ความเชื่อของไทยถึงเวลาปรับปรุงหรือยัง Thai beliefs, FAKE or TRUE



Thai culture; make better of make it worse

สังคมไทยต้องการคนกล้าพูด กล้าคิดต่าง  กล้านำเสนออย่างสร้างสรรค์  การคิด ทำ และพูดนำเสนอในสิ่งที่ทำให้เกิดการพัฒนา  เกิดความตระหนัก  เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น ย่อมดีกว่า การที่คนผู้รับผลกระทบนิ่งเงียบ  แม้จะเห็นว่ามีสิ่งผิดพลาด ต้องปรับปรุงก็ไม่กล้าพูดอะไร

 หากเราไม่ทำอะไรบางอย่างเพื่อสร้างสรรค์สังคม ถ้าสังคมอ่อนแอลง ความชั่วร้ายเพิ่มขึ้น การคิดว่าช่างเถอะฉันไม่สนใจ  ประเทศไทยไม่ใช่ของฉันคนเดียว ไม่เดือดร้อน อย่าคิดว่า ไม่เดือดร้อนนะ  ถ้าสังคมแย่ ไม่แน่ว่าวันหนึ่งลูกของใครบางคนที่ไม่สนใจสังคมอาจตกเป็นเหยื่อได้

การนำเสนอความคิดติติงสังคม  สิ่งที่น่าจะเป็นปัญหา  อย่างน้อยเมื่อคนได้อ่าน ได้เอาไปคิด เชื่อว่าอาจทำให้คนมีการศึกษา คนมีสติ  อาจได้คิดตรึงตรอง  วิเคราะห์ว่ามันจริงไหม  เชื่อว่าคนอีกหลายอาจจะได้หลุดออกจากความงมงาย เลิกทำตามสิ่งที่เรียกว่า วัฒนธรรมที่อ่อนแอที่ต้องถึงเวลาเปลี่ยนแล้วได้บ้าง ไม่มากก็น้อย


มีวัฒนธรรมความเชื่อของคนไทยหลายอย่างที่ต้องมีการทบทวน และปรับปรุงเพราะบางอย่างมันค่อนข้างล้าสมัย  และไม่เหมาะกับสภาพสังคมปัจจุบัน วัฒนธรรมที่อาศัยภูตผีปีศาจมาข่มขู่คน หรือสิ่งที่อาศัยความเชื่อผิดๆ ก็ต้องได้รับการพิจารณา มีหลายอย่างที่ควรพิเคราะห์คือ





ก.     วัฒนธรรมแห่งความกลัว ผู้ใหญ่ พ่อแม่ ครูอาจารย์ สั่งสอนให้เด็กทำดี ให้คนทำตามโดยการขู่ให้กลัวสิ่งที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ แต่ยังต้องทำต่อไปเพราะบรรพบุรุธเราทำมาอย่างนี้  เช่นขู่ว่า  ถ้าไม่ทำผีจะมาหักคอ  ไปในความมืดระวังผี  เด็กร้องไห้มากๆ ระวังตุ๊กแกจะกินตับ  การสอนให้เกิดความกลัว ทำให้ความกลัวเข้ามาเกาะกุมหัวใจ ความคิดของเด็ก ทำให้เด็กไม่กล้าทำอะไรที่ท้าทาย กลายเป็นขลาด  กลัวแม้กระทั้งสัตว์เล็ก ความมืด  หรืออะไรๆ ที่ไร้เหตุผล  คนที่กลัวแม้กระทั้งสิ่งเล็กน้อยจะคิดทำสิ่งใหญ่ได้อย่างไร


ข.    
วัฒนธรรม แห่งการถืออาวุโส แต่ไม่นับถือสัจจะ ไม่เอาความยุติธรรม และความชอบธรรมเป็นที่ตั้ง ถือว่าคำพูดของผู้อาวุโสคือสิ่งถูกต้องโดยไม่ต้องมีการพิสูจน์  ถือว่าผู้ใหญ่หรือ รุ่นพี่พูดอะไรผู้น้อยไม่ควรคัดค้าน หรือซักถาม  เพราะพี่ย่อมถูกต้องเสมอ มีคำกล่าวว่า “ ไม่ฆ่าพี่ ไม่ฆ่าน้อง ไม่ฟ้องนาย”  แม้ใครบางคนในกลุ่ม เป็นพวกเดียวกันจะทำผิดเราก็ไม่เอาความกัน ชาติหรือส่วนรวมเสียหายช่างมัน

