พฤติกรรมคนเขลา What a fool does


พฤติกรรมเขลาๆ

๙ คนฉลาดนั้นมองการณ์ไกล และรู้จักวางแผนชีวิต เขารู้จักตั้งเป้าหมายชีวิต  เขามีสติรู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไร และกำลังจะไปทางไหน เขาอดทนและบากบั่นไปสู่เป้าหมายชีวิตที่ดีกว่าเสมอ

คนฉลาดถ่อมใจยอมฟังคำตักเตือนเสมอ แม้จากคนที่มีฐานด้อยกว่าเขา  เขาหมั่นสำรวจความผิดพลาดของตัวเองและหมั่นปรับปรุงตัวเสมอ  เขาสัตย์ซื่อ ถือสัจจะ  ไม่กล้าทำสิ่งชั่ว  เขายำเกรงผู้มีอำนาจ  เขากลัวบาป เขาไม่กล้าทำสิ่งชั่ว เขาให้เกียรติต่อคำสั่งสอน  เขาถ่อมใจและสอนได้ และเขาเป็นผู้พร้อมสำหรับการดีทุกอย่าง

๙ เมื่อเวลาผ่านไปหลายปี  คนฉลาดจะเริ่มได้เก็บเกี่ยวผลแห่งการหว่านสิ่งดีในชีวิตจากสิ่งที่เขาเพียรพยายามสร้างความดี เพราะมีสิ่งดีในตัว เขาจึงมีการงานที่ดี การเงินที่ดี  ชีวิตแต่ละด้านมีความมั่นคง เขาจึงมีครอบครัวที่เข้มแข็ง  เขามีความสัมพันธ์มั่นคงกับทุกส่วนตัวชีวิต

เขาเริ่มแจกจ่าย และเป็นผู้ให้  เขาช่วยเหลือ  เขาแสดงความกตัญญูต่อผู้มีคุณ และแจกจ่ายช่วยเหลือคนขัดสน ชีวิตของเขาเริ่มเกิดผล  เขามีความน่าเชื่อถือ เขาได้เห็นโลกกว้าง และชีวิตของถูกยกขึ้นสู่ที่สูงมากขึ้น  สิ่งชั่วร้ายแตะต้องเขาไม่ได้ เพราะเขาไม่มีช่องทางให้วิญญาณชั่วเข้าจู่โจมทำร้ายได้ เพราะเขามีสิ่งศักดิ์สิทธิปกคลุมอยู่ เพราะเขาอยู่ในความดีอันบริสุทธิ์   เขาเป็นที่รักของคนที่ได้พบ ได้รู้จัก  ชีวิตของเขาสามารถเป็นแบบอย่างที่ดีได้  



๙ แต่คนเขลา นั้นสอนยาก  เขาไม่นิยมคำสอน เขาเย่อหยิ่ง ชอบอิสระและไม่ชอบฟังคำตักเตือน เขาคิดว่าเขารู้แล้ว  ใครอยากสอนต้องพูดกับเขาดีๆ  บางครั้งต้องใช้คำว่าขอร้องแทนคำว่าสั่งสอน

คนเขลาเกียจคร้าน และง่วงนอนเสมอ เขาไม่รู้จักบังคับตน  สังเกตการเข้านอนตื่นนอนของเขาจะไม่เป็นเวลา  เขาหมกมุ่นและไร้ระเบียบ  เขาเบื่อง่าย  ฉุนเฉียวง่าย   โกรธง่าย  เขาเปลี่ยนเป้าหมายทิศทางชีวิตไปเรื่อยๆ จับจดและไม่จริงจังกับการงานที่ใครๆ บอกว่าดี  เขาชอบทำอะไรตามใจ

คนเขลากินอะไรตามใจปาก ไม่สนเรื่องคุณค่าทางอาหารและปริมาณ  เขาจะเลือกกินในสิ่งที่ถูกปากถูกใจของเขาเท่านั้น  สิ่งใดที่ถูกปากถูกใจเขาจะกินจนท้องแทบแตก  เอาจนจุกคอหอยก็ได้  แต่สิ่งใดที่แม้มีประโยชน์ต่อสุขภาพมหาศาลแต่ถ้าหากรสชาดไม่ถูกใจ ไม่ถูกปากเขาจะไม่ยอมกิน  เขาถือเรื่องรูปรส และปัจจัยภายนอกที่ล่อตาเป็นสิ่งสำคัญ

เขาเลือกกินอาหารซ้ำๆ  กินแต่สิ่งที่ชอบ แม้เครื่องดื่ม หรืออาหารบางอย่างเขารู้ว่ามีพิษอยู่บ้าง แต่เขาไม่สนใจขอให้เขาได้กิน ได้เสพ  ได้สุขกับสิ่งที่เขาชอบ เขาก็พอใจแล้ว  เขาชอบใช้คำว่า "ถึงตายก็ยอม"  เขาสามารถจะขายชีวิตให้กับอะไรก็ได้ที่เขาชอบ  เช่น เพศ  เงิน  ตำแหน่ง  หน้าตา  และการยอมรับโดยหารู้ไม่ว่าพฤติกรรมการบริโภคนิยมแบบนี้จะทำให้เกิดการสะสมของสารพิษบางอย่างในตัว  และอาจจะทำให้เขาป่วยเป็นมะเร็งในวันข้างหน้า

แน่นอนความเจ็บป่วยนั้นไม่ได้มีแค่ความเจ็บป่วยทางกายเท่านั้นแต่มันรวมไปถึง ทางอารมณ์  ทางจิตใจ และทางจิตวิญญาณด้วย  แต่คนเขลาไม่สนใจหรอก  ขอให้ข้าได้สุขใจแค่วันนี้ วันเดียวก็ยอม

คนเขลาไม่สนใจเรื่องสุขภาพ ตราบใดที่เขายังไม่ป่วยมาก  หรือไม่มีคำสั่งหมอให้หยุดให้เลิกพฤติกรรมบางอย่าง   เขาจะทำไม่ได้ แม้ว่าเขาจะถือว่าใจเขาใหญ่ และเข้มแข็งสักเพียงใด  แต่พอเอาเข้าจริง เขาพ่ายแพ้ต่อความต้องการของร่างกายทุกอย่าง เขาบังคับตัวเองให้ออกกำลังกายไม่ได้ เขาบังคับตัวเองให้หยุด ให้เลิกพฤติกรรมเสพติดบางอย่างไม่ได้  เขาปล่อยร่างกายที่หาค่ามิได้กลายเป็นขยะ เป็นถุงหนังที่ป่วย และด้อยประสิทธิภาพ

 เขาไม่รู้จักการให้อภัย ไม่รู้จักการแสดงออกถึงความรัก  เขาใช้ชีวิตอย่างเสรี หลงเพลิดเพลินกับชีวิต  เขาปล่อยตัวไปกับความเสรีทางเพศ   การไม่คำนึงถึงอันตรายจากสิ่งชั่วร้ายใดๆ  เขาคิดว่าพฤติกรรมเสียหายเล็กน้อยส่วนตัวไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน  เขาอ้างว่านี่คือ ไลฝ์สไตล์ของฉันเอง ตัวฉันคือนายของตัวเอง
  คนเราเกิดมาต่างกัน  อย่ามาบังคับชีวิตของฉาน....เขาอยากมีชีวิตที่ดีกว่าคนอื่นๆ  เขาคิดว่าร่างกายจิตใจวิญญาณเขาควบคุมได้เอง

แต่เมื่อคนเขลาเผชิญกับปัญหาชีวิต  การงานการเงินตกต่ำ  หรือได้รับอันตราย  ตกต่ำ พึ่งพาใครไม่ได้เขาจะโทษพ่อแม่ไม่ให้โอกาส ไม่แบ่งปัน ไม่ให้ทรัพย์สมบัติที่มากกว่านี้ให้เขา  หากเขาโทษใครไม่ได้จริงแล้ว  ในที่สุดเขาจะบ่นด่าพระเจ้า และสิ่งศักดิ์สิทธิ์

เขามักจะพูดว่า "ไม่ยุติธรรม"  ทำไมพระเจ้าต้องให้เขามาเป็นแบบนี้" "ทำไมชีวิตเขาต้องเป็นแบบนี้"

กว่าที่คนเขลาจะรู้สึกตัวว่าเขากำลังเดินทางชีวิตที่ผิดพลาดอาจต้องใช้เวลาหลายปีมาก  เพราะว่าร่างกายและชีวิตของมนุษย์นั้นได้ถูกสร้างและได้รับมาอย่างเข้มแข็งและทนทานมาก  ดังนั้นจึงต้องใช้เวลานานหลายปีกว่าคนเขลาจะรู้สึกตัวว่า เขาคิดผิด

แต่เมื่อเวลาแห่งการเก็บเกี่ยวผลที่หว่านมาทั้งชีวิต  เมื่อเวลาหลายปีผ่านไป  คนเขลาจะยังปักหลักชีวิตไม่แน่น  แม้ว่าเขาจะเคยมีทุกสิ่งที่ดีเหมือนดี  แต่ก็จะเป็นแค่ช่วงสั้นๆ เท่านั้น   เมื่อเวลาทุกข์ยากมาถึง เขาจึงต้องเผชิญกับชีวิตที่ยากเข่น  เผชิญปัญหาชีวิต  ถูกคลื่นชีวิต มรสุมชีวิตพัดผ่านมา  จิตใจเขาเริ่มหวั่นไหว สั่นคลอน เพราะพื้นฐานชีวิตไม่หนักแน่น



ยิ่งนานไปคนเขลาก็เริ่มล้าหลัง เพราะพื้นฐานความรู้ไม่ดีพอ  กำลังเสื่อม สุขภาพเสื่อม  ปัญญาเสื่อม การเงินเสื่อม ความสัมพันธ์เสื่อม ความเครียดและความกลุ้มทำให้เขาเริ่มหันไปหาสิ่งผ่อนคลายอารมณ์มากขึ้น  เขาดื่มเล็กน้อย อ้างว่าเพื่อแก้เครียดและบำรุงกำลัง  แต่นานวันเขาเริ่มกินมากขึ้น ดื่มมากขึ้น  อามรณ์เริ่มควบคุมไม่ค่อยได้ เห็นอะไร ได้ยินอะไรขัดใจไปหมด  เขาเริ่มป่วยทางอารมณ์ก่อน แล้วก็ป่วยจริงทางร่างกาย

ผลสุดท้าย เมื่อคนเขลาพึ่งตัวเองไม่ได้ เขาต้องยอมละทิ้งความเย่อหยิ่ง  เขาต้องบากหน้า เอาใบหน้าด้านๆ เข้ามาสวม  เขาต้องพูดเสียงค่อยๆ เพื่อขอยืมเงินคนที่เขารู้จัก   ต้องบากหน้าพูดโกหกเพื่อกู้หนี้ยืมสิน กู้มาแล้วแล้วก็ไม่มีปัญญาจะใช้คืนเขา เพราะบริหารเงินไม่เป็น  เขาต้องยืมหลายๆที่ เพื่อบริหารหนี้ให้หมุนไปได้  เขาคิดว่านี่คือวิธีการบริหารเงินที่ฉลาด แต่ไม่ใช่ เขาต้องถูกดอกเบี้ยทับถม ทบต้นไม่มีปัญญาใช้หนี้

เมื่อสถานการณ์บังคับ หนี้ท่วมแบบนี้ เขาจำใจต้องพูดโกหกไปเรื่อยๆ เพื่อผลัดหนี้ เขาบอกว่าพรุ่งนี้จะให้  อาทิตย์หน้าจะให้  วันโน้นวันนี้จะให้ แต่ไม่เคยตรงเวลาเลย เพราะมีสิ่งที่คนเรียกว่า "พอดี มีเหตุ" มารบกวนการจ่าย   การพูดโกหก แก้ผ้าเอาหน้ารอดทำให้ เขากลายเป็นคนไม่น่าเชื่อถือ สร้างความเดือดร้อนให้คนรอบข้าง คนรู้จัก  หรือแม้แต่ผู้มีพระคุณ
เมื่อถึงคราวเคราะห์ร้าย เมื่อชีวิตต้องเผชิญกับอุบัติภัยตามธรรมชาติของชีวิต เขาเขลาจะพึ่งพาตนเองไม่ได้ คนเขลาจึงต้องวิ่งเข้าหาตัวช่วย  วิ่งไปแสวงหาความช่วยเหลือจากอำนาจลึกลับ

เขาดิ้นรนหาทางออก  ในที่สุดเขาไปหาไสยศาสตร์เพื่อใช้เป็นเครื่องช่วยให้มีพลัง เขาต้องใช้ของขลังพลังไสยศาสตร์  ต้องพึ่งพาหมอดู  รูปเคารพที่คนหัวใสเสกเป่าเพื่อเอามาเป็นตัวช่วยสร้างความสำเร็จและพ้นทุกข์   เขาต้องยอมตัวเข้าทำพิธีสะเดาะห์เคราะห์ เพราะเขาคิดว่าที่ตัวเองตกต่ำ มีแต่เรื่องร้ายๆ  เป็นเพราะมีสิ่งชั่วร้ายคอยรบกวน  เขาจึงต้องยอมเข้ารับพิธีปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย และ ทำพิธีเสริมสิริมงคลให้กับตัว   แท้จริงตัวปัญหาไม่ใช่ผีร้ายหรอก แต่เป็นตัวเขานั่นเอง

บ้างตะเวนไปขอให้เทพเจ้า องค์เทพเพื่อให้ช่วยสร้างความสำเร็จ  ต้องตะลอนไปไม่รู้กี่ที่กี่องค์ก็ไม่พอ สุดท้ายเขาได้ยินข่าวมีคนเล่ามาว่า มีหมอผี  หมอไสยศาสตร์สามารถเสกเป่าให้พ้นเคราะห์  และหายป่วยได้ เขาก็หอบสังขารไปเสียค่าบริการรับเอาเครื่องไสยศาสตร์ และวิญญาณชั่วที่อ้างว่าเป็นเทพเจ้า มีพลังพิเศษเข้ามาอยู่ในบ้าน  การกระทำเยี่ยงนี้ ยิ่งเป็นเหมือนการชักศึกเข้าบ้านตัวเองเพราะเป็นไปไม่ได้ที่สิ่งชั่วร้ายจะสามารถเกิดผลเป็นสิ่งดีผู้ใดที่รับมันเข้ามา

ยิ่งนานวันตัวเขายิ่งตกต่ำ  เจ็บป่วย และทนทุกข์ เพราะเหตุ "ไร้ปัญญา"

หากบางคนได้อ่านบทความนี้แล้วอาจจะโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง  แต่อย่าโกรธเลยครับ ไม่มีใครฉลาดไปซะทุกเรื่องราวหรอก  มีบางเรื่องที่เราพอจะรู้  บางเรื่องที่เราไม่ทันระวัง การดำเนินชีวิตที่มีสุข ปลอดภัยต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจหลายๆ ด้าน  หากเรารู้จักปรับปรุงตัว เราจะไม่ต้องเสียใจกับหลายๆ สิ่ง

หากเราถ่อมใจยอมฟัง ยอมรับคำแนะนำ ไม่ช้านานเราจะกลายเป็นเหมือนแขนงองุ่นที่เกิดผลงดงาม และเมื่อเราเติบโตมากขึ้น เราก็จะสามารถไปช่วยคนอีกมากมายให้กลายเป็นผู้เกิดผลเช่นกัน

แล้วเราจะแก้ปัญหาและช่วยชีวิตแบบคนเขลาได้อย่างไร?

ผมขอแนะนำว่า ยังมีพอมีทาง    หากใครยอมรับขอเสนอ  ลองกลับใจใหม่วันนี้แล้ว ขอให้คนที่มีจุดอ่อน  มีข้อผิดพลาดยอมรับตัวเองว่า ที่ผ่านไปนั้นแม้จะฉลาดแต่ก็ยังเผลอดำเนินชีวิตแบบไม่ระวัง จึงพลั้งพลาด  และทำให้ชีวิตไม่เกิดผล

อยากให้กำลังใจทุกท่านที่จะลองกลับมาขอคืนดีกับทุกคนที่เคยเกลียดชังกัน   เคยละเมิดต่อใครก็ขอให้เขาไปขอโทษ  ลองกลับมาหาพระเจ้าด้วยการถืออดสักหลายวัน เพื่อยืนยันความเด็ดเดียวว่า ต่อไปนี้คนผิดพลาดขอกลับใจใหม่  ขอเลิกเป็นคนเขลา ขอกลับมาเริ่มต้นใหม่อีกครั้งกับชีวิต
ไม่มีคำว่าสายสำหรับการเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ดี

พฤติกรรมของคนเขลา

แม้ว่าเขาทั้งหลายได้รู้จักพระเจ้าแล้ว เขาก็มิได้ถวายพระเกียรติแด่พระองค์ให้สมกับที่ทรงเป็นพระเจ้า หรือหาได้ขอบพระคุณไม่ แต่เขากลับคิดในสิ่งที่ไม่เป็นสาระ และจิตใจโง่เขลาของเขาก็มืดมัวไป
22เขาอ้างตัวว่าเป็นคนมีปัญญา เขาจึงกลายเป็นคนโง่เขลาไป
23และเขาได้เอาพระสิริของพระเจ้าผู้เป็นอมตะมาแลกกับรูปมนุษย์ที่ต้องตายหรือรูปนก รูปสัตว์จตุบาท และรูปสัตว์เลื้อยคลาน
24เหตุฉะนั้น พระเจ้าจึงทรงปล่อยเขาให้ประพฤติอุลามกตามราคะตัณหาในใจของเขาให้เขากระทำสิ่งซึ่งน่าอัปยศทางกายต่อกัน
25เพราะว่าเขาได้เอาความจริงเรื่องพระเจ้ามาแลกกับความเท็จ และได้นมัสการและปรนนิบัติสิ่งที่พระองค์ได้ทรงสร้างไว้ แทนพระองค์ผู้ทรงสร้าง ผู้ซึ่งควรจะได้รับความสรรเสริญเป็นนิตย์ อาเมน
26เพราะเหตุนี้ พระเจ้าจึงทรงปล่อยให้เขามีกิเลสตัณหาอันน่าอัปยศ พวกผู้หญิงของเขาก็เปลี่ยนจากการสัมพันธ์ตามธรรมชาติ ให้ผิดธรรมชาติไป
27ฝ่ายผู้ชายก็เลิกการสัมพันธ์กับผู้หญิงให้ถูกตามธรรมชาติเช่นกัน และเร่าร้อนด้วยไฟแห่งราคะตัณหาที่มีต่อกัน ผู้ชายกับผู้ชายด้วยกันประกอบกิจอันชั่วช้าอย่างน่าละอาย เขาจึงได้รับผลกรรมอันสมควรแก่ความผิดของเขา
28และเพราะเขาไม่เห็นสมควรที่จะรู้จักพระเจ้า พระองค์จึงทรงปล่อยให้เขามีใจชั่วและประพฤติสิ่งที่ไม่เหมาะสม
29พวกเขาเต็มไปด้วยสรรพการอธรรม ความชั่วร้าย ความโลภ ความมุ่งร้าย ความอิจฉาริษยา การฆ่าฟัน การวิวาท การล่อลวง การคิดร้าย พูดนินทา
30ส่อเสียด เกลียดชังพระเจ้า เย่อหยิ่งจองหอง อวดตัว ริทำชั่วแปลกๆไม่เชื่อฟังบิดามารดา
31โง่เขลา กลับสัตย์ ไม่มีความรักกัน ไร้ความปรานี
32แม้เขาจะรู้พระบัญญัติของพระเจ้า ที่ว่าคนทั้งปวงที่ประพฤติเช่นนั้นสมควรจะตาย เขาก็ไม่เพียงประพฤติเท่านั้น แต่ยังเห็นดีกับคนอื่นที่ประพฤติเช่นนั้นด้วย
(พระคัมภีร์ไบเบิ้ล พระธรรมโรม บทที่ 1)

ชาโลม

HOME 

Tags:  พฤติกรรมคนโง่ + วิธีสร้างความฉลาดให้ลูก + วิธีเรียนเก่ง + แก้ปัญหาชีวิต + อยากฆ่าตัวตาย + คำตอบชีวิต + พ้นทุกข์ได้อย่างไร + วิถีสุข + การหลุดพ้น + การนั่งวิปัสนาขั้นสูง + อรหันต์ + ชีวิตอมตะ + ยาผีบอก +  เรียนดี +  วิธีเอาชนะ +  คนดังนั่งเขียน + ความรัก + ขยะชีวิต + ขยะอารมณ์ + ปัดเป่า+ ขับผี + วิญญาณรบกวน +  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

You may post your comments here.
หากท่านมีข้อคิดเห็นเพิ่มเติมหรือเสนอแนะเชิญออกความเห็นได้
(กรุณาใช้ข้อความสุภาพ และสร้างสรรค์)