวประเสริฐถูกปิดกั้น ไม่มีการฝึกปฏิบัติด้านนี้อย่างเป็นรูปธรรม  จนกลายเป็นความเกียจคร้าน  ไม่มีภาระใจ และอยู่ไปอย่างไร้หัวใจเป็นห่วงคนอื่น  รออย่างเดียวคือ วันที่จะได้ไปพบพระเจ้า เมื่อคราวหมอายุขัย

การได้รับคำสอน  คำกล่อมสติแบบนี้อย่างต่อเนื่อง  ผู้เชื่อจำนวนไม่น้อยจึงเข้าใจไปว่า การมาเป็นคริสเตียนคือการเป็นลูกแกะของใครบางคน  คือการเข้าร่วมเป็นผู้ฟัง เป็นลูกแกะ(อ่อน) และในท้ายที่สุดจะได้สิทธิพิเศษเป็นสมาชิก อมตะนิรันดรของคริสตจักรสักแห่งหนึ่ง อันนี้คือความหวังสุดท้ายอันสูงสุดของการเป็นผู้เชื่อพระเจ้าแล้ว (หรือ)

หลายปีผ่านไป เมื่อลูกแกะที่ได้รับการเลี้ยงดูอย่างดีเริ่มเติบโตขึ้น มีความเชื่อมากขึ้น สามารถทำการส่งต่อความเชื่อได้ บางคนสามารถนำคนมาเชื่อได้เป็นสิบเป็นร้อยคน   แทนที่แกะโตตัวนี้จะได้รับการยอมรับ และแบ่งปันทรัพยากรและถูกส่งออกไปปลูกสร้างคริสตจักรแห่งใหม่  เพื่อขยายอาณาเขตแห่งความรอดบาป ขยายแผ่นดินของพระเจ้า

แต่เขาจะไม่สามารถทำได้เลย เพราะคนเลี้ยงแกะรุ่นเก่าจะห่วง  หากมีผู้เชื่อไปขออนุญาตไปตั้งกลุ่มใหม่ หรือปลูกสร้างคริสตจักร  ผู้นำจะบอกว่า ยังไม่ถึงเวลา ยังเรียนรู้ไม่เพียงพอ   การรับใช้มันไม่ง่ายนะ  หากมีใครคิดดันทุรังออกไปจากโบสถ์  เขาคนนั้นจะถูกมาตรการต่อต้านทันที  โดยการตัดสัมพันธ์ และห้ามไม่ให้สมาชิกไปพูดคุยสมาคมด้วย และผู้เชื่อที่อยากรับใช้นอกโบสถ์ อาจโดนยัดเยียดข้อหา เป็นกบฏ  และที่ร้ายแรงกว่านี้คือ  เป็นพวกสอนเพี้ยน เป็นลัทธิเทียมเท็จ

แกะโตจำนวนมากแม้จะเป็นแกะตัวเต็มวัย หากินเองได้แล้ว แต่ก็ยังต้องถูกยัดเยียดสภาพ "ลูกแกะของฉัน" ต้องอยู่รับใช้ที่เดิมโดยไม่ได้รับค่าตอบแทนใดๆ แกะหลายตัวกลายเป็นแกะใหญคับคอก เมื่อมีพลังมากเกินไปแต่ไม่ได้ถูกนำออกมาใช้ แกะหลายตัวจึงพยายามแก้เซ็งด้วยแบ่งกลุ่มย่อย และกัดกินกันเอง  เกิดแรงกระทบกระทั้งกันในโบสถ์ จนหาความสงบสุขที่แท้จริงไม่ได้ ปัญหาความวุ่นวายนี้มักเกิดจากภายในเพราะแกะถูกจำกัด ถูกมัด จึงไม่สามารถขยายพันธ์ได้อย่างธรรมชาติของสัตว์ทั่วไป พวกแกะจึงหงุดหงิด และเจ็บป่วยโรคเรื้อรัง 

พวกลูกแกะจำนวนมากถูกละเมิดด้วยการทำหมั้นและตัดตอนทางวิญญาณให้ยอมรับความเชื่อของกลุ่ม ของคณะ  ของอาจารย์ ของพี่เลี้ยง  มากกว่าการเชื่อฟังความเชื่อตามหลักพระคริสตธรรมคัมภีร์   นานวันเข้าแกะไม่มีอะไรทำนอกจากนั่งฟังและร่วมกิจกรรมต่างๆ  จึงพาลให้เกิดความหน่อยยานทางความเชื่อ   มีความคิดอุดตันเรื่องการประกาศข่าวประเสริฐ   และมีความขี้เกียจสะสม   ผู้เชื่อ สมาชิกติดความสบาย  จึงหย่อนยานและกลายเป็นทาสบาป  ไม่มีความกระตือรือร้นอะไรเลย  อยู่ไปเรื่อยๆ แบบไม่ต้องเร่งอะไร เพราะคิดว่าได้ไปสวรรค์ชัวร์ แล้ว