ค.     วัฒนธรรม ไม่ยอมรับความคิดคนรุ่นหนุ่มกว่า ถือแต่ว่าข้าเกิดก่อน อาบน้ำร้อนก่อน ข้ารู้มากกว่า เด็กอย่าพูด เด็กอย่าแก่แดด ถือเรื่องวุฒิการศึกษา ถือเรื่องชาติกำเนิด คิดว่าอะไรๆ ที่เกิดในโลกคนเกิดก่อนย่อมรู้ดีกว่า มันก็จริง แต่คงไม่ใช่ทุกเรื่อง

ง.      วัฒนธรรมแห่งความเกรงใจ จนคนไม่กล้าพูดบอกความจริง แม้จะพากันย่อยยับ ชาติบ้านเมืองเสียโอกาส ก็เกรงใจกัน ถือพวกมากคือความถูกต้อง ถือสมบัติผู้ดีแต่ไม่กล้าพูดขัดแย้งสถาบัน ครูอาจารย์ หรือเจ้านาย เพราะเกรงว่าจะถูกหมายหัว ไม่ได้เจริญในการงานอาชีพ  ไม่ได้รับการสนับสนุน หรือเลื่อนตำแหน่ง เพราะเกรงใจนาย

จ.     วัฒนธรรมแห่งการถือพรรค ถือข้าง ถือหาง ถือสี ถือพวกกู แบบไม่แยกแยะดีชั่ว พวกเดียวกันทำผิดแม้จะผิดอย่างไรก็พยายามช่วยกันให้ได้ นับถือเงินเป็นใหญ่  ดังมีคำกล่าวว่า คุกไม่ได้มีไว้สำหรับคนมีฐานันดร  คนร่ำรวย  เพราะพวกเขาจะสามารถใช้บารมีใช้เงินช่วยเหลือกันให้พ้นคุกได้   การถือพวกมาก  หรือฐานันดรศักดิ์จะทำให้สังคม ประเทศชาติย่อยยับเสียโอกาสในเวทีโลก  ทำให้ต่างชาติหมดความเชื่อถือระบบศาล และการให้ความยุติธรรม

ฉ.     วัฒนธรรมกินตำแหน่ง  ในสังคมไทยมีวัฒนธรรมการกินเมืองมาตั้งแต่สมัยเริ่มแรก คนที่ได้ตำแหน่งจะพยายามทำโครงการต่างๆ โดยอ้างว่าเพื่อการพัฒนา  แต่มีการแอบแฝงกินหัวคิว  รับเงินทั้งบนโต๊ะและใต้โต๊ะ  ทำกันอย่างเอิกเริก  ไม่มีการปราบปรามกันอย่างแท้จริง  ผู้ที่กินระดับใหญ่ไม่มีใครจับได้ไล่ทัน  หากแม้มีการจับได้ไล่ทันก็จะจับ ทำการฟ้องร้องกันไปสักระยะ  ก็จะมีการออมชอบ  ผ่อนโทษ พอข่าวเงียบเรื่องก็เงียบไป

ที่ประเทศไม่เจริญในเรื่องการศึกษา  ก็เพราะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบางกลุ่ม  จัดการศึกษาเพื่อหวังทำโครงการต่างๆ  เพื่อเอางบประมาณมหาศาลมาถลุงมากกว่าการตั้งใจพัฒนาเด็กไทยอย่างแท้จริง สังเกตไหมว่า มีหลักสูตร และโปรแกรมการเรียนต่างๆ โพล่มามากมาย  แต่ไม่เป็นโล้เป็นพาย  ไม่ได้สร้างนักคิดอะไรขึ้นมาได้มากนัก เด็กไทยยังพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ สู้ประเทศที่จนกว่าเรายังไม่ได้  เพราะระบบวัฒนธรรมของไทยเป็นตัวปิดกั้น ครูก็ไม่เก่งพูดฟังไม่ค่อยได้ ก็ยังได้มาเป็นครูภาษาอังกฤษ สิ่งเหล่านี้คือผลกระทบทางอ้อมมาจากวัฒนธรรมอ่อนแอดังที่กล่าวมาข้างต้น

เมื่อมีการเปลี่ยนหลักสูตรทีหนึ่งก็จะมีการอบรมวิทยากร  ต้องมีการเดินสายทำความเข้าใจกับสถานศึกษาทั้งประเทศ  คนที่ดำเนินการเรื่องหลักสูตรก็ต้องมีการตั้งโครงการอบรมอะไรต่างๆ ซึ่งงบประมาณจะไหลมาเทมา  การเดินทางของเงินก็จะมีรูรั่วตามท่อต่างๆ บ้าง   เมื่อมีการเปลี่ยนหลักสูตรก็ต้องเปลี่ยนหนังสือใหม่  สำนักพิมพ์ต่างๆ ก็จะได้ออกหนังสือใหม่  ได้ขายหนังสือใหม่   ค่าใช้จ่ายเหล่านี้มันจะต้องมีการจัดซื้อจัดจ้าง 

