การปกคลุม หรือการครอบงำ(๑) Mentoring or Mesmerizing



 ๐การเจิมที่ไม่เท่ากัน มีหรือไม่มี๐ (ตอนที่ ๑)

มีคนที่เป็นนักการศาสนาที่มีชื่อเสียง หรือผู้นำทางศาสนาที่คิดว่าตัวมีตำแหน่งและพรรษาทางศาสนา มักจะเขียนอะไรๆ ที่ชักชวนศาสนิกให้หันไปพึ่งตัวเองมากกว่าการเข้าร่วมสามัคคีธรรมกัน การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ข้ามอาณาจักรในพระคริสต์(ข้ามกลุ่มนิกาย คณะ) โดยการอ้าง หรือสอนว่า  ศาสนิกจะพยายามแสวงหาการฟื้นฟู  หรือการไปเข้าร่วมการฟื้นฟู (การเสริมกำลงใจทางความเชื่อทางศาสนา) ไปทำไมบ่อยๆ  ยังมีอะไรต้องฟื้นฟูหรือ  เรายังเติบโตไม่พอหรือ  พระเจ้าอยู่กับใครบางคนมากกว่าที่อยู่กับตัวเราหรือ การทรงสถิตของพระเจ้าในคนบางคนมากกว่าใครหรือ

ถ้าหากผู้อ่านหรือผู้รับสื่อแล้วไม่พิจารณาด้วยความเข้าใจฝ่ายจิตวิญญาณ อาจเข้าใจไปว่า เออ...น่าจะจริงนะ  เพราะเราก็อยู่ในศาสนามานาน  ได้รับการอบรมมามากแล้ว  หากไม่ได้รับคำติติง หรือข้อชี้แนะบางคนอาจคล้อยตามและหลงเข้าใจผิด เชื่อสนิทใจไปเลยว่าการเจิมหมดไปแล้ว หรือไม่มีการฟื้นฟูใดๆ เขาจะหยุดการแสวงหาการเจิมที่สูงกว่า  การเข้าใจในพระวจนะที่ลึกซึ้งกว่าเดิม   โดยเขาอาจเห็นเหตุผล  คำตอบผิดๆ คำสอนหย่อนยาน จากผู้เป็นศาสนิกชาวคริสต์บางกลุ่มเป็นคำตอบที่ถูกต้องก็เป็นได้  เพราะได้เห็นจริงตามนั้น

เพราะสังเกตเห็น  ศาสนิกบางส่วนที่วิ่งตะลอนๆ ไปฟังสารพัดอาจารย์จากต่างประเทศ  ตามที่หัวหน้ากลุ่มความเชื่อคณะต่างๆ เชิญชวนให้ไปฟังนั้น  น่าจะจริงเพราะได้เห็นผลลัพธ์ว่าคนที่วิ่งไปวิ่งมาเพื่อแสวงหาคำสอนต่างๆนั้น  เมื่อกลับมาก็เห็นเขาเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย  ยังเป็นมนุษย์ที่หนาไปด้วยบาป  พฤติกรรมยังไม่แน่นอนคุ้มดี คุ้มร้าย  ความดียังไม่สม่ำเสมอ  บางวันพูดให้พร บางวันพ่นคำแช่งสาป  ยิ่งได้เห็นเขาแสดงออกทางการเมืองตอนด่านักการเมือง หรือพวกที่ไม่ใช่สีเดียวกับข้าแล้ว ยิ่งเห็นว่า  ใช่เลย   แล้วเราจะไปฟื้นฟูมันทำไม  อยู่บ้านอ่านพระคัมภีร์ดีกว่า


พี่น้องทราบไหมว่า คำสอนที่ว่า  “ยังมีการเจิมที่สูงกว่า มีการเจิมสองเท่า สามเท่าหรือ  เพราะพระคริสต์สถิตในผู้เชื่อยังไม่เพียงพออีกหรือ” นี้  เป็นคำสอนที่ไม่มีตัวอย่างในพระคัมภีร์ยืนยัน เป็นคำสอนที่ผู้นำโบ (ด) บางแห่งใช้สำหรับการเป็นข้ออ้างในการปิดหู ปิดตาศาสนิกไม่ให้ได้รับการเปิดเผยใหม่ๆ  ไม่ต้องได้รับอาหารเสริมพิเศษที่จะทำให้เขาเกิดการทะลุทะลวงฝ่ายจิตวิญญาณได้ 