ในที่สุดพวกเขากลายเป็นสมาชิกถาวร   เมื่อเวลาผ่านไปหลายไปผู้เชื่อที่หัวดี   มีความมุ่งมั่นจะได้เลื่อนระดับ  จะได้รับตำแหน่งต่างๆ ในคริสตจักร ผู้เชื่อจำนวนไม่น้อยคิดว่า การได้รับใช้ในคริสตจักร ได้เป็นผู้ปกครองคือเป้าหมายสูงสุดของการเป็นคริสเตียนแล้ว  ไม่ต้องทำอะไรต่อไปอีก  ที่นี้มีทุกอย่าง เราสบายแล้ว สมาชิกก็เยอะ  เงินก็แยะ อุปกรณ์ทุกอย่างพร้อม 

ความคิด ความเชื่อแบบนี้ เป็นเป้าหมายที่พระคริสต์ได้กล่าวไว้ในพระคัมภีร์แล้วหรือ
เรายังจะสร้างสมาชิกกันต่อไปอีกกี่ปี  มีกำหนดเวลาหรือเปล่า 
การขยายแผ่นดินของพระเจ้า คือการหาสมาชิกเพิ่มอย่างนั้นหรือ  หรือว่า การเพิ่มจำนวนคริสตจักรให้ไปอยู่ทุกหมู่บ้าน ทุกตำบล  ทุกอำเภอ น่าจะเป็นการเพิ่มพูนคริสตจักรที่แท้จริง  ไม่ใช่หรือ
ขอพระเจ้าอวยพรผู้เชื่อให้ก้าวไปสู่การเป็นพี่น้องในคริสตจักรที่ดี

ขอให้การเป็นสาวกของพระคริสต์คือเป้าหมายการพัฒนาชีวิตของผู้เชื่อทุกคนที่คาดหวังรางวัลจากพระเจ้า เป็นผู้ที่เชื่อว่าวันหนึ่งจะออกไปประกาศเรื่องความรอดคือภาระกิจสำคัญก่อนที่หัวเข่ามันจะหมดแรงเดิน

เวลานั้น บางคนอาจต้องกลับมาอยู่คริสตจักรเดิมเพื่อพักผ่อน และรอการมารับขององค์พระผู้เป็นเจ้าอย่างยินดีปรีดา เพราะเขาได้กระทำภาระกิจของสวรรค์ที่พระเจ้ามอบหมายให้สำเร็จแล้วในชั่วชีวิตของข้าพเจ้า

ชาโลม

HOME

3 ความคิดเห็น:

  1. จากประสบการณ์ที่เคยเจอมาเป็นแบบนี้จริงๆค่ะ เห็นด้วยกับอาจารย์มากๆนอกจากจะจำกัดให้เราเป็นแค่ลูกแกะแล้ว คนพวกนี้ยังชอบจำกัดสิทธิอำนาจของพระเจ้าด้วย

    ตอบลบ
  2. จากประสบการณ์ที่เคยเจอมาเป็นแบบนี้จริงๆค่ะ เห็นด้วยกับอาจารย์มากๆนอกจากจะจำกัดให้เราเป็นแค่ลูกแกะแล้ว คนพวกนี้ยังชอบจำกัดสิทธิอำนาจของพระเจ้าด้วย

    ตอบลบ
  3. พวกที่ชอบกระทำต่อผู้เชื่อแบบนี้คงทำเกินไป เพราะละเมิดสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคล เอาพระเจ้ามาใช้ในทางผิดๆ ใครถูกกระทำแบบนี้ กรุณาเล่าสู่กันฟังด้วยครับ ผมจะเปิดโปงเอง ถ้าใครไม่กล้าทำ

    ตอบลบ

You may post your comments here.
หากท่านมีข้อคิดเห็นเพิ่มเติมหรือเสนอแนะเชิญออกความเห็นได้
(กรุณาใช้ข้อความสุภาพ และสร้างสรรค์)