ทราบไหมว่า การจัดซื้อหนังสือให้กับโรงเรียนต่างๆ นั้น  โรงเรียนบางแห่งส่วนใหญ่คงไม่มีใครปฏิเสธว่าไม่มีการจ่ายเปอร์เซนต์   โรงเรียนก็ไปดักหน้าเสนอตัวซื้อหนังสือเรียน อัตราปกติที่สำนักพิมพ์จ่ายให้สถานศึกษาที่จัดซื้อก็คือ ขั้นต่ำ 30-35 เปอร์เซ็นต์

นอกจากนี้โรงเรียนยังได้รับกำไรจากการจัดซื้อสมุดเขียนที่ ต้องมีปกเป็นของสถาบันเท่านั้น   ต้องมีเครื่องแบบ เข็ม สัญลักษณ์  ของสถาบัน สิ่งเหล่านี้คือเงินทั้งนั้น สถานศึกษาก็อ้างว่าเอาส่วนลดไปบำรุงการศึกษา  แท้จริงเงินส่วนลดมันเป็นสิ่งลึกลับ และสามารถจัดการได้อย่างยืดหยุ่น  เมื่อมันยืดหยุ่นมันจึงหายไปง่ายๆ ได้เหมือนกัน


ช.     วัฒนธรรม ถือผีวิญญาณ ไสยศาสตร์ ศาสนาพานิชย์ ผู้นำทางศาสนามีหลายกลุ่ม บางกลุ่ม หรือส่วนใหญ่พยายามเอาธรรมะมาบังหน้า สอนธรรมะให้คนละบาป พอคนหลงเข้าไปสู่ความศรัทธา เอาไปเอามาผู้นำความเชื่อจะพาไปหาบุญในชาติหน้า  เชิญชวนให้บริจาคเพื่อสร้างวัตถุ  อาคาร  สิ่งก่อสร้างที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อส่วนรวม แต่จะเป็นที่ดึงดูดคนให้มาสักการะ และจะได้ขายของ  ได้รับเงินบริจาค  เป็นที่บอกบุญ ต่อบุญเพื่อดึงดูดเอาทรัพย์จากชาวบ้านที่ตกทุกข์  ผู้ต้องการแสวงหาที่พักสงบทางใจ 

แต่ผู้นำทางศาสนากลับส่งเสริมให้สร้างสิ่งไร้สาระไว้กราบไหว้บูชา   ใช้ศรัทธาเพื่ออ้างสิ่งที่มองไม่เห็น พิสูจน์ไม่ได้ เพื่อกอบโกยเข้ากระเป๋า เข้ามูลนิธิ เข้าพวกตัวเอง  การหวังประโยชน์จากศรัทธาด้วยการทำศาสนาพานิชย์ ย่อมบ่อนทำลายประชาชนผู้ไม่รู้ มอมเมาคนไม่รู้


ซ.    วัฒนธรรมท้องถิ่นที่เชื่อในเรื่องไสยศาสตร์  การขอฝน การจุดบั๊งไฟ  การแห่อะไรต่างๆ  หากไม่ทำด้วยความโลภ  ด้วยความพอดีย่อมเป็นสิ่งที่ยังพอรับได้ เพราะเป็นการอนุรักษ์ ประเพณีท้องถิ่นให้คงอยู่ เพื่อให้ลูกหลานได้ศึกษาอดีต  แต่ปรากฏว่า ผู้นำความเชื่อ หรือผู้นำสังคมกลับจัดงานประเพณีอย่างยิ่งใหญ่  ลงทุนวัสดุ และค่าใช้จ่าย  เมื่อมีการแข่งขันกันทำให้ต้องลงทุนสูง  ทำให้เกิดความสิ้นเปลื้องวัสดุ และทรัพยากรของชุมชน

มีข่าวบ่อยว่า มีบางจังหวัดจัดงานแข่งบั้งไฟระดับจังหวัด  พอจุดขึ้นไปบั๊งไฟล้านก็เสียหลักหัวจรวดพุ่งตกลงมาใส่คนตาย คนรับเคราะห์ก็คือชาวบ้าน ไม่มีใครสนใจ  คนตายก็ตายไป เพราะชีวิตชาวบ้านคนไทยมีค่าไม่มากนักในสายตานักประเพณีนิยมที่มุ่งผลประโยชน์  มุ่งอ้างอนุรักษ์วัฒนธรรมแต่ทำไม่ถูกวิธี


ประเพณีที่น่าจะปรับปรุงมีหลายอย่างที่เห็นชัดคือการลอยกระทง  ที่สร้างมลภาวะแก่แม่น้ำลำคลองอย่างมโหฬาร  ทั้งทางน้ำ  ทางอากาศด้วยการปล่อยโคมไฟลอยได้  การยิงบ๊องไฟ  การจุดประทัดยักษ์   แต่ไม่มีใครกล้าทักท้วงเพราะรัฐต้องการผลประโยชน์จากการท่องเที่ยว  ในเทศกาลต่างๆ จะมีการการออกไปจับจ่ายซื้อของของประชาชน ทำให้เกิดการหมุนเวียนของเงิน จะทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น  การโปรโมทสถานที่ท่องเที่ยว  โดยอ้างประเพณีที่สืบทอดกันมา  ก็คงต่อทำกันต่อไป ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น

ฉ. วัฒนธรรมกราบไหว้สิ่งลี้ลับ  ชาวบ้านไทยจะกราบไหว้สิ่งลี้ลับ กราบไหว้แม้กระทั้งต้นไม้  ก้อนหิน  ทุ่งนา(วิญญาณโพศก) ปลีกล้วย แม้กระทั้งเห็ด หรือหน่อไม้ นับถือผีเขมรเป็นที่พึ่งพิง  ขอหวย หวังรวยทางลัด   การมอมเมาชีวิตด้วยการหวังพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้รวยง่ายๆ  ไม่เพียงพอในความดี แสวงหาสิ่งลึกลับ เวทมนต์ไสยศาสตร์ 

เมื่อชาวบ้านตกอยู่ในศรัทธาแบบนี้พวกนักเวทมนต์ พวกหมอผี หมอดูจึงมีเต็มบ้านเต็มเมืองไทย  พวกนักการศาสนาคริสต์ก็ไม่สามารถจะทำอะไรได้ เพราะตัวเองก็เลิกเชื่อเรื่องฤทธิ์อำนาจของพระเจ้าไปเสียแล้ว จึงทำได้เพียงแค่พูดสอนเรื่องตำนานของพระเจ้าเท่าที่เขาเข้าใจไปเท่านั้น

ฯลฯ

วัฒนธรรมเป็นสิ่งดีงาม  แต่คงไม่ใช่ทุกอย่างที่ทำให้คนเจริญขึ้น สิ่งไหนที่ทำไปแล้วมันไม่ได้สร้างสรรค์ แต่กลับทำให้เกิดความเสียหาย ตกต่ำ ป่วยเจ็บ ตาย สร้างภาระ  เสียเงินฟรีๆ  ผมคิดว่า หยุดคิดสักนิดดีไหมครับ

ชาโลม

rice mu


บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

มาสร้างค่านิยมสวนกระแสกันหน่อยดีไหม


Tag: วัฒนธรรมไทย+ ความเชื่อของไทย + ประเพณีไทย + การสร้างสรรค์สังคม + การปฏิรูปการเมือง + การปฏิรูปวัฒนธรรม + ความเชื่อผิด + ผี +ประเพณีการไหว้เจ้า + ตรุษจีน + ลอยกระทง+ วิธีการทำกระทง + การทำบั๊งไฟ+ การสร้างจรวด + การลงของ +วิธีวิปัสสะนา+ คาถา+ เวทมนต์+ การทำหุ่น+ การปล่อยของ+ การแก้ของ+ แก้คุณไสย+

1 ความคิดเห็น:

  1. คนดีจะมีที่ยืนได้อย่างไรหันหน้าไปทางใหนมีแต่พวกอสุรกายพวกเปรตที่คอยจ้องจะฉกฉวยจิกกินๆๆๆๆกินหมดแทบจะไม่เหลือแล้ว ทำดีไม่มีใครมองเห็นครับ เห็นคนทำความดีมันมายืนดูแล้วมันก็พูดดีนะ เดี๋ยวจะหาคนสนับสนุนให้ แต่ไม่เคยเห็นเลยถ้าพวกนี้เข้ามามีแต่ข้อแลกเปลี่ยนต้องสนับสนุนพวกผมนะครับ แค่เด็กลูกหลานของพวกมันแท้ๆ อนาคตของชาติพวกมันยังทำได้ลงคอ พูดแล้วของขึ้นครับแต่ก็จะทำความดีต่อไปครับ ไม่มีใครเห็นก็ตามครับแต่ผมเห็นด้วยตัวผมเองครับ

    ตอบลบ

You may post your comments here.
หากท่านมีข้อคิดเห็นเพิ่มเติมหรือเสนอแนะเชิญออกความเห็นได้
(กรุณาใช้ข้อความสุภาพ และสร้างสรรค์)