เมื่อใดที่แกะที่อ่อนแอเริ่มเติบโต  เริ่มหาอาหารกินเองได้  เมื่อนั้นเขาจะไม่อยู่ในติดโบด  เพราะการได้กินอาหารใหม่ๆ   แกะหลายตัวที่ได้ออกไปเที่ยวข้างนอกคอก นอกรั้วเขาจะติดใจรสชาดอาหารเอ๊กโซติกที่เขาไม่เคยได้ลิ้มรสมาก่อนเลย หรือไม่มีผู้นำคนใดในคอกแกะสามารถปรุงอาหารแบบที่เขาไปชิมข้างนอกคอกให้เขากินได้เลย  เพราะฝีมือและประสบการณ์การทำอาหารของเชฝแต่ละประเทศนั้นย่อมมีความแตกต่างกันตามธรรมชาติอยู่แล้ว  นักเทศน์ นักสอนแต่ละกลุ่มก็คงไม่ผิดกัน

นักสอนศาสนาบางกลุ่มไม่เอาเรื่องฤทธิ์เดช  เอาเฉพาะความรู้ทางศาสนา เน้นพิธีกรรม  เน้นกิจกรรม บางกลุ่มเน้นเพลงสั้นเพลงง่ายๆ  เน้นฤทธิ์เดช แต่ไม่เอาความรู้ทางพระคัมภีร์มากนัก  บางกลุ่มเน้นความตื่นเต้นทางวิญญาณ บางกลุ่มไม่เน้นอะไรสักอย่าง เน้นรวยลูกเดียว เหมือนสำนักธรรมโกย  ที่ใครไปอยู่แล้วจะรู้สึกสนุกกับกิจกรรมนานาชนิด  เพื่อให้สมองเพลิดเพลิน  ให้ลืมความทุกข์ไปชั่วขณะ  บางแห่งเน้นสร้างสมาชิกให้จงรักภักดี  ให้รักหลงไหลคำสอนของอาตมา

 เมื่อแกะอ่อนแอ แกะป่วย แกะพิการทางจิตได้รับอาหารดี  อาหารรสชาติแปลกๆ จากข้างนอกแกะหลายตัวจะเริ่มปีนรั้วหนีออกไปเพื่อไปหาอาหารเสริมข้างนอก   แต่เชื่อไหมพี่น้อง   แกะที่เริ่มเติบโตที่ปีนรั้วหนีไป  ในที่สุดก็ไปติดกับดักในสิ่งแวดล้อมใหม่เหมือนเดิม  คือเป็นสมาชิกสมบูรณ์ของคอกแกะอีกแห่งหนึ่ง  เป็นแกะที่ย้ายคอกจากคอกหนึ่งไปสู่อีกคอกหนึ่งที่ไม่ได้มีอะไรที่ทำให้ชีวิตของเขาไปถึงสภาพที่เจ้าของแกะที่แท้จริงต้องการให้เขาเป็นเลย  

สิ่งที่น่าสลดใจก็คือ  สภาพความล้มเหลวทางจิตวิญญาณของผู้เลี้ยงแกะรับจ้างที่ต้องการปริมาณของแกะในคอกให้มากๆ  เพื่อจะได้ตัดขนแกะได้ปริมาณเพียงพอต่อความต้องการในการทำรายได้ให้คัพเวอร์รายจ่ายต่างๆ ของคอก  เมื่อมีแกะมากรายได้ก็มาก  ผู้รับจ้างเลี้ยงแกะก็จะได้ตัดขนมากขึ้น  มีอาหารอุดมสมบูรณ์ในคอกสำหรับผู้รับจ้างมากขึ้น   ดังนั้นจึงมีข่าวที่ออกมาจากปากของผู้รับจ้างเลี้ยงแกะที่กล่าวด้วยความแค้นเคืองว่า    มีคนขโมยแกะของเขาไป  มีคนมาชักจูงแกะให้หลงผิด

น่าประหลาดใจใหม่ที่ผู้รับจ้างเลี้ยงแกะไร้ประสิทธิภาพเหล่านี้ ต่างอ้างอย่างหน้าด้านๆ ว่าแกะของพระองค์ที่อยู่ในคอกนั้นเป็นของเขา  เมื่อเขาได้แกะมาแล้ว  เขาจะทำการลงทะเบียนแกะด้วยการตีตราในทะเบียนว่า เป็นแกะสมาชิกสมบูรณ์ของเขา   แกะต้องมีหน้าที่ยอมให้ตัดขนสิบเปอร์เซ็นต์ตลอดชีพ  ห้ามไปหากินนอกคอก  ห้ามไปขอขนมใครกิน  แกะตัวไหนอยากจะไปร่วมงานปาร์ตี้นอกค่าย หรือไปนอกคอกต้องได้รับการอนุญาตจากผู้นำคอกแกะก่อน  หากไม่ทำจะถือว่าเป็นแกะกบฏ 

ทราบไหมว่า  แกะนอกคอก  แกะอยากเติบไวๆ อยากรู้อยากเห็นจะถูกประณามและ  ถูกลดบทบาทสำคัญในคอก  แกะบางตัวอาจร้ายแรงถึงขั้น  ถูกขับออกจากคอก  เมื่อออกไปแล้วยังไม่สาใจ   ผู้รับจ้างเลี้ยงแกะจะเที่ยวไปป่าวประกาศว่า  แกะดำตัวที่ออกไปจากคอก  เป็นตัวร้าย  เหม็น น่ารังเกียจเป็นแกะติดเชื้อโรคร้าย   ผู้รับจ้างเลี้ยงแกะคอกต่างๆ คอกอื่นๆ อย่าได้คิดรับเอาแกะดำติดโรคร้ายนี้เข้าไประบาดในคอกเป็นอันขาด

เกริ่นมาซะยาว  ขอตอบคำถามหัวข้อเรื่องหน่อยว่า  “ยังมีการเจิมที่สูงกว่า มีการเจิมสองเท่าจริงหรือ”   คำตอบคือ  มีครับ  มีจริงๆ  ที่ผู้รับจ้างเลี้ยงแกะจอมหึงหวงทั้งหลายสอนมานั้นมันเป็นการสอนเข้าผกเข้าห่อ  เข้ากระเพาะอาหารตัวเองทั้งนั้น   ที่เขาสอนให้ฟังแต่เขา  เชื่อแต่เขา  เมาแต่เขา  ของเขาดีที่สุดนั้น  มันเป็นการสอนที่มีเบื้องหลังมาจากสิ่งที่ผมนำเสนอไปนั่นแหละ

พวกผู้รับจ้างเลี้ยงแกะมืออาชีพที่มุ่งสร้างอาณาจักรของข้า จะใช้คำว่า ผู้เลี้ยงแกะ กับศาสนิก  เขาจะสอนให้เข้ารับการปกคลุม  เพราะในโลกนี้ผีมันเยอะ  การล่อลวงมีแยะ จึงต้องมีการปกคลุมฝ่ายวิญญาณให้กับแกะทุกๆตัวในคอก  

ทราบไหมว่า การปกคลุมนี้มีจริง  มีตัวอย่างในพระคัมภีร์มากมาย  แต่ว่าผู้รับจ้างเลี้ยงแกะเอามาใช้ผิดๆ  เอามาใช้ในทางผิด  ปกคลุมผิดๆ  มันจึงกลายเป็น “การครอบงำ”  การปิดหูปิดตา  ใช้เพื่อกดต่ำ  ไม่ให้เติบโต  ไม่ให้รู้ความจริง  เพื่อจะได้หลอกใช้ไปจนตายไง   หายสงสัยหรือยัง  หรือว่า  เริ่มสงสัยเพิ่มขึ้น

 



ผมขออนุญาตยกเอาโพสที่โพสไว้ในกลุ่ม คำพยาน การปลดปล่อย ของ rice mu มาให้อ่านอีกครั้ง

@ ปกคลุม หรือครอบงำ @

การปกคลุมทางวิญญาณเป็นสิ่งที่ดี แต่ถ้าถูกนำมาใช้เพื่อหวังประโยชน์จะกลายเป็นการบิดเบือนจะกลายเป็นการครอบงำทางวิญญาณ @

การปกคลุมทางวิญญาณ เป็นการทำหน้าที่ของ Mentor คือผู้ที่มีอาวุโสทางวิญญาณ เป็นผู้ให้คำปรึกษา ผู้แนะนำ ผู้สนับสนุน ผู้ช่วยเหลือ ให้คำสอนที่เป็นความจริงเพื่อให้ผู้เชื่อเจริญขึ้น เพื่อให้ผู้เชื่อกลายเป็นสาวกของพระคริสต์ ผู้แนะนำจะส่งเสริม พัฒนา ถ่ายทอดการเจิมและอวยของประทานแห่งพระจิตบริสุทธิ์ของพระเจ้าให้แก่ผู้อาวุโสน้อยกว่าทางวิญญาณ

ผู้ดูแลทางวิญญาณมีเป้าหมายเสริมสร้าง อวยพร  ตักเตือนว่ากล่าว  ให้กำลัง  หนุนนำให้ผู้เชื่อ  ผู้มีใจอยากรับใช้ให้เป็นกลายสาวก     แล้วผู้นำจะส่งออกไปให้ทำงานอย่างอิสระ เพื่อประกาศพระบารมีของพระเจ้า   เพื่อสร้างผู้เชื่อรุ่นใหม่ๆ   เพื่อพระเกียรติของพระคริสต์แต่ถ้าเป็นการบิดเบือน การปกคลุมจะกลายเป็น การครอบงำทางวิญญาณ

วิธีการที่วิญญาณศาสนาใช้ในการครอบงำทางวิญญ
าณ   เป็นวิญญาณหนึ่งในระบบลัทธิทางศาสนาที่บิดเบือน โดยผู้นำมักจะอ้างคำสอนว่า ผู้เชื่อจำเป็นมีผู้ดูแลทางวิญญาณ ต้องมีพี่เลี้ยงเหมือนดูแลเด็กออน่   ผู้เชื่อที่เข้าลัทธิจะต้องอยู่ในการปกครองดูแลของผู้นำผ่านระบบควบคุมของพี่เลี้ยงอย่างใกล้ชิด โดยอ้างความหวงใย     อ้างไม่อยากให้หลงทาง   มักจะอ้างคำสอน ของอาจารย์ใหญ่  หัวหน้าใหญ่  ผู้นำหรือระบบว่าของเราดีที่สุด สุดยอดแล้ว  ไม่ต้องไปฟังใคร  ฟังของเราอย่างเดียว


การครอบงำทางวิญญาณเป็นการปกครองผูกมัดทางจิตอย่างถึงลูกถึงคน

หัวหน้าระบบจะมีการตรวจสอบและติดตามให้ผู้อยู่ในลัทธิต้องกระทำตามสั่ง โดยอ้างเหตุผลเพื่อพระเจ้า   ผู้นำจะมีการตรวจสอบแม้กระทั้งใบสลิปเงินเดือนของสมาชิก   มีการตรวจสอบคำสอน    ตรวจสอบเรี่ยไรเงินของผู้เชื่อ

ระบบการครอบงำจะผูกมัดสมาชิกให้จงรักภักดีต่อผู้นำ ยัดเยียดคำสอนที่ทำเกิดความคิดหลงผิด ให้คิดผิดเชื่อผิด ปฏิบัติผิดๆ  ใช้ความกลัวมาครอบงำ   อ้างว่า  ถ้าไม่ทำพระเจ้าจะไม่อวยพร  ผู้นำจะปิดหูปิดตาผู้เชื่อ   ปิดล้อมทางความคิด ไม่ให้คิดอะไรเองได้  มีอะไรต้องมาถามผู้นำ จะทำอะไรต้องขออนุญาต   แม้แต่จะจัดกลุ่มอธิษฐานในบ้านยังต้องขออนุญาตก่อน

 ผู้นำระดับสูงจะสะกดจิตผู้ติดตามให้หลงผิด จนผู้เข้าลัทธิหมดความสามารถในการแยกแยะถูกผิด เพราะถูกวิญญาณครอบงำเข้าครอบแล้วเหมือนคนมีผีสิง เหมือนคนโดนของ  ไม่รู้ตัว ไม่มีสติสมบูรณ์ ทำอะไรเบลอๆ  แต่คิดว่าตัวเองทำถูกต้องแล้วเพราะผู้นำว่าอย่างไรก็เชื่อตามนั้น แม้จะสงสัยแต่ทำอะไรไม่ได้  คิดไม่ออกปล่อยเลยตามเลย

ผู้เข้าลัทธิจะต้องรักและเคารพเจ้าลัทธิ หรือผู้นำอย่างบ้าคลั่ง    ใครมาแตะผู้นำจะเป็นเรื่อง ผู้ตามต้องรับใช้ผู้นำเหมือนการรับใช้เทวดาองค์อวตาร     ผู้นำจะครอบงำสมาชิกด้วยความกลัว  คำแช่งสาป  เอาพระเจ้ามาอ้างเพื่อขู่เข็ญบังคับให้บริจาคทานมากๆ    พยายามสั่งสอนว่าการรับใช้ต่างๆในองค์กร คือการกระเพื่อทำให้พระเจ้าพอใจ

มีการปลูกฝังความคิด  ให้เชื่อ  ให้ทำงานรับใช้องค์กร ปลูกฝังให้ผู้หลงผิดเชื่อฟังผู้นำเหมือนเชื่อฟังพระเจ้า เอาความกลัวพระเจ้าลงโทษมาบีบบังคับให้ผู้ติดตามทำตามคำสั่ง คำสอนจนเหมือนกลายเป็นทาสทางศาสนา   ผู้นำจะล้างสมองคนให้ยอมจงรักภักดีต่อองค์กรโดยไม่ให้ไปฟังคำสอนใดๆ   คำสอนทุกอย่างต้องผ่านการเซนเซอร์   ต้องได้รับอนุมัติก่อนจึงสอนได้

ผู้นำเจ้าลัทธิจะสอนว่า การรับใช้องค์กรคือการรับใช้พระเจ้า การรับใช้องค์กรต้องมาก่อนเรื่องส่วนตัว เรื่องครอบครัว หรือเสรีภาพส่วนบุคคล จุดประสงค์สำคัญคือเพื่อสร้างองค์กรให้ยิ่งใหญ่ เพื่อพระเจ้า แต่ท้ายสุดผู้นำจะได้สบายไปตลอดหนึ่งชาติ

ผู้นำจะสอนแบบกระตุ้นต่อมให้เกิดความโลภ ให้หวังในลมแล้ง ชักจูงให้ผู้หลงละเมอถวาย ถวาย ถวาย    ถ้าถวายมากแล้วจะได้คืนอย่างมโหฬาร   อ้างว่าพระเจ้าจะทำให้รวย ให้สบายถ้าเอาเงินมาบริจาคให้กับองค์กรมากๆ    องค์กรจะสร้างสารพัดโครงการ  แต่ละปี แต่ละเดือนจะสร้างกิจกรรมเสียเงินให้กับสมาชิก  เพื่อเรี่ยไร และรีดเอาทรัพย์จากสมาชิก โดยการอ้างการก่อสร้าง  การจัดกิจกรรมเพื่อสมาชิก  เพื่อสร้างองค์กรให้เข้มแข็ง

ในการพบปะกันไม่ว่าครั้งใดจะมีการเรี่ยไรถี่ยิบ มีสารพัดซอง ทั้งซองขาว ซองแดง ซองฟ้า ซองเขียว ทั้งถุงแดง ถุงน้ำเงิน เรี่ยไรหลายรอบเพื่อเก็บกวาดทรัพย์เหมือนขูดเลือดจากปูให้ได้ทุกหยด การครอบงำจะกระทำผ่านพี่เลี้ยงที่ถูกครอบงำอีกต่อหนึ่งลงมาเรื่อยๆ เป็นทอดๆ  เพื่อการรีดทรัพย์เข้าองค์กรให้ได้มากที่สุด  อ้างว่าบริจาคมากพระเจ้าจะอวยพรมาก

เมื่อไม่นานมานี้มีคนๆ หนึ่งมาโพสในกลุ่มคำพยาน  บอกว่า จะถวายเงินรายได้ ร้อยละ ห้าสิบให้กับผู้นำเพื่อพระเจ้าจะอวยพรอย่างมโหฬาร  เขาเชื่ออย่างสนิทใจการทำงานนี้เป็นการรับใช้พระเจ้า

การทำงานในองค์กร  ผู้นำจะสั่งให้ผู้ติดตามทุกระดับจะต้องมีการรายงานเป็นหนังสือ เป็นบันทึกลายลักษณ์อักษร   เป็นสร้างองค์กรด้วยระบบสถิติเป็นตัวเลขเหมือนบริษัททำกำไร แต่ผู้ติดตามลัทธิจะไม่ได้การตอบแทนใดๆ เป็นตัวเงิน แต่ผู้นำระดับสูงจะแต่งตั้ง หรือสร้างตำแหน่งอุปโลกน์ที่ไม่มีในสาระบบของพระคัมภีร์   แล้วนำมายกย่อง  เอามามอบให้กับผู้รับใช้ผู้นำ  ให้รู้สึกดีกว่าเดิม

 ตำแหน่งอุปโลกน์  ลวงโลกนี้  แม้ไม่มีผลประโยชน์เป็นตัวเงิน  แต่คนที่ได้ตำแหน่งจะรู้สึกภาคภูมิใจเหมือนได้ดมตดเทวดา ผู้นำจะอ้างพระเจ้าเพื่อใช้คนอย่างไม่อาย แต่ก็ยังมีคนทำตามอย่างโง่ๆ แม้ผู้นำจะทำผิดศีลธรรม  ผู้ติดตามก็ยังดันทุรังเชื่อฟังเหมือนเชื่อฟังพระบัญชาของพระเจ้า แต่ผู้นำระดับสูงยังลอยหน้าลอยตาอย่างสบายอารมณ์  เพราะมีคนเสพติดคำสอนติดตามอย่างไม่ลดละ

การครอบงำทางวิญญาณ ผู้นำระดับสูงจะอ้างว่าตัวเองมีความสามารถพิเศษ เป็นที่โปรดปราน มีญาณแก่กล้า    จนถึงขนาดได้ยินเสียงพระเจ้า   ได้รับการสื่อสารพิเศษจากพระเจ้า  บางครั้งผู้นำยังอ้างว่าได้พูดคุยกับเทวดา   ทูตสวรรค์  มีตาทิพหูทิพ   ผู้นำสามารถอธิษฐานเสกให้ผู้หลงติดตามทำงานรับใช้เหมือนทาสได้อย่างไม่กลัวทุกข์ยาก    แม้บางครั้งผู้ติดตามจะต้องแลกด้วยสันติสุขในครอบครัวหรือในชีวิตก็ได้   เพราะหลงผิดไปเสียแล้ว  ทำไปเพราะคิดว่าเป็นสุข  เป็นกุศลต่อตัวเอง

นี่แหละครับ การครอบงำทางวิญญาณ การครอบงำทางศาสนา

ใครเคยโดนบ้าง   หรือบางคนกำลังโดนปีศาจลัทธิศาสนาครอบงำอยู่   โดยหลงเชื่อว่า  เป็นการปกคลุมทางวิญญาณของผู้นำ  เพื่อรับใช้พระเจ้า   เพื่อให้พระเจ้าพอใจ  เพื่อสร้างบำเหน็จในสวรรค์     ถ้าเป็นดังที่ว่ามานี้แล้วไซร์      ถ้าใครอยากเป็นไทให้รีบออกมาก่อนวิญญาณทาสจะเข้าสิง หรือถ้าสิงแล้วก็ให้มารับการปลดปล่อยได้  เพื่อผู้เชื่อพระคริสต์จะเป็นสาวกซะที

โปรดติดตามตอนต่อไป (๒)

ชาโลม

Home

Tag: การปกคลุมทางวิญญาณ + การปกคลุม + การให้คำปรึกษาแบบคริสเตียน + การสอนรวีวารศึกษา + การรับใช้ + หน้าที่ผู้ปกครองคริสตจักร +บทบาทของศิษย์ภิบาล + การปลดปล่อยวิญญาณศาสนา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

You may post your comments here.
หากท่านมีข้อคิดเห็นเพิ่มเติมหรือเสนอแนะเชิญออกความเห็นได้
(กรุณาใช้ข้อความสุภาพ และสร้างสรรค์)