ความรู้ที่นำไปสู่การหลุดพ้น The knowledge that leads to salvation



ทำอย่างไรเราจะพบและมีปัญญา ทำอย่างไรเราจะมีสุขภาพดี ทำอย่างไรเราจะอยู่ยืน และสุขภาพดี

คำตอบมีอยู่ในพระคัมภีร์ไบเบิ้ล ถ้าตั้งใจอ่านเป็นประจำชีวิตจะเปลี่ยนไปอย่างแน่นอน

การอ่านพระคัมภีร์เป็นสิ่งดี ยิ่งถ้าอ่านแล้วเก็บเอาไปคิดทบทวนยิ่งดีใหญ่




พระคัมภีร์คือเพชรทางวิญญาณเม็ดใหญ่ที่สุดในโลกแต่ขายราคาถูกๆ ที่คนทั่วไปมองไม่เห็น เลยไม่สนใจ บ่อยครั้งยังแจกฟรีด้วยซ้ำ แม้จะขายถูกราคาแค่พันกว่า ผู้เชื่อบางคน และคนที่ไม่รู้ยังไม่เห็นคุณค่าพอที่จะซื้อมาใช้ บ้างกล่าวหาว่าแพงเกินไป บ้างมีวางไว้่แต่ไม่เปิดอ่านบ่อยนัก คราวใดที่ชีวิตตกต่ำ ทุกข์ทรมาน เขาก็วิ่งไปหาสิ่งอื่นก่อน ทั้งที่วัคซีนกันภัยมีอยู่ในไบเบิ้ลเรียบร้อยแล้วแต่พวกเขาไม่รู้ว่ามีอยู่ จึงหลงทิศชีวิต


















แท้จริงพระคัมภีร์ไบเบิ้ลคือหนังสือที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก เป็นหนังสือที่มียอดขายอันดับหนึ่งตลอดกาล ถูกแปลเป็นภาษาต่างๆ มากที่สุดในโลก ยอดขาดสูงสุดตลอดกาล ไม่มีหนังสือเบสเซลเลอร์ หรือคัมภีร์ใดๆ สามารถเทียบเคียงได้เลย อันนี้คือความจริงที่โลกรู้ดีอยู่แล้ว




สำหรับผู้เชื่อพระคริสต์ พระคัมภีร์ไบเบิ้ลคือขุมทรัพย์แห่งปัญญาและความเข้าใจ เป็นมากกว่าเข็มทิศชีวิต เป็นของขวัญที่ล้ำค่าที่สุดที่มนุษยชาติเคยได้รับ และยังเป็นเครื่องค้ำจุนโลกไม่ให้เกิดความวิบัติเร็วไปกว่านี้ เพราะมีคนที่เชื่อพระคัมภีร์แล้วรู้จักยับยั้งชังใจ ไม่ทำชั่วง่ายๆ




ในคัมภีร์ไบเบิ้ลพระเจ้าพยายามแสดงตัวให้ผู้แสวงหาทางหลุดพ้นทราบว่า พระองค์เป็นอยู่ โดยแสดงตัวตนของพระเจ้าผ่านความสัมพันธ์กับชนชาติยิว หรือประเทศอิสราเอลก่อนในสมัยเริ่มแรก ต่อมาเมื่อมาถึงยุคพระคริสต์ คนชาวโลกจึงได้รับสิทธิที่จะเข้ามาถึงพระเจ้าได้โดยการยอมรับเชื่อในพระคริสต์ แล้วคำสัญญาต่างๆ ที่พระเจ้าได้ทำไว้กับบรรพบุรุธของยิว หลายข้อผู้เชื่อก็จะได้รับด้วย




พันธสัญญาที่เยี่ยม และเลิศที่สุด คือพันธสัญญาแห่งการปลดปล่อยออกจากอำนาจที่ติดตัวมนุษย์มาตั้งแต่ก่อนเกิดเลยก็คือ คำแช่งสาป จิตวิปริต ความทุกข์ร้อน ความเป็นทาสบาป นิสัยและพฤติกรรมบาปที่ติดมาแต่บรรพบุรุธ พันธสัญญาแห่งการเปลี่ยนแปลงชีวิตที่อัศจรรย์




แต่คนทั่วไป ไม่รู้ ไม่สนใจ เพราะเขาคิดว่า เป็นหนังสือธรรมดา เป็นแค่คำสอนทางศาสนา ไม่มีอะไรมากกว่าหนังสือตำราทางศาสนา แต่นั่นคือความเข้าใจผิดๆ เพราะพระคัมภีร์คือสิทธิอำนาจแห่งเปลี่ยนชีวิตคนได้ รักษาโรคได้ ขับผีได้ เป็นเหมือนคำตัดสินพิพากษาความผิดถูกทางศีลธรรมที่ชัดเจนที่สุด ดังนั้นคนรักบาปจึงไม่อยากอ่าน เพราะอ่านแล้วจะรู้สึกผิด




ถ้าใครพยายามอ่านแล้ว ได้ความเข้าใจอะไรใหม่ๆ ก็จดจำไว้แล้วนำเอาไปถือปฎิบัติได้ ชีวิตของผู้อ่านจะเป็นสุข ปลอดภัย ไร้โรคา




คำแนะนำตักเตือนจากพระคัมภีร์เป็นสิ่งดีกว่ายาหรืออาหารเสริมใดใดในแผ่นดิน เพราะเป็นการป้องกันจิตใจไม่ให้หลงคิดผิดๆ พูดผิดๆ และดำเนินชีวิตแบบผิดพลาด เมื่อผู้อ่านได้รับรู้ว่าสิ่งใดผิดก็ไม่กระทำ ชีวิตของเขาจึงอยู่ในเส้นปลอดภัย เป็นวิถีแห่งความสะอาด เป็นวิถีแห่งสันติสุข และนำความเจริญมาสู่ชีวิตของผู้ถือปฏิบัติ และยังตกทอดไปถึงลูกหลานด้วย




เมื่อผู้อ่านรู้ว่าพฤติกรรมใดเป็นพฤติกรรมสะอาดและถือปฏิบัติตาม ชีวิตของเขาก็ไม่สิ่งปนเปื้อนเข้ามา ไม่มีอะไรทำให้ใจของเขาขุ่นเคือง อารมณ์ก็ดี มีแต่ความรัก ความเมตตา ความเห็นอกเห็นใจ เข้าใจผู้อื่น เขาก็มีจิตใจที่งดงาม เมื่อใจดี อะไรที่ดีๆ ก็ตามมา ร่างกายก็มีระบบเคมีที่สมดุล เขาจึงไม่เจ็บป่วยทางอารมณ์ และส่งผลไปถึงสุขภาพของร่างกาย และวิญญาณ




แต่ถ้าอ่านพระคัมภีร์ด้วยใจยะโส อ่านเพื่อให้รู้มากๆ อ่านเพื่อจะได้ความรู้ทางศาสนาเพื่อเก็บเอาไปฟาดฟัน และข่มเหงน้ำใจกัน เพื่อเถียงกันว่าใครสอนได้ถูกต้องกว่า เพื่อสร้างความแตกแยก เพื่อแบ่งแยกความถูกผิด เพื่อเอาไปบิดเบือนชักจูงคนรู้น้อยให้หลงผิดไป ผู้อ่านคนนั้นคงเป็นเหมือนใครคนนั้นที่พาพระคริสต์ไปยืนบนยอดหลังคาพระวิหารแล้วท้าให้พระองค์โดนลงไปโดยอ้างหลักการผิดบริบท




หากใครคิดจะอ่านเพื่อทำสถิติ เพื่ออวดกันว่าใครได้อ่านพระคัมภีร์จบไปกี่รอบแล้วแต่เขาไม่ยอมทำตาม. หรือทำตามไม่ได้ เขาคงเป็นเหมือนนกขุนทองที่ร้องเลียนเสียงพูดของคนได้. แต่มันก็ไม่เข้าใจความหมายอะไรในความจริงนั้น




คนที่เจ็บป่วย คนที่ปวดใจ คนที่ปวดอารมณ์ คนที่มีความล้มเหลวในเรื่องความสัมพันธ์กับผู้อืน คนที่ถูกทอดทิ้ง คนที่ถูกวิญญาณเข้าสิงสู่โดยไม่รู้ตัว คนที่มีชีวิตเหมือนถูกสาป




สาเหตุสำคัญแห่งความทุกข์ วิบัติทั้งหลายส่วนใหญ่ไม่ได้มาจากภายนอก แต่มันมาจากความไม่รู้ ความไม่เข้าใจพระวจนะของพระเจ้า เพราะไม่มีใครที่รู้จริงสั่งสอน ไม่มีใครแนะนำ จึงหลงเดินทางผิด ดำเนินชีวิตตามความรู้ และความเข้าใจอันน้อยนิดของตนเอง ใช้ชีวิตของตนเองเป็นเครื่องทดลองกับความชั่วนั่นเอง




มีพระวจนะกล่าวว่า




" ประชากรของเราถูกทำลายเพราะขาดความรู้ เพราะเจ้าปฏิเสธไม่รับความรู้ เราก็ปฏิเสธเจ้าไม่ให้รับเป็นปุโรหิตของเรา เพราะเจ้าหลงลืมพระบัญญัติแห่งพระเจ้าของเจ้า เราก็จะลืมพงศ์พันธุ์ของเจ้าเสียด้วย" [ฮชย.4:6]




" ประชากรของเราไปขอความเห็นจากสิ่งที่ทำด้วยไม้ และไม้ติ้วก็ให้คำพยากรณ์แก่เขา เพราะจิตใจที่ชอบเล่นชู้นำให้เขาหลงไป และเขาทั้งหลายได้ละทิ้งพระเจ้าของเขาเสียเพื่อไปเล่นชู้"

[ฮชย.4:12]




ชาโลม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

You may post your comments here.
หากท่านมีข้อคิดเห็นเพิ่มเติมหรือเสนอแนะเชิญออกความเห็นได้
(กรุณาใช้ข้อความสุภาพ และสร้างสรรค